รีวิว กาแล็คซี่ Tab S แท็บเล็ตจอใหญ่ จุใจคอหนัง คอเกมส์
ยังคงถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆ สำหรับเรือธงสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตรุ่นต่างๆ เพราะถึงแม้ว่า iPhone 6 จะเปิดตัวมาแล้ว แต่กระแสก็ดูเหมือนไม่ฮือฮาเท่าหลายๆ รุ่นก่อนหน้านี้ อาจด้วยมีข้อมูลหลุดมามากด้วยประการหนึ่ง ทำให้ iPhone 6 ดูซบเซาลงไปเล็กน้อยสำหรับค่าย samsung แม้ยังไม่มีสมาร์ทโฟนออกมาตีคู่ แต่ก็ได้งัดอาวุธอย่างแท็บเล็ตตัวฉกาจ ที่พัฒนามาจากเรือธงของสมาร์ทโฟน อย่าง S5 กันมาให้คอหนัง คอเกม ได้เนื้อเต้นกันล่ะงานนี้Samsung Galaxy Tab S เป็นแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดของซัมซุง ซึ่งมีความแตกต่างจากแท็บเล็ตรุ่นก่อนหน้าที่ทางซัมซุงเคยผลิตออกมา และพูดได้เลยว่าแตกต่างจากแท็บเล็ต Android ทุกตัวในท้องตลาดที่เคยมีมาก่อน เพราะเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกในโลกที่ใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED โดยมันถูกปล่อยออกมา 2 รุ่นคือ Tab S 10.5 และ Tab S 8.4 ผมคาดว่าทางซัมซุงน่าจะคาดหวังใช้แท็บเล็ตรุ่นนี้แย่งตำแหน่งแท็บเล็ตอันดับหนึ่ง iPad Air ของ Apple ซึ่งครองตำแหน่งมายาวนาน และหลังจากที่ผมได้ลองใช้งานเจ้า Samsung Galaxy Tab S 10.5 มาสักระยะแล้ว ผมคิดว่า "มันเป็นไปได้"Galaxy Tab S พัฒนาขึ้นมาจากแพลตฟอร์ม (ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์) ของสมาร์ทโฟนเรือธงประจำปี 2014 อย่าง Galaxy S5 ดังนั้นมันจึงเหมือนกันมากในหลายแง่มุมในแง่ของฮาร์ดแวร์ของ Samsung Galaxy Tab S นั้นแทบจะยก Galaxy S5 มาเกือบทั้งหมด เพียงแต่มีการพัฒนาบางอย่าง อย่างเช่น CPU ก็ใช้เป็น Exynos Octa 5420 [quad-core Cortex-A15 CPU + quad-core Cortex-A7 CPU] ตบด้วยRAM 3GB และเสริมทัพด้วยระบบปฏบัติ Android เวอร์ชั่น 4.4 ล่าสุด ที่รวดเร็วขึ้นมากกว่าเดิมเป็นไหนๆ จะซูมขยาย ย่อ สไลด์ ไวในระดับนึงนะนอกจากนี้ยังมีระบบฟังก์ชั่นการใช้งาน คุณภาพเยี่ยม อย่างระบบสัมผัส Multi-Touch ที่เปิดใช้ 2 แอพพลิเคชั่นในเวลาเดียวกันได้ มีระบบเซ็นเซอร์ สแกนลายนิ้วมือได้ มีพอร์ท IR สำหรับใช้แทนรีโมต ไปจนถึงระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope)และ ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 7,900mAh สมกับเป็นแท็บเล็ตที่เกิดมาเพื่อคอหนัง คอเกมส์เสียจริงๆ สามารถเล่นวิดีโอต่อเนื่องสูงสุด 12 ชั่วโมง ฟังเพลงต่อเนื่อง 139 ชั่วโมง ข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว สแตนด์บายได้สูงสุด ไม่ต่ำกว่า 1,000 ชั่วโมง(3G)นอกจากนี้ เจ้า Galaxy Tab S ยังรองรับการใช้งาน 3G และใช้ซิมแบบไมโครซิมการ์ด [2G GSM, 3G WCDMA, 4G LTE FDD] และมีBLUETOOTH : Bluetooth 4.0USB : Micro USB v2.0WI-FI : Wi-Fi 802.11 /b/g/n/2.4 GHz เชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์โดยตรง (Wi-Fi Direct)Infrared : IrDAเชื่อมต่อแบบ MHL (Mobile High-Definition Link)GPS : Assisted GPS รูปลักษณ์และดีไซน์Galaxy Tab S ออกแบบมาเน้นความบาง โดยบางเพียง 6.6 มิลลิเมตร และเบา เพียง 467 กรัม ออกมาสู้กับ Xperia Tablet Z และ iPad Air ได้อย่างเต็มที่สำหรับรูปลักษณ์ดีไซน์ของ บรรดาสมาร์ทโฟนแทบทุกรุ่นของ Samsung นั้น หลายคนจะรู้สึกว่าแทบทุกรุ่นนั้นจะคล้ายกัน ไม่ว่าจะด้วยตำแหน่งของปุ่มเปิดปิด ปุ่ม Home Touchpad และช่องเสียบต่างๆ หรือพูดง่ายๆ เลยว่าแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน จะต่างกันก็ตรงที่ขนาด จอแสดงผล และวัสดุฝาหลังก็เท่านั้นแต่ทว่า ของ Samsung Tab S นั้นมีดีไซน์หลายๆอย่างที่เปลี่ยนไป แม้ปุ่มด้านหน้ายังใช้ปุ่ม physical สามปุ่มตามมาตรฐานซัมซุง แต่ก็ได้เปลี่ยนมาใช้ปุ่ม Recent Apps แทนปุ่ม Menu แล้วและปุ่มโฮมสามารถใช้เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้แบบเดียวกับ S5สิ่งที่แตกต่างออกไปหน่อยคงเป็นขอบเครื่องที่หันมาใช้สีทอง มีลำโพงฝังอยู่ที่ขอบด้านซ้ายและขวาของเครื่อง พอร์ตต่างๆ ของตัวเครื่องเทไปอยู่ด้านขวาทั้งหมด (ช่องเสียบซิม, Micro USB, Micro SD) ส่วนปุ่มควบคุมมาตรฐาน (power/volume) อยู่ฝั่งด้านบนของเครื่อง ดีไซน์ทุกอย่างลงตัว ดูสวยหรู ไม่สะเปะสะปะส่วนจอแสดงผลนี่ก็เจ๋งมากๆ สำหรับ Tab S เพราะอย่างที่บอกคือ นี่เป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกในโลกที่ใช้ เทคโนโลยีสุดเจ๋ง อย่าง Super AMOLED แสดงผลได้มากถึง16 ล้านสี ความละเอียดหน้าจอแบบ 2560 x 1600 px (287ppi) จอกว้างจุใจ 10.5 นิ้ว เล่นเกม ดูหนัง อ่านหนังสือ ได้อย่างไม่สะดุด หน่วยความจำและการรองรับไฟล์Samsung Galaxy Tab S มีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาดใหญ่มากๆ ถึง 16GB และรองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุด 128 GB เลขทีเดียว เก็บหนังโปรด โหลดเกมได้อย่างจุใจ แทบไม่อั้นส่วนการรองรับไฟล์นั้น จะรองรับไฟล์ได้ทั้ง AMR, AWB, AAC, MP3, M4A, 3GA, WAV, WMA, MIDI, MXMF, OGG, IMY, FLAC- รูปแบบไฟล์วีดีโอ : MPEG-4, 3GP, AVI, PEG-4, 3GP, WMV, FLV, 3G2, M4V, AVI, MKV- รองรับวีดีโอจาก YouTube™ กล้องและฟังก์ชั่นกล้องที่น่าทึ่งในส่วนกล้องถ่ายภาพ บันทึกวิดีโอ อาจเป็นอะไรที่หลายๆ คน คาดหวัง สำหรับSamsung Tab S นี่ก็ไม่แพ้ตัวอื่น ด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 2.1 MP ซูมดิจิตอล 4 เท่า มีแฟลช LED มี Auto Focus และมีฟังก์ชั่นกล้องแจ่มๆ อย่างเช่น โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama) โหมดถ่ายภาพช่วงการรับแสงสูง (HDR) โหมดถ่ายภาพกลางคืน โหมดปรับหน้าขาวใสบริ๊งอัตโนมัติ และอีกหลายโหมดที่น่าสนใจถ่ายภาพออกมา สีสดโดนใจ ยิ่งถ้าคนชอบถ่ายใบหน้าตัวเอง หรือถ่ายเซลฟี่ ยิ่งไม่ต้องห่วง เพราะโหมดฟังก์ชั่นหน้าขาวใส นี่ช่วยให้สวยสดใสได้เยอะเลยล่ะนอกจากนี้ยังสามารถบันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video Recording) ด้วยความละเอียด HD 1080 x 1920 พิกเซล แจ่มไม่เบาเลยครับท่าน การทดสอบคะแนนการทดสอบคะแนนเป็นอะไรที่หลายคนคงจับตา และผลการทดสอบคะแนนของ Samsung Galaxy Tab S 10.5 โดยแอพ Antutu Benchmark ปรากฏว่าเจ้าเครื่องนี้ ก็ได้คะแนนอยู่ที่ 27025 อยู่ในอันดับ 9 รองจากพวกสมาร์โฟนเรือธงทั้งหลาย อยู่เล็กน้อย และในกลุ่มแท็บเล็ตนั้น จัดเป็นอันดับ 2 รองจาก Note3 แค่นั้นเอง การทดสอบ GPSเมื่อผมทำการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้าน GPS ในพื้นที่เปิดโล่ง ด้วยแอพพลิเคชั่น AndroiTS GPS Test จะเห็นว่าสามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 21 ดวง ล็อคสัญญาณได้17 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณ อยู่ในช่วงประมาณ 12-19 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 7 เมตรและเมื่อทดสอบอีกครั้งบนพื้นที่เปิดโล่งด้วยแอพพลิเคชั่น GPS Test ซึ่งรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 25 ดวง ล็อคสัญญาณได้โดยประมาณ 24 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณอยู่ในช่วงประมาณ 18-41 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 26 ฟุต อย่างไรก็ดี ผลการทดสอบการรับสัญญาณดาวเทียมในแต่ละช่วงเวลาก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมขณะทดสอบ เช่นท้องฟ้าเปิดโล่งมากน้อยขนาดไหน หรือมีอาคารสถานที่มาบดบังสัญญาณมากน้อยเพียงใดความแม่นยำที่มากพอตัวของ Galaxy Tab S นี้ ทำให้สามารถใช้งานระบบ GPS และ A-GPS ร่วมกับ แอพพลิเคชั่น Google Maps และแอพพลิเคชั่นนำทางต่างๆ ได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง จอใหญ่ คุณภาพเริศ จุใจ คอหนัง คอเกมที่จับตามองมากที่สุด สำหรับแท็บเล็ต เรือธงตัวใหม่ของ Samsung อย่าง Tab S 10.5 นี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องหน้าจอแบบSuper AMOLED เป็นแน่และสำหรับประเด็นเรื่องหน้าจอ Super AMOLED นี้เป็นสิ่งมีคนพูดกันมาโดยตลอดจุดสำคัญสำหรับเข้า Super AMOLED ที่ไม่พูดไม่ได้เลยสำหรับแท็บเล็ตรุ่นนี้ ก็คือความสามารถในการทำ Contrast Ratio สูงถึง 100,000:1 และผนวกคู่มาด้วยเทคโนโลยี Adaptive Displayหลายคนสงสัยว่า มันเป็นยังไง แล้วดีกว่าอย่างไร ผมจะเฉลยครับ...สำหรับส่วนที่เป็น Contrast ratio นี้มันคือค่าความต่างกันของสีระหว่างอัตราส่วนของสีขาวที่สว่างที่สุด กับสีดำที่มืดที่สุด โดยปกติจอแบบ TFT ทั่วไปจะมีค่า Contrast ratio อยู่ที่ประมาณ 1000:1 ซึ่งต่างกันอย่างได้ชัดเพราะค่าที่ประมาณ1000:1 นั้นทำให้แสดงสีดำได้ดำไม่สนิท คือมีแสงสีขาวสว่างอยู่ด้านหลังสีดำนั่นเอง แต่ในจอ Super AMOLED ที่มีค่าประมาณ 100,000 : 1 จะแสดงผลสีดำจะดำสนิทจริงๆ แบบมืดไปเลยแล้วประโยชน์ของมัน เห็นได้ชัดเลยเวลาดูหนังครับ.. อย่างเวลาดูหนังฉากในอวกาศที่มืดสนิท แล้วมีดาวดวงเล็กๆระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ถ้าเกิดเราดูด้วยจอ TFT ทั่วไป ดาวจะกลืนไปกับพื้นดำ เห็นได้ไม่ชัด หรือแทบไม่เห็น เพราะความสามารถของจอนั้นไล่ระดับสีได้ไม่พอและเป็นพิกเซลที่เล็กแต่ถ้าเป็น Super AMOLED เราจะเห็นดาวระยิบระยับสวยชัดเจน และจักรวาลก็จะเป็นสีดำมืดสนิท ถูกแยกอย่างชัดเจน รับประกันว่าได้อารมณ์กว่าเยอะมากครับสำหรับคอหนังไม่เพียงแค่นี้ครับ เพราะในการใช้งานกลางแจ้ง หน้าจอแบบ Super AMOLED มีอัตราการสะท้อนแสงต่ำกว่าจอ TFT ด้วยเช่นกัน อันนี้คือความต่างต่อมา คือ เทคโนโลยี Adaptive display ที่ค่าย Samsung พัฒนาขึ้นมา เป็นเทคโนโลยีการวิเคราะห์สภาพแสงด้วยเซนเซอร์ จากนั้นจะเปลี่ยนสีของการแสดงผลให้ตรงกับค่าที่ควรจะเป็นที่ตาจะมองเห็น เพราะปกติแล้วเวลาหน้าจอโดนแสงมากระทบเราจะมองเห็นสีของหน้าจอเพี้ยนไปจากปกติ ดังนั้นเมื่อมีเทคโนโลยีนี้เข้ามาช่วย ระบบสีที่เรามองเห็นก็จะตรงชัดเป๊ะรวมไปถึงการแสดงผลตัวอักษร ที่จะมีการปรับการแสดงผลให้อ่านง่ายแม้กลางแสงแดดจ้า ด้วยการเพิ่มความคมชัดของฟอนท์ตัวอักษรให้อัตโนมัติ และปรับสีขาวของพื้นหลังให้เหมาะกับสภาพแสงที่เรากำลังใช้งานอยู่ แม้จะอ่านในที่มืดก็ไม่ยังสบายตา เห็นไหมล่ะครับว่าเจ๋ง จุใจจริงๆ Feature ที่น่าสนใจด้วยการที่เจ้า Galaxy Tab S ตัวนี้ ถูกพัฒนามาจาก S5 เราจะได้เห็นฟีเจอร์เจ๋งๆใน S5 มาโลกแล่นอยู่บน Tab S แน่นอน และหลายต่อหลายตัวก็น่าสนใจเช่นกัน1. Fingerprint Scannerอีกฟีเจอร์หนึ่งของ S5 ที่เป็นที่สนใจเยอะ ก็ถูกนำมาพัฒนาต่อยอดไว้ใช้สำหรับ Galaxy TsbS เช่นกันตัวสแกนลายนิ้วมือ ฟีเจอร์นี้ รูปแบบการใช้งานก็คล้ายๆ กันกับ S5 และ สมาร์ทโฟนตระกูล Appleทั้งหลาย คือใช้ปุ่มโฮมเป็นตัวสแกน เพียงแต่ของ Tab S จะต้อง "รูดนิ้ว" จากบนลงล่างขั้นตอนการตั้งค่าทำได้จากหน้า Settings ได้เลย โดยเราสามารถเก็บข้อมูลของลายนิ้วมือได้ 3 นิ้ว (น้อยไปนิดนะ) และต้องลงทะเบียนนิ้วโดยรูดทดสอบ 8 ครั้งต่อนิ้วจากการทดสอบกับการล็อคหน้าจอ พบว่ามันสะดวกกว่าการใส่ PIN อยู่บ้าง แต่การรูดนิ้วจะต้องวางนิ้วในแนวตั้งฉาก 90 องศาจากบนลงล่างพอดี และต้องรูดในจังหวะที่ไม่เร็วเกินไป 2. Multi-window Multi-window เป็นฟีเจอร์ที่ดึงศักยภาพของหน้าจอขนาดใหญ่แบบแท็บเล็ตให้เป็นประโยชน์ในการรันแอพพลิเคชั่น 2 แอพฯ ไปพร้อมกันฟีเจอร์นี้มีมาให้ใน Galaxy เวอร์ชันมือถือ ซึ่งหลายคนจะรู้สึกว่า มันใช้งานไม่สะดวกเพราะจอมือถือมันเล็ก แต่พอเป็นแท็บเล็ตก็พบว่าใช้งานได้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะการเปิดเว็บเบราว์เซอร์ 2 จอพร้อมกันการใช้งาน Multi-window ก็ทำได้ง่ายกว่า Galaxy รุ่นก่อนๆ มาก เพียงใช้การปัดขอบขวาของหน้าจอเพื่อเรียกรายชื่อแอพ ไม่ต้องมีพาเนลรายการแอพลอยบนหน้าจอเหมือนกับ Galaxy ในอดีตตัวแบ่งหน้าจอสามารถเลื่อนขยับขนาดได้อิสระ การควบคุมและสั่งการถือว่าใช้ดีพอตัว แต่ยังเป็นรองฟีเจอร์แบ่งหน้าจอของ Windows 8 อยู่บ้างนิดหน่อยน่าเสียดายว่าฟีเจอร์ Multi-window รองรับแอพพลิเคชั่น ได้ไม่ทุกตัว ใช้ได้เฉพาะบางตัวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ก็ครอบคลุมแอพพลิเคชั่นยอดนิยมยอย่าง Facebook, Chrome, Browser, Gallery, Maps, YouTube เป็นต้น 3. SideSync 3.0 SideSync 3.0 เป็นการส่งหน้าจอสมาร์ทโฟนไปขึ้นบนจอแท็บเล็ต โดยวิธีใช้คือต้องติดตั้งแอพ SideSync จาก Play Store หรือ Galaxy Storeการเชื่อมต่อกันทำได้ง่ายแค่เปิดแอพ SideSync บนอุปกรณ์ทั้งสองฝั่ง แล้วมันก็หากันเจอด้วยตัวระบบเอง ใช้งานง่าย ตรงไปตรงมา สามารถสั่งงานมือถือได้จากหน้าจอแท็บเล็ตเลย โดยมันจะขึ้นมาซ้อนทับบนหน้าจอหลัก (เป็น floating window) และสามารถย่อส่วนเหลือเป็นปุ่มเล็กๆ ลอยอยู่เหมือน Chat Head ของ Facebook ได้ คุณภาพ คุ้มค่า สมราคา มากเอาการ สำหรับ Tab S 10.5 ตัวนี้ จุใจแน่นอนสำหรับคนที่ชอบดูหนัง เล่นเกมส์เพราะจอความละเอียดสูงแบบ Super AMOLED ซ฿่งจุดขายสำคัญที่สุดของแท็บเล็ตรุ่นนี้ ตอบโจทย์ได้ดี โดนใจ มิติภาพชัดมาก จะจัดสักเครื่องไปไว้ชมภาพยนตร์ หรือจะเล่นเกมส์ หรือจะการอ่าน e-Books ก็เชื่อว่าเหมาะสมกับสายตาเสมอบทความจาก www.asiashop.co.thผู้แทนจำหน่าย มือถือ | แทปเล็ต | อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ครบวงจรโทร.082-0186000



Create Date : 24 กันยายน 2557
Last Update : 24 กันยายน 2557 16:28:58 น.
Counter : 692 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 1259065
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog