Group Blog
|
Michael Jacksonตาย.. 25 06 09
ใจหายอย่างแรง..
แค่อยากอัพบล็อกแสดงความเสียใจที่รู้สึกสูญเสียคนสำคัญคนนึงในวงการเพลงของโลกใบนี้.. คนที่เป็นไอด้อลคนแรกในชีวิตน้อยๆของอิชั้น.. ตั้งแต่อยู่ป.6 เด็กคนนี้ตามเก็บทุกข่าว ตัดหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ทุกเล่มที่มีข่าวของเค้า เอาใส่ในอัลบั้มอย่างดี.. ไม่มีเงินมากพอไปซื้อบัตรคอนเสิร์ต ทำได้แค่ซื้อรูปถ่ายของเค้า มีวิดิโอที่รวมเอาMVของเพลงมากมายในอัลบั้ม Dangerous รวมถึงเพลงในตำนานอย่าง Billy Jeans, Smooth Criminal, และ Beat it ไว้เป็นของตัวเอง แล้วก็เพียรดูทุกวัน พยายามเต้นเลียนแบบ แม้แต่เอาเทปกาวมาพันนิ้วให้เหมือนไมเคิลก็ทำมาแล้ว-_-'' เหมือนได้เข้าใกล้ไอด้อลของตัวเองอีกก้าวนึง.. และแค่นั้นก็มีความสุขแล้ว หลังจบประถม ถึงจะไม่ค่อยได้ติดตามผลงานเท่ากับเมื่อก่อน แต่ก็ยังได้ยินข่าวของเค้าตลอด ทั้งที่ดีและไม่ดี และก็หวังลึกๆให้เค้าผ่านมันไปได้ โดยเฉพาะสภาพจิตใจที่ไม่ปกติของเค้า ด้วยความที่ชอบมากๆมาก่อน เวลาที่เห็นข่าวไม่ดีของเค้าทีไร รู้สึกสงสารมากกว่าอยากซ้ำเติมอ่ะ :( จนมาวันนี้ หลังจากตื่นได้ยี่สิบนาที CNNก็ประกาศว่าไมเคิล แจ๊คสันตายแล้ว เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นกระทันหัน.. เสียชีวิตระหว่างทางมาที่UCLA Medical Center ทั้งๆที่มีการพยายามช่วยชีวิตแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ.. แว้บแรกที่รู้ บอกตรงๆว่าเฉยๆ.. อาจจะเพราะยังตั้งตัวไม่ทัน ยังไม่รู้ว่า ตัวเองจะรู้สึกเหมือนสูญเสียอะไรมากขนาดไหน.. แล้วกระแสในเว็ปก็ยืนยันอีกรอบว่าตายแล้วแน่ๆ... อิชั้นไปเปิดดูLive เพลงMan in the Mirrorที่เค้าแสดงในBudapestเมื่อนานมาแล้ว สมัยเด็กๆเคยเห็นliveตัวนี้จากในวิดิโอที่เคยมี จำได้ว่าเค้ากล่าวถึงคนสำคัญต่อหน้าประวัติศาตร์โลก เป็นคนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเนลสัน แมนเดลล่า มหาตมะคานธี หรือแม่ชีเทเรซ่า แล้วเราก็ไปเปิดดูเนื้อเพลง ที่ ณ วันนี้เข้าใจความหมายได้แล้ว.. น้ำตาจะไหลอ่ะT_T ณ วันนี้ไมเคิลเค้าจะรู้มั้ยนะ.. ว่าสิ่งที่เค้าอยากจะเปลี่ยนมันมีผลอะไรเกิดขึ้นบ้าง.. แต่ที่แน่ๆ เค้าคือคนที่เป็นต้นแบบของนักร้องมากมายในวันนี้ และเค้าคือคนที่จุดประกายให้เด็กอีกหลายล้านคนทั่วโลกไปเรียนเต้น อยากจะทำmoonwalkให้ได้อย่างเค้า.. สำหรับคนที่โตมากับความสามารถของไมเคิลตั้งแต่เด็กๆอย่างอิชั้น.. บอกได้อย่างเดียวว่ามันคือความสูญเสียจริงๆ.. และ เป็นความสูญเสียที่ทำให้รู้ว่า เราจะมารู้ซึ้งถึงคุณค่าของคนๆหนึ่ง ก็ต่อเมื่อเค้าจากไปแล้วนี่เอง... ขอให้พี่เคิ่ลมีความสุขอยู่ข้างบนนั้น สร้างสรรค์ความสุขให้คนบนนั้นนะ.. คิดถึงพี่เคิ่ลมากๆอ่ะT_T "แฟนเก่า".. (Bitch Alert!)
เชื่อว่าคนทุกคนบนโลกนี้ เมื่อถึงวัยอันควร..
น่าจะมีประสบการณ์ทั้งการได้เจอแฟนเก่าของแฟน และได้เป็นแฟนเก่าของคนอื่นมาแล้วอย่างน้อยก็หนนึง.. อิชั้นเองก็เหมือนกัน ได้เป็นแฟนเก่าของผู้ชายบางคน.. และก็ได้ค้นพบว่า แฟนเก่าของแฟนอิชั้นซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ.. เป็นสิ่งมีชีวิตบนโลกชนิดหนึ่งที่น่ารำคาญมาก-*- จริงอยู่ว่าแฟนเก่าบางคนอาจจะแย้งว่า ก็เพื่อนกันแล้ว ไม่คิดอะไรๆ เจอกันหน่อยก็ไม่เป็นไร โทรคุยกันหน่อย ถามสารทุกข์สุขดิบหน่อย ไม่เห็นเป็นไรเลย.. แต่ในฐานะของคนเป็นแฟนปัจจุบัน(ซึ่งขี้หึงตัวแม่อย่างอิชั้น)นะ ไอ้คำว่าไม่มีอะไรๆเนี่ย ฟังแล้วกรูก็ไม่คิดอะไรนอกจากอยากตบย่ะ กรี๊ดดดด ถ้าจะให้อินเทรนด์ก็ต้องบอกว่า ชั้นจะตบๆๆๆหน้ามันต่อหน้าคนมากๆ ให้รู้ว่ายางไม่มี-*- อันนี้จากละครเมียน้อย เอ้ย เมียหลวงเลยนะยะ อันที่จริงแฟนเก่ามีหลายแบบ และอิชั้นคิดแบบไม่เข้าข้างตัวเเองเลย(เหรอ) ว่าแฟนเก่าแบบอิชั้นนี่ดีที่สุด เป็นแฟนเก่าที่ถ้าบอกเลิกแล้วก็คือเลิกเลย ไม่โทรหา ไม่สนใจ ไม่อยากรู้ว่าจะสบายดีไหม ใกล้ตายรึยัง บลาๆ ถึงแม้ว่าจะยังมีเพื่อนร่วมกันอยู่ แต่อิชั้นก็ถือว่า เพื่อนของอิชั้นก็คือเพื่อนของอิชั้น การเป็นเพื่อนกับเพื่อนคนนี้ไม่ได้แปลว่าอิชั้นจะต้องเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าด้วย.. (แต่จะซวยมากถ้าหากไปคว้าลูกค้ามาเป็นแฟน เพราะหลังจากเลิกกันแล้ว ก็ยังต้องคุยกันอยู่ดีเพื่อให้งานไม่สะดุด เป็นความรู้สึกพิกลเหมือนขับรถหลงทางเลยคุณ เพราะฉะนั้นอย่าเชียว-_-'') ที่ทำแบบนี้ ส่วนนึงเป็นเพราะอิชั้นเป็นคนขี้รำคาญด้วย ไม่ได้อยากจะเป็นคนดีเพราะสงสารแฟนใหม่ของแฟนเก่าอะไรหรอก อิชั้นมันนังมารจะตาย ไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์มาจากไหน ถึงต้องไปเห็นอกเห็นใจคนไม่รู้จัก.. แต่ก็แค่คิดว่าการที่ยังคุยและติดต่อกะแฟนเก่า ซึ่งครั้งนึงเคยเป็นคนที่รู้จักเราดีมากถึงมากที่สุด และครั้งนึงเคยเป็นคนที่เรารัก และมันก็รักเรา น่าจะสร้างปัญหาน่ารำคาญมากมายตามมาเมื่อเราจะมีแฟนใหม่ เพราะถ้าครั้งนึงได้คุยกันเหมือนปกติในฐานะเพื่อนกันไปแล้ว โอกาสที่จะตัดสัมพันธ์ เหมือนสมัยที่เคยตัดมันได้ในฐานะแฟน มันยากกว่ามากอ่ะ แถมอิชั้นก็ไม่นิยมโดนแฟนใหม่ของแฟนเก่าตราหน้าเอาได้ ว่าอีห่านนี่เลิกไปแล้วยังมาคุยกะแฟนกูอยู่ได้น่ารำคาญ-*- อย่างที่อิชั้นคิดกับนังบรรดาแฟนเก่าของแฟนอิชั้นบางคนด้วย-*- (คำเตือน: อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่คิดว่าตัวเองเป็นแฟนเก่าประเภทที่ว่า แนะนำให้เลิกอ่านซะ เพราะอิชั้นซึ่งเป็นคนเขียนบล็อกนี้ ใจแคบและรังเกียจแฟนเก่าแบบนี้เป็นที่สุด อาจจะรู้สึกแค้นอิชั้นได้นะ ถ้าอ่านต่อ-_-'') คือ ก็เข้าใจนะยะ ว่าไม่อยากจะเสียเพื่อน แต่ถ้าหร่อนๆคิดจะเลิกกะเค้า ไม่เอาเค้าเป็นแฟนแล้ว ก็ไม่ต้องมาทำกระแดะรับไม่ได้ที่จะขาดคนรู้ใจ คนคุยด้วย หรือคนเคยค้าม้าเคยขี่ไปคนนึง (กรี๊ด!) โดยเฉพาะเมื่อเค้ามีคนรู้ใจเป็นคนอื่นแล้วหรอกย่ะ แหม-*- ด้วยความที่อิชั้นเป็นพวกตัดขาดโดยสิ้นเชิงได้ เมื่อถึงเวลาจำเป็น (เช่น แฟนไม่สบายใจที่ยังติดต่อแฟนเก่าอยู่ และอื่นๆ) อิชั้นจึงไม่มีความเห็นอกเห็นใจ หรือเข้าใจหัวอกนังแฟนเก่า ที่ยังอยากคุยกะแฟนอิชั้นอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม(โอ๊วว ดุมากเรยค่ะ อิช้าน) มีอยู่ช่วงนึงอิชั้นก็เคยเป็นแฟนเก่าที่โดนแฟนคนปัจจุบันของแฟนเก่าอิชั้นหึง (โอ๊ย งง) อิชั้นบอกตรงๆว่า ที่ยังคุยกะแฟนเก่าอิชั้นคนนั้นอยู่ อิชั้นไม่ได้มีความบริสุทธิ์ใจเล้ยยยยยยยยย ตอนนั้นอิชั้นไม่มีใคร แถมหน้าตามันก็ดี เหตุผลสั่วๆแบบนี้แหละ ขอบอกว่า ยอดนิยมนัก-_-'' อิชั้นเลยเหมาเอาว่าว่า ในฐานะแฟนเก่าที่ยังอยากคุยกะแฟนเก่าอยู่ มันไม่มีคำว่า "ไม่มีอะไร" หรือ "ไม่ได้คิดอะไร" หรอก มันต้องมีเจตนาแอบแฝงทั้งนั้นแหละย่ะ อย่านึกกว่าชั้นไม่รู้ทัน-*- แฟนเก่าคนหนึ่งของแฟนอิชั้น (แฟนคนไหน ไม่บอกหรอกนะ เด๋วเป็นข่าว) เลิกกันไปเกินห้าปีแล้วแน่นอน แต่ในขณะที่เค้ามีแฟนใหม่ไปแล้ว นังแฟนเก่าคนนี้ก็ยังเพียรอีเมล์มาหาว่า คิดถึงจัง อยากเจอจัง เป็นไงมั่ง สบายดีมั้ย ยังคิดถึงเธออยู่มากเลยนะ บลาๆๆๆๆ วันเกิดก็เขียนมาอวยพร โอ๊ยยยย อิชั้นฟังแล้วแบบว่า...... อยากจะตบๆๆๆหน้ามันต่อหน้าคนมากๆ ให้รู้ว่ายางไม่มี ขึ้นมาทันทีเลย-*- ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าไม่ได้เขียนมาอวยพรวันเกิดให้กันเนี่ย หร่อนจะน้ำหนักขึ้นหรือลงแดงตายหรือว่ายังไง เข้าใจย่ะว่าอยากดูดีมีน้ำใจ แต่ในฐานะแฟนใหม่ ขอบอกย่ะว่า ไม่ต้องสะเออะ-*- (ยิ่งเขียนยิ่งอินนะเนี่ย 555) แต่อีแบบนี้มันก็ค่อนข้างเห็นชัดอยู่แล้วว่าต้องการอะไร ถ้าใครเจอแฟนเก่าหน้ามียาง(มะตอย) โบกซีเมนต์ขนาดนี้ ก็ไหว้พระก่อนนอนทุกคืนก็แล้วกันค่ะ ว่าคุณแฟนของเราจะไม่ลดตัวลงไปยุ่งกะนังชะนีคนนี้อีก-_-'' อีกรายนึงที่อิชั้นเคยรู้มา.. อันนี้เป็นแบบเคยเช่าห้องอยู่ด้วยกันประมาณเดือนนึง แล้วนังชะนีแฟนเก่าก็ย้ายออกไปตปท.โดยไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ คุณผู้ชายก็เลิกสิคะ ใครจะไปตั้งหน้าตั้งตารอ แล้วหลังจากนั้นก็มีแฟนใหม่ไปซะ แต่จู่ๆนังชะนีคนเดิมก็โทรมาหาจากเมืองนอก บอกว่าวันนี้ๆชั้นจะมาเที่ยวแถวๆที่เราเคยอยู่ด้วยกันนะ เจอกันหน่อยดีมั้ย งานเข้าเลยทีนี้-_-'' คุณผู้ชายเค้าก็บอกว่า อย่าเจอเลยเหอะ เค้ามีแฟนใหม่ละนะ ไม่เหมาะๆ (เป็นคนดีเนอะยะ ผู้ชายคนนี้-_-'') นังชะนีก็ทำเป็นตีมึนบอกว่า จริงเหรอๆ ไม่เป็นไร เด๋วไปถึงแล้วเจอกันนะ แล้ววางสายไปเลย.. อ่ะ นี่แหละนะ แฟนเก่า.. ไปๆมาๆจะเริ่มฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องขึ้นมาซะงั้น (ให้แม่โบกหูหน่อยมั้ยจ๊ะ เผื่อสนิมจะหลุด-*-) สุดท้ายเรื่องของแม่คนนี้กะคุณผู้ชายจบลงตรงที่ หร่อนลงทุนนั่งรถเมล์มาหาคุณผู้ชายถึงที่ ถึงสองรอบ โดยไม่บอกก่อนล่วงหน้า ก็เพราะไม่บอกก่อนนี่แหละ ถึงได้ต้องมาสองรอบ มารอบแรกไม่เจอ ก็ยังมารอบที่สองอีก (นับถือในความพยายามที่จะได้เจอแฟนคนอื่นมากเลยแม่คุณ) แล้วเที่ยวนี้คุณผู้ชายดันอยู่ที่ห้อง ได้ยินเสียงกดกริ่ง เปิดประตูออกมาไม่เจอใครเลยเดินออกมาดู เจอแม่นี่ยืนแอบๆอยู่อีกทาง เลยซวยไป-_-'' ถึงแม้งานนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะคุณผู้ชายเดินหนีออกไปที่ป้ายรถเมล์ แต่ก็คิดดูเถอะว่า ตอนที่คุณแฟนคนปัจจุบันรู้เนี่ย จะแทบอกแตกตายในความดื้อด้าน ไม่รู้ภาษาคนของนังแฟนเก่าขนาดไหน ถ้าเป็นอิชั้นล่ะก็.. อยากตบค่ะ แต่ตบไม่ได้เพราะอิชั้นบอบบาง ตัวเล็ก และอ่อนแอ แล้วน่าสังเกตอยู่อย่างนึง อิชั้นคิดว่าผู้ชายบนโลกนี้คงเหลือน้อยแล้วจริงๆ เพราะปัญหาเรื่องแฟนเก่า ถ่านไฟเก่า (ที่จริงๆควรจะโดนโละลงกระโถนไปตั้งนานแล้ว) มักจะเกิดจากอาการอย่างที่ว่ามาข้างบนของผู้หญิง อันนี้ไม่ได้อยากจะdiscreditเพศเดียวกับตัวเองเล้ย แต่อิชั้นก็ทนไม่ได้จริงๆกับมารยาและอาการเอเลี่ยนจับของนังบรรดาแฟนเก่า แบบที่ว่ามาข้างบนๆ อิชั้นไม่ค่อยเห็นผู้ชายเป็นอ่ะ โดยเฉพาะเมื่อหญิงไปมีแฟนใหม่ได้แล้วระยะนึง เลยไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี ที่ผู้ชายมีแต่ผู้หญิง(บางคน)ไม่มี ทำให้ต้องคอยมาล่าแฟนเก่าตัวเอง หวังจะเอาลงกระเพาะถ้ามีโอกาส ทั้งๆที่เค้าก็มีแฟนแล้ว-_-'' แล้วมันก็ช่างสร้างความรำคาญให้กับคนที่เค้ารักกันน่ะ เข้าใจใช่มั้ยคะ ถ้าคุณแฟนของใครดีพอก็อาจจะแค่สร้างความรำคาญ แต่ถ้าเมือไหร่ไปเจอพวกอ่อนๆที่ไม่ทันมารยาหญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหญิงที่เป็นแฟนเก่าล่ะก็ เตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์และพรรคพวกไปออกรบกันได้เลย-_-'' แต่ถ้าจะให้เจ๋งกว่านั้น ต้องคิดว่า ผีเน่ากับโลงผุเค้าอาจจะเข้ากันได้ดีอยู่แล้ว ก็ปล่อยให้เค้าไปเน่าอยู่ด้วยกันก็ได้นะคะ สวยๆอย่างเราๆไม่ควรจะเอาตัวและใจไปแลกกับผู้ชายห่วยๆและผู้หญิง.... ประเภทนั้น-_-'' ทั้งนี้ อนุญาตให้เซ็งได้ เพราะถ้า(เมิงๆ)ยังรักกันอยู่จะมายุ่งกะกรูทำไมตั้งแต่แรก.. ใช่มะ-_-'' อืมมม บ่นจะจบละ.. สุดท้ายอยากฝากไว้.. คนเราเป็นแฟนเก่าได้หลายหน.. เราเลือกได้ว่าอยากจะเป็นแฟนเก่าแบบไหน.. ก็ขอให้เลือกทางที่จะไม่ต้องไปทำให้คนที่เค้ารักๆกัน ต้องมาผิดใจกันเลยเหอะค่ะ เพราะนอกจากจะดูไม่ดีแล้ว ก็ยังโดนเขาด่าไล่หลังมา แถมเผลอๆกรรมมันอาจจะติดจรวดตามทันในชาตินี้ก็ได้นะ.. สาธุ นิทาน หัวหน้าหมู่บ้านกับพายุอารมณ์..
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีหัวหน้าหมู่บ้านคนหนึ่งที่มีความสามารถพิเศษอยู่สองอย่าง คือเขาสามารถใช้คำพูดที่สวยงามและทัศนคติที่ดีต่อโลกใบนี้ของเขา สร้างบ้าน หมู่บ้าน หรือแม้แต่เมืองที่สวยงามและมีความสุขขึ้นมาได้ และความสามารถพิเศษอีกอย่างที่หัวหน้าหมู่บ้านไม่อยากจะมี คือเมื่อใดก็ตามที่เขาโกรธ ทุกคำพูดของเขาที่พูดออกมา จะกลายเป็นพายุลูกยักษ์ที่มีความรุนแรงสูง หัวหน้าหมู่บ้านรู้ดีถึงความสามารถทั้งสองอย่างของตัวเอง และพยายามที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ความสามารถอย่างที่สองถูกนำออกมาใช้ เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน และเขาก็รู้ว่าตัวเขาเองอยากจะสร้างหมู่บ้านสวยๆที่มีแต่ความสงบสุขเป็นของตัวเอง ในที่สุด เขาจึงทุ่มเทเวลาและแรงกายแรงใจทั้งหมดที่เขามี สร้างหมู่บ้านขึ้นมาหมู่บ้านหนึ่ง หมู่บ้านนั้นมีบ้านไม่กี่หลัง แต่มีสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม และเขาก็เชื้อเชิญคนจากที่ต่างๆ มาอาศัยในหมู่บ้านเล็กๆของเขา เพราะหมู่บ้านของเขาถูกสร้างขึ้นมาจากความสุขและจิตใจที่ดีของหัวหน้าหมู่บ้าน ทำให้ลูกบ้านของเขาอาศัยอยู่กันอย่างสงบสุขตลอดมา ทุกๆวัน ลกบ้านของเขาจะตื่นนอนด้วยจิตใจที่ปลอดโปร่ง เปิดหน้าต่างทักทายกัน และใช้ชีวิตร่วมกันในหมู่บ้านของหัวหน้า ด้วยความสุขอย่างที่จะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านเองก็ยืนมองความสำเร็จนี้ด้วยหัวใจที่พองโตและสดใส อยู่มาวันหนึ่ง ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่หัวหน้าหมู่บ้านเฝ้าภาวนามาตลอดชีวิตเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้น เมื่อเขาทุ่มเถียงกับลูกบ้านคนหนึ่งอย่างรุนแรง จนเมื่อคุมสติไม่อยู่ หัวหน้าหมู่บ้านก็สาดคำพูดดุด่าลูกบ้านคนนั้นทันที และทันทีที่คำพูดอันเต็มไปด้วยความโมโหและอารมณ์รุนแรงออกไปจากปากของหัวหน้าหมู่บ้าน ก็เกิดพายุลูกยักษ์พัดลูกบ้านคนนั้นกระเด็นหายไปต่อหน้าต่อตา แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็ยังไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ ยังคงใช้อารมณ์รุนแรงที่คุไปด้วยความไม่พอใจ ด่าลูกบ้านอีกหลายต่อหลายคำ พายุลูกแล้วลูกเล่า เข้าซัดทำลายหมู่บ้านของเขาตรงๆซ้ำแล้วซ้ำอีก และเมื่อหัวหน้าหมู่บ้านตั้งสติได้ ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว สิ่งที่อยู่ตรงหน้า เหลือเพียงซากของหมู่บ้านที่ครั้งหนึ่งเคยสวยงามถูกทำลายยับเยิน ลูกบ้านของเขาล้มตายกันเกือบหมด ที่เหลือรอดก็บาดเจ็บสาหัสและต่างก็ช่วยกันพยุงร่างออกไปจากหมู่บ้านด้วยความหวาดกลัว หัวหน้าหมู่บ้านเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพยายามเรียกร้องขอให้ลูกบ้านกลับมาอยู่กับเขา และสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ขึ้นอีก แต่ลูกบ้านที่รอดชีวิตต่างก็ไม่เชื่อใจและกลัวหัวหน้าหมู่บ้านกันหมดแล้ว จึงไม่มีใครกล้ากลับมาอยู่กับเขาอีก ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถสร้างหมู่บ้านที่สวยงามขนาดไหนขึ้นมาได้ก็ตาม วันนี้.. หัวหน้าหมู่บ้านต้องอยู่เพียงลำพังในซากหมู่บ้านที่รกร้างว่างเปล่า แม้ว่าจะเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแค่ไหน แต่เขาเองก็รู้ตัวดีว่า เขาคงไม่สามารถสร้างหมู่บ้านที่สวยงามขึ้นมาได้อีกแล้ว และเข้าใจดีว่า ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ๆ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เขาจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จนมีพายุออกมาทำร้ายผู้คนที่อยู่รอบข้างเขาอีก.. Too bad the village leader is ..me.. แมลงสาบสีชมพู..
วันนี้ได้ตั้งบล็อกอยู่ในหมวด"ความรัก" กะเค้าซะด้วย^^..
รู้สึกว่าไม่ได้อัพบล็อกเป็นเรื่องเป็นราว เกี่ยวกับความรักของตัวเองมานานนนแล้ว.. เมื่อ2เดือนก่อน..อยู่ๆก็ได้เจอคนที่รู้สึกว่า โคตรใช่ แบบที่ไม่ว่าจะคุยเรื่องอะไรก็คลิ๊กโดนกันไปหมดทุกอย่าง.. ไม่ต้องเฟค ไม่ต้องเสแสร้ง ไม่ต้องพยายามแกล้งทำว่าเราเหมือนกัน.. แต่เราเหมือนกันมากจริงๆจนน่าตกใจ.. (ตอนนี้เรื่องที่ไม่เหมือนกันคือ พี่วิทย์ชอบกินวาซาบิ และฟังเพลงclassic ในขณะที่อิชั้นไม่กินวาซาบิและฟังเพลงแนวตลาดๆ) แล้วในระยะเวลาแค่2เดือนที่ผ่านมา พี่วิทย์คนนี้ก็ทำอะไรหลายอย่างมากกกกก ให้อิชั้นต้องน้ำตาซึม(หรือบางทีก็ร้องไห้ไปเลย-_-'') ด้วยความซึ้งใจหลายหนแล้ว.. ที่มาเขียนเป็นบล็อก เจตนาอยากมีอะไรเก็บไว้อ่าน เมื่อเวลาผ่านไป.. ไม่อยากจะลืมความรู้สึกดีๆที่เคยเกิดขึ้นเพราะพี่วิทย์.. ไม่อยากลืม ไม่อยากให้ตัวเองพลาดที่จะนึกถึงเรื่องดีๆพวกนี้เลยแม้แต่เรื่องเดียว.. (เพราะอิชั้นเป็นสัตว์เซลล์เดียวที่มีหน่วยความจำเท่าปลาทอง-_-'') ตั้งแต่เริ่มรู้จักกันใหม่ๆ.. พี่วิทย์จะชอบมีคำถามง่ายๆที่เกี่ยวกับตัวอั้มเองมาให้ตอบ.. เวลาที่พี่วิทย์ถาม จะถามเหมือนถามไปยังงั้นๆ.. หรือไม่ก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ..โดยที่อิั้ชั้นก็ไม่เคยรู้ตัวว่า.. พี่วิทย์สนใจที่จะรู้แล้วก็จำได้ทุกอย่างทุกเรื่องที่ตอบไป หรือที่ได้คุยกันทั้งหมด.. พอเวลาผ่านไปพี่วิทย์จะเอาเรื่องที่เราเคยคุยกันไว้นานแล้ว มาทำให้แปลกใจ+ดีใจตลอด.. มีช่วงนึงเป็นช่วงที่อิชั้นกำลังต้องใช้เงินในการย้ายบ้าน.. ก็เลยปรึกษากับพี่วิทย์ว่า มีเงินเก็บอยู่แค่เนี่ย(แค่เนี้ยยยจริงๆ).. อยากได้ตู้เสื้อผ้าไม่ก็notebookซักตัว.. จะเอาเงินที่มีไปซื้ออะไรดี.. เพราะเราเคยคุยกันถึงคอมรุ่นดึกดำบรรพ์ของงอิชั้นที่มันชอบขึ้นจอฟ้าไม่ก็restartตัวเองอยู่บ่อยๆ.. เป็นคอมที่ได้รับมาจากพี่ชายอีกทีนึง.. อายุ(คอม)ก็น่าจะเป็น10ปีแล้วแถมยังไม่เคยเปลี่ยนเมนบอร์ดหรือhardwareอะไรเลยนอกจากRAM แต่ถ้ามีเ้งินจริงๆก็อยากจะเปลี่ยน.. พี่วิทย์ออกความเห็นว่า ย้ายบ้านใหม่ ไม่มีตู้เสื้อผ้าแล้วจะเอาเสื้อผ้าไปกองกะพื้นเหรอคะ-_-'' ตอนนี้ต้องรีบใช้ตู้ก็เอาเงินไปซื้อตู้ก่อนดีกว่ามั้ย.. คอมตัวเก่าถึงมันจะบ้าๆบอๆแต่ก็ยังน่าจะเอาไปใช้ได้อยู่.. อิชั้นก็อืมมมม.. ก็จริงนะ.. เลยเอาเงินเก็บ(อันน้อยนิด)ไปซื้อตู้เสื้อผ้าก็แล้วกัน.. พอดีกับที่ว่า.. ช่วงปลายเดือนสิงหาจะมีรุ่นน้องที่พี่วิทย์รู้จัก กลับมาเมืองไทยพอดี.. พี่วิทย์ก็บอกเป็นนัยๆว่าจะมีของขวัญให้นะ.. แต่บอกไม่ได้จริงๆว่าเป็นอะไร.. คิดอยู่ว่าจะฝากน้องคนที่กลับเมืองไทยไปให้ดีมั้ย.. หรือว่าจะยังไงดี.. จำได้ว่า พี่วิทย์พูดๆเรื่องที่ไปนั่งsearchหาของขวัญชิ้นนี้จากเว็ปโน้นนี้มากมาย.. แล้วก็ตัดสินใจยากเหมือนกันว่าจะซื้อของที่ไหนให้ดี.. ซีดีSkyกับช็อคโกแลตและJohnny Hates Jazz ถือว่าเป็นของขวัญฉลองความสัมพันธ์.. แต่เค้าคิดไว้นานแล้วว่า จะมีของขวัญอีกอย่างให้.. เป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่และเปลี่ยนที่ทำงานใหม่.. อิชั้นก็ไม่รู้จริงๆอ่ะว่าจะซื้ออะไรให้อีก.. พี่วิทย์ไม่หลุดclueอะไรมาให้เลยซักอย่าง.. บอกแต่ว่า คนแบบพี่วิทย์ ถ้าจะซื้ออะไรให้ มันจะไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย มันต้องเอาไปใช้ได้จริงๆเท่านั้น.. อิชั้นก็พยายามจะนึกๆๆ แต่ก็นึกไม่ออกจนสุดท้ายเลิกนึกไป.. คิดแค่ว่า ไม่ว่าของขวัญชิ้นนั้นจะเป็นอะไร ขอแค่พี่วิทย์เป็นคนให้ อิชั้นก็ดีใจมากๆทั้งนั้น^^ จนมาถึงวันนึง.. พี่วิทย์บอกว่า ได้เวลาออกไปซื้อของขวัญให้ละ.. เด๋วซื้อเสร็จแล้วจะโทรมาหา.. จำได้ว่า ตอนนั้นอิชั้นอยู่ที่ทำงาน.. , น่าจะเกือบๆเที่ยงได้แล้วมั้ง.. เพราะพี่วิทย์ออกจากบ้านไปตอนเกือบ2ทุ่ม.. บอกตรงๆว่าตอนนั้นก็ยังno ideaอยู่เลยว่าของที่ว่าจะเป็นอะไร.. ดูพี่วิทย์จะเอาใจใส่่เรื่องการส่งมันมาให้อิชั้นมากเป็นพิเศษ.. อิชั้นก็ถามอ่ะว่าของนี้มันตกแล้วแตกมั้ย 5555 พี่เค้าบอกว่าก็ถ้าจะให้มันแตกมันก็แตกอ่ะค่ะ แต่ก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดี..-_-'' พอพี่วิทย์ซื้อของได้ปุ๊บก็โทรมา.. แกล้งอิชั้นอยู่นานไม่ยอมบอกว่าของเป็นอะไร ส่วนนึงเพราะกลัวโดนอิชั้นดุว่าซื้อมาทำไม อีกส่วนนึงก็อยากจะแกล้งให้อิชั้นอยากรู้นั่นแหละ.. บอกแต่ว่าเนี่ย.. แบกของขวัญน้องอั้มกลับบ้านเนี่ยะ เหนื่อยมากๆ.. ของขวัญที่ต้องแบก.. ตอนนั้นอิชั้นคิดไว้แค่at the tip of my brainจริงๆ.. ว่ามันอาจจะเป็น..... แต่ก็นะ.. ไม่ใช่หรอก.. มันเป็นไปไม่ได้หรอก-_-'' สุดท้ายพี่วิทย์เลยต้องใช้วิธีถ่ายรูปของขวัญชิ้นที่ว่า แล้วส่งมาเข้าอีเมล์อิชั้นตอนนั้นเลย.. แต่วันนั้นอีเมล์ใช้เวลาเดินทางนานไปนิด.. เลยมีการใบ้ระหว่างรอ.. ให้อั้มถามตัวเอง ว่าตอนนี้อยากได้อะไรอยู่แล้วยังไม่ได้บ้าง.. วินาทีนั้นก็ตอบไปซื่อๆ ว่าอยากได้โน้ตบุ๊คค่ะ พี่วิทย์เงียบไปเลยเกิน5วิ อิชั้นใจเต้นโครมๆ รู้เลยทันทีว่า ของขวัญชิ้นนั้นที่พี่วิทย์ใช้เวลาหาอยู่นาน ต้องกังวลเรื่องหาวิธีการส่งมาให้.. เป็นของที่ตกแล้วแตกก็ได้ แถมยังต้องแบกกลับบ้านเนี่ย มันคืออะไร.. พี่วิทย์สิ้นสุดความเงียบไม่กี่วิที่อิชั้นจิ้นไปไกล ด้วยการบอกว่า บิงโก.. ตอนนั้นอิชั้นจำได้เลยว่ากำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน.. ต้องเก็บอาการดีใจจนน้ำตาซึมด้วยการเอาหัวโขกโต๊ะ1ที แล้วร้องงื้ดๆๆใส่โทรศัพท์อยู่นานมาก-_-' ไม่นานอีเมล์ก็เข้ามา อิชั้นเปิดดูทั้งน้ำตา ก็เห็นว่ามันเป็นรูปของกล่องhp.. เป็นโน้ตบุ๊คของhp.. พี่วิทย์ซื้อโน้ตบุ๊คให้อั้มจริงๆด้วยT_T แค่เห็นโน้ตบุ๊คตัวนั้น อิชั้นก็ดีใจจนพูดออกมาไม่ถูกแล้ว.. เย็นวันนั้นพี่วิทย์นอนซะเช้า อยู่คุยโทรศัพท์กับอิชั้นและทำให้ได้รู้ว่า.. พี่วิทย์ขายหูฟังราคาหลายร้อยเหรียญ 2 ตัว ที่เก็บเงินซื้อมา แล้วมันก็เป็นของสะสมที่พี่วิทย์รัก..เพื่อเอามาซื้อโน้ตบุ๊คตัวนี้ให้อิชั้น เพราะอยากเห็นอิชั้นใช้ของที่ดีๆ อยากเห็นอิชั้นมีความสุข.. แค่ได้ยินอิชั้นร้องงื้ดๆด้วยความดีใจ พี่เค้าก็ดีใจมากๆที่สุดแล้ว.. อิชั้นบอกตามตรงว่า มันอึ้ง.. พี่วิทย์ไม่ได้รวยมาจากไหน ต้องทำงานเหนื่อยแค่ไหนอิชั้นก็รู้.. แต่เพราะอยากเห็นอิชั้นมีความสุข.. พี่วิทย์ยอมเสียสละสิ่งที่รักเพื่ออิชั้นได้ ทั้งๆที่หูฟัง2ตัวนั้นพี่วิทย์ก็เคยบอกว่ามันเป็นตัวที่หายาก.. มันทำให้อิชั้นซึ้งใจจนพูดไม่ออก.. แต่มีคำพูดนึงที่พี่วิทย์บอก แล้วทำให้อิชั้นร้องไห้ออกมาเลยทันทีคือ.. พี่ไม่เสียดายที่จะเสียของบางอย่างที่พี่รักไป เพื่อสิ่งที่พี่รักมากกว่าและมากที่สุด.. อั้มจำได้ดีว่าพอฟังประโยคนี้จบ.. ก็ร้องไห้ออกมาแบบสะอื้นเลย ทั้งๆที่ตอนนั้นขับรถอยู่แถวพาต้าซึ่งรถเยอะมาก-_-'' อิชั้นดีใจอ่ะ ร้องไห้ให้กับตัวเอง.. ตื้นตันใจกับตัวเอง ที่ในที่สุด.. ในที่สุดอิชั้นก็เจอผู้ชายคนที่จะรักเราหมดหัวใจ.. รักโดยที่ยอมทุ่มเททำอะไรให้จริงๆจังๆ.. โดยไม่นึกถึงว่าจะต้องได้อะไรกลับไป.. แล้วก็ไม่ได้รักอย่างขาดสติ.. พี่วิทย์ทำทุกอย่างเพื่ออั้มโดยที่คิดไว้ล่วงหน้าหมดทุกอย่างแล้วว่า จะทำอะไรยังไง ไม่ให้สะเทือนเงินตัวเอง ไม่ให้ตัวเองเดือดร้อน.. และทำให้อั้มมีความสุขได้.. อิชั้นดีใจที่ได้รักผู้ชายคนนี้ แล้วเค้าก็รักอิชั้นตอบ อาจจะมากกว่าที่อิชั้นรักเค้าด้วยซ้ำไป.. อิชั้นร้องไห้เพราะ ความรู้สึกมันเต็มๆ.. มันcompleteแล้วจริงๆ.. ขอบคุณพี่วิทย์จริงๆ ที่อยู่ตรงนี้กับอั้ม.. แล้วอั้มก็อยากจะให้พี่วิทย์อยู่กับอั้มตลอดไป.. ทำให้อั้มมีความสุข.. เพราะอั้มเอง ก็อยากจะได้มีโอกาสทำอะไรก็ตาม ที่จะทำให้พี่วิทย์มีความสุขด้วยตัวเองตลอดไปเหมือนกัน^^ เรื่องโน้ตบุ๊คเป็นแค่1ในสิ่งดีๆที่พี่วิทย์อยากทำให้อั้ม.. นี่ยังไม่นับเรื่องที่โอนเงินมาให้น้องอั้ม เพื่อเอาไปทานข้าวที่ร้านอาหารดีๆทุกเดือนๆ (เพราะอั้มไม่ค่อยได้ออกไปกินข้าวที่ไหนด้วยเหตุผลที่ว่ามันเปลืองตังค์) ไม่รวมที่ซื้อไดร์เป่าผมให้ เพราะอยากให้อั้มเก็บค่าไดร์ผมที่ร้านไว้ แล้วไปฟิตเนสบ่อยๆ (ซึ่งแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ได้ไปเลยก็ตาม-_-') ไม่รวมที่แอบไปซื้อลำโพงParadigmคู่ละ3ร้อยกว่าเหรียญ (สีขาวด้วย><) เพื่อเอามาใช้กับโน้ตบุ๊คตัวใหม่เพราะเห็นว่าอั้มก็ชอบฟังเพลง แถมกระเป๋าโน้ตบุ๊คกับเมาส์และthumbdrive ยังไม่รวมamplifierที่พี่วิทย์คิดไว้แล้วว่าจะให้อั้มมาซื้อที่เมืองไทย.. ยังไม่รวมรองเท้าคู่สวยที่พี่วิทย์ซื้อให้เพราะเห็นน้องอั้มอยากได้.. และยังไม่รวมeyecream, ครีมทาบำรุงของesteeอีก2กระปุก ที่กำลังจะส่งมาให้อีก..... เวลาแค่2เดือน พี่วิทย์ทำอะไรให้อั้มได้มากมายขนาดนี้.. แล้วยังชอบพูดว่า ไม่ค่อยได้ทำอะไรให้อั้มเลย ที่ทำได้ก็ปัญญาอ่อนๆ-_-'' ก็อยากจะบอกพี่วิทย์มากๆจริงๆ.. ว่าทั้งหมดที่พี่วิทย์ทำเพื่ออั้ม.. ไม่ใช่แค่ของดีๆที่ซื้อให้.. แต่รวมไปถึงอนาคตดีๆที่พี่วิทย์วางไว้สำหรับเรา2คน.. มันมากที่สุดในชีวิตของอั้มที่เคยรับความปรารถนาดีจากใครซักคนแล้วจริงๆ.. พี่วิทย์คือผู้ชายที่อั้มรักที่สุดในชีิวิตแล้วก็ไม่อยากจะเสียพี่วิทย์ไป.. เพราะงั้น.. รักอั้มไปนานๆนะคะ^^ น้องอั้มก็สัญญาว่าจะรักพี่วิทย์คนเดียวตลอดไปแล้วก็จะไม่ทำให้พี่วิทย์ผิดหวังด้วยค่ะ.. I Love You! (as much as you do^^) หน้าอย่างงี้.. มันทำไมเหรอ..
หน้าอย่างงี้..
V V หน้าอย่างงี้.. เค้าว่าโดนTagมา.. หน้าอย่างงี้.. ได้ข่าวว่า ยังไม่ได้ทำBag tagเลย.. หน้าอย่างงี้.. เห็นคำขอร้องของผู้ชายมาก่อนเสมอ 555 หน้าอย่างงี้.. ขอเริ่มการมั่วละนะ.. ไม่รุ้เหมือนกันว่าเค้าเล่นกันยังไง.. หน้าอย่างงี้.. ขอบอกว่าแต่งหน้าจัดนะ.. ชอบแต่งหน้ามากๆ.. เดือนนึงหมดค่าใช้จ่ายไปกับเครื่องสำอางหลายอัฐิอยู่.. หน้าอย่างงี้.. ใช้มือถือถ่ายจนแบตเกือบหมด.. กว่าจะได้ออกมาอย่างที่เห็น หน้าอย่างงี้.. ตัวเท่าเมี่ยง แต่เหนียงยาน..กร๊ากกกก หน้าอย่างงี้.. ชอบมองผู้หญิงสวยๆ ยิ่งขาเรียวๆยาวๆขาวๆนี่มองเหลียวหลังเลย.. หน้าอย่างงี้.. ไม่มีนักร้องชายในดวงใจ มีแต่นักรองหญิงในดวงใจ Natsuyaki Miyabi วงBerryz Koboและนักร้องเกย์ขวัญใจแม่ยกอย่าอิชั้น.. Darren Hayes หน้าอย่างงี้.. มีแฟนมาแล้วหลายคนนะยะ-_-'' หน้าอย่างงี้.. เวลามีความรักจะแอ๊บแบ๊วใสซื่อ ขุดมารยาหญิงสารพัดหลอกให้ผู้ชายตายใจได้แนบเนียนมาก ระวังให้ดี 555 หน้าอย่างงี้.. พอได้ใครเป็นแฟน(เสร็จสมอารมณ์หมายแม่แล้ว-_-'') ลายถึงจะออก ทั้งเอาแต่ใจ ขี้หงุดหงิด ใจร้อน ปากร้าย แถมขี้เบื่ออีก 555 หน้าอย่างงี้.. ถึงจะออกลายอย่างที่ว่ามา แต่ตราบใดที่ยังไม่เบื่อ เค้ารักเดียวใจเดียวไม่ยุ่งเกี่ยวกะชายอื่นนะยะ หน้าอย่างงี้.. ตอนเด็กๆอยากเป็นกระเป๋ารถเมล์ ครู และครูบนรถรับส่งนักเรียน ตามลำดับ-_-'' ซึ่งแต่ละความฝันอิชั้นจัดแจงสนองความอยากไปหมดแล้ว.. อยากเป็นกระเป๋ารถเมล์ก็ให้พ่อไปหากระบอกตั๋วของจริงทำตั๋ว ใส่เหรียญเสร็จสรรพ มาเล่นเก็บตังค์คนในบ้าน ตายายพ่อแม่พี่น้าโดนกันหมด เป็นอาชีพที่ดีจริงๆ-_-'' อยากเป็นครูก็เอาดินสอพองมานั่งขีดๆเขียนๆประตูครัว ถือไม้เรียวอันนึง ฟาดพื้นฟาดฝาไปตามเรื่องตามราว ครูอั้มดุมากๆ-_-'' อยากเป็นครูรถก็เอากระจกสี่เหลี่ยมกรอบไม้ของแม่มาวางพิงผนังข้างกำแพง แล้วก็เลือนเข้าเลื่อนออก ทำเป็นเปิดประตูรถตู้ รับส่งเด็กขึ้นลงรถ.. มานั่งนึกตอนนี้ กูนี่ท่าจะบ้า- -'' หน้าอย่างงี้.. เกลียดเด็กม๊ากกกกกกกกก สำหรับอิชั้น เด็กคือเอเลี่ยน ไม่พูดภาษามนุษย์ จะเอาไรก็ไม่บอก ร้องไห้อย่างเดียว บางทีพูดได้แต่พอถามไรก็ไม่ตอบ มันน่าโบกหัวยิ่งนัก-*- หน้าอย่างงี้.. เคยเป็นครูอยู่ร.ร. สอนภาษาที่เชียงใหม่และต้องคอยเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ ปะแป้งหวีผม ทายากันยุง ทำขนม ชงโอวัลติน ไปเข้าค่าย ตีกอล์ฟเด็กเล่น เช็ดก้น เป็นเพื่อนเล่น เป็นกรรมการห้ามทัพ ให้เอเลี่ยนประมาณ 40 ชีวิตอยู่ประมาณ 8 เดือน.. กูจะบ้า หน้าอย่างงี้.. จบเอกภาษาอังกฤษ เกียรตินิยมอันดับ 1..(เชื่อมะๆ) หน้าอย่างงี้.. เคยถูกอาจารย์ในเอกที่ว่ามหาโหด ชมว่า "ปราดเปรื่อง!" ในห้องเรียน หน้าอย่างงี้.. เคยโดนอาจารย์ตอนม.ต้นปรามาสไว้ว่าไม่น่าจะเอ็นท์ติดหรอก เพราะหน้าตาไม่ฉลาดเลย -_-'' (ซึ้งมากอ่ะ555) หน้าอย่างงี้.. เพื่อนน้อยมากถึงมากที่สุด เพราะเป็นคนเข้าถึงยาก จริงๆเข้าถึงง่าย แต่พอเข้ามาแล้วส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ.. เลยหนีออกกันไปหมด เหลือไว้แต่พวกไม่คิดไรมากกะชีวิต ถึงจะอยู่เป็นเพื่อนอิชั้นได้ 555 หน้าอย่างงี้.. ตอนเด็กๆ(ซักป.5ป.6)ชอบเล่นละครคนเดียวมาก แม่บอกว่านั่งอยู่คนเดียวก็พูดไรไม่รู้ มีเกรี้ยวกราดใส่ประตูบ้าง กำแพงบ้านบ้าง หมอนข้างบ้าง(ปกติเค้าน่าจะเอาไปเช็คประสาทได้แล้วนะเนี่ย)เข้าใจว่าน่าจะกำลังรับบทตัวร้ายฝ่ายหญิงอยู่ ไม่ก็เป็นนางเอกทะเลาะกับพระเอก-_-''.. หน้าอย่างงี้.. ตอนอนุบาลเคยเล่นเป็น อรสา เรื่องสาวลมกรด(ฉายช่อง7มั้ง)ที่กันตา ดานาวเล่นเป็นนางเอก วิ่งแข่งกันในบ้านกะพี่ชาย ทีนี้ตอนวิ่งเข้าโค้ง(ในบ้าน-_-'')เหยียบกองผ้าลื่น หยุดไม่ทัน วิ่งเอาหน้าไปฟาดกำแพงบ้านเต็มๆ หงายหลังเลยคุณ 55555 พ่อกะแม่ว่าตกใจแล้ว (กำลังรีดผ้ากันอยู่) น้าชายของอิชั้นคนนึงตกใจยิ่งกว่า เค้าเล่ากันว่าวิ่งหน้าตาตื่น ร้องห่มร้องไห้มาอุ้มอิชั้น พูดไม่หยุดว่า หลานกูๆ ดั้งหักหมดแล้วๆ-_-'' สมพรปากเลย เป็นไงล่ะ-*- หน้าอย่างงี้.. ตอนป.5 เคยซิ่งรถป๊อบของยายพุ่งไปชนประตูบ้านฝั่งตรงข้ามซะเบี้ยว หลุดออกมาทั้งบาน ส่วนตัวเองกระเด็นตกแอ้กลงมาบนพื้น เอาแขนขวาลงก่อน.. ได้น้าชายคนเดิม วิ่งร้องห่มร้องไห้มาอุ้มอิชั้นพาไปร.พ.-_-'' ผลงานวันนั้นคือ แขนหัก นอนร.พ. อาทิตย์นึง ใส่เฝือกอ่อนอยู่อีกเป็นเดือน.. ช๊อบชอบเพราะคุณครูเห็นใจ ไม่ต้องจดงานตอนเรียน ให้เพื่อนที่ลายมือสวยที่สุดในห้องจดให้อ่าน กร๊ากๆ จริงๆแล้วคิดว่าวันหลังจะเอาอีก- -'' แต่ใจไม่ถึงว่ะค่ะ 555 หน้าอย่างงี้.. เพิ่งได้ใบขับขี่มาเมื่อวันที่1 พ.ค. เพิ่งขับจริงๆวันที่ 4 พ.ค. รถใหม๊ใหม่ แต่อิชั้นก็เอาไปชนซะเก๊าเก่าแล้ว 5555 ได้ข่าวว่าแม่เบื่อมาก กร๊ากๆๆ (ตามไปอ่านวีรกรรมอิชั้นได้ในซักบล็อกนี่แหละ.. จำไม่ได้เหมือนกันว่าเขียนไว้บล็อกไหน-_-'') หน้าอย่างงี้.. สิวเยอะอ่ะ เบื่อ-*- ทิ้งร่องรอยวัฒนธรรมไว้อีกเพียบ.. อย่าเชื่อ(รูป)จนกว่าจะได้เห็น(ตัวจริง) นะจ๊ะ-*- หน้าอย่างงี้.. เป็นคนที่ขี้เหร่ที่สุดในกลุ่มเลยตอนเรียนมหาลัย 555 หน้าอย่างงี้.. เริ่มนึกเรื่องที่จะเผาตัวเองไม่ออกละ.. นึกออกละ.. หน้าอย่างงี้.. ไม่เคยขาดแฟนเลยตั้งแต่อายุ15ถึง25.. เรียกว่ามีผู้ชายให้ใช้ไม่เคยขาดมือ 55555 (เน้นปริมาณ.. คุณภาพว่ากันทีหลัง-*-) บอกไว้ก่อน อิชั้นถ้าไม่แต่งหน้าก็ไม่ใช่จะดูได้นะ.. แต่ไม่เคยไม่มีแฟนเลยติดต่อกันมาหลายปีมาก.. ส่วนนึงน่าจะเพราะตัวเองเป็นผู้หญิงบอบบาง (ตอแหลจริงๆ-*-) ต้องการที่พึ่งทางใจกับใครซักคนตลอดเวลา.. ถ้าเลิกกะคนไหน มักจะต้องรีบหาคนมารับช่วงต่อเสมอ ถ้าไม่ได้เป็นแฟนไม่เป็นไร ขออิชั้นเอาหัวใจไปฝากไว้หน่อยก็ยังดี รับไม่รับกูก็ไม่สน 5555 ขอให้ได้ชอบใครซักคนก็พออ่ะ แต่หลังๆ 7-8 ปีมานี่ มีแฟนตลอดเรย เบื่อมาก หน้าอย่างงี้.. ตอนนี้เลยไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนว่ะค่ะ-*- มีก็แบบที่เอาใจไปฝากเค้าไว้เฉยๆ เค้าจะเอารึป่าวก็ยังไม่รุ้เลย กูล่ะเบื่อ-_-'' หน้าอย่างงี้.. โง่เลขมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ถึงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกที่สุดของที่สุดในโลก เชื่อเถอะ..ว่าจะไม่เคยเห็นใครโง่เรื่องตัวเลขได้มากเท่าอิชั้นอีกแล้ว-*- ให้บวกเลข3หลักขึ้นไปในใจแบบต้องมีทดด้วยอ่ะ ตายเรย.. ไปต่อไม่ถูกเลย สูตรคูณก็ท่องได้แค่แม่12 (low educatedมั่กๆ)บัญญัติไตรยางค์เทียบไม่เป็น สมการไม่รู้จัก คิดเป็นเปอร์เซ็นก็ทำไม่เป็น หารเลขไม่ต้องพูดถึง เศษของการหารหามาจากไหนยังไม่รู้ กดเครื่องคิดเลขยังกดผิดเลยคุณ 5555 วันไหนมีคนมาพูดเรื่องบัญชีเรื่องเงินกะอิชั้น ซึ่งมีเลขมากกว่า 2 หลักมาเกี่ยวข้อง อิชั้นชอบทำเป็นมองไปทางอื่น แบบในรูปนั่นแหละ ทีแรกเมียเจ้านายที่ทำงานที่ทำอยู่จะให้อิชั้นมาดูเรื่องวงเงินในบัญชีของบริษัทที่มีอยู่ 15 บัญชีแทนพี่คนเก่าที่กำลังจะเกษียณ เค้าบอกกะอิชั้นว่า เค้าดูแล้วรู้สึกว่าอิชั้นน่าจะทำได้ อิชั้นได้แต่คิดว่า เอาตาตุ่มดูเหรอวะ555 หลังจากลองให้พี่เค้าสอนงานจริงให้2เดือน.. รู้สึกตอนนี้เค้ากะลังประกาศรับคนใหม่อยู่-_-'' ก็บ้าป่าว ให้คนจบเอกอังกฤษสมัครมาตำแหน่งexportทำบัญชีไม่กลัวล้มละลายก็เอาสิวะ หน้าอย่างงี้.. เป็นคนเจ้าน้ำตาอ่ะ เหอๆๆ โดนใครว่าโดนใครชม ดูหนังเศร้า จะเผาเต่ามากกว่าคนปกติประมาณ 12 เท่า-_-'' แต่ตอนนี้ภูมิต้านทานการโดนด่าเริ่มแข็งแรง หลังจากทำงานให้เจ้านายลูกเศรษฐีคนจีนที่เอาแต่ใจ เวลาไม่ได้อย่างใจพ่อทุบโต๊ะด่าแหลกทั้งภาษาจีน ไทย อังกฤษ.. มาเกือบปี.. หลังๆโดนใครด่าจะทำหน้ามึนอย่างเดียว กูไม่รู้ กูไม่ได้ยิน-_-'' หน้าอย่างงี้.. ไม่ชอบไม่สนใจเรื่องการเมือง คิดแคบๆอย่างเดียวว่า กินกันไป ไม่เกี่ยวอะไรกะกรู.. เบื่อการเมือง ไม่ชอบคุยเรื่องการเมือง แล้วเลยทำตัวไม่สนใจการเมืองไปเลยโดยปริตา เอ้ย ปริยาย:P หน้าอย่างงี้.. อยากเป็นแอร์แต่สูงไม่ถึง-_-'' หน้าอย่างงี้.. คิดว่าพอได้ละนะ เริ่มเหม็นไหม้-*- อ่านกันหนุกหนานเชียวสิ 555 อย่าลืมเม้นท์ให้กำลังใจคนสวยหน่อยนะ เขียนบล้อกไปไม่มีใครอ่าน อิชั้นเศร้า-_-''
|
แมลงสาบเทวีราชินีกะจั๊ว
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] ผู้หญิงที่เลยวัยใสไปเรียบร้อยแล้ว.. แต่พยายามจะแบ๊วอย่างสุดความสามารถ.. ไม่เชื่อดูมันทำหน้าในรูปนี่ก็ได้.. -____-'' Friends Blog
Link |