|
แค่อยากจะเขียน
ครั้งหนึ่ง เราก็เคยอยากไปเมืองนอกแบบ มากมาย (จุดจบของภาค 1)
วันนี้อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน เลยมานั่งทำ blog แล้วก็คิดๆ เรื่องที่จะเขียน มาดูกัันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...
--------------------------------- ------------------------ -------------
--- -
วันรุ่งขึ้นพี่หมอโทรมาแต่เช้า ทำเสียงตกอกตกใจมาเชียว.. เดี๋ยวก่อนพี่หมอ เกิดไรขึ้น พูดช้าๆ (ยิ่งฟังไม่ค่อยออกอยู่ด้วย ยังจะพูดติดเจ้ทอีก)
พ่อพี่โอ้เสียแล้ว
หือ วันนั้นยังเห็นดีๆ อยู่เลยนะพี่
เออดิ นี่พี่ก็เพิ่งรู้ข่าว ป่ะๆ ไปดูไอ่โอ้กันหน่อย
โอ้ย เวรกรรม วันนี้ชั้นต้องทำงานด้วย ลาตอนนี้ไม่ทันแล้วอะพี่หมอ อีกชั่่วโมงนึงต้องทำงานแล้ว โทรไปลาตอนนี้มีหวังโดนตบกบาลแน่ อีกอย่างเค้าคงหาีคนมาทำแทนไม่ทันอะดิ
แกนะ รีสอร์ทเค้าออกจะใหญ่โต แกจะไปเป็นห่วงเค้าทำไม ขาดแกคนนึงรีสอร์ทเค้าต้องปิดเลยรึเปล่าล่ะ
ทำเป็นพูด ku เนี่ยหยุดบ่อยมากจนจะโดนไล่ออกอยู่แล้วนะ เดี๋ยวเกิดโทรไปลาแล้วเค้าบอกว่างั้นลาออกไปเลยต่อไปนี้จะได้ลาเยอะๆ สมใจทำไงล่ะ
เออ นั่นแหละตกลงจะไปป่ะเนี่ย
งั้นพี่หมอโทรไปลาให้หน่อยดิบอกว่าป่วยไม่สบายหนัก ท้องเสียกะทันหันอะไรก็ว่าไป
เออๆ เอาเบอร์มา
xxx-xxx-xxxx
แ้ล้วเดี๋ยวพี่หมอมารับที่บ้านใช่ป้ะ
เออ ku รู้งาน
555 แล้วเจอกันพี่หมอ
--------------------------- --------------------- ------------ ----- --
ระหว่างรอพี่หมอก็คิดไปต่างๆ นานาว่าพี่โอ้มันจะเป็นยังไงบ้าง
แต่เอ๊ะแล้วนังเจ๋อมันรู้เรื่องแล้วยัง (ตอนนั้นนังเจ๋อเหมือนจะออกไปทำงาน)
พอพี่หมอมารับก็ตรงดิ่งไปบ้านพี่โอ้
อ่าวทำไมไม่มีคนอยู่เลยอะ สงสัยไปโรงบาลกันหมดรึเปล่า
เออฉลาด แล้วทำไมชั้นไม่โทรเข้ามือถือไอ่โอ้มันล่ะ
ตู้ดดดดดด ตู้ดดดดดด ตู้ดดดดดด
ไม่มีคนรับเลย เอาเป็นว่ารอกันที่นี่แหละ...
(อุตส่าห์ลางงลางานมานั่งรอแกเลยนะนังโอ้ หายไปไหนเนี่ย)
สองชั่วโมงผ่านไป..
มานั่งคิดๆ ดูถ้าเป็นเมืองไทย ถ้าบ้านมีคนตายทีนีีคนคงจะแห่กันมาเต็มบ้านเจ้าของงาน แต่ที่นี่ทำไมไม่เห็นมีคนมาเลยวะ
(เมิ_จะพูดทำไมเรื่องคนตาย ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าเล่าเล้ยยยยย)
เนื่องมาจากสถานการณ์มันบังคับก็คงต้องเล่าต่อไป
จำได้ว่าวันนั้นรอนานมากกกกก
จนเย็นๆ พี่โอ้ก็กลับมา หน้าตาซีดเซียวมาเชียว
มันหันมายิ้มๆ กับเรา แล้วก็เข้ามากอด
(อย่าเพิ่งจิ้นกันไปใหญ่ เค้ากอดกันเพื่อแสดงความเสียใจนะจ้ะ)
แล้วพี่หมอก็เข้าไปคุยกับพี่โอ้ในบ้าน
ส่วนเราแยกไปฉี่ (อั้นมานาน ชั้นจะเป็นนิ่วมั้ยเนี่ย..)
ว่าไปแล้วฝรั่งเค้าก็ไม่ค่อยจะฟูมฟายอะไรกันเท่าไหร่เนอะ
ตอนนั้นอยากถามว่าอ่าวแล้วเอาศพไปไว้ไหน แต่ว่าจะถามไปก็เหมือนกับไร้มารยาทอย่างรุนแรง
ไม่รู้ก็ได้ :(
คืนนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน...
มาถึงบ้านเห็นนังเจ๋อนั่งกินป๊ิอกกี้ดูทีวีอย่างสบายใจเฉิบ นี่มันช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย..
ตอนนั้นด้วยความปากไว เลยบอกนังเจ๋อไปเรื่องพ่อพี่โอ้
มันหันมาหาเราแล้วบอก "หรอ?"
แล้วชีก็กลับไปกินป๊ิอกกี้ต่อ
อุ้ย นังนี่ อะไรของมันวะ.. รู้งี้ไม่น่าบอกเลย
วันรุ่งขึ้นก็ไปทำงานตามปรกติ แต่ก่อนไปก็แอบแว้ปไปบ้านพี่โอ้ก่อนแป้บนึง ทำไมเงียบจัง...
เดินสำรวจรอบบ้านอยู่ประมาณสองรอบ (ถ้าคนอื่นเห็นเค้าจะคิดมั้ยว่าชั้นมาดูลาดเลายกเค้าบ้านพี่โอ้ ฮ่าๆ)
ไม่มีคนอยู่อีกตามเคย...
ขากลับจากทำงานก็แวะไปอีกรอบ บ้านก็ปิดเงียบเหมือนเดิม
เค้าไปไหนของเค้านะ...
กลับมาบ้านเรายังคงเห็นยัยเจ๋อนั่งดูรายการทีวีเรื่องเดิมกับเมื่อคืน เออ มันช่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวจริงๆ เลย...
สองวันต่อมาพี่หมอมาหาเราที่บ้าน แล้วก็เอาการ์ดเชิญไปร่วมงานศพมาให้ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าที่นี่เวลาจะไปงานศพใครได้ทั้งทีนี่ต้องถึงขนาดมีการ์ดเชิญเลยหรอเนี่ย
ว่าแต่นี่ชั้นต้องลางานอีกหรอฟระ...
ตอนนั้นนังเจ๋อแอบได้ยินแล้วก็รีบเสนอหน้ามาบอกเราว่าขอไปด้วยได้มั๊ย
ไอ่เราจะกีดกันก็ช่างไม่ถูกกาละเทศะก็เลยให้มันไปด้วย (ทั้งๆ ที่การ์ดเชิญมีชื่อเราคนเดียว ก็แค่เพื่อนไปด้วยอีกคนคงไม่เป็นไรมั้ง)
แต่ปัญหาเนี่ยดิ ไม่มีชุดดำเลยเรา กางเกงก็พอหาได้ แต่เสื้อเนี่ยดิ...
คืนนั้นเลยต้องวิ่งวุ่นไปยืมชุดดำชาวบ้านชาวเมืองมาใส่
ด้วยความที่เกิดมาไม่เคยไปงานศพฝรั่งมาก่อนเลยไม่รู้ว่าเค้าทำกันยังไง แต่งชุดดำไปเป็นพอมั้ง ที่เหลือค่อยทำตามชาวบ้านเค้าเอา
วันรุ่งขึ้นพี่หมอก็มารับ แอบทำหน้าตกใจที่เราพานังเจ๋อไปด้วย พี่หมอรีบลากเราไปคุยด้วยเลยว่าถ้าเจ้าภาพเค้าไม่เชิญคนๆ นั้นจะไม่สามารถไปร่วมงานได้ประมาณนั้น
พี่หมอก็แค่คนเดียว ให้มันไปเหอะพี่โอ้คงไม่ว่าหรอก พี่หมอบอกไม่ได้ๆ ไปบอกเค้าเลยว่าไม่ได้
กึ๋ย จะให้ชั้นไปบอกเนี่ยนะ พี่หมอไปบอกเองดิ
พี่หมอไม่มีทางเลือกเลยจำใจเป็นคนไปบอกนังเจ๋อ
นังเจ๋อหันมาค้อนตรูทีนึงแล้วก็เดินกลับเข้าบ้านไป ตอนนั้นแอบรู้สึกผิดอย่างรุนแรง แต่ทำไงได้อ่ะ...
ไปถึงที่งาน เค้าจัดกันในโบสถ์ก่อน ก็มีทำนู่นนี่ตามพิธีทางศาสนา ตอนนั้นจำได้ว่าลุกนั่งๆ เป็นสิบๆ รอบเลย ไอ่เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็ทำตามเค้าไป
หลังจากพิธีเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันไป ตอนแรกนึกว่าต้องไปทำพิธีฝังต่อ แต่ว่ากลายเป็นไปงานกินเลี้ยงแทน แอบงงนะเนี่ยงานศพทำไมมีงานเลี้ยง ลืมเล่าไปว่าตอนไปที่โบสถ์แทบจะไม่มีคนแต่งชุดดำเลย ทุกคนแต่งตามใจฉันกันมาก เออแปลกไปอีกแบบ
พูดถึงงานกินเลี้ยงจะเป็นประมาณบุ๊ฟเฟ่ย์ ตักมากินกันที่โต๊ะ แล้วในบริเวณนั้นก็จะมีคล้ายๆ ซุ้มเกี่ยวกับผู้ตาย มีรูปภาพ สมุดให้คนมาลงชื่อไว้อาลัย เสื้อผ้า ต่างๆ นานา (อันนี้แค่เห็นไกลๆ ก็คงพอแล้วนะ คงไม่ต้องอยากรู้ไปดูใกล้ๆ)
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านวันนั้นได้คุยกับพี่โอ้แค่ประมาณสองประโยค แต่ก็สงสารมันแหละ นับจากคืนนี้คงต้องนอนอยู่บ้านคนเดียวแล้วนะนังพี่โอ้...
หลังจากนั้นต่อมาพี่โอ้ก็ดูเหมือนจะออกไปจากวงจรชีวิตของเราโดยสิ้นเชิง เหลือแต่พี่หมอที่เจอกันแทบทุกวัน กินนู่นนี่ เที่ยวนั่นเที่ยวนี่
ความสัมพันธ์ของเรากับพี่หมอก็ดูเหมือนจะรุดหน้าไปเรื่อยๆ เพราะเราสองคนค่อนข้างชอบอะไรเหมือนๆ กัน หรือมันจะตามใจเราก็ไม่รู้ :)
เหลือเวลาอีกไม่กี่อาทิตย์โครงการ work นี้ก็จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ว่าเดี๋ยวเราจะไปเที่ยวบ้านญาติต่อหลังจากนี้ อีพี่หมอก็ทำท่าว่าจะขอไปด้วย แต่เดี๋ยวถ้ามันไปด้วยจริงๆ ก็จะดูไม่งามไปอีก มาเมกาแค่สองสามเดือนพาผู้ชายมาเที่ยวด้วยแล้ว เรื่องนี้ค่อนข้าง sensitive กับเรามาก อีกอย่างไม่อยากเป็นขี้ปากใครด้วย ถึงแม้ความจริงแล้วเรากับพี่หมอไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆ คิดเลย
วันนี้ไปเดินเล่นที่ซุเปอร์ฯ อยู่ดีๆ ก็ไปเจอพี่โอ้ (จะหลบแล้วแต่ไม่ทัน มันเห็นเราซะแล้ว..) มันก็เดินมาคุยด้วย แปลกดี ถึงแม้่จะไม่ได้คุยกันนานแค่ไหน แต่พอได้คุยกันอีกครั้ง ความรู้สึกมันก็เหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย อีพี่โอ้ยังชวนไปจิ๊กช๊อกโกแล๊๋ต จิ๊กขนม ผลไม้ ในซุปเปอร์กินเหมือนเดิม คนอะไรขี้จิ๊กจริงๆ ได้กินของฟรีแล้วภูมิใจได้ตลอดเวลา...
ตอนนั้นพี่โอ้ชวนไปกินข้าวต่อ ด้วยความใจง่ายเลยไปกับเค้าอีก อะนะคนเรา ยังไม่เข็ดๆ แต่มันก็เหมือนกินกันตามประสาเพื่อนธรรมดาแหละ ขากลับบ้านเจอนังเจ๋อเดินกับฝรั่งผู้ชายอีกคน (ตอนนั้นเราขับรถผ่านเห็นมันเดินอยู่ข้างทาง แต่พี่โอ้มันไม่เห็นตอนนั้น) อ่าวนังนี่มี target ใหม่นี่หว่า...
วันนั้นกลับบ้านมาด้วยความปลาบปลื้มที่ได้ไปกินข้าวกับพี่โอ้ (เว่อร์อีกแล้วเรา) เป็นได้ไม่มากกว่าเพื่อนแล้วแหละ อีกไม่นานเราก็ต้องออกจากที่นี่แล้ว มาคิดๆ ถ้าไม่เจอกันโดยบังเอิญวันนี้ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่เราจะได้คุยกันอีก เผลอๆ เรากลับบ้านไปแล้วมันยังไม่รู้เลยมั้ง...
เปิดคอมมาเช็กเมล ญาติส่งเมลตั๋วเครื่องบินมาให้แล้ว อ่าว อีกอาทิตย์เดียวเองนิ่ ทำไมมันเร็วอย่างนี้ เที่ยวซะลืมวันลืมคืนเลยเรา...
และแล้วนี่ก็เป็นอาทิตย์สุดท้าย เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ วันนี้พี่หมอนัดไปเลี้ยงส่งมีเพื่อนๆ พี่ๆ คนไทย พี่หมอ พี่โอ้ ไปกินกันที่บ้านพี่โอ้ คล้ายๆ ทำอาหารกินกันเอง แมร่ง รู้งี้ไปกินร้านดีกว่า อาหารแต่ละอย่างหน้าตาประหลาด พี่ๆ คนไทยทำอาหารไทยกันแบบออกแนวอาหารที่เครื่องปรุงไม่ครบ รสชาดประหลาดได้อีกกกกก
อาหารที่ว่าก็มีประมาณว่าส้มตำแต่ใส่เส้นสปาเก๊ตตี้แทน โอ้วอาหารอะไรของมันฟระ กินแล้วจะตายมั้ยเนี่ย...
และแล้วพี่คนไทยก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ทิ้งให้เรากับพี่หมอพี่โอ้ล้างจาน น้ำใจจะช่วยเนี่ยไม่มี กินแล้วก็ไปเลยนะยะ ฮึ้ยๆๆๆๆ อยากด่ามากๆๆๆ
ตอนนั้นอีพี่หมอพี่โอ้แบบมีของขวัญมาให้ อย่ามาทำซึ้งเดี๋ยวโดนตบ (แกเนี่ยไม่มีอารมณ์อ่อนหวานกับเค้าบ้างเลยนะ)
พี่หมอกับพี่โอ้ให้ของขวัญเรามาคนละกล่อง โหไมกล่องเล็กจัง นัดกันซื้อป้ะเนี่ย ไมกล่องเล็กเท่ากันเลย แต่ิิอิชั้นก็ไม่แกะเหมือนเดิม ตอนนั้นแอบน้ำตาซึมที่ต้องจากเพื่อนรักทั้งสองคนไป แต่ทำไงได้ยังไงชีวิตเราก็ต้องเดินต่อไป แต่ละคนก็มีเส้นทางชีวิตเป็นของตัวเองนี่หน่า...
เราก็ต้องกลับไปเรียน
พี่หมอก็ต้องกลับไปเรียนเหมือนกัน
ส่วนพี่โอ้ก็คงต้องทำงานที่บ้านต่อจากพ่อ
ทำไมเส้นทางชีวิตของเราทั้งสามคนเหมือนจะไม่มีวันมาบรรจบพบเจอกันอีกเลยเนอะ...
กลับมาบ้านก็มานั่งอ่านการ์ด พี่หมอบอกว่าดีใจมากที่ได้รู้จักกัน อย่าลืมเดี๋ยวจะตามไปเมืองไทย แล้วมารับที่สนามบินด้วยล่ะ!!
เริ่มน้ำตาซึมแล้วนะไอ่พวกนี้เขียนไรเนี่ย...
ส่วนของพี่โอ้มาซะยาว (แต่ขอแปลแบบกระชับสองบรรทัด แฮ่ะๆ)
ขอบคุณมากสำหรับความรู้สึกดีๆ และขอโทษที่ความสัมพันธ์ของเรามันคงไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้ว เราอยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนใจเราไกลกันมาก (เริ่มงง55) กลับไปอย่าลืมติดต่อมาบ้างล่ะ...
นี่ (คงจะ) เป็นจุดจบความสัมพันธ์ (แบบ-งงๆ) ของเราทั้งสามคน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป พี่หมอพี่โอ้จะตามคูปองกลับไปเมืองไทยหรือไม่ หรือคูปองจะกลับไปเจอสองคนนั้นที่เมกา หรือว่าเราสามคนจะไม่ได้เจอกันอีกเลย (งงป้ะล่าาา :p)
ไม่บอก และจะปล่อยให้เป็นปริศนาต่อไป
...จนกว่าจะพบกันใหม่...
--------------------------- ------------- ----
- - - - - -
แค่อยากจะเขียน
ครั้งหนึ่ง เราก็เคยอยากไปเมืองนอกแบบ มากมาย (ภาค 1)
Create Date : 10 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 10 ตุลาคม 2552 21:29:19 น. |
|
12 comments
|
Counter : 361 Pageviews. |
|
|
|
โดย: mambank IP: 125.27.95.136 วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:22:29:05 น. |
|
|
|
โดย: yingpattra IP: 125.25.210.2 วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:4:53:35 น. |
|
|
|
โดย: thaibo_pa วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:9:36:21 น. |
|
|
|
โดย: นก IP: 58.9.229.40 วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:20:34:16 น. |
|
|
|
โดย: โอ๊ดเอง IP: 124.157.149.146 วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:23:12:18 น. |
|
|
|
โดย: YUKIss IP: 124.122.150.91 วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:23:30:10 น. |
|
|
|
โดย: Mungkud IP: 58.137.189.2 วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:14:47:16 น. |
|
|
|
โดย: Bovy IP: 58.11.83.239 วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:23:26:11 น. |
|
|
|
โดย: brackleyvee วันที่: 26 ตุลาคม 2552 เวลา:23:16:24 น. |
|
|
|
โดย: lishuling วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:46:06 น. |
|
|
|
โดย: HANAKA (indymeister ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:16:18 น. |
|
|
|
โดย: วันจัน IP: 71.1.209.211 วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:3:50:03 น. |
|
|
|
| |
|
|