Sapphire Glass กับการพิสูจน์ที่ว่า ทนกว่า แข็งแรงกว่า จริงหรือ
เกิดกระแสอีกแล้ว สำหรับ iPhone 6 ที่ใกล้จะคลอดเต็มที ล่าสุดมีผู้ใช้งาน YouTube ชื่อ Marques Brownlee บอกว่าชิ้นส่วนที่เขาถือคือชิ้นส่วนหน้าจอของ iPhone 6 ที่ทำจากแซฟไฟร์ที่มีค่าความแข็งแรงทนทานรอยขูดขีดรองจากเพชรที่แข็งที่สุดในโลก โดยในวิดีโอมีการทดสอบให้เห็นกันจะ ๆ ไปเลยเกี่ยวกับเรื่องการทนรอยขีดข่วนว่าทนได้แค่ไหน ในวิดีโอมีการเอาคมมีดมาถู ๆ ที่หน้าจอ เอากุญแจมาขูด ๆ ที่กระจกก็ไม่เป็นรอยแต่อย่างใดนอกจากนั้นในวิดีโอยังมีการทดสอบความยืดหยุ่นของชิ้นส่วนโดยทำการดัดให้โค้งงอ ซึ่งก็สามารถโค้งงอได้ประมาณหนึ่ง และไฮไลท์ที่คุณ Marques Brownlee ทำให้เห็นกันคือเอารองเท้าเหยียบกระจกดังกล่าวไว้แล้วเอามือมาดัดกระจกให้โค้งจอก็ไม่หักไม่ร้าวแต่ประการใด เรียกว่าว่าที่กระจกหน้าจอ iPhone 6 มีความทนทานรอยขีดข่วนได้ดีและมีความยืดหยุ่นสูงและงานนี้ ก็เล่นเอาหลายๆ ค่ายมือถือ เริ่มหันมาพิจารณากระจก Sapphire Glass กันเป็นยกใหญ่อย่าง Huawei ค่ายโทรศัพท์ชั้นนำ ก็ออกมาเผยข้อมูลหลุดเรียกกระแส ก่อนงานจัดแสดงสินค้าอิเลคทรอนิคส์ที่ประเทศเยอรมันนีในช่วงต้นเดือนกันยายนจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการผู้บริหาร Huawei เผยว่าจะควักเอาเครื่องโทรศํพท์ Ascend P7 อัพเกรดมาพร้อมกระจก Sapphire Glass ตัดหน้า Apple ที่ยังไม่ชัวร์ว่าจะใช้หรือไม่ใช้อยู่ในตอนนี้แม้ว่ากระแสของ Sapphire Glass จะกระหึ่มมาตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่กว่าที่การนำกระจก Sapphire Glass มาใช้กับโทรศัพท์มือถือจะบูม ก็ผ่านมาเกินครึ่งปีได้แล้วSapphire Glass ดีกว่ากระจกที่มีอยู่ทั้งหมด จริงหรือSapphire Glass แต่เดิมแล้ว นิยมใช้เป็นหน้าปัดนาฬิกาชนิดซัฟไฟท์ที่ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายSapphire ไม่ใช่กระจกแต่เป็นผลึกของอลูมิเนียมออกไซด์ การได้มาของซัฟไฟท์จึงไม่ใช่การขึ้นรูปด้วยวิธีหลอมละลายหรือวิธีใดๆ แต่กรรมวิธีนี้ ก็ยังเป็นความลับของผู้ผลิตอยู่Sapphire น้ำหนักมาก มีความถ่วงจำเพาะมากถึง 3.97 - 4.03 ความแข็ง 1800 - 2200 Hvและทนความร้อนได้ถึง 2000 - 2100 องศาเซลเซียส มีดรรชนีส่งผ่านแสงสว่าง 85 - 88 และมีดรรชนีหักเหแสงอยู่ที่ 1.76 - 1.77 ด้วยกรรมวิธีผลิตที่ซับซ้อนทำให้กระจกชนิดนี้เป็นกระจกที่มีราคาสูงที่สุด ไม่สามารถขึ้นรูปซับซ้อนได้ ทำได้เพียงสร้างขึ้นเป็นรูปทรงเรขาคณิตพื้นฐานเท่านั้นความแข็งสูงสุดของซัฟไฟท์ทำได้เท่ากับ 9 ในตารางสเกลของโมส์(Moh's scale) มีความแข็งสูงมากเป็นรอยได้ยาก แตกยาก ซึ่งผลจากการใช้งานกระจกแบบนี้กับโทรศัพท์มือถือก็คือ เป็นรอยยากขึ้น เพราะความแข็งของมันถูกเพิ่มขึ้นอย่างมาก และที่สำคัญคือน่าจะได้ความคงทนที่เหนือกว่า Dragon Tail และ Gorilla Glass ที่ใช้ใน Smartphone รุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่นความเข้าผิดเกี่ยวกับกระจกแซฟไฟร์กระจกแซฟไฟร์ที่เรามักจะได้เห็นว่านำมาทำเป็นกระจกหน้าปัดนาฬิการาคาแพง ๆ นั้น ตามความเข้าใจและที่เรารับรู้ทั่วไปคือมีความแข็งน้อยกว่าเพชร กระจกไม่เป็นรอยนอกจากเอาเพชรมากรีด ฉะนั้นของที่จะทำให้แซฟไฟร์เป็นรอยได้ก็น่าจะมีแต่เพชรเท่านั้นแต่ในความเป็นจริงกระจกแซฟไฟร์ก็สามารถเกิดรอยขีดข่วน รอยขนแมวได้เช่นกัน เพราะที่บอกว่าความแข็งเป็นรองจากเพชร (ค่าความแข็งของโมส์อยู่ระดับ 10) ถ้าดูจากตัวเลขค่าของแข็งสัมบูรณ์ของเพชรมีค่าที่ 1600 ส่วนแซฟไฟร์ (ค่าความแข็งของโมส์อยู่ระดับ 9) มีค่าความแข็งสัมบูรณ์ที่ 400 ตัวเลขค่าสัมบูรณ์น้อยกว่าเพชรถึง 4 เท่า ซึ่งในช่วงค่าความแข็งระดับเดียวกับแซฟไฟร์ก็ยังมีวัตถุอีกหลายประเภทที่มีความแข็งอยู่ในระดับชั้นเดียวกัน อาทิ ไทเทเนียมคาร์ไบด์, ซิลิคอนคาร์ไบด์, ทังสเตนคาร์ไบด์ ก็มีสิทธิที่จะทำให้แซฟไฟร์เกิดรอยได้ด้วยเหมือนกันหรือในระดับใกล้เคียงที่ต่ำลงไปนิดหน่อยอย่างเหล็กกล้าชุบแข็งก็อาจจะมีสิทธิ์ที่ทำให้กระจกแซฟไฟร์เกิดรอยได้เช่นกัน และในช่วงค่าความแข็งสัมบูรณ์อาจจะมีวัตถุที่มีความแข็งเหนือแซฟไฟร์อีกหลาอย่างก็ได้เพียงแต่เราไม่รู้จักก็เป็นได้ แม้กระทั่งทรายที่เราเห็นที่ชายทะเลหรือเวลาสร้างบ้านก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้แซฟไฟร์เกิดรอยขีดข่วนได้เหมือนกัน แต่ก็จะเป็นรอยขนแมวเล็ก ๆ ไม่ได้กินเนื้อกระจกแซฟไฟร์แต่อย่างใดส่วนเรื่องความแข็งที่บางทีเราอาจจะเผลอเหวี่ยงข้อมือแล้วหน้าปัดนาฬิกาไปโดนของแข็งเล่นโลหะ ไม้ กำแพงปูน ฯลฯ เหล่านี้ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นและเวลาที่ไปโดนไม่ได้ซวยหน้าปัดทำมุมที่อาจจะมีความเสี่ยงทำให้กระจกร้าวได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าบังเอิญซวยก็อาจจะทำให้กระจกแซฟไฟร์ร้าวได้เหมือนกันฉะนั้นต่อให้แอปเปิ้ลใช้กระจกแซฟไฟร์มาทำหน้าจอ iPhone จริง เราก็ไม่ควรบ้านำของมีคมมาลองกรีดหน้าจอเพื่อทดสอบรอยขีดข่วนแต่อย่างใดความคาดการณ์ ถึงกระแสการใช้ Sapphire Glass ของ Appleการนำกระจกแซฟไฟร์มาใช้งานในโทรศัพท์จะมีความต้องการมากที่สุดในตลาดนั้น ก็ทำให้เป็นที่คาดกันว่าApple อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นมหาศาล แต่มีรายงานที่แสดงข้อมูลน่าสนใจเปิดเผยออกมาว่าในกระบวนการผลิตของโรงงาน GT Advanced ที่เข้าไปลงทุนเมื่อปีก่อนนั้นกลับมีเทคโนโลยีที่ทำให้ค่าใช้จ่ายไม่เพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก ด้วยวิธีการที่เรียกว่า “Hyperion”วิธีการนี้ก็ประกอบด้วยการนำกระจกหน้าจอธรรมดาในท้องตลาดเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งนำมาผ่านขั้นตอนกระบวนการเคลือบอัดชั้นผิวด้านนอกด้วยแร่แซฟไฟร์ ทำให้มีการประเมินว่าขั้นตอนลักษณะนี้อาจจะใช้เงินลงทุนไม่มากไปกว่าการซื้อกระจก Gorilla Glass หรืออาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งอาจจะทำให้ Apple ไม่ต้องเสียเงินลงทุนกับการผลิตกระจกหน้าจอ Sapphire Glass มากอย่างที่คิดกันก็ยังคงตัดสินไม่ได้ว่าการพลิกโฉม มาใช้ Sapphire Glass ของApple และอีกหลายๆ ค่ายมือถือ จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไรต่อไป เพราะแม้ว่าเราจะได้เห็นถึงความทนทานของกระจกเปลือยๆแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังไม่ได้เห็นและคงต้องรอเครื่องจริงออกมาก่อนคือการรับแรงกระแทกเวลาทำเครื่องตกพื้นในระดับความสูง 1.2-1.5 เมตรว่ากระจกแซฟไฟร์จะทนได้สักแค่ไหน คงต้องรอให้เครื่องจริงออกมาและคงจะมีวิดีโอทดสอบให้เราได้เห็นกัน บทความจาก www.asiashop.co.thผู้แทนจำหน่าย มือถือ | แทปเล็ต | อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ครบวงจรโทร.082-0186000



Create Date : 27 สิงหาคม 2557
Last Update : 27 สิงหาคม 2557 13:52:37 น.
Counter : 649 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 1259065
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog