Group Blog
All Blog
|
updateชีวิตอันแสนสวยงามของแมลงสาบสุดสวย 5555
เดือนกรกฏา-สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงเดือนที่ชีวิตของอิชั้น
มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมากกกกกกก คนที่ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอาจจะบอกว่า มันก็ยังงั้นๆอ่ะ.. แต่สำหรับผู้หญิงเส้นตรง(ทั้งอกทั้งหุ่นและกราฟชีวิต)อย่างอิชั้น.. การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ถือว่าเยอะมากแล้ว.. เริ่มจากบ้านก่อน.. อิชั้นเกิดและโตที่บ้านหลังปัจจุบันซึ่งสร้างมา30กว่าปี.. ไม่เคยย้ายไปไหน.. แล้วก็คิดว่าชาตินี้คงจะไม่ได้ย้ายแล้วด้วยซ้ำ.. เพราะอยู่กับมันมานาน ทุกๆวันก็เข้าออกซอยบ้านเดิมๆ.. เจอคนหน้าเดิมๆ.. อิชั้นอยู่มาตั้งแต่เป็นซอยเงียบๆ มีบ้านไม่กี่หลัง.. จนตอนนี้มีคนแปลกหน้าย้ายเข้ามาเยอะแยะมากมาย เพราะมีคอนโดหลายที่ปลูกใหม่ในซอย.. แต่ถนนในซอยเล็กเท่าเดิม-*- ถ้าใครเคยเข้ามาในซ.จรัญฯ57น่าจะรู้ดี.. แท๊กซี่แถวนี้เป็นอันรู้กัน..เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง.. เพราะขึ้นชื่อเรื่อง คนเยอะ ของวางขายเต็ม2ข้างทาง.. มอเตอร์ไซค์ยั้วเยี้ย(แถมดุมาก) คนเดินถนนก็ไม่สนใจรถ (ทำนองว่า กูจะเดินอ่ะ มึงอยากขับก็หลบเอาเองดิ) แถมนอกจากของที่มาวางขายกันแล้ว.. มอเตอร์ไซค์เอย จักรยานเอย ไหนจะรถขยะของเทศบาล ยังมาจอดขวางทางกันจนบางทีรถติดอยู่ในซอย 20กว่านาทีไม่ไปไหนเลยด้วยซ้ำ-_-'' หลังจากคุ้นเคยกับสภาพคล่องในซอยมา26ปี.. ในที่สุดอิชั้นก็กำลังจะได้ย้ายออกไปจากแหล่งซ่องสุมนี้ซักที 5555 ต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้ท่านแม่ที่ไปซื้อคอนโดเอาไว้.. พอมันเสร็จช้าก็เลยมีอันต้องย้ายโครงการ.. เพิ่มเงินนิดหน่อย ได้บ้านใหม่1หลังที่สวยมาก^^ จริงๆเราก็ทำเรื่องโน่นนี่นี่นั่นกันมานานแล้วแหละ.. แต่เพิ่งจะได้โอนชื่ออะไรกันเรียบร้อยเดือนที่แล้วนี้เอง.. ตอนนี้ก็จะยุ่งๆเรื่องหาของเข้าบ้าน ทั้งผ้าม่าน แอร์ โซฟา โต๊ะกินข้าว ห้องครัว ตู้เตียงโต๊ะสารพัด.. ซึ่งก็เงินแม่ทั้งนั้นล่ะค่ะทั่นผู้ชม-_-'' อิชั้นก็ได้ช่วยผ่อนบ้างแค่พอหัวโต.. แต่ก็นะ.. เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า และบ้านใหม่ห้องใหม่สวยๆอีก1หลัง ที่ถึงแม้จะไกลจากตัวเมืองมากพอสมควร.. แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีและมีความสุขอย่างนึงในชีวิตน้อยๆของอิชั้นเลยแหละ งานนี้แฟนแม่ได้ใจไปเต็มๆเมื่อฉลองขึ้นบ้านใหม่ ด้วยการช่วยออกค่าผ้าม่าน3หมื่น แล้วก็ซื้อทีวีพลาสม่า42นิ้วให้อีก1เครื่อง.. ไฮโซมากกกก แต่อย่างแรกที่ต้องทำคือ ติดสัญญาณกันขโมย-_-''.. เอาไว้เมื่อไหร่ย้ายเข้าไปอยู่แล้วจะถ่ายรูปมาอวด:D มาถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างที่ 2 .. อิชั้นกำลังจะเปลี่ยนงาน^^ อิชั้นนี่ไม่ค่อยจะได้ทำงานที่ไหนนานนะ.. แต่ที่นี่ก็ถือว่านานที่สุดในชีวิตแล้ว.. คือ1ปีกับอีก 11 เดือน อันที่จริงงานที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ไม่นับว่าเลวร้าย.. ยุ่งเป็นพักๆ จุกจิกเป็นหย่อมๆ แต่ก็ถือว่าเป็นงานสบายๆงานนึง ที่ให้เงินเดือนสูงมาก.. เพราะต้องแลกกับการไม่มีวันหยุดทางศาสนาเลยแม้แต่วันเดียว.. แล้วก็โดนเจ้านายที่มีอยู่3คนผลัดกันใช้ แถมยังด่าด้วยเป็นบางครั้ง 5555 แต่อิชั้นนี่ถือว่าโดนน้อยมากแล้วเมื่อเทียบกับคนอื่น.. สวยก็สบายยังงี้อ่ะนะ (แหม มันช่างกล้าพูด) เจ้านายผู้ชาย2คนซึ่งมีลูกมีเมียกันหมดแล้วเค้าก็เอ็นดูอิชั้นกันดี.. เวลาไปเมืองนอกมาบางทีก็จะนึกถึง ซื้อเครื่องสำอางไฮโซติดไม้ติดมือมาฝาก ส่วนซ้อแม่เจ้านายก็ชอบเอารองเท้าที่ซื้อจากฝรั่งเศสมาให้ อ่านแล้วคงสงสัยว่าแล้ว มึงยังจะออกไปไหนอีกทำไมฟะ.. ทุกอย่างมันก็มีเหตุผลของมันค่ะ^^ ความเปลี่ยนแปลงเรื่องงานนี่ เกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงอย่างที่3 เอาเป็นว่า มีคนมาพูดให้อิชั้นคิดได้ว่า คนเก่งๆ(??)อย่างอิชั้น ไม่ควรจะเอาความรู้ความสามารถมาทิ้งไว้กับงานง่ายๆ ไม่ต้องใช้สมองมากแบบนี้.. หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ควรจะออกไปหาความลำบากให้ชีวิตซะบ้าง เพื่อพัฒนาเซลล์สมองก่อนที่มันจะฝ่อหมดหัว-_-'' ก่อนหน้าที่จะมีคนมาพูดให้คิด อิชั้นเองก็รู้สึกมาซักพักแล้วล่ะ.. ว่าภาษาอังกฤษที่อิชั้นเคยมีเคยเป็นมันหายลงหม้อไปหมดแล้ว.. เคยพูดได้แค่ไหน เคยอ่านได้แค่ไหน เคยเขียนได้แค่ไหน มันลดลงไปหมดเกินครึ่ง.. อิชั้นเองก็ไม่ได้เก่งขั้นเทพอะไร.. พอไม่ค่อยได้ใช้ให้เต็มประสิทธิภาพเหมือนสมัยเรียน.. มันก็เลยหายไปหมดอย่างน่าใจหาย.. เลยเป็นที่มาให้อิชั้นเริ่มรู้สึกอยากลำบาก-_-'' พอดีกับที่ลูกพี่ลูกน้องอิชั้นทำงานเกี่ยวข้องกับตปท.โดยตรง แล้วกำลังเดือดร้อนคนในทีมไม่พอ.. อิชั้นเลยลองไปสมัคร.. เนียนๆไปพรีเซ้นท์งานให้MDเค้าดูแล้วเค้าชอบ ก็เลยได้งานใหม่ซะงั้น.. (ทั้งนี้ต้องขอบคุณอิโจ้เพื่อนสนิทที่เนรมิตpower pointให้อิชั้นอย่างหรู จนMDออกปากฝากมาชมใครก็ตามที่ทำpptให้.. และพี่วิทย์ที่ช่วยทำoutlineเรื่องที่จะพรีเซ้นท์ให้แต่แรก น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกก .. หมายถึงพี่วิทย์อ่ะนะ:P) พอรู้ตัวว่าได้งานใหม่ปุ๊บ ก็มาลาออกกับที่เก่าแทบจะทันที.. งานนี้เจ้านายอิชั้นเลยจ้างคนมาแทนอายุ42.. กะว่าไม่ต้องให้หนีไปไหนจนกว่าจะเกษียณไปเลย.. ก็ยังดีที่อิชั้นไม่โดนโกรธอะไร.. แต่เรื่องใหญ่คือพ่อของเจ้านายที่ชอบใช้อิชั้นเค้ายังไม่รู้.. กะว่าวันสุดท้ายค่อยบอก-_-'' มาถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างที่ 3 ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงสุดท้าย ที่สำคัญมากๆกับความรู้สึกของสาวงามอย่างอิชั้น หลังจากครองตัวและหัวใจไม่ไขว้เขวไปกับใครที่ไหนนอกจากแม่.. ในที่สุดเมื่อเดือนก่อนนี่เองเพิ่งจะมีคนที่ทำให้อิชั้นรู้สึก.. อยากมีความรักจริงๆจังๆเป็นครั้งแรกในรอบ1ปี.. และเป็นคนที่มีความรู้สึกตรงกันเป็นคนแรกในรอบ1ปีด้วย.. คนๆนี้ที่ว่า เป็นคนเดียวกับที่พูดให้อิชั้นรู้สึกตัว ว่าไม่ควรจะเอาความสามารถมาทิ้งไว้ตรงนี้จนแก่ตาย.. เป็นแรงบันดาลใจอะไรหลายๆอย่างให้อิชั้นหลังจากที่ยิ่งได้คุยกันมากขึ้น.. และเป็นคนเดียวกับที่ช่วยทำoutlineงานพรีเซ้นต์ตอนไปสัมภาษณ์ที่ใหม่นั่นเอง^^ ผู้ชายคนนี้อยู่ไกลคนละซีกโลก แต่พอได้คุยกันจริงๆจังๆ.. กลับทำให้อิชั้นรู้สึกว่า เอ๊ย.. คนนี้มันใช่อ่ะ ใช่มากๆ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน.. บอกตรงๆว่าเราคุยกันไม่นาน.. ก่อนที่อิชั้นจะรู้สึกอะไรบางอย่างกับพี่เค้า.. แต่ก็เพราะไอ้ความไม่นานนี่แหละ ทำให้อิชั้นรู้สึกได้ถึงความพิเศษที่ทำให้เค้าโดดออกจากคนอื่นๆที่อิชั้นเคยคุยมา... ถ้าเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ซักปีเดียว.. อิชั้นคงไม่ค่อยแน่ใจอ่ะว่ามันเกิดความรู้สึกเพราะใช่หรือใจง่ายกันแน่-_-'' เพราะสมัยก่อนที่จะเป็นโสดมาปีนึง.. อิชั้นเป็นผู้หญิงประเภทขาดความรักจากผู้ชายนอกบ้านไม่ได้.. ต้องอินเลิฟตลอดเวลา.. ซึ่งขอบอกว่าปัญญาอ่อน และเป็นสิ่งที่บั่นทอนความสุขอย่างแรง.. เวลาที่รักคนไม่เลือก.. เพราะโดนทิ้งๆขว้างๆทางความรู้สึกมาหลายหน.. พอสงสารตัวเองกับแม่มากๆเข้าก็เลยคิดได้ ทำใจแข็งไม่รักใครมาเป็นปี คิดว่าจะอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอใครซักคนที่"ใช่" สำหรับอิชั้นจริงๆ.. คำว่า "ใช่" ของอิชั้นมันก็ประกอบไปด้วยหลายๆอย่าง.. อย่างแรกๆที่สำคัญมากต่อการคิดว่าจะเลือกใครซักคน.. ก็น่าจะเป็นเรื่อง ความสูง..-_-'' เพราะอิชั้นตัวเตี้ยหมาตื่น.. ถ้าได้แฟนตัวใกล้เคียงกัน อิชั้นกลัวว่าลูกจะเกิดมาสอยมะเขือกิน-_-'' ความสูงของแฟนจึงเป็นเรื่องสำคัญ.. อีกเรื่องคือ อนาคตของเค้า.. เพราะอนาคตของเค้าก็คืออนาคตของคนที่อิชั้นจะเอาชีวิตไปฝากไว้ด้วย.. เพราะงั้น อนาคตของเค้าต้องไม่ล่องลอย มีแผนเอแผนบี ไม่ใช่ชีวิตต่อไปข้างหน้าจะเป็นไงก็ไม่รู้ อันนั้นมันชีวิตอิชั้น.. คนที่อิชั้นเลือกไม่มีสิทธิ์เป็นแบบนั้น ไม่งั้นเราคงจะลอยออกนอกโลกไปด้วยกันซักวันแน่ๆ-_-'' และอีกเรื่องนึง ก็คือทัศนคติที่มีต่อความรักและการใช้ชีวิตคู่.. อ่านมาถึงนี่ ขอย้ำอีกทีว่าอิชั้นไม่ใช่เด็กอายุ17-18 ที่จะขอแค่มีความรักสวี้ดสว้ายใจหายใจคว่ำไปวันๆ.. หรือรักกันเอามันส์ เบื่อก็เลิก เจอคนที่ดีกว่าก็นอกใจ.. ค่อยไปหาเอาใหม่ดาบหน้า.. อิชั้นไม่มีความรู้สึกแบบนั้นมาได้2ปีกว่าละ.. ความรักแบบที่อิชั้นตามหา เป็นความรักที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่งี่เง่า ไม่play around ไม่ใช่เกมส์ที่จะต้องหาคนแพ้คนชนะ.. และที่สำคัญคือ ต้องอยากดูแลกันและกันจริงๆ.. อิชั้นพร้อมที่จะมีความรักแบบนี้.. ก็เลยอยากได้ความรักแบบเดียวกัน.. จากคนที่อิชั้นเลือกเหมือนกัน.. เอาง่ายๆก็คือ อิชั้นอยากแต่งงานแล้วนั่นแหละ.. ติดแค่ว่า ถ้าจะมีผัวเลวๆ ก็ขออยู่คนเดียวกับแม่จะดีกว่า.. 555 อิชั้นกับผู้ชายคนนี้เริ่มต้นคุยกันจากความที่เป็นคนรู้จักของรุ่นพี่อีกคนหนึ่งแล้วตัวเค้าอยู่ที่อเมริกาตอนนี้ กำลังจะจบโท.. ตัวอิชั้นเองมีแผนอยากจะขอทุนไปทางโน้นอยู่แล้ว เลยอยากคุยกับใครซักคนที่พอจะให้คำแนะนำเรื่องUหรือคณะที่เรียนได้.. แล้วก็เลยได้มาคุยกับเค้า.. นับตั้งแต่วันแรกที่คุยกันมาจนถึงวันนี้.. ไม่มีวันไหนเลยจริงๆที่เราไม่ได้คุยกัน.. (chat logเต็มไปแล้ว4หน-_-''..) ยิ่งได้รู้จักตัวตนผู้ชายคนนี้มากเท่าไหร่.. อิชั้นก็ยิ่งรู้ว่า คนนี้แหละ คนที่อิชั้นตามหา แล้วก็คิดว่าจะหยุดได้ซักที.. ทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าคิด ที่เค้าพูดและทำ มันตรงกับที่อิชั้นคิดไว้ทุกอย่าง.. แล้วเรา2คนก็ยังมีอะไรเหมือนๆกันจนบางทียังมานั่งขำกันเองในความเหมือน.. อย่างที่เค้าบอกอยู่เสมอว่าคุยกับอิชั้น รู้สึกเหมือนเค้าได้คุยกับตัวเอง... พี่วิทย์ไม่ใช่คนหล่อล่ำหำเริ่ดมาจากไหน (เรื่องนี้อิชั้นเปล่าพูดนะ เค้าพูดเอง-_-'') บ้านก็ไม่ได้รวยล้นฟ้า ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง.. แต่เค้ามีทุกอย่างที่อิชั้นตามหา ไม่ว่าจะเป็นความสูง(-_-'') อนาคต และทัศนคติต่อความรัก.. ทุกอย่างตรงกับที่อิชั้นคิดไว้ทั้งหมดจนตัวเองยังแปลกใจ.. ทั้งๆที่อิชั้นไม่เคยบอกใครว่า อิชั้นมองหาอะไรอยู่.. เพราะแบบนี้ ความรู้สึกทุกอย่างถึงเกิดขึ้นเร็วมากแต่ก็มั่นคง.. แต่ก็ไม่ใช่ว่า..คนอื่นๆที่อิชั้นคุยด้วยก่อนหน้านี้จะเป็นคนไม่ดี ไม่สูง ไม่มีอนาคต.. ที่สำคัญที่สุดคือ พี่วิทย์เป็นคนที่ทำให้อิชั้นรู้สึกอยากมีความรักจริงๆด้วย.. เรื่องนี้อิชั้นเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร.. ทำไมต้องเป็นคนนี้.. รู้แต่ว่าอยากทำอะไรเพื่อพี่เค้า อยากทำให้ตัวเองดีขึ้นกว่านี้ ก็เพราะพี่วิทย์เชื่อและบอกอยู่เสมอ ว่าอิชั้นเป็นและทำได้จริงๆ.. :) ช่วงที่คุยกันไปได้ซักพัก.. อิชั้นน่ะชอบเค้าแล้วแหละ แต่ไม่รู้ว่าเค้ารู้สึกยังไง.. อิชั้นเคยถามหาว่าแถวๆที่เค้าอยู่ พอจะมีร้านขายมีCDเก่าๆมั่งมั้ย อยากฝากซื้อCD วงนึง ที่อิชั้นชอบมากกกกกกกกกก แต่หาซื้อในเมืองไทยไม่ได้แล้ว.. อิชั้นมีแค่เทป แล้วมันก็เก่ามากแล้วด้วย.. พี่เค้าถามๆถึงวงที่ว่านี่ไม่กี่หน หลังจากนั้น 2 อาทิตย์เค้าก็ส่งไฟล์mp3มาให้ เป็นเพลงของวงนั้นซึ่งอิชั้นมีอยู่แล้ว.. เค้าบอกว่าหายากมากเลยนะ CDวงนี้ เค้าหาซื้อไม่ได้ เอาไปแค่2เพลงนี้ก่อนแล้วกัน.. ก่อนจะอวดว่า เค้าไปได้CDของอีกวงมาแทนซึ่งอิชั้นชอบเหมือนกัน เด๋วว่างๆแล้วจะส่งไปให้ที่บ้าน.. ซึ่งแค่นั้นอิชั้นก็ซึ้งแล้วอ่ะ.. อย่างน้อยๆเค้าก็ไปหาโหลดเพลงมาให้แถมยังซื้อCDมาให้ด้วยทั้งๆที่ไม่ได้ขอ.. วันที่เค้าห่อCDส่งมาให้ อิชั้นก็รู้ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตารอของ.. ก่อนจะกลายเป็นว่า ของส่งมาถึงในวันที่ไม่มีคนอยู่บ้านเลย-_-'' วันรุ่งขึ้นอิชั้นเลยต้องไปที่ไปรษณีย์เพื่อรับของแต่เช้า.. ปกติไม่เคยนะ อิชั้นกลัวไปทำงานไม่ทัน ก็จะฝากตาไปเอาให้ตลอด แต่วันนั้นเห่ออ่ะ เลยไปรับเองเลย.. พออิชั้นเห็นจนท.เค้าเอาห่อของออกมาให้ ก็แบบ.. เอ๊ย.. CDอันเดียวทำไมกล่องมันใหญ่จังวะ หนักด้วย-_-'' ทีแรกกะว่าจะแกะของตอนถึงที่ทำงาน.. แต่ระหว่างขับรถมารถติดๆ อิชั้นก็เอาวะ แกะเลยละกัน คัตเตอร์ก็ไม่มี.. แต่ด้วยความอยากรู้ แกะเองก็ได้วะ 5555 แกะออกมาดูก็อย่างที่คาดไว้ คือเจอCDที่พี่เค้าว่าเค้าซื้อมาฝากก่อนเลย.. พร้อมจดหมาย1ฉบับเป็นinstructionว่า อิชั้นจะต้องค่อยๆแกะbubbleออกมาให้หมดก่อนนะ.. ถึงจะรู้ว่าเค้าซื้ออะไรอย่างอื่นเตรียมไว้ให้อีกบ้าง.. ใต้ซีดีแผ่นนั้นมีจดหมายอีก1ฉบับ.. วางอยู่บนช็อคโกแลต8-9แท่ง ในจดหมายบอกไว้ว่าพี่เค้าเห็นว่าอิชั้นชอบกิน.. ที่ซื้อมาก็เห็นว่าแพ็คเกจน่ารัก แล้วก็แอบไปชิมมา อร่อยดี เลยซื้อมาฝาก.. ตอนนั้นก็เซอร์ไพรส์แล้วแหละ.. เพราะคิดว่าจะมีแค่CDแผ่นเดียว.. แต่อิชั้นก็แอบเห็นว่าใต้กองช็อคโกแลตมีซองจม.อยู่อีก.. เลยต้องนั่งแหกbubbleออกมา เพื่อจะอ่านจดหมาย.. พอแกะbubbleออกมาได้หมด.. อิชั้นถึงกับกรี๊ดดดดดลั่นรถอยู่คนเดียว เปล่า.. ไม่ใช่แมลงสาบ.. แต่เป็นCDวงSkyที่อิชั้นตามหามาเกือบ10ปีต่างหากT___T กรี๊ดดๆๆ >< ในจม.บอกไว้หมดแล้วว่า CDแผ่นนี้หายากขนาดไหน.. พี่เค้าต้องนั่งรถไปที่โน่นที่นี่ทั้งเมือง ขนาดร้านใหญ่ที่สุดในเมืองยังไม่มีขาย.. แต่เค้าก็ไปหามาจนได้.. ทั้งหมดนี่ก็เพื่ออิชั้น.. อิชั้นบอกตรงๆว่าน้ำตาซึมอ่ะ ซึ้งใจมากกกกกกก ไม่เคยมีใครทำอะไรให้อิชั้นขนาดนี้มาก่อน.. ตั้งแต่ไปหาซื้อซีดี ซื้อช็อคโกแลต ห่อของส่งของมาให้ มันก็หลายตังค์อ่ะ.. อิชั้นเลยแบบ.. งืออออออออออ ดีใจT-T วันนั้นก็เลยเป็นวันที่มีความสุขที่สุดอีกวันนึง ที่เกิดขึ้นเพราะพี่วิทย์.. ถึงวันนี้อิชั้นก็ยังรู้สึกขอบคุณ แล้วก็คิดว่าจะจำความรู้สึกดีๆแบบนี้ไปอีกนานเลย^^ ขอบคุณนะคะ ชีวิตอิชั้นที่อยู่กับแม่กับครอบครัวตอนนี้มันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว.. แต่การที่ได้รักผู้ชายดีๆอีกคนนึง ได้เป็นห่วง ได้ตั้งเป้าหมายในอนาคตร่วมกัน.. มันก็เติมเต็มอีกส่วนนึงของชีวิตอิชั้นขึ้นมา.. อิชั้นสามารถบอกได้ด้วยความมั่นใจจริงๆว่า You complete me.. จะพูดด้วยเสียงของJerry McguireพูดกับRene Zellweger หรือจะโจ๊กเกอร์พูดกับแบทแมนก็ได้.. พี่วิทย์เติมเต็มชีวิตที่ดีอยู่แล้วของอิชั้นให้ดีขึ้นไปอีก แล้วก็หวังว่าอิชั้นจะสามารถเติมเต็มชีวิตของพี่วิทย์ได้ในแบบเดียวกัน.. ตอนนี้อิชั้นเป็นผู้หญิงที่โชคดีและมีความสุขที่สุดในโลกเลยจริงๆ :D อ่ะถึงตอนนี้ ใครจะอิจฉา ใครอยากอ้วก.. เชิญค่ะ.. อิชั้นมีความสุขค่ะ 5555.. -_-'' กรูเปนบ้าเรี้ยวววววววววว กร๊ากกกกกกกกกกกกก
วันเน้เปนบ้าา
ขอร้องเพลง 1 เพลงนะค้าาาาาาา O' Aummy Chan she has a farm E-I-E-I-O And on a farm she has problems E-I-E-I-O It's a problem here and a problem there Here's a problem There's a problem She's got problems everywhere E-I-E-I-O -*- เอาแค่นี้ก่อนน้าาาาาา ถ้าไม่ทำงานต่ออาจจะเป็นบ้ายิ่งกว่าเน้้ กร๊ากกกกกกกกกกกก ผู้หญิงจุดเดือดต่ำ.. (คำเตือน: บล็อกอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก)
สงสัยเดือนมิถุนายนจะเป็นช่วงราหูเข้าดาวเสาร์เปลี่ยนแหวน..
การงานอิชั้นถึงได้วุ่นวายเป็น...พันกัน แถมอารมณ์ก็เข้าใกล้จุดเดือดง่ายๆซะอย่างงั้นด้วย.. ตอนนี้เรียกว่า ใครก็ตามโทรมาเอาโน่นนี่ที่อิชั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความสามารถของอิชั้นที่จะไปแสวงหามาให้แม่งแล้วเนี่ย.. โดนด่ากลับไปหมดเลยค่ะ.. ไม่ว่าจะลูกค้า เจ้านาย supplier คนที่ติดต่องานด้วย.. ปกติอิชั้นก็ไม่ได้เป็นคนใจเย็นเป็นน้ำแข็งอะไรหรอก.. แต่อย่างน้อยก็มักจะเก็บอาการอยู่.. ไม่ค่อยวีนแตก ไม่เคยขึ้นเสียง โดยเฉพาะกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน.. แต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมาลามมาถึงเดือนนี้.. งานมีปัญหามากมายอันส่วนใหญ่เกิดมาจากความซวย.. (ไอ้ที่ชุ่ยเองก็มี แต่ไม่นับ เพราะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปได้หมดแล้ว) ทำเอาอิชั้นถึงกะปรี๊ดแตกง่ายๆเวลามีคนเอาเรื่องงานอื่นมากวนใจอีก.. ในใจมีแต่คำว่า เชี่ยเอ๊ยแม่งงง รำคาญชิบหาย!อะไรนักหนาวะ-*- ซวยแล้วซวยอีก มีแต่เรื่อง เห็นกูเป็นพระเจ้ากันเหรอ ถึงจะเสกให้แม่งได้ทุกอย่างในโลกนี้ โทรมาจิกจะเอานู่นเอานี่ ถ้ากูมีกูีก็ให้ไปนานละ ไม่ต้องรอโทรมาด่ากูเช้าเย็นหรอกค่า แม่งงงงงงงงงงงง และ #!@$!^&%@*&%$ เฮ้อออออ ถึงจะสวยแต่ก็เป็นคนอ่ะนะ 2วันมานี่นับคนโดนวีนแตกไปได้แล้ว 4 คน (1ในนั้นเป็นเจ้านายตัวเอง อีก 1 คนต้องสรรค์คำมาวีนเป็นภาษาปะกิดด้วย ลำบากจิตมากๆ-*-).. ทั้งๆที่ทำงานมา 4 ปี ยังไม่เคยมีใครโดนอิชั้นวีนมาก่อนเลย.. ที่ต้องมาอัพบล็อกนี่ก็ไม่ใช่อะไร.. หาที่ระบายกับคุยกับตัวเองไปพลางๆจะได้อารมณ์ดีขึ้น.. ซึ่งก็ช่วยได้แฮะ รู้สึกยังกะได้ด่าเจ้าตัวจริงๆเลยอ่ะ 55555 ใครกดมาอ่านบล็อกนี้พอดีก็..... อยากด่าใครก็ทิ้งเมสเสจไว้เต็มที่เลยละกันนะ.. เด๋วอิชั้นปล่อยผ่านหมด ยกเว้นมาด่าอิชั้น 5555 ยิ้มละไมใส่ฟันเหล็ก..
เมื่อเดือนก่อนเกิดความรู้สึกเบื่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวจนไข้แทบแดก.. สุดท้ายก็เลยเปลี่ยนตัวเองแทน.. อันที่จริงฟันไม่ได้เพิ่งจะไม่สวยเมื่อเดือนที่แล้ว ใครสวยใครก็จ่าย.. อั้มสวยอั้มก็จ่าย แม่ไม่จ่ายเพราะแม่ไม่ได้สวยด้วย.. อิชั้นก็เถียงไม่ออก.. เลยต้องควักกระเป๋าตัวเองสนองneed.. ร้านที่อิชั้นเลือกทำ เป็นการเลือกแบบคิดน้อย.. ค่าจัด3หมื่น5 แบ่งจ่าย6เดือนแรกเดือนละ 3 พัน อิชั้นก็หลังจาก(ให้พี่)คำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว.. ทำก็ทำวะ.. ชีวิตจะได้มีอะไรแปลกใหม่ หลังประสบการณ์การใส่เหล็กครั้งแรก.. เชื่ออิชั้นเถิดคุณ.. การเข้าร้านทำฟันเพื่อจัดฟัน.. เริ่มตั้งแต่วันที่เข้าไปปรึกษาวันแรก.. หลังจากนั้นก็พิมพ์ฟัน (800บาท) ทาปูนปลาสเตอร์จนเต็มถาด แล้วบอกให้อิชั้นอ้าปากกว้างๆๆ อึดอัดอึกอักสุดๆเลยอ่ะ แถมไม่ได้กดปุ๊บเอาออกปั๊บเพราะต้องรออีก2-3นาทีให้ปูนแห้ง.. ความรู้สึกหลังพิมพ์ปากเสร็จคือ วันรุ่งขึ้นคงจะเป็นร้อนในที่เพดานปาก (แล้วก็เป็นจริงๆ) ตอนที่ใส่เหล็กก็แย่พอกัน.. เพราะหมอต้องเอาอะไรซักอย่างมาติดเหล็กลงบนฟันชิมิ.. ก็เลยต้องจัดการหาผ้าก๊อชมาม้วนๆเป็นแท่งๆกลมๆแล้วยัดเข้าไปตรงเหงือกบนทั้งปาก.. โชคยังดีที่หมอเอาผ้ามาปิดหน้าไว้ พอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ย.. ว่าทำไมเราจึงควรพกปี๊บไปด้วยตอนเข้าร้านหมอฟัน-_-'' ปากเป็นปลาตู้ดูดกระจก โอวววว หมดจากการแหกปากก็ติดเหล็กดัดเสร็จละ.. แค่จัดครั้งแรกก็รู้สึกแล้วว่าฟันบนกับฟันล่างไม่เท่ากันจนสบฟันไม่ได้.. วันที่ 3 หลังจากติดเหล็ก.. อิชั้นได้กินแค่โจ๊ก 3 ชาม..กับขนมชิฟฟ่อนนิ่มๆ2อัน.. ต่อไปคงไม่พยายามอะไรขนาดนั้นอีกแล้ว.. อิชั้นโชคดีนิดนึงตรงที่ตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยต้องถอนฟัน เลยไม่ต้องผ่า.. ฟันก็ห่างจนไม้จิ้มฟัน 3 อันลอดได้ เลยไม่ต้องถอน.. เรื่องต่อมาที่ห่วงคือ เรื่องหน้าตา.. อิชั้นกลายเป็นคนหน้าตาประหลาดเพราะไม่ชินกับการมีเหล็ก เวลายิ้มก็รู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม ยิ้มทีเหล็กโผล่เต็มปาก.. พี่คนหนึ่งที่อิชั้นคุยด้วยบ่อยๆบอกว่า ตอนนี้ฟันก็เหยินอยู่แล้วเอาเหล็กติดลงไปก็เหยินกว่าเดิม.. แถมเมื่อวันก่อนไปออกแฟร์ที่ไบเทคบางนา เจอลูกค้าหล่อรากเลือด.. ส่วนอิชั้น......... ยัยป้าฟันเหล็ก.. ยิ้มทีก็โชว์เหล็กที.. แต่ถ้านึกถึงจุดประสงค์แรกที่ไปจัดฟันก็ถือว่าบรรลุเป้าหมาย.. แปรงก็ต้องเปลี่ยนอันใหม่ พูดก็ไม่ชัดเท่าไหร่เพราะเลี่ยงไม่ให้ฟันชนกัน.. วันนี้วันที่ 5 หลังใส่เหล็ก.. ไม่ค่อยปวดมากแล้ว เริ่มกินผักได้แต่ก็ต้องไม่แข็งมาก เด๋วเดือนหน้าไปบีบลวดก็คงได้ซัดพารากันอีกซัก2เม็ด เพราะทนปวดไม่ไหว.. เอาไว้อิชั้นฝึกยิ้มโชว์มุ้งลวดเหล็กดัดได้สวยงามเมื่อไหร่จะแอบถ่ายรูปมาฝาก ปล. Text Editorของใหม่เค้าดีจริงๆ.. Free TextEditor ความเป็นนังมารในตัวคุณ.. Bitch is real..
อิชั้นเชื่อว่ามนุษย์ผู้หญิงทุกคนในโลกนี้มีความเป็นนังมารอยู่ในตัว
(จะสวมแตะห่านคู่หรือปราด้าก็แล้วแต่ทำบุญมายังไง-_-'') แล้วผู้หญิงเราก็จะพัฒนาความซับซ้อนของมารในจิตใจตามอายุ.. อย่างสมัยประถม มัธยมต้น.. ถือว่าเป็นมารแบเบาะ.. ชั่วร้ายยังไงอย่างมากก็แค่คิดนินทาเพื่อน.. แฉความลับเพื่อนซี้ให้คนอื่นฟัง (แล้วปิดท้ายว่า "แกอย่าไปบอกใครนะ" ทั้งๆที่รู้ว่า ไม่เกิน1วันมันก็ไปเล่าต่อ พร้อมประโยคยอดฮิตอยู่ดี-_-'') ไม่ก็โกหกตลบแตลง ตอแหลตอหลดไปตามเรื่องตามราว.. แต่พอโตขึ้น หญิงเราก็จะเรียนรู้ว่า มารแบเบาะนี่มันอ่อนหัดนัก เมื่อไหร่ที่ความเป็นมารโดนเปิดโปง (ซึ่งก็หมายถึงอิเพื่อนซี้มันจับได้ว่านินทามันลับหลัง หรือ คนอื่นเริ่มรู้ว่าเราี่เป็นต้นตอCNN) ก็จะโดนสนองด้วยการไม่มีคนคบ แล้วก็โดนรุมประนามซะเอง.. ซึ่งเราจะรู้ว่าถ้าอยากใช้ชีวิตสวยงามต่อไปในสังคม.. เราต้องโบก+ปิดซีลนังมารในตัวให้มิด.. อย่าให้ใครเห็น สิ่งนี้คือการupgradeความเป็นมารไปอีก1เลเวล.. มารจะตัวโตขึ้นมาอีกนิดหน่อย แต่ค่อนข้างฉลาด.. เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นหญิงคนไหนทำตัวไนซ์ น่าร้ากก ตาใสยิ้มหวาน พูดจาน่าคบ.. อย่าเพิ่งวางใจ เพราะนั่นอาจจะหมายความว่า เธอซีลปิดผนึกความเป็นมารไว้ได้อย่างแนบเนียน.. เราเรียกว่าเป็นกลุ่มมารซ่อนเร้น.. ซึ่งขอบอกว่าน่ากลัวยิ่งกว่าพวกที่เป็นมารเปิดเผยซะอีก-_-'' ทีนี้.. อิชั้นจะขอแบ่งความเป็นมารออกเป็น 2 ระบบ.. 1 คือมารยา 2 คือมารต่อเพศเดียวกัน เอามารยาก่อน.. เป็นมารที่น่ากลัวมากถึงมากที่สุดต่อมนุษย์ผู้ชาย.. และมนุษย์ผู้หญิงที่เสือกมีมนุษย์ผู้ชายเป็นคู่ แต่ไม่เคยตามมารยาหญิง(อื่น)ทัน.. ผู้ชายที่ไหนพยายามบอกว่า ทั่นรู้จักผู้หญิงดีแล้ว ขอบอกว่า ทั่นไม่รู้จักเราจริงๆหรอก.. ผู้หญิงบางคนน่ากลัวกว่าที่เรารู้เยอะ.. แต่มันน่าเศร้าที่มนุษย์ผู้หญิงด้วยกันมักจะมองเห็นนมไก่เสมอ-_-'' พร้อมกับถูกผู้ชายของตัวเองมองว่า หญิงนัมเบอร์วันปริ้นเซสอย่างเรา กลายเป็นอีบ้าอีบอ หาเรื่องหญิงอื่นไม่หยุดไม่หย่อนไปซะงั้น (อะไรวะ-_-'').. ลองดูอย่างเพื่อนอิชั้นเป็นตัวอย่าง.. เค้ามีแฟนเก่าอยู่คนนึงเลิกกันไป7-8ปีละ โดยที่นังชะนี เอ้ย ผู้หญิงเป็นคนทิ้งไปก่อน.. หลังๆเพื่อนอิชั้นคนนี้ก็ประสบความสำเร็จด้านการงานแบบอู้ฟู่ ลงนสพ.เป็นว่าเล่น (แต่ไม่ใช่หน้าอาชญากรรมนะคุณ-_-'')เกี่ยวกับงานที่เค้าทำอยู่.. แต่บังเอิญคุณพ่อเค้าเสียช่วงนั้นพอดี.. นังชะนี เอ้ย ยัยแฟนเก่านี่ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้.. บอกว่าได้ข่าวจากเพื่อนๆเก่าต่อๆกันมา เลยเป็นห่วงมาก.. แสดงความหวังดีด้วยการพาแม่ของเพื่อนอิชั้นออกไปวัดไปวา พาไปข้างนอกไม่ให้ท่านเบื่อ.. ฟังดูดีชิมิคะ.. อิชั้นก็ว่ามันดูดีค่ะ ถ้านังชะนีคนนี้ไม่ได้รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนอิชั้นเค้ามีแฟนอยู่แล้ว.. อ่ะ.. แต่มันก็ยังไม่อะไรมาก เพราะแฟนของเพื่อนอิชั้นตอนนี้อยู่เมืองนอก.. นังชะนีคนนี้จะเข้าออกบ้านเพื่อนอิชั้นยังไงเค้าก็ไม่รู้อยู่ดี.. แต่.. มารยายัยคนนี้เอาเรื่อง เพราะหล่อนไปประกาศศักดาในhi5เพื่อนอิชั้น.. เขียนคอมเม้นท์ทิ้งไว้ประมาณว่า ทำไมตัวเองไม่คุยกะเราเลยตอนที่เราไปที่บ้านวันนี้ (เพื่อออ????) หรือเม้นท์ติดเรทอื่นๆที่ถ้าเพื่อนอิชั้นลบไม่ทันล่ะก็.. แฟนเค้าคงบอกเลิกแน่นอน.. ซึ่งเม้นท์อันแรก แฟนเค้าเห็นไปแล้วด้วย เหอะๆ พอเพื่อนอิชั้นบอกว่า อย่ามาที่บ้านบ่อยๆแบบนี้เลยเหอะ เพราะมันไม่ดีกับแฟนคนปัจจุบัน.. แม่คนนี้ก็จะบอกว่า ก็ตัวเองไม่ว่างพาแม่ตัวเองไปไหนนี่.. เราก็ต้องเป็นคนพาไปสิ.. ยังงี้ยังโง้นยังงั้น.. อูยยยยยยย หนุ่มๆฟังแล้วอาจจะใจระทวยในความดูแลเอาใจใส่ของนังชะนี เอ้ย ของผู้หญิงคนนี้ แต่ในสายตาของผู้หญิงด้วยกัน นังคนนี้มันช่างร้ายนัก และฟันธงเลยว่าหล่อนไม่ได้มาแบบหวังจะเอาแค่คุณแม่หรอกเค่อะ โฮะๆ อ๊ะๆๆ.. ถ้าหนุ่มๆอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคิดว่าอิชั้นนี่มันมองโลกในแง่ร้ายซะจริงๆ.. ก็ขอบอกว่า ทั่นได้เป็น1ในเหยื่อมารยาซะแล้วล่ะ 5555 มารยาหญิงเค้าว่ามีร้อยเล่มเกวียน.. ให้อิชั้นขุดมาเผาจนพันทิปปิดกิจการก็คงเผาไม่หมด.. แถมแฉไปแฉมาจะโดนเค้าด่าเอาซะอีกด้วย ว่าหักหลังเพศเดียวกัน 5555 วกไปถึงมารระบบที่ 2 คือมารต่อเพศเดียวกัน.. มารประเภทนี้เป็นต้นตอของคำว่า ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ.. มักจะทำปฏิริยากับคนเพศเดียวกันที่ไม่ถูกชะตา เกลียดหนังหน้า แต่ยังไม่อยากตัดสัมพันธ์.. นัยหนึ่งเพราะยังมีประโยชน์ต่อกันอยู่ อีกนัยหนึ่ง การเก็บคนพวกนี้ไว้ลับฝีปากจิกกัดเล่นเป็นพักๆมันก็สนุกดีเหมือนกัน.. (บอกแล้วว่าผู้หญิงบางคนมันน่ากลัว-_-'') อย่างสมมติ (สมมติจริงๆนะ) มีเพื่อนร่วมงานที่หน้าตาก็พอไปวัดได้.. แต่นังมารไม่ชอบขี้หน้ายัยคนนี้สุดๆ.. วันนึงแม่คนนี้เกิดพยายามจะตีสวยเสมอนังมารขึ้นมาด้วยการโบกหน้าเป็นงิ้วหลงโรง เรียกว่าเดินเข้าประตูมานึกว่าผีกระสือเพราะหน้าจะขาวลอยมาตั้งแต่ปากซอย.. ทาตาทาปากเหมือนคนไม่ได้ส่องกระจกก่อนออกจากบ้าน.. ถ้าเป็นนางมารแบเบาะ ต้องแล่นไปโพนทะนานินทาแม่คนนี้ด้วยความเมามัน ชี้ชวนให้คนอื่นดูความเป็นงิ้ว.. โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือการทำลายตัวเอง แต่นังมารอัพเกรดไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนั้นแน่นอน.. ่เธอจะเก็บเงียบ พร้อมกับมองหน้างิ้วของแม่คนนี้แล้วแอบหัวเราะคนเดียว ถ้าร้ายกว่านั้นหล่อนอาจจะควักกล้องมือถือออกมาชวนงิ้วถ่ายรูป แล้วส่งไปให้เพื่อนนังมารนอกบริษัทด้วยกันดู.. แล้วเอาไปเม้าท์กันอย่างมันส์.. ส่วนเวลาอยู่ต่อหน้า หล่อนจะยิ้มให้เพื่อนคนนั้น พร้อมกับบอกว่า "วันนี้แต่งหน้าสวยดีนะจ๊ะ"() แต่เหตุผลที่แท้จริงของการไม่พูดอะไร ไม่ได้อยู่ที่เธอจะได้หัวเราะคนเดียว.. แต่มันอยู่ที่เธอต้องการปล่อยให้เพื่อนคนนั้นเดินหน้างิ้วไปไหนมาไหนไปเรื่อยๆ.. ขืนบอก หรือเอาไปนินทา ซักวันนึงงิ้วต้องรู้ตัวแน่ๆ แล้วจะเลิกแต่งงิ้ว.. นังมารก็ไม่มีอะไรเอาไว้ดูสนองความสะใจสิ.. ชิมิ นี่แหละมารต่อเพศเดียวกันเวอร์ชั่นอัพเกรดแล้ว-_-'' อิชั้นไม่ได้กำลังจะบอกว่า ผู้หญิงที่ให้ความเป็นมารมามีส่วนในการใช้ชีวิตเป็นคนเลว.. เพราะคนบางคนก็ไม่ได้อยากเป็นนังมาร ถ้าไม่ถูกกระทำก่อน.. แต่ก็ไม่ได้จะบอกว่า การเป็นมารมันไม่ผิดซะทีเดียว.. เป็นมารเอามันส์ เพื่อความสะใจในชีวิตเล็กๆน้อยๆมันก็ช่วยปล่อยเครียดได้เหมือนกัน.. แต่มารจนเดือดร้อนชาวบ้านชาวช่องมันก็น่าถีบ.. เพราะฉะนั้นเลยอยากให้หญิงทุกคนเป็นนังมารอย่างชาญฉลาดและพอดีๆ.. ในชีวิตอิชั้นเป็นมารมาแล้วหลายหนและเจอมารหลายรูปแบบ.. วันนี้เอาแค่ตัวอย่างมาเม้าท์ให้อ่าน ครั้งต่อไปถ้าของขึ้นจะเอามารรูปแบบอื่นมาเม้าท์อีก.. สุดท้ายนี้.. ขอให้นังมารจงเจริญ |
แมลงสาบเทวีราชินีกะจั๊ว
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] ผู้หญิงที่เลยวัยใสไปเรียบร้อยแล้ว.. แต่พยายามจะแบ๊วอย่างสุดความสามารถ.. ไม่เชื่อดูมันทำหน้าในรูปนี่ก็ได้.. -____-'' Friends Blog
Link |