iOS 8 เวอร์ชั่นใหม่ ใช่ว่าดีเสมอไปสำหรับทุกรุ่น
ระบบปฏิบัติการใหม่ค่าย Apple มาแล้ว กับ iOS 8 ที่พอมาปุ๊ปหลายคนก็รีบอัพปั๊ป บางคนอักแล้วเป็นที่พอใจ แต่ก็มีหลายคน เกิดข้อสงสัย ปนๆกับคำต่อว่า ที่บอกว่า ช้ามาก!!...อัพแล้วไม่เป็นที่พอใจ จากหลายๆผู้ใช้อยู่เหมือนกัน


อยากรู้ไหมครับว่า เกิดอะไรขึ้น และเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ได้อย่างไร?

จริงอยู่ที่ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด จะได้รับการพัฒนาเพื่อให้ใช้งานให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ใช้ว่าจะดีสำหรับทุกรุ่นเสมอไป

อย่างล่าสุดที่ มีการออก iOS 8 มาพร้อมๆ กับ iPhone 6 และ iPhone 6 plus เพื่อให้สาวก iPhone ทั้งหลายอัพเดต และแน่นอนว่าชาวไอโฟนทั้งหลาย ก็แห่กันอัพเดทใหญ่ เพราะอยากจะทันสมัย แต่หารู้ไม่ว่า สำหรับการอัพเดท iOS8 ก็มีคำเตือนสำหรับ iphone บางรุ่นอยู่ครับ

คำเตือนก่อนอัปเดต iOS 8

1. บางเครื่องอัพเดทไม่ได้


Apple ประกาศไว้ตั้งแต่งาน WWDC 2014 แล้วว่ามี iPhone, iPad, iPod touch รุ่นไหนบ้างที่จะได้อัพเดต iOS 8 ตามนี้
- iPhone: iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s
- iPad: iPad 2, iPad 3rd generation (The new iPad), iPad 4th generation (iPad with Retina display), iPad Air
- iPad mini: iPad mini, iPad mini 2nd generation (iPad mini with Retina display)
- iPod touch: iPod touch 5th generation
ฉะนั้นเครื่องที่ถูกลอยแพรอบนี้แน่ๆ คือ iPhone 4 ที่สุดแค่ iOS 7 เท่านั้น

2. เครื่องช้า แอพเด้ง เป็นเพราะอะไร

ช้าลงเล็กน้อยครับกับการอัพเดทเป็น iOS 8 เพราะพื้นที่Storage จะน้อยลง จากการลงเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งถ้าคุณอัพจาก iOS 7 ไป iOS 8 เครื่องจะช้าลง 5-10% แต่ถ้าอัพจาก iOS 6 ไป iOS 8 จะช้าลง 20-30%โดยประมาณ

และยิ่งถ้าเป็น iPhone 4S แล้วล่ะก็ ช้าแน่นอน เพราะ iPhone 4S จะมีข้อจำกัด ที่ไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์บางอย่างบน iOS 8 ได้ ทั้งในเรื่องของ Touch ID, AirDrop และไม่สามารถใช้งาน Handoff ได้ (ฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานระหว่าง iOS กับ OS X) รวมถึง iPhone 4S นั้นยังไม่รองรับ OpenGL ES 3.0 ที่ช่วยทำให้ภาพกราฟฟิคในเกมดูดีขึ้น และส่งผลให้การประมวลผลด้านกราฟฟิคช้าลงครับ


ถ้าดูภาพด้านบนนั้น เป็นตารางเปรียบเทียบการทำงานของ iPhone 4S บน iOS 7.1.2 กับ iOS 8 GM ซึ่งจะเห็นได้ว่า iPhone 4S บน iOS 8 นั้น ทำงานได้ช้ากว่ามาก

นอกจากนี้ ด้วยหน้าจอ 3.5 นิ้วของ iPhone4s ที่เล็กกว่าพอสมควร จะมีปัญหากับคุณสมบัติใหม่ ๆ อย่าง Spotlight Search ที่แสดงผลการค้นหาต่อ 1 หน้าได้ไม่เยอะ, คีย์บอร์ด QuickType แบบใหม่ที่กินพื้นที่หน้าจอมากขึ้น หรือหน้าจอสลับแอป ที่มีรายชื่อผู้ติดต่อเข้ามาบดบังพื้นที่ ตามภาพด้านล่าง

ส่วนกรณีแอพเด้ง เป็นเพราะบางแอพฯ ยังไม่รองรับ iOS 8 ไงล่ะครับ

3. ไม่ควรเปิดใช้ iCloud Drive หากไม่พร้อม


สิ่งที่เพิ่มมาหลังการอัปเดต iOS 8 ที่แตกต่างจากเมื่อครั้งอัปเดต iOS 7 ก็คือ หน้าจอถามการอัปเกรดไปใช้ iCloud Drive ตามภาพด้านบน
iCloud Drive จะทำงานเหมือนเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูล 1 ชิ้นของเรา (ลองนึกถึงว่าเอาแฟลชไดร์ฟ 1 อันไปแปะไว้บนอินเทอร์เน็ต) ที่ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้จากหลายอุปกรณ์ เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

หากเราอัพเกรดไปใช้ iCloud Drive สิ่งที่ตามมาคืออุปกรณ์ที่ยังใช้ iOS 7, OS X Mavericks หรือรุ่นเก่ากว่าทั้งหมด จะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์เอกสารใน iCloud ได้อีก!

ทางเดียวที่จะเข้าถึงไฟล์เอกสารบน iCloud Drive ได้จากอุปกรณ์รุ่นเก่า คือเข้าผ่านเว็บ //beta.icloud.comหรืออัปเดตอุปกรณ์ทั้งหมดเป็น iOS 8 และ OS X Yosemite 10.10, อัปเดต iCloud Control Panel บน Windows เป็นเวอร์ชัน 4.0 ขึ้นไป

ทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะเทคโนโลยี แม้จะมีการพัฒนา แต่ว่ามันก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่ทั้งนั้นแหละครับ สิ่งที่จะช่วยไม่ให้เราพลาดไปกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากไปทุกวัน คือ การศึกษา หาข้อมูลก่อนตัดสินใจ ครับ จะ Safety ไม่ได้มากเลยล่ะครับ สาวกเทคโนโลยี

บทความจาก asiashop




Create Date : 01 ตุลาคม 2557
Last Update : 1 ตุลาคม 2557 9:53:09 น.
Counter : 777 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 1259065
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog