เมื่อศัตรูกลายเป้นเพื่อน (จริงหรือนี่)
เรากลับไปอ่าน บล็อกเก่าๆ อีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียน อะไรได้มาก เรื่องขนาดนี้ อ่านไป อ่านมาเจอเรื่อง คำปลอบใจจากใครคนหนึ่ง (ศัตรู) เปิดอ่านเมลล์ ของเขา อีกครั้ง พยายามที่จะหา ความรู้สึกจริงๆจาก คำพูดที่เขาเขียนมา สุดท้ายเราเลย ตอบกลับไป แบบเป็นเรื่องเป็นราว ก็ขอบคุณที่อุตส่าห์ปลอบใจ ไปตามเรื่อง เขากลับตอบมาด้วยคำพูด ที่น่าฟัง เราก้อเลยได้คุย กันทาง สไก์ด หน้าคอมพ์ เราถามเขาว่า ยังโกรธเราอยู่ไหม เขาบอกว่าไม่ได้ โกรธ และลืมเรื่องเก่าๆ ไปหมด แล้ว สมองของเขามีแต่เรื่องงาน อย่างที่เราเคยเห็น เราเลยถามเขา ว่า ไม่คิดจะถามเราหรือ ว่ายังโกรธเขาอยู่ไหม เขาเงียบไปเล็กน้อย แล้วพิมพ์กลับมาว่า คิดว่า เราคงหายโกรธ แล้ว ไม่งั้นเราคงไม่คุยกับเขา แบบนี้ หรอก และบอกอีกว่าดี ที่ได้คุยกับเราแบบเพื่อน เราก็คิดงั้น บางที เราอาจจะเหมาะที่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่า เจ้านาย ลูกน้อง วิสัยทัศน์ ( โห ...ฟังดูดี) เรื่องงาน ระหว่าเงเรา มันต่างกัน และ มันไปกันไม่ได้จริงๆ ล่ะ แปลกดี ตอนนั้น เราจะมีเรื่อง ถกเถียงกันเกือบทุกวัน ต่างคน ต่างมองกันในแง่ไม่ค่อยดี ขาดความเข้าใจ ในความคิดของฝ่ายตรงข้าม อย่างสิ้นเชิง เราไม่ได้คิดว่าเราเป็นคนดี เพราะทุกคนล้วนแต่มี ข้อเสีย เราน่าจะเป็นลูกน้องที่ร้ายกาจ จนเขาลืมไม่ลง หรือไม่ก็จำไปอีกนานนนนนนน อย่างที่เราเองก็คิดว่า เขาเป็น เจ้านายที่ ไม่อาจหาคำใด มาบรรยายถึงคุณลักษณะพิเศษ ที่มีมากมาย ได้ ตลกดี พอมาคุยกันคราวนี้ เราถามเขาว่า เมื่อก่อนเรา น่าเป็นคนที่ ร้าย และแย่มากๆ ในความรู้สึกของเขาใช่ไหม เขาเงียบไปแป้บนึง แล้วพิมพ์ ตอบมาว่า ลืมมันซะเถอะ อิๆๆๆๆ ( จริงๆ แล้วไม่มีใครลืมได้หรอก ด่ากันซะขนาดนั้น)
เราคุยกันต่อ ในเรื่องราว หลากหลาย เรื่องชีวิต ส่วนตัว เป้าหมายในอนาคต ที่เคยหวัง เขายังจำเรื่องที่คุยกับเราได้ ตอนนั้นเราเพิ่งเข้าไป ทำงานกับเขาใหม่ๆ (ยังไม่ได้เริ่ม ทะเลาะกัน) เราพาเขาไป งานศพ พ่อของพี่ ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ที่ต่าง จังหวัด ใกล้ๆ บ้านเราเอง ระหว่างทางเราก็ชวนเขาคุยไปเรื่อยๆ เพราะกลัวจะเซ็ง และทางมันค่อนข้างไกล เราเคยถามเขา ว่า ถ้าเขาไม่ได้ทำงานที่นี่แล้วเขาอยากทำอะไร เขาตอบว่าอยากทำธุรกิจ ส่วนตัว แล้วถามว่า แล้วเราล่ะ อยากทำอะไร เราตอบว่าไม่รู้ดิ ไม่สามารถคาดการณ์ อะไรได้ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเขาเป็นคนจิตใจดี คนหนึง ทีเดียว (ไหง อยู่กันไปนานๆ พี่แกเปลียนไปได้ หรือ เพราะสนิทกันมากขึ้นก็ไม่รู้ คนเราสนิทกันมากขึ้น ความเกรงใจ มันจะน้อยลง โดยอัตโนมัติ) มาวันนี้ เรารู้สึกว่า เขาเหมือนคน ขี้เหงา ตอนที่เราจะไป กินข้าว เขายัง บอกว่า อย่าเพิ่งไป คุยให้จบก่อน .....ขี้เหงา หรือ เซ้าซี้ ก็ไม่แน่ใจ แต่ก็ดี แล้ว ในที่สุดเราก็ได้ศัตรูมาเป็นเพื่อน จริงๆ ......ไม่น่าเชื่อ ..... Good day !
Create Date : 24 เมษายน 2551 |
Last Update : 24 เมษายน 2551 17:40:36 น. |
|
5 comments
|
Counter : 323 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nang_sida วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:18:27:20 น. |
|
|
|
โดย: redclick วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:21:45:55 น. |
|
|
|
โดย: chawarin วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:12:14:52 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
Hello friends,
This should be my long diary ....now it's third years for me to be member of this blog.... Thanks all of you to visit my diary :-)
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เย้ๆ ดีใจด้วย เปลี่ยนจากศัตรูกลายเป็นมิตร
อยากทำได้บ้างจังเลย ตอนนี้กำลังพยายามอยู่นะเนี้ย ยังไม่สำเร็จเลย ตะเองทำได้ก่อนซะล่ะ ดีจัง...ดีใจด้วยๆ