All Blog
updateชีวิตอันแสนสวยงามของแมลงสาบสุดสวย 5555
เดือนกรกฏา-สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงเดือนที่ชีวิตของอิชั้น
มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมากกกกกกก

คนที่ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอาจจะบอกว่า มันก็ยังงั้นๆอ่ะ..
แต่สำหรับผู้หญิงเส้นตรง(ทั้งอกทั้งหุ่นและกราฟชีวิต)อย่างอิชั้น..
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ถือว่าเยอะมากแล้ว..

เริ่มจากบ้านก่อน..

อิชั้นเกิดและโตที่บ้านหลังปัจจุบันซึ่งสร้างมา30กว่าปี..
ไม่เคยย้ายไปไหน.. แล้วก็คิดว่าชาตินี้คงจะไม่ได้ย้ายแล้วด้วยซ้ำ..
เพราะอยู่กับมันมานาน ทุกๆวันก็เข้าออกซอยบ้านเดิมๆ..
เจอคนหน้าเดิมๆ.. อิชั้นอยู่มาตั้งแต่เป็นซอยเงียบๆ มีบ้านไม่กี่หลัง..
จนตอนนี้มีคนแปลกหน้าย้ายเข้ามาเยอะแยะมากมาย
เพราะมีคอนโดหลายที่ปลูกใหม่ในซอย..

แต่ถนนในซอยเล็กเท่าเดิม-*-

ถ้าใครเคยเข้ามาในซ.จรัญฯ57น่าจะรู้ดี..
แท๊กซี่แถวนี้เป็นอันรู้กัน..เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง..
เพราะขึ้นชื่อเรื่อง คนเยอะ ของวางขายเต็ม2ข้างทาง..
มอเตอร์ไซค์ยั้วเยี้ย(แถมดุมาก) คนเดินถนนก็ไม่สนใจรถ
(ทำนองว่า กูจะเดินอ่ะ มึงอยากขับก็หลบเอาเองดิ)
แถมนอกจากของที่มาวางขายกันแล้ว..
มอเตอร์ไซค์เอย จักรยานเอย ไหนจะรถขยะของเทศบาล
ยังมาจอดขวางทางกันจนบางทีรถติดอยู่ในซอย
20กว่านาทีไม่ไปไหนเลยด้วยซ้ำ-_-''

หลังจากคุ้นเคยกับสภาพคล่องในซอยมา26ปี..
ในที่สุดอิชั้นก็กำลังจะได้ย้ายออกไปจากแหล่งซ่องสุมนี้ซักที 5555

ต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้ท่านแม่ที่ไปซื้อคอนโดเอาไว้..
พอมันเสร็จช้าก็เลยมีอันต้องย้ายโครงการ..
เพิ่มเงินนิดหน่อย ได้บ้านใหม่1หลังที่สวยมาก^^

จริงๆเราก็ทำเรื่องโน่นนี่นี่นั่นกันมานานแล้วแหละ..
แต่เพิ่งจะได้โอนชื่ออะไรกันเรียบร้อยเดือนที่แล้วนี้เอง..
ตอนนี้ก็จะยุ่งๆเรื่องหาของเข้าบ้าน ทั้งผ้าม่าน แอร์ โซฟา โต๊ะกินข้าว
ห้องครัว ตู้เตียงโต๊ะสารพัด..
ซึ่งก็เงินแม่ทั้งนั้นล่ะค่ะทั่นผู้ชม-_-''

อิชั้นก็ได้ช่วยผ่อนบ้างแค่พอหัวโต..
แต่ก็นะ.. เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า และบ้านใหม่ห้องใหม่สวยๆอีก1หลัง
ที่ถึงแม้จะไกลจากตัวเมืองมากพอสมควร..
แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีและมีความสุขอย่างนึงในชีวิตน้อยๆของอิชั้นเลยแหละ

งานนี้แฟนแม่ได้ใจไปเต็มๆเมื่อฉลองขึ้นบ้านใหม่
ด้วยการช่วยออกค่าผ้าม่าน3หมื่น แล้วก็ซื้อทีวีพลาสม่า42นิ้วให้อีก1เครื่อง..
ไฮโซมากกกก แต่อย่างแรกที่ต้องทำคือ ติดสัญญาณกันขโมย-_-''..

เอาไว้เมื่อไหร่ย้ายเข้าไปอยู่แล้วจะถ่ายรูปมาอวด:D


มาถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างที่ 2 ..
อิชั้นกำลังจะเปลี่ยนงาน^^

อิชั้นนี่ไม่ค่อยจะได้ทำงานที่ไหนนานนะ..
แต่ที่นี่ก็ถือว่านานที่สุดในชีวิตแล้ว.. คือ1ปีกับอีก 11 เดือน
อันที่จริงงานที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ไม่นับว่าเลวร้าย..

ยุ่งเป็นพักๆ จุกจิกเป็นหย่อมๆ แต่ก็ถือว่าเป็นงานสบายๆงานนึง
ที่ให้เงินเดือนสูงมาก..
เพราะต้องแลกกับการไม่มีวันหยุดทางศาสนาเลยแม้แต่วันเดียว..
แล้วก็โดนเจ้านายที่มีอยู่3คนผลัดกันใช้ แถมยังด่าด้วยเป็นบางครั้ง 5555

แต่อิชั้นนี่ถือว่าโดนน้อยมากแล้วเมื่อเทียบกับคนอื่น..
สวยก็สบายยังงี้อ่ะนะ (แหม มันช่างกล้าพูด)

เจ้านายผู้ชาย2คนซึ่งมีลูกมีเมียกันหมดแล้วเค้าก็เอ็นดูอิชั้นกันดี..
เวลาไปเมืองนอกมาบางทีก็จะนึกถึง
ซื้อเครื่องสำอางไฮโซติดไม้ติดมือมาฝาก
ส่วนซ้อแม่เจ้านายก็ชอบเอารองเท้าที่ซื้อจากฝรั่งเศสมาให้

อ่านแล้วคงสงสัยว่าแล้ว มึงยังจะออกไปไหนอีกทำไมฟะ..
ทุกอย่างมันก็มีเหตุผลของมันค่ะ^^

ความเปลี่ยนแปลงเรื่องงานนี่ เกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงอย่างที่3
เอาเป็นว่า มีคนมาพูดให้อิชั้นคิดได้ว่า คนเก่งๆ(??)อย่างอิชั้น
ไม่ควรจะเอาความรู้ความสามารถมาทิ้งไว้กับงานง่ายๆ
ไม่ต้องใช้สมองมากแบบนี้.. หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ
ควรจะออกไปหาความลำบากให้ชีวิตซะบ้าง
เพื่อพัฒนาเซลล์สมองก่อนที่มันจะฝ่อหมดหัว-_-''

ก่อนหน้าที่จะมีคนมาพูดให้คิด อิชั้นเองก็รู้สึกมาซักพักแล้วล่ะ..
ว่าภาษาอังกฤษที่อิชั้นเคยมีเคยเป็นมันหายลงหม้อไปหมดแล้ว..
เคยพูดได้แค่ไหน เคยอ่านได้แค่ไหน เคยเขียนได้แค่ไหน
มันลดลงไปหมดเกินครึ่ง..

อิชั้นเองก็ไม่ได้เก่งขั้นเทพอะไร..
พอไม่ค่อยได้ใช้ให้เต็มประสิทธิภาพเหมือนสมัยเรียน..
มันก็เลยหายไปหมดอย่างน่าใจหาย..
เลยเป็นที่มาให้อิชั้นเริ่มรู้สึกอยากลำบาก-_-''

พอดีกับที่ลูกพี่ลูกน้องอิชั้นทำงานเกี่ยวข้องกับตปท.โดยตรง
แล้วกำลังเดือดร้อนคนในทีมไม่พอ.. อิชั้นเลยลองไปสมัคร..
เนียนๆไปพรีเซ้นท์งานให้MDเค้าดูแล้วเค้าชอบ ก็เลยได้งานใหม่ซะงั้น..

(ทั้งนี้ต้องขอบคุณอิโจ้เพื่อนสนิทที่เนรมิตpower pointให้อิชั้นอย่างหรู
จนMDออกปากฝากมาชมใครก็ตามที่ทำpptให้..
และพี่วิทย์ที่ช่วยทำoutlineเรื่องที่จะพรีเซ้นท์ให้แต่แรก
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกก .. หมายถึงพี่วิทย์อ่ะนะ:P)

พอรู้ตัวว่าได้งานใหม่ปุ๊บ ก็มาลาออกกับที่เก่าแทบจะทันที..
งานนี้เจ้านายอิชั้นเลยจ้างคนมาแทนอายุ42..
กะว่าไม่ต้องให้หนีไปไหนจนกว่าจะเกษียณไปเลย..
ก็ยังดีที่อิชั้นไม่โดนโกรธอะไร..
แต่เรื่องใหญ่คือพ่อของเจ้านายที่ชอบใช้อิชั้นเค้ายังไม่รู้..
กะว่าวันสุดท้ายค่อยบอก-_-''


มาถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างที่ 3 ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงสุดท้าย
ที่สำคัญมากๆกับความรู้สึกของสาวงามอย่างอิชั้น
หลังจากครองตัวและหัวใจไม่ไขว้เขวไปกับใครที่ไหนนอกจากแม่..
ในที่สุดเมื่อเดือนก่อนนี่เองเพิ่งจะมีคนที่ทำให้อิชั้นรู้สึก..

อยากมีความรักจริงๆจังๆเป็นครั้งแรกในรอบ1ปี..
และเป็นคนที่มีความรู้สึกตรงกันเป็นคนแรกในรอบ1ปีด้วย..

คนๆนี้ที่ว่า เป็นคนเดียวกับที่พูดให้อิชั้นรู้สึกตัว
ว่าไม่ควรจะเอาความสามารถมาทิ้งไว้ตรงนี้จนแก่ตาย..
เป็นแรงบันดาลใจอะไรหลายๆอย่างให้อิชั้นหลังจากที่ยิ่งได้คุยกันมากขึ้น..
และเป็นคนเดียวกับที่ช่วยทำoutlineงานพรีเซ้นต์ตอนไปสัมภาษณ์ที่ใหม่นั่นเอง^^

ผู้ชายคนนี้อยู่ไกลคนละซีกโลก แต่พอได้คุยกันจริงๆจังๆ..
กลับทำให้อิชั้นรู้สึกว่า
เอ๊ย.. คนนี้มันใช่อ่ะ ใช่มากๆ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน..
บอกตรงๆว่าเราคุยกันไม่นาน.. ก่อนที่อิชั้นจะรู้สึกอะไรบางอย่างกับพี่เค้า..
แต่ก็เพราะไอ้ความไม่นานนี่แหละ ทำให้อิชั้นรู้สึกได้ถึงความพิเศษที่ทำให้เค้าโดดออกจากคนอื่นๆที่อิชั้นเคยคุยมา...

ถ้าเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ซักปีเดียว..
อิชั้นคงไม่ค่อยแน่ใจอ่ะว่ามันเกิดความรู้สึกเพราะใช่หรือใจง่ายกันแน่-_-''
เพราะสมัยก่อนที่จะเป็นโสดมาปีนึง..
อิชั้นเป็นผู้หญิงประเภทขาดความรักจากผู้ชายนอกบ้านไม่ได้..
ต้องอินเลิฟตลอดเวลา.. ซึ่งขอบอกว่าปัญญาอ่อน
และเป็นสิ่งที่บั่นทอนความสุขอย่างแรง.. เวลาที่รักคนไม่เลือก..
เพราะโดนทิ้งๆขว้างๆทางความรู้สึกมาหลายหน..

พอสงสารตัวเองกับแม่มากๆเข้าก็เลยคิดได้
ทำใจแข็งไม่รักใครมาเป็นปี คิดว่าจะอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอใครซักคนที่"ใช่" สำหรับอิชั้นจริงๆ..

คำว่า "ใช่" ของอิชั้นมันก็ประกอบไปด้วยหลายๆอย่าง..
อย่างแรกๆที่สำคัญมากต่อการคิดว่าจะเลือกใครซักคน..
ก็น่าจะเป็นเรื่อง ความสูง..-_-''

เพราะอิชั้นตัวเตี้ยหมาตื่น..
ถ้าได้แฟนตัวใกล้เคียงกัน อิชั้นกลัวว่าลูกจะเกิดมาสอยมะเขือกิน-_-''
ความสูงของแฟนจึงเป็นเรื่องสำคัญ..

อีกเรื่องคือ อนาคตของเค้า..
เพราะอนาคตของเค้าก็คืออนาคตของคนที่อิชั้นจะเอาชีวิตไปฝากไว้ด้วย..
เพราะงั้น อนาคตของเค้าต้องไม่ล่องลอย มีแผนเอแผนบี
ไม่ใช่ชีวิตต่อไปข้างหน้าจะเป็นไงก็ไม่รู้ อันนั้นมันชีวิตอิชั้น..
คนที่อิชั้นเลือกไม่มีสิทธิ์เป็นแบบนั้น
ไม่งั้นเราคงจะลอยออกนอกโลกไปด้วยกันซักวันแน่ๆ-_-''

และอีกเรื่องนึง ก็คือทัศนคติที่มีต่อความรักและการใช้ชีวิตคู่..
อ่านมาถึงนี่ ขอย้ำอีกทีว่าอิชั้นไม่ใช่เด็กอายุ17-18
ที่จะขอแค่มีความรักสวี้ดสว้ายใจหายใจคว่ำไปวันๆ..

หรือรักกันเอามันส์ เบื่อก็เลิก เจอคนที่ดีกว่าก็นอกใจ..
ค่อยไปหาเอาใหม่ดาบหน้า..
อิชั้นไม่มีความรู้สึกแบบนั้นมาได้2ปีกว่าละ..

ความรักแบบที่อิชั้นตามหา เป็นความรักที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่งี่เง่า
ไม่play around ไม่ใช่เกมส์ที่จะต้องหาคนแพ้คนชนะ..
และที่สำคัญคือ ต้องอยากดูแลกันและกันจริงๆ..
อิชั้นพร้อมที่จะมีความรักแบบนี้.. ก็เลยอยากได้ความรักแบบเดียวกัน..
จากคนที่อิชั้นเลือกเหมือนกัน..

เอาง่ายๆก็คือ อิชั้นอยากแต่งงานแล้วนั่นแหละ..
ติดแค่ว่า ถ้าจะมีผัวเลวๆ ก็ขออยู่คนเดียวกับแม่จะดีกว่า.. 555

อิชั้นกับผู้ชายคนนี้เริ่มต้นคุยกันจากความที่เป็นคนรู้จักของรุ่นพี่อีกคนหนึ่งแล้วตัวเค้าอยู่ที่อเมริกาตอนนี้ กำลังจะจบโท..
ตัวอิชั้นเองมีแผนอยากจะขอทุนไปทางโน้นอยู่แล้ว
เลยอยากคุยกับใครซักคนที่พอจะให้คำแนะนำเรื่องUหรือคณะที่เรียนได้..
แล้วก็เลยได้มาคุยกับเค้า..

นับตั้งแต่วันแรกที่คุยกันมาจนถึงวันนี้..
ไม่มีวันไหนเลยจริงๆที่เราไม่ได้คุยกัน..
(chat logเต็มไปแล้ว4หน-_-''..)

ยิ่งได้รู้จักตัวตนผู้ชายคนนี้มากเท่าไหร่..
อิชั้นก็ยิ่งรู้ว่า คนนี้แหละ คนที่อิชั้นตามหา แล้วก็คิดว่าจะหยุดได้ซักที..
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าคิด ที่เค้าพูดและทำ มันตรงกับที่อิชั้นคิดไว้ทุกอย่าง..
แล้วเรา2คนก็ยังมีอะไรเหมือนๆกันจนบางทียังมานั่งขำกันเองในความเหมือน..

อย่างที่เค้าบอกอยู่เสมอว่าคุยกับอิชั้น รู้สึกเหมือนเค้าได้คุยกับตัวเอง...

พี่วิทย์ไม่ใช่คนหล่อล่ำหำเริ่ดมาจากไหน
(เรื่องนี้อิชั้นเปล่าพูดนะ เค้าพูดเอง-_-'')
บ้านก็ไม่ได้รวยล้นฟ้า ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง..

แต่เค้ามีทุกอย่างที่อิชั้นตามหา
ไม่ว่าจะเป็นความสูง(-_-'') อนาคต และทัศนคติต่อความรัก..
ทุกอย่างตรงกับที่อิชั้นคิดไว้ทั้งหมดจนตัวเองยังแปลกใจ..
ทั้งๆที่อิชั้นไม่เคยบอกใครว่า อิชั้นมองหาอะไรอยู่..
เพราะแบบนี้ ความรู้สึกทุกอย่างถึงเกิดขึ้นเร็วมากแต่ก็มั่นคง..

แต่ก็ไม่ใช่ว่า..คนอื่นๆที่อิชั้นคุยด้วยก่อนหน้านี้จะเป็นคนไม่ดี
ไม่สูง ไม่มีอนาคต..
ที่สำคัญที่สุดคือ พี่วิทย์เป็นคนที่ทำให้อิชั้นรู้สึกอยากมีความรักจริงๆด้วย..
เรื่องนี้อิชั้นเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร..
ทำไมต้องเป็นคนนี้..

รู้แต่ว่าอยากทำอะไรเพื่อพี่เค้า อยากทำให้ตัวเองดีขึ้นกว่านี้
ก็เพราะพี่วิทย์เชื่อและบอกอยู่เสมอ ว่าอิชั้นเป็นและทำได้จริงๆ..
:)

ช่วงที่คุยกันไปได้ซักพัก.. อิชั้นน่ะชอบเค้าแล้วแหละ
แต่ไม่รู้ว่าเค้ารู้สึกยังไง..

อิชั้นเคยถามหาว่าแถวๆที่เค้าอยู่ พอจะมีร้านขายมีCDเก่าๆมั่งมั้ย
อยากฝากซื้อCD วงนึง ที่อิชั้นชอบมากกกกกกกกกก
แต่หาซื้อในเมืองไทยไม่ได้แล้ว..
อิชั้นมีแค่เทป แล้วมันก็เก่ามากแล้วด้วย..

พี่เค้าถามๆถึงวงที่ว่านี่ไม่กี่หน
หลังจากนั้น 2 อาทิตย์เค้าก็ส่งไฟล์mp3มาให้
เป็นเพลงของวงนั้นซึ่งอิชั้นมีอยู่แล้ว..
เค้าบอกว่าหายากมากเลยนะ CDวงนี้ เค้าหาซื้อไม่ได้
เอาไปแค่2เพลงนี้ก่อนแล้วกัน..
ก่อนจะอวดว่า เค้าไปได้CDของอีกวงมาแทนซึ่งอิชั้นชอบเหมือนกัน
เด๋วว่างๆแล้วจะส่งไปให้ที่บ้าน..

ซึ่งแค่นั้นอิชั้นก็ซึ้งแล้วอ่ะ..
อย่างน้อยๆเค้าก็ไปหาโหลดเพลงมาให้แถมยังซื้อCDมาให้ด้วยทั้งๆที่ไม่ได้ขอ..

วันที่เค้าห่อCDส่งมาให้ อิชั้นก็รู้ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตารอของ..
ก่อนจะกลายเป็นว่า ของส่งมาถึงในวันที่ไม่มีคนอยู่บ้านเลย-_-''
วันรุ่งขึ้นอิชั้นเลยต้องไปที่ไปรษณีย์เพื่อรับของแต่เช้า..

ปกติไม่เคยนะ อิชั้นกลัวไปทำงานไม่ทัน ก็จะฝากตาไปเอาให้ตลอด
แต่วันนั้นเห่ออ่ะ เลยไปรับเองเลย..

พออิชั้นเห็นจนท.เค้าเอาห่อของออกมาให้ ก็แบบ..
เอ๊ย.. CDอันเดียวทำไมกล่องมันใหญ่จังวะ หนักด้วย-_-''
ทีแรกกะว่าจะแกะของตอนถึงที่ทำงาน..
แต่ระหว่างขับรถมารถติดๆ อิชั้นก็เอาวะ แกะเลยละกัน คัตเตอร์ก็ไม่มี..
แต่ด้วยความอยากรู้ แกะเองก็ได้วะ 5555

แกะออกมาดูก็อย่างที่คาดไว้ คือเจอCDที่พี่เค้าว่าเค้าซื้อมาฝากก่อนเลย..
พร้อมจดหมาย1ฉบับเป็นinstructionว่า
อิชั้นจะต้องค่อยๆแกะbubbleออกมาให้หมดก่อนนะ..
ถึงจะรู้ว่าเค้าซื้ออะไรอย่างอื่นเตรียมไว้ให้อีกบ้าง..

ใต้ซีดีแผ่นนั้นมีจดหมายอีก1ฉบับ.. วางอยู่บนช็อคโกแลต8-9แท่ง
ในจดหมายบอกไว้ว่าพี่เค้าเห็นว่าอิชั้นชอบกิน..
ที่ซื้อมาก็เห็นว่าแพ็คเกจน่ารัก
แล้วก็แอบไปชิมมา อร่อยดี เลยซื้อมาฝาก..
ตอนนั้นก็เซอร์ไพรส์แล้วแหละ.. เพราะคิดว่าจะมีแค่CDแผ่นเดียว..

แต่อิชั้นก็แอบเห็นว่าใต้กองช็อคโกแลตมีซองจม.อยู่อีก..
เลยต้องนั่งแหกbubbleออกมา เพื่อจะอ่านจดหมาย..

พอแกะbubbleออกมาได้หมด.. อิชั้นถึงกับกรี๊ดดดดดลั่นรถอยู่คนเดียว
เปล่า.. ไม่ใช่แมลงสาบ..
แต่เป็นCDวงSkyที่อิชั้นตามหามาเกือบ10ปีต่างหากT___T

กรี๊ดดๆๆ ><

ในจม.บอกไว้หมดแล้วว่า CDแผ่นนี้หายากขนาดไหน..
พี่เค้าต้องนั่งรถไปที่โน่นที่นี่ทั้งเมือง
ขนาดร้านใหญ่ที่สุดในเมืองยังไม่มีขาย.. แต่เค้าก็ไปหามาจนได้..
ทั้งหมดนี่ก็เพื่ออิชั้น..

อิชั้นบอกตรงๆว่าน้ำตาซึมอ่ะ ซึ้งใจมากกกกกกก
ไม่เคยมีใครทำอะไรให้อิชั้นขนาดนี้มาก่อน.. ตั้งแต่ไปหาซื้อซีดี
ซื้อช็อคโกแลต ห่อของส่งของมาให้ มันก็หลายตังค์อ่ะ..
อิชั้นเลยแบบ..
งืออออออออออ ดีใจT-T

วันนั้นก็เลยเป็นวันที่มีความสุขที่สุดอีกวันนึง ที่เกิดขึ้นเพราะพี่วิทย์..
ถึงวันนี้อิชั้นก็ยังรู้สึกขอบคุณ
แล้วก็คิดว่าจะจำความรู้สึกดีๆแบบนี้ไปอีกนานเลย^^
ขอบคุณนะคะ

ชีวิตอิชั้นที่อยู่กับแม่กับครอบครัวตอนนี้มันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว..
แต่การที่ได้รักผู้ชายดีๆอีกคนนึง ได้เป็นห่วง
ได้ตั้งเป้าหมายในอนาคตร่วมกัน..
มันก็เติมเต็มอีกส่วนนึงของชีวิตอิชั้นขึ้นมา..

อิชั้นสามารถบอกได้ด้วยความมั่นใจจริงๆว่า
You complete me..
จะพูดด้วยเสียงของJerry McguireพูดกับRene Zellweger
หรือจะโจ๊กเกอร์พูดกับแบทแมนก็ได้..

พี่วิทย์เติมเต็มชีวิตที่ดีอยู่แล้วของอิชั้นให้ดีขึ้นไปอีก
แล้วก็หวังว่าอิชั้นจะสามารถเติมเต็มชีวิตของพี่วิทย์ได้ในแบบเดียวกัน..

ตอนนี้อิชั้นเป็นผู้หญิงที่โชคดีและมีความสุขที่สุดในโลกเลยจริงๆ :D

อ่ะถึงตอนนี้ ใครจะอิจฉา ใครอยากอ้วก..
เชิญค่ะ.. อิชั้นมีความสุขค่ะ 5555..
-_-''



Create Date : 11 สิงหาคม 2551
Last Update : 11 สิงหาคม 2551 15:53:52 น.
Counter : 381 Pageviews.

12 comment
กรูเปนบ้าเรี้ยวววววววววว กร๊ากกกกกกกกกกกกก
วันเน้เปนบ้าา

ขอร้องเพลง 1 เพลงนะค้าาาาาาา


O' Aummy Chan she has a farm E-I-E-I-O

And on a farm she has problems E-I-E-I-O

It's a problem here and a problem there
Here's a problem There's a problem
She's got problems everywhere E-I-E-I-O

-*-

เอาแค่นี้ก่อนน้าาาาาา ถ้าไม่ทำงานต่ออาจจะเป็นบ้ายิ่งกว่าเน้้
กร๊ากกกกกกกกกกกก



Create Date : 18 มิถุนายน 2551
Last Update : 18 มิถุนายน 2551 14:00:52 น.
Counter : 338 Pageviews.

3 comment
ผู้หญิงจุดเดือดต่ำ.. (คำเตือน: บล็อกอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก)
สงสัยเดือนมิถุนายนจะเป็นช่วงราหูเข้าดาวเสาร์เปลี่ยนแหวน..
การงานอิชั้นถึงได้วุ่นวายเป็น...พันกัน
แถมอารมณ์ก็เข้าใกล้จุดเดือดง่ายๆซะอย่างงั้นด้วย..

ตอนนี้เรียกว่า
ใครก็ตามโทรมาเอาโน่นนี่ที่อิชั้น
ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความสามารถของอิชั้นที่จะไปแสวงหามาให้แม่งแล้วเนี่ย..
โดนด่ากลับไปหมดเลยค่ะ.. ไม่ว่าจะลูกค้า เจ้านาย supplier คนที่ติดต่องานด้วย..

ปกติอิชั้นก็ไม่ได้เป็นคนใจเย็นเป็นน้ำแข็งอะไรหรอก..
แต่อย่างน้อยก็มักจะเก็บอาการอยู่.. ไม่ค่อยวีนแตก ไม่เคยขึ้นเสียง โดยเฉพาะกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน..

แต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมาลามมาถึงเดือนนี้..
งานมีปัญหามากมายอันส่วนใหญ่เกิดมาจากความซวย..
(ไอ้ที่ชุ่ยเองก็มี แต่ไม่นับ เพราะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปได้หมดแล้ว)
ทำเอาอิชั้นถึงกะปรี๊ดแตกง่ายๆเวลามีคนเอาเรื่องงานอื่นมากวนใจอีก..

ในใจมีแต่คำว่า เชี่ยเอ๊ยแม่งงง รำคาญชิบหาย!อะไรนักหนาวะ-*-
ซวยแล้วซวยอีก มีแต่เรื่อง
เห็นกูเป็นพระเจ้ากันเหรอ ถึงจะเสกให้แม่งได้ทุกอย่างในโลกนี้
โทรมาจิกจะเอานู่นเอานี่ ถ้ากูมีกูีก็ให้ไปนานละ ไม่ต้องรอโทรมาด่ากูเช้าเย็นหรอกค่า
แม่งงงงงงงงงงงง และ #!@$!^&%@*&%$

เฮ้อออออ ถึงจะสวยแต่ก็เป็นคนอ่ะนะ

2วันมานี่นับคนโดนวีนแตกไปได้แล้ว 4 คน (1ในนั้นเป็นเจ้านายตัวเอง
อีก 1 คนต้องสรรค์คำมาวีนเป็นภาษาปะกิดด้วย ลำบากจิตมากๆ-*-)..
ทั้งๆที่ทำงานมา 4 ปี ยังไม่เคยมีใครโดนอิชั้นวีนมาก่อนเลย..

ที่ต้องมาอัพบล็อกนี่ก็ไม่ใช่อะไร..
หาที่ระบายกับคุยกับตัวเองไปพลางๆจะได้อารมณ์ดีขึ้น..
ซึ่งก็ช่วยได้แฮะ รู้สึกยังกะได้ด่าเจ้าตัวจริงๆเลยอ่ะ 55555

ใครกดมาอ่านบล็อกนี้พอดีก็.....
อยากด่าใครก็ทิ้งเมสเสจไว้เต็มที่เลยละกันนะ..

เด๋วอิชั้นปล่อยผ่านหมด ยกเว้นมาด่าอิชั้น 5555



Create Date : 05 มิถุนายน 2551
Last Update : 5 มิถุนายน 2551 14:25:38 น.
Counter : 836 Pageviews.

4 comment
ยิ้มละไมใส่ฟันเหล็ก..

เมื่อเดือนก่อนเกิดความรู้สึกเบื่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวจนไข้แทบแดก..
จริงๆไม่เกี่ยวอะไรกะไข้หรอก แต่มันเบื่อๆ..
ไอ้จะเปลี่ยนความน่าเบื่อรอบตัวให้มันสดใสก็เกินกำลัง..


สุดท้ายก็เลยเปลี่ยนตัวเองแทน..
ดัดผมก็แล้ว ยืดผมก็แล้ว ตัดจนสั้นก็แล้ว (จนตอนนี้ผมเสียหมดแล้ว)..
ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว.. เลยตัดสินใจจัดฟัน..


อันที่จริงฟันไม่ได้เพิ่งจะไม่สวยเมื่อเดือนที่แล้ว
ฟันไม่สวยมานานแล้ว แต่ไม่มีตังค์จัด..
เพราะแม่ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการบอกไว้ว่า..


ใครสวยใครก็จ่าย.. อั้มสวยอั้มก็จ่าย แม่ไม่จ่ายเพราะแม่ไม่ได้สวยด้วย..


อิชั้นก็เถียงไม่ออก.. เลยต้องควักกระเป๋าตัวเองสนองneed..


ร้านที่อิชั้นเลือกทำ เป็นการเลือกแบบคิดน้อย..
คิดแค่ว่า มันอยู่ปากซอยอ่ะ.. ไปหาหมอก็ง่ายดี แค่นั้นเลย..


ค่าจัด3หมื่น5 แบ่งจ่าย6เดือนแรกเดือนละ 3 พัน
เดือนต่อไปเดือนละพันจนกว่าจะหมด..


อิชั้นก็หลังจาก(ให้พี่)คำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว.. ทำก็ทำวะ.. ชีวิตจะได้มีอะไรแปลกใหม่
วันที่นัดหมอเข้าไปจัดฟัน อิชั้นก็เดินมาดมั่นสวยงามเข้าร้าน..
โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลย ว่าต้องเจออะไรบ้าง.. 


หลังประสบการณ์การใส่เหล็กครั้งแรก..
อิชั้นค้นพบว่า การเข้าร้านทำฟันเพื่อจัดฟัน ควรพกปี๊บไปด้วย-_-''


เชื่ออิชั้นเถิดคุณ.. การเข้าร้านทำฟันเพื่อจัดฟัน..
จะทำให้คนเราตกอยู่ในสภาพที่จะได้มีหน้าตาที่อัปลักษณ์ที่สุดในชีิวิตแล้วอ่ะ-*-..
เพราะหมอฟันต้องทำทุกวิถีเพื่อถ่างปาก(หนาๆ)ให้พ้นฟัน..


เริ่มตั้งแต่วันที่เข้าไปปรึกษาวันแรก..
หมอเค้าจะเอาเครื่องมือที่เป็นพลาสติกหน้าตาเหมือนที่ขูดลิ้นแต่มีช่อง
สำำหรับเอามาเกี่ยวปากข้างๆให้แหกออกมากที่สุดเท่าที่ปากจะไม่ฉีกได้..
แล้วก็ถ่ายรูปฟันก่อนจัดไว้เป็นหลักฐาน (แม่งโดนถ่ายรูปด้วยอ่ะT_T..
สภาพแบบนั้นถ้าเห็นหน้าด้วยก็ขอร้องว่าควรทำแถบดำคาดตาให้สนิท..
อิชั้นไม่อยากจะคิดว่า หน้าตัวเองจะอยู่ในสภาพไหน เวลาโดนถ่างปากขนาดนั้น)


หลังจากนั้นก็พิมพ์ฟัน (800บาท)
นี่ก็เป็นประสบการณ์สยองขวัญสำหรับอิชั้นเหมือนกัน..
เพราะเค้าจะเอาถาดเหล็กรูปเกือกม้าที่ขนาดใหญ่กว่าปาก เน้นๆ ใหญ่กว่าปาก..


ทาปูนปลาสเตอร์จนเต็มถาด แล้วบอกให้อิชั้นอ้าปากกว้างๆๆ
ก่อนจะพยายามดันไอ้ถาดนี่เอามาในปากแล้วกดอั้ก!ลงไปบนฟัน..


อึดอัดอึกอักสุดๆเลยอ่ะ แถมไม่ได้กดปุ๊บเอาออกปั๊บเพราะต้องรออีก2-3นาทีให้ปูนแห้ง..
ช่างเป็น2-3นาทีที่ยาวนานเหมือน 3 ชั่วโมงจริงๆT_T มันหายใจไม่สะดวก..
ต้องหายใจทางปากแฮ่กๆๆ เหมือนปลาดุกในกะละมังแม่ค้าตลาดสด
เพราะปากก็แหกซะขนาดนั้น.. พอฟันบนเสร็จก็พิมพ์ฟันล่างต่อ..


ความรู้สึกหลังพิมพ์ปากเสร็จคือ วันรุ่งขึ้นคงจะเป็นร้อนในที่เพดานปาก (แล้วก็เป็นจริงๆ)
และ.. อิชั้นคิดว่าคนธรรมดาอย่างเราๆน่าจะอมจานข้าวได้-_-''..


ตอนที่ใส่เหล็กก็แย่พอกัน.. เพราะหมอต้องเอาอะไรซักอย่างมาติดเหล็กลงบนฟันชิมิ..
แต่ริมฝีปากคงเป็นอะไรที่เกะกะมือเท้าของคุณหมอมาก..


ก็เลยต้องจัดการหาผ้าก๊อชมาม้วนๆเป็นแท่งๆกลมๆแล้วยัดเข้าไปตรงเหงือกบนทั้งปาก..
กระพุ้งแก้มกับปากจะได้ไม่มาเกะกะฟัน.. แค่คิดก็อืม....
ปากกูตอนนี้คงบานกระพือได้แล้วล่ะT_T"..


โชคยังดีที่หมอเอาผ้ามาปิดหน้าไว้
เพราะมันต้องพ่นน้ำพ่นลมอะไรซักอย่างล้างข้างในปากให้สะอาด..
อย่างน้อยอิชั้นก็จะได้ไม่ต้องทนสู้สายตาคุณหมอกับผู้ช่วย
ในสภาพที่ปากกระพือได้แบบนั้น-_-''


พอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ย.. ว่าทำไมเราจึงควรพกปี๊บไปด้วยตอนเข้าร้านหมอฟัน-_-''
ไม่ว่าจะสวยจะหล่อมาจากไหน
หมอฟันกับผู้ช่วยจะได้เห็นเราในสภาพที่อัปลักษณ์ที่สุดในชีวิต..


ปากเป็นปลาตู้ดูดกระจก โอววววSmiley


หมดจากการแหกปากก็ติดเหล็กดัดเสร็จละ..
คราวนี้ไม่ใช่ฝันร้ายเพราะฝันไม่ได้ เนื่องจากไม่ค่อยได้นอน..
เพราะเป็นการติดลวดครั้งแรกอิชั้นก็เลยยังไม่ชินกับความปวดจนต้องตื่นตอนกลางคืนตั้ง2-3หน..


แค่จัดครั้งแรกก็รู้สึกแล้วว่าฟันบนกับฟันล่างไม่เท่ากันจนสบฟันไม่ได้..
จริงๆก็ฝืนสบได้เหมือนแต่ปวดมาก.. ปวดเหมือนคนฟันผุพร้อมกันทั้งปากยังไงยังงั้น..
วันๆก็เิดินปากล่างห้อยไปแกว่างมาเพราะกัดฟันไม่ได้
ที่ตื่นตอนกลางคืนก็เลยมั่นใจว่าต้องเผลอกัดฟันตอนนอน มันเลยปวดจนต้องตื่นแน่ๆ..


วันที่ 3 หลังจากติดเหล็ก.. อิชั้นได้กินแค่โจ๊ก 3 ชาม..กับขนมชิฟฟ่อนนิ่มๆ2อัน..
เมื่อวานพยายามแทะแค๊บหมู.. จบลงที่การหักเป็นชิ้นเล็กๆ..
อมให้มันเปื่อยก่อนแล้วใช้เหงือกเคี้ยว-_-''
(เหงือกที่ว่าอยู่ด้านในสุด.. เพราะฟันกรามซี่สุดท้ายหาได้โดนติดเหล็กไม่..)


ต่อไปคงไม่พยายามอะไรขนาดนั้นอีกแล้ว..
การจัดฟันเป็นทางลัดที่ดีสำหรับลดความอ้วนจริงๆ-_-''


อิชั้นโชคดีนิดนึงตรงที่ตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยต้องถอนฟัน
แทบจะไม่เคยเข้าร้านหมอฟันเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่นับขูดหินปูน..
พอมาจัดฟันที่ตอนแรกกลัวนักว่าจะโดนผ่าฟันคุดที่เคยเจออยู่ 4 ซี่ตอนอายุ17..
แต่ผ่านไปเกือบ10ปี ก็ปรากฏว่ามันขึ้นมาหมดแล้วไม่รู้ตัว..


เลยไม่ต้องผ่า.. ฟันก็ห่างจนไม้จิ้มฟัน 3 อันลอดได้ เลยไม่ต้องถอน..
เจ็บแค่ตอนบีบลวด..


เรื่องต่อมาที่ห่วงคือ เรื่องหน้าตา..


อิชั้นกลายเป็นคนหน้าตาประหลาดเพราะไม่ชินกับการมีเหล็ก
เผลอทีไรต้องเอาปากบนมาฮุบเหล็ก..
ตอนที่นั่งพิมพ์อยู่นี่ก็ฮุบอยู่เป็นพักๆ-_-''


เวลายิ้มก็รู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม ยิ้มทีเหล็กโผล่เต็มปาก..
ยิ้มเสร็จก็ทำท่าปากฮุบเหล็ก..
หน้าตาสยองขวัญมาก ขอบอกSmiley


พี่คนหนึ่งที่อิชั้นคุยด้วยบ่อยๆบอกว่า
การใส่เหล็กจัดฟัน ทำให้หน้าตาน่ารักขึ้น 20%..
คำพูดนี้อาจจะจริง ตอนที่ใกล้เอาเหล็กออก..


ตอนนี้ฟันก็เหยินอยู่แล้วเอาเหล็กติดลงไปก็เหยินกว่าเดิม..
ดูยังไงก็อุบาทว์ขึ้น 20%ชัดๆ-_-''


แถมเมื่อวันก่อนไปออกแฟร์ที่ไบเทคบางนา เจอลูกค้าหล่อรากเลือด..
หน้าตาประมาณเจ้าชายอังเดรของโมร็อคโคเลย
อายุประมาณ 20 ต้นๆ ผมยาวประบ่า ตาสีน้ำตาลอมเขียว
จมูกโด่ง หน้าใส ฟันสวยปากสวย มือเรียวสวย
เสียงนุ่มๆ พูดน้อยๆ.. ยิ้มหวานมากกกกกกกก..
ใส่เสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ และน้ำหอมTommy..
(ข้อมูลทั้งหมดนี้ได้มาจากการคุยเรื่องสินค้ากันประมาณ 6 นาที-_-'')


ส่วนอิชั้น......... ยัยป้าฟันเหล็ก.. ยิ้มทีก็โชว์เหล็กที..
แถมยังฮุบเหล็กให้เค้าดูเป็นระยะๆ T_T ชีิวตคนเราก็แบบนี้อ่ะนะSmiley


แต่ถ้านึกถึงจุดประสงค์แรกที่ไปจัดฟันก็ถือว่าบรรลุเป้าหมาย..
เพราะชีวิตอิชั้นช่างแปลกใหม่ เดินเหินไม่เหมือนเดิมเพราะปากต้องคอยฮุบเหล็ก..
แปรงฟันก็ต้องพิถีพิถัน (ช่วงแรกๆ)กินได้แต่โจ๊ก หลังกินข้าวต้องมานั่งแปรงฟันทุกครั้ง..


แปรงก็ต้องเปลี่ยนอันใหม่ พูดก็ไม่ชัดเท่าไหร่เพราะเลี่ยงไม่ให้ฟันชนกัน..
แม๊.. มันช่างเท่เสียนี่กระไร-_-''


วันนี้วันที่ 5 หลังใส่เหล็ก.. ไม่ค่อยปวดมากแล้ว เริ่มกินผักได้แต่ก็ต้องไม่แข็งมาก


เด๋วเดือนหน้าไปบีบลวดก็คงได้ซัดพารากันอีกซัก2เม็ด เพราะทนปวดไม่ไหว..
หมอบอกว่ามันจะเจ็บทุกครั้งหลังจากจัดลวดใหม่..
น้องที่เคยทำมาก่อนบอกว่า
อีกไม่นานเราก็จะคุ้นเคยกับความเจ็บปวดและอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขค่ะพี่ขา...
อืมมม.. ฟังแล้วเหมือนเป็นซาดิสม์ยังไงไม่รุอ่ะ-_-'


เอาไว้อิชั้นฝึกยิ้มโชว์มุ้งลวดเหล็กดัดได้สวยงามเมื่อไหร่จะแอบถ่ายรูปมาฝาก
แต่ตอนนี้ถ้าใครได้เจอตัวจริง.. อิชั้นจะโชว์ท่าฮุบเหล็กให้ดู 55555 Smiley


ปล. Text  Editorของใหม่เค้าดีจริงๆ..
มาตอนอิชั้นจะอัพบล็อกพอดี.. เลยลองใช้ซะ.. แต่ไม่รู้อิชั้นจะโชว์โง่อีกรึป่าว-_-'
บล็อกจะเสร่อแค่ไหนก็ขอบคุณที่อ่านอิชั้นบ่นมาจนถึงบรรทัดนี้จ้ะSmiley






Free TextEditor



Create Date : 26 เมษายน 2551
Last Update : 28 เมษายน 2551 8:36:05 น.
Counter : 804 Pageviews.

11 comment
ความเป็นนังมารในตัวคุณ.. Bitch is real..
อิชั้นเชื่อว่ามนุษย์ผู้หญิงทุกคนในโลกนี้มีความเป็นนังมารอยู่ในตัว
(จะสวมแตะห่านคู่หรือปราด้าก็แล้วแต่ทำบุญมายังไง-_-'')

แล้วผู้หญิงเราก็จะพัฒนาความซับซ้อนของมารในจิตใจตามอายุ..

อย่างสมัยประถม มัธยมต้น.. ถือว่าเป็นมารแบเบาะ..
ชั่วร้ายยังไงอย่างมากก็แค่คิดนินทาเพื่อน..
แฉความลับเพื่อนซี้ให้คนอื่นฟัง (แล้วปิดท้ายว่า "แกอย่าไปบอกใครนะ"
ทั้งๆที่รู้ว่า ไม่เกิน1วันมันก็ไปเล่าต่อ พร้อมประโยคยอดฮิตอยู่ดี-_-'')
ไม่ก็โกหกตลบแตลง ตอแหลตอหลดไปตามเรื่องตามราว..

แต่พอโตขึ้น หญิงเราก็จะเรียนรู้ว่า มารแบเบาะนี่มันอ่อนหัดนัก
เมื่อไหร่ที่ความเป็นมารโดนเปิดโปง (ซึ่งก็หมายถึงอิเพื่อนซี้มันจับได้ว่านินทามันลับหลัง
หรือ คนอื่นเริ่มรู้ว่าเราี่เป็นต้นตอCNN)
ก็จะโดนสนองด้วยการไม่มีคนคบ แล้วก็โดนรุมประนามซะเอง..

ซึ่งเราจะรู้ว่าถ้าอยากใช้ชีวิตสวยงามต่อไปในสังคม..
เราต้องโบก+ปิดซีลนังมารในตัวให้มิด.. อย่าให้ใครเห็น

สิ่งนี้คือการupgradeความเป็นมารไปอีก1เลเวล..
มารจะตัวโตขึ้นมาอีกนิดหน่อย แต่ค่อนข้างฉลาด..
เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นหญิงคนไหนทำตัวไนซ์ น่าร้ากก ตาใสยิ้มหวาน พูดจาน่าคบ..
อย่าเพิ่งวางใจ เพราะนั่นอาจจะหมายความว่า
เธอซีลปิดผนึกความเป็นมารไว้ได้อย่างแนบเนียน.. เราเรียกว่าเป็นกลุ่มมารซ่อนเร้น..
ซึ่งขอบอกว่าน่ากลัวยิ่งกว่าพวกที่เป็นมารเปิดเผยซะอีก-_-''

ทีนี้.. อิชั้นจะขอแบ่งความเป็นมารออกเป็น 2 ระบบ..

1 คือมารยา
2 คือมารต่อเพศเดียวกัน

เอามารยาก่อน..

เป็นมารที่น่ากลัวมากถึงมากที่สุดต่อมนุษย์ผู้ชาย..
และมนุษย์ผู้หญิงที่เสือกมีมนุษย์ผู้ชายเป็นคู่ แต่ไม่เคยตามมารยาหญิง(อื่น)ทัน..
ผู้ชายที่ไหนพยายามบอกว่า ทั่นรู้จักผู้หญิงดีแล้ว ขอบอกว่า ทั่นไม่รู้จักเราจริงๆหรอก..
ผู้หญิงบางคนน่ากลัวกว่าที่เรารู้เยอะ..

แต่มันน่าเศร้าที่มนุษย์ผู้หญิงด้วยกันมักจะมองเห็นนมไก่เสมอ-_-''
พร้อมกับถูกผู้ชายของตัวเองมองว่า หญิงนัมเบอร์วันปริ้นเซสอย่างเรา
กลายเป็นอีบ้าอีบอ หาเรื่องหญิงอื่นไม่หยุดไม่หย่อนไปซะงั้น (อะไรวะ-_-'')..

ลองดูอย่างเพื่อนอิชั้นเป็นตัวอย่าง..
เค้ามีแฟนเก่าอยู่คนนึงเลิกกันไป7-8ปีละ โดยที่นังชะนี เอ้ย ผู้หญิงเป็นคนทิ้งไปก่อน..
หลังๆเพื่อนอิชั้นคนนี้ก็ประสบความสำเร็จด้านการงานแบบอู้ฟู่ ลงนสพ.เป็นว่าเล่น
(แต่ไม่ใช่หน้าอาชญากรรมนะคุณ-_-'')เกี่ยวกับงานที่เค้าทำอยู่..
แต่บังเอิญคุณพ่อเค้าเสียช่วงนั้นพอดี..

นังชะนี เอ้ย ยัยแฟนเก่านี่ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้..
บอกว่าได้ข่าวจากเพื่อนๆเก่าต่อๆกันมา เลยเป็นห่วงมาก..
แสดงความหวังดีด้วยการพาแม่ของเพื่อนอิชั้นออกไปวัดไปวา
พาไปข้างนอกไม่ให้ท่านเบื่อ..

ฟังดูดีชิมิคะ..

อิชั้นก็ว่ามันดูดีค่ะ ถ้านังชะนีคนนี้ไม่ได้รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนอิชั้นเค้ามีแฟนอยู่แล้ว..

อ่ะ.. แต่มันก็ยังไม่อะไรมาก เพราะแฟนของเพื่อนอิชั้นตอนนี้อยู่เมืองนอก..
นังชะนีคนนี้จะเข้าออกบ้านเพื่อนอิชั้นยังไงเค้าก็ไม่รู้อยู่ดี..

แต่.. มารยายัยคนนี้เอาเรื่อง เพราะหล่อนไปประกาศศักดาในhi5เพื่อนอิชั้น..
เขียนคอมเม้นท์ทิ้งไว้ประมาณว่า ทำไมตัวเองไม่คุยกะเราเลยตอนที่เราไปที่บ้านวันนี้
(เพื่อออ????) หรือเม้นท์ติดเรทอื่นๆที่ถ้าเพื่อนอิชั้นลบไม่ทันล่ะก็..
แฟนเค้าคงบอกเลิกแน่นอน.. ซึ่งเม้นท์อันแรก แฟนเค้าเห็นไปแล้วด้วย เหอะๆ

พอเพื่อนอิชั้นบอกว่า อย่ามาที่บ้านบ่อยๆแบบนี้เลยเหอะ เพราะมันไม่ดีกับแฟนคนปัจจุบัน..
แม่คนนี้ก็จะบอกว่า ก็ตัวเองไม่ว่างพาแม่ตัวเองไปไหนนี่..
เราก็ต้องเป็นคนพาไปสิ.. ยังงี้ยังโง้นยังงั้น..

อูยยยยยยย หนุ่มๆฟังแล้วอาจจะใจระทวยในความดูแลเอาใจใส่ของนังชะนี เอ้ย ของผู้หญิงคนนี้
แต่ในสายตาของผู้หญิงด้วยกัน นังคนนี้มันช่างร้ายนัก และฟันธงเลยว่าหล่อนไม่ได้มาแบบหวังจะเอาแค่คุณแม่หรอกเค่อะ โฮะๆ

อ๊ะๆๆ.. ถ้าหนุ่มๆอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคิดว่าอิชั้นนี่มันมองโลกในแง่ร้ายซะจริงๆ..
ก็ขอบอกว่า ทั่นได้เป็น1ในเหยื่อมารยาซะแล้วล่ะ 5555

มารยาหญิงเค้าว่ามีร้อยเล่มเกวียน..
ให้อิชั้นขุดมาเผาจนพันทิปปิดกิจการก็คงเผาไม่หมด..
แถมแฉไปแฉมาจะโดนเค้าด่าเอาซะอีกด้วย ว่าหักหลังเพศเดียวกัน 5555

วกไปถึงมารระบบที่ 2 คือมารต่อเพศเดียวกัน..
มารประเภทนี้เป็นต้นตอของคำว่า ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ..

มักจะทำปฏิริยากับคนเพศเดียวกันที่ไม่ถูกชะตา เกลียดหนังหน้า แต่ยังไม่อยากตัดสัมพันธ์..
นัยหนึ่งเพราะยังมีประโยชน์ต่อกันอยู่ อีกนัยหนึ่ง การเก็บคนพวกนี้ไว้ลับฝีปากจิกกัดเล่นเป็นพักๆมันก็สนุกดีเหมือนกัน..
(บอกแล้วว่าผู้หญิงบางคนมันน่ากลัว-_-'')

อย่างสมมติ (สมมติจริงๆนะ) มีเพื่อนร่วมงานที่หน้าตาก็พอไปวัดได้..
แต่นังมารไม่ชอบขี้หน้ายัยคนนี้สุดๆ..
วันนึงแม่คนนี้เกิดพยายามจะตีสวยเสมอนังมารขึ้นมาด้วยการโบกหน้าเป็นงิ้วหลงโรง
เรียกว่าเดินเข้าประตูมานึกว่าผีกระสือเพราะหน้าจะขาวลอยมาตั้งแต่ปากซอย..

ทาตาทาปากเหมือนคนไม่ได้ส่องกระจกก่อนออกจากบ้าน..

ถ้าเป็นนางมารแบเบาะ ต้องแล่นไปโพนทะนานินทาแม่คนนี้ด้วยความเมามัน
ชี้ชวนให้คนอื่นดูความเป็นงิ้ว.. โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือการทำลายตัวเอง แต่นังมารอัพเกรดไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนั้นแน่นอน..

่เธอจะเก็บเงียบ พร้อมกับมองหน้างิ้วของแม่คนนี้แล้วแอบหัวเราะคนเดียว
ถ้าร้ายกว่านั้นหล่อนอาจจะควักกล้องมือถือออกมาชวนงิ้วถ่ายรูป
แล้วส่งไปให้เพื่อนนังมารนอกบริษัทด้วยกันดู.. แล้วเอาไปเม้าท์กันอย่างมันส์..

ส่วนเวลาอยู่ต่อหน้า หล่อนจะยิ้มให้เพื่อนคนนั้น
พร้อมกับบอกว่า "วันนี้แต่งหน้าสวยดีนะจ๊ะ"()

แต่เหตุผลที่แท้จริงของการไม่พูดอะไร ไม่ได้อยู่ที่เธอจะได้หัวเราะคนเดียว..
แต่มันอยู่ที่เธอต้องการปล่อยให้เพื่อนคนนั้นเดินหน้างิ้วไปไหนมาไหนไปเรื่อยๆ..
ขืนบอก หรือเอาไปนินทา ซักวันนึงงิ้วต้องรู้ตัวแน่ๆ แล้วจะเลิกแต่งงิ้ว..
นังมารก็ไม่มีอะไรเอาไว้ดูสนองความสะใจสิ.. ชิมิ

นี่แหละมารต่อเพศเดียวกันเวอร์ชั่นอัพเกรดแล้ว-_-''

อิชั้นไม่ได้กำลังจะบอกว่า ผู้หญิงที่ให้ความเป็นมารมามีส่วนในการใช้ชีวิตเป็นคนเลว..
เพราะคนบางคนก็ไม่ได้อยากเป็นนังมาร ถ้าไม่ถูกกระทำก่อน..
แต่ก็ไม่ได้จะบอกว่า การเป็นมารมันไม่ผิดซะทีเดียว..

เป็นมารเอามันส์ เพื่อความสะใจในชีวิตเล็กๆน้อยๆมันก็ช่วยปล่อยเครียดได้เหมือนกัน..
แต่มารจนเดือดร้อนชาวบ้านชาวช่องมันก็น่าถีบ..

เพราะฉะนั้นเลยอยากให้หญิงทุกคนเป็นนังมารอย่างชาญฉลาดและพอดีๆ..
ในชีวิตอิชั้นเป็นมารมาแล้วหลายหนและเจอมารหลายรูปแบบ..
วันนี้เอาแค่ตัวอย่างมาเม้าท์ให้อ่าน
ครั้งต่อไปถ้าของขึ้นจะเอามารรูปแบบอื่นมาเม้าท์อีก..

สุดท้ายนี้.. ขอให้นังมารจงเจริญ



Create Date : 25 มีนาคม 2551
Last Update : 25 มีนาคม 2551 17:39:29 น.
Counter : 389 Pageviews.

17 comment
1  2  3  4  

แมลงสาบเทวีราชินีกะจั๊ว
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



ผู้หญิงที่เลยวัยใสไปเรียบร้อยแล้ว..






แต่พยายามจะแบ๊วอย่างสุดความสามารถ..

ไม่เชื่อดูมันทำหน้าในรูปนี่ก็ได้..
-____-''
MY VIP Friend