|
อาหารนำไมเกรน ...
''ไมเกรน'' เป็นอาการปวดหัวที่สร้างความรำคาญ ทรมานให้กับผู้ป่วย โดยจะมีตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงมากจนกระทบกับการดำรงชีวิตประจำวัน อาจจะมีอาการปวดตุ๊บ ๆ แถวขมับ หรืออาจจะจะปวดบริเวณเบ้าตาเหมือนหัวใจเต้นตุ๊บ ๆ ที่ปวดน้อย ๆ มักจะไม่ใช่ไมเกรน
อาการปวดไมเกรนอาจจะปวดได้นาน 2-3 วันหรืออาจจะปวด 2-4 ชั่วโมง และอาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการปวด ไมเกรน เวลาหายปวดจะหายสนิท
อาการปวดไมเกรน มักจะมี อาการนำ มาก่อนที่จะเกิดอาการปวด เรียก Aura อาจจะเห็นแสงแวบ แสงจ้า ตาพร่ามัว ซึ่งเป็นช่วงสั้น ๆ ก่อนจะมีอาการปวด ไม่แน่เสมอไปที่ว่าอาการปวดหัวข้างเดียวคืออาการปวด ไมเกรน อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น คอตกหมอน เนื้องอก เป็นต้น
ส่วนอาหารนำไมเกรน ได้แก่ อาหารที่มีสารประกอบอะมิโนกลุ่มที่ลงท้ายชื่อด้วย อามีน (amine) ซึ่งมีปฏิกิริยาให้หลอดเลือดขยายและหดตัว เนยแข็งโดยเฉพาะบลูชีส ช็อกโกแลต มีฟินีลเลทธีลามิน (Phenylethylamine) เป็นตัวนำไมเกรน ผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว ซึ่งมีเซเนพรีน (Synephrine) และออกโตพามีน (Octopamine) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีฮิสตามีน (Histamine) นอกจากนี้ ผงชูรส ก็เป็นตัวนำไมเกรนของหลายคน อาหารรมควันและหมักดอง เช่น ฮอตดอก เบคอน แฮม ไส้กรอก เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน ฯลฯ ซึ่งเป็นอาการแพ้เฉพาะปัจเจกชน
อาหารปลอดไมเกรน ได้แก่ ข้าวกล้อง ผลไม้ตากแห้งเช่นลูกพรุน ลูกเกด เชอร์รี่ ฯลฯ ผักปรุงสุก เช่น คะน้า บร็อคโคลี ปวยเล้ง ผักโขม ถั่ว เผือก มันเทศ มันสำปะหลัง และฟัก เป็นต้น อาหารช่วยให้อาการไมเกรนดีขึ้น แมกนีเซียม หลายงานวิจัยที่พบว่าคนที่เป็นไมเกรนมีระดับธาตุแมกนีเซียมในร่างกายต่ำกว่า ปกติ
พืชตระกูลกัวราน่า จะไปขยายหลอดเลือดและหลอดลม ช่วยให้มีการจับออกซิเจนให้กระแสเลือดให้ดีขึ้นระบบการทางเดินหายใจทำงานดี ขึ้น ทำให้มีออกิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้นด้วย และไมเกรนก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น และหายไปในที่สุด
ควรหมั่นสังเกตให้ดีว่าตัวเองแพ้อาหารชนิดใด แล้วหลีกเลี่ยงอาหารนั้นเสีย และควรหลีกเลี่ยงปัจจัยนำที่ทำให้เกิดไมเกรนด้วยวิธีธรรมชาติ เช่นนี้จะช่วยให้อาการปวดไมเกรนถอยห่างออกไป
Create Date : 29 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 29 มีนาคม 2553 16:28:31 น. |
Counter : 211 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สุวรรณภูมิผงาดอันดับ 10 โลก!
นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน ผู้อำนวยการท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.)
เปิดเผยว่า หน่วยงานสกายแทค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัด อันดับท่าอากาศยานดีเด่นระดับโลก ได้ประกาศผลให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการดีเด่นอันดับ 10 ของโลก โดยวัดจากคะแนนโหวตของผู้โดยสารที่ใช้บริการ ผ่านทางเว็บไซต์ //www. worldairportsurvey.com สัมภาษณ์ผู้ใช้บริการ และการสอบถามความคิดเห็นทางโทรศัพท์ของผู้ใช้บริการ ท่าอากาศยานต่าง ๆ ทั่วโลก 190 แห่ง โดยปีนี้ได้เปิดให้โหวตและสัมภาษณ์ ระหว่างเดือน ก.ค. 52 จนถึงช่วงต้นปี 53 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโหวตให้คะแนนกว่า 8.6 ล้านคน ทั้งนี้ ทสภ.ได้รับการจัดอันดับดีขึ้นต่อเนื่อง โดยปี 51 ทสภ. ได้อันดับที่ 37 ในปี 52 ได้อันดับที่ 16 และในปีนี้ได้ที่ 10
เนื่องจาก ทสภ. มีเป้าหมายให้บริการ ผู้โดยสารมีความพึงพอใจต่อการให้บริการมากขึ้น ส่วนท่าอากาศยานที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด 3 อันดับแรก คือท่าอากาศยานชางงี ประเทศสิงคโปร์ ท่าอากาศยานอินชอน ประเทศเกาหลี ท่าอากาศยานฮ่องกง นอกจากนี้สภาท่าอากาศยานสากล (เอซีไอ) ได้จัดอันดับท่าอากาศยานที่ให้บริการดีเด่นของโลกประจำปี 52 ว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ของไทยได้รับรางวัลอันดับที่ 6 ในประเภทท่าอากาศยานที่รองรับผู้โดยสารได้ระหว่าง 25-40 ล้านคนต่อปี
ที่มา dailynews.co.th
Create Date : 29 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 29 มีนาคม 2553 15:18:18 น. |
Counter : 258 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
การดื่มน้ำรักษาโรค !!!
วารสารทางการแพทย์บอกว่าเมื่อตื่นนอนตอนเช้า ความเข้มของโลหิตยังสูงและมีผลต่อระบบ ความดันโลหิตในร่างกาย แพทย์แนะนำว่าทันทีที่ตื่นนอนให้ดื่มน้ำทันทีหนึ่งแก้ว เพื่อลดความเข้มของโลหิต พวกเราลองดูละกัน อีกอย่างที่พบมาก็คือ ท่านพุทธทาสก็ทำแบบนี้เหมือนกัน
เมื่อเร็วๆ นี้มีคนมากมายส่งเสริมวิธีดื่มน้ำเพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพสมบูรณ์ นี่เป็นแบบนิยมอันดีงามอย่างหนึ่ง ชีวิตที่ดำรงอยู่ได้นอกจากอากาศที่บริสุทธิ์ก็คือน้ำน้ำหนักตัวของคนเรา 2 ใน 3 ส่วนเป็นน้ำจึงมีคนว่าคนประกอบด้วยน้ำอันที่จริงน้ำสามารถปรับอุณหภูมิใน ร่างกายของคนได้สามารถทำให้ไตทำงานเป็นปกติขับถ่ายสิ่งโสโครกให้ออกจากร่าง กายได้
นายแพทย์แนะนำบ่อยๆ ว่าดื่มน้ำให้มากทุกๆ วัน วิธีดื่มน้ำรักษาโรคต่างๆ ตามที่ได้ทดสอบมาแล้วได้ผลดีตื่นเช้าลุกขึ้น ไม่ล้างหน้าไม่บ้วนปาก แล้วดื่มน้ำสุก 5 แก้ว (ขวดวิสกี้บรรจุได้ 3 แก้ว) หรือน้ำหนักของน้ำ1.26 ก.ก.เท่ากับ 5 แก้วรวดเดียว จะรู้สึกหายใจเหนื่อยอึดอัดไปหน่อยหลังจากนั้นจะปัสสาวะบ่อยๆ การปฏิบัติยากลำบากเช่นนี้หากผู้ที่ไม่มีความเชื่อมั่นอาจจะเลิกเสียกลางคัน ผู้ที่ใช้สมองทั้งวันทั้งคืนในธุรกิจการค้า หาเวลาว่างไปออกกำลังมิได้ทุกเช้าควรปฏิบัติดื่มน้ำรักษาโรคแทนการออกกำลัง กาย เชื่อมั่นได้ว่าจะต้องปราศจากโรค ชีวิตยั่งยืนอย่างไม่ต้องสงสัย
ในระยะนี้มีผู้ใจบุญพิมพ์คำอธิบายวิธีดื่มน้ำรักษาโรคต่างๆ ส่งไปให้เพื่อนฝูง เพื่อนที่ได้รับรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งการที่ช่วยซึ่งกันและกันแบบนี้ควรจะ เผยแพร่ให้มากขึ้น
ผู้เขียนยินดีให้ "วิธีดื่มน้ำรักษาโรคของจีนนี้เปิดเผยให้ผู้อ่านได้มี โอกาสค้นคว้าและทดลอง" ได้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่ความเป็นจริงได้ผลอย่างนี้แน่นอนเนื่องจากทำให้ลำไส้ใหญ่ผลิตโลหิตใหม่ มากขึ้น ซึ่งโลหิตใหม่นี้ผลิตขึ้นจากฝอยคล้ายสักหลาดที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ซึ่งทำ หน้าที่ดูดธาตุอาหารต่างๆ ผลิตให้เป็น เม็ดโลหิต เนื่องจากลำไส้เคลื่อนไหวไม่เต็มที่ เป็นเหตุให้โลหิตจางมีอาการรู้สึกเพลียและเป็นโรค เป็นการรักษายาก ลำไส้ของใหญ่ยาว 8 เมตร ทำหน้าที่ดูดธาตุต่างๆ จากอาหาร ถ้าลำไส้สะอาดอาหารที่ได้รับประทานเข้าไปผ่านการย่อยแล้วดูดไปผลิตให้เป็น โลหิตใหม่เป็นการเร่งให้เกิดพลังงานในร่างกายให้สมบูรณ์ขึ้น โรคต่างๆ จะหายไปเองอายุก็ยั่งยืน มหาวิทยาลัยตามมณฑลต่างๆ ในประเทศจีนได้ผ่านการทดลองและประกาศเปิดเผยให้ทราบโดยทั่วกัน
วิธีดื่มน้ำรักษาโรคสามารถรักษาโรคดังต่อไปนี้คือ ท้องผูก ปวดหัว เวียนศีรษะ โลหิตจาง โรคประสาท ความดันโลหิตสูง อัมพาตทั้งกาย เป็นลม ปากเบี้ยวโรคปวดตามข้อ โรคอ้วนพี ปวดในกระดูกเส้นเอ็น ปวดเมื่อย หูอื้อ ใจเต้น มือเท้าอ่อนเพลีย โรคไอ โรคหืด หอบ หลอดลมอักเสบ วัณโรค เยื่อสมองอักเสบ โรคตับ โรคไต เป็นนิ่ว กรดเปรี้ยวในกระเพาะอาหารมากเกินไป กระเพาะอืด กระเพาะอาหารเป็นแผลเน่าเรื้อรัง โรคบิด โรคริดสีดวงทวาร โรคเบาหวาน สายตาอ่อน โรคตาต่างๆ ตาออกเลือด สตรีประจำเดือนไม่ปกติ ระดูขาว มะเร็งในมดลูก มะเร็งเต้านม จมูกอักเสบ เจ็บคอ และโรคผิวหนังต่างๆ
ต่อไปนี้เป็นคำบอกเล่าของผู้ที่ได้ผ่านการทดลองดื่มมาแล้ว
1. ผู้เขียนได้พบกับผู้ชราที่มีสุขภาพอย่างสมบูรณ์ ได้ทักทายกับท่าน ถามท่านว่าเคยเจ็บไข้หรือเปล่า ท่านตอบว่าหลายสิบปีมาแล้วไม่เคยเจ็บไข้มาเลย ท่านกล่าวว่าตอนที่อายุ 20ปีกระเพาะอาหารเป็นแผลเน่าเรื้อรังนอนอยู่กับที่ นานถึง 10 ปีได้ผ่านการตรวจจากนายแพทย์ 5 ท่าน รักษาฉีดยา รับประทานยา ไม่ได้ผล
ต่อมามีนายแพทย์ท่านหนึ่งได้แนะนำว่าคุณควรทดลองดื่มน้ำสุกอย่างนี้ ตื่นแต่เช้าหน้าไม่ล้าง ปากไม่บ้วน ดื่มน้ำสุก 5 แก้วทุกๆ วัน อย่าให้ขาดตอน และห้ามไม่ให้รับประทานอาหารก่อนเข้านอน นายแพทย์สั่งเสร็จก็กลับไปโดยไม่ให้ยาไปกินวันรุ่งขึ้นผมก็ทำตามนายแพทย์ สั่ง ดื่มน้ำ 5 แก้วรวดเดียว ในหนึ่งชั่วโมงปัสสาวะ 3 ครั้ง หลังจากนั้นก็รับประทานข้าวต้ม รู้สึกรสชาติของข้าวต้มอร่อยกว่าที่แล้วๆมาวันที่สองดื่มน้ำ 5 แก้วอีกถ่ายอุจจาระออกมามีเลือดดำปนอยู่มากต่อจากนั้นสามเดือนน้ำหนักตัว เพิ่มขึ้นอีก 10 ก.ก. เวลานี้ผมอายุ 64 ปีแล้ว นับแต่ได้ปฏิบัติดื่มน้ำมายังไม่เคยเจ็บ ไข้ได้ป่วยเลย แม้แต่หวัดก็ไม่เคยเป็น
2. เมื่อผมยังเป็นเด็กเคยเป็นเยื่อสมองอักเสบ นายแพทย์สั่งให้ดื่มน้ำ 5 แก้วทุกวัน ไม่นานเยื่อสมองที่อักเสบก็หายไปเอง ภรรยาผมเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นโรคหัวใจและเป็นโรคอ้วนเกินไป ร่างกายสูงไม่เกิน 5 ฟุต น้ำหนักตัว 120 ก.ก. พอดื่มน้ำได้ 15 วัน โรคหัวใจ โรคประสาท โรคเข็ดเมื่อยก็ค่อยๆ ดีขึ้น ดื่มน้ำได้สองเดือนน้ำหนักตัวลดลงไป 16 ก.ก. เมื่อก่อนเราต้องใช้ยาประจำนวดไฟฟ้า และรักษาด้วยวิธีเข็มแทงแบบหมอจีนก็ไม่หาย แต่เวลานี้หายไปหมดแล้วจากการดื่มน้ำ
3. อาจารย์ในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นเคยแถลงการณ์ร่วมสองครั้ง เกี่ยวกับฝอยคล้ายสักหลาดในลำไส้ผลิตโลหิตขึ้น จนเดี๋ยวนี้ไม่เห็นมีใครโต้แย้งเลย ไม่ว่าโลหิตจะมาจากไหน แต่ธาตุต่างๆ จะต้องมาจากอาหารอย่างแน่นอน เมื่ออาหารลงไปถึงกระเพาะแล้วผ่านการย่อยลงไปสู่ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ธาตุส่วนมากกลายเป็น ของเหลว เมื่อลำไส้ยาว 8 เมตร ดูดธาตุต่างๆ เสร็จก็จะส่งไปสู่ลำไส้ออกของที่ทวารหนักซึ่งเป็นของที่ไม่มีประโยชน์สำหรับ ร่างกาย
4. กระเพาะเป็นแผลเน่า ดื่มน้ำ 1 สัปดาห์ก็เห็นผล โรคความดันโลหิตสูง ดื่มน้ำ 1 เดือนเริ่มเห็นผล กระเพาะบิด 3 เดือนเริ่มเห็นผล ท้องผูก 3 วันก็เห็นผล ท้องเป็นบิดกับปัสสาวะกลางคืนบ่อยๆ ดื่มน้ำ 1 สัปดาห์ก็เห็นผล เข็ดเมื่อยตามข้อ 3 เดือนเห็นผล ผู้สูงอายุเข็ดเมื่อยทั้งร่างกาย ดื่มน้ำ 2 เดือน เห็นผล โดยเฉพาะผู้ที่ โลหิตคั่งอยู่ในสมอง เกิดเป็นลมขึ้นเป็นมายังไม่เกิน 3 เดือน ดื่มน้ำเพียงสัปดาห์เดียวก็หายเหมือนเดิม รับรองไม่พิการหรือเป็นอัมพาต
ผู้ที่ดื่มน้ำควรทราบดื่มน้ำสุกดีที่สุด เพราะหากดื่มน้ำประปา ควรจะใส่ขวดไว้แรมคืนให้ตกตะกอนเสียก่อนเพื่อป้องกันท้องร่วง เวลารับประทานอาหารดื่มน้ำได้ตามปกติ แต่หลังอาหารสองชั่วโมงไม่ควรดื่มอีก ก่อนเข้านอนไม่ควรรับ ประทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้ามรับประทานน้ำส้มคั้น และจำพวกแอปเปิ้ล ผู้ที่มีโรคประจำตัวดื่มน้ำทีเดียว 5 แก้วไม่ใช่ของง่าย ดื่มน้ำเสร็จทางที่ดีใช้หรือออกกำลังสัก 20นาที คนไข้ที่นอนอยู่บนเตียงไม่สามารถลุกขึ้นได้ ดื่มน้ำเสร็จให้สูดอากาศเข้าปอดให้มากๆ และนวดที่บริเวณที่สะเอวให้น้ำไหลลงสู่ลำไส้ให้สะอาด ดื่มน้ำวันแรกภายใน 1 ชั่วโมง จะปัสสาวะ 3 ครั้งติดๆ กัน แต่ต่อไป 3 - 4 วัน การถ่ายท้องจะเป็นปกติภายใน 7- 8 วัน การปัสสาวะเป็นเพียงครั้งเดียว นับแค่นั้นไปจะรู้สึกร่างกายสบาย เวลารับประทานอาหารจะรู้สึกอร่อยเป็นพิเศษ นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่ากระเพาะลำไส้ได้ถูกชำระสะอาดแล้ว ผู้ที่หมดหวังแล้วจะรอดตายด้วยวิธีดื่มน้ำรักษาโรคต่างๆ นี้จึงเขียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน ขอให้ทุกท่านจงปราศจากการไข้และป่วยต่างๆ
ข้อควรรู้ หลังจากอาตมาได้ทราบตามข้อนี้ และได้ปฏิบัติตาม รู้สึกว่าโรคต่างๆ ที่คนชราโดยมากเป็นอยู่บัดนี้รู้สึกว่าเริ่มสบายขึ้นเป็นลำดับเห็นว่าเป็น ประโยชน์แก่ส่วนรวมจึงขอยืนยันมาให้ทราบ เป็นการกุศลต่อไป ท่านที่รับหลักการนี้ไปปฏิบัติแล้ว ถ้ามีประโยชน์ดีควรเผยแพร่ต่อไปเพื่อเป็นการกุศล
Create Date : 27 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 27 มีนาคม 2553 18:46:57 น. |
Counter : 189 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
อาหารต้องห้าม! ในยามบ่าย
ในยามบ่าย นอกจากจะต้องสู้กับงานแล้ว หญิงเหล็กอย่างเรายังต้องสู้กับความง่วงที่มาพร้อมกับข้าวกลางวันมื้ออร่อย อีกด้วย และถ้าไม่อยากง่วง ก็ควรงดอาหารเหล่านี้
ช็อกโกแลต นอกจากจะอร่อยแบบไม่มีลิมิตแล้ว ช็อกโกแลตยังมีสาร Phenylethylamine อยู่เพียบ และจะทำให้คุณง่วงนอนได้ในทันทีทันใด นี่ยังไม่นับน้ำตาลและไขมันอีกมหาศาล
ขนมปังขาวและข้าวขาว ในแป้งขัดสีจะมีคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วน ซึ่งจะเข้าสู่ตับอ่อนได้ทันที จากนั้นตับอ่อนก็จะหลั่งอินซูลินออกมา ทำให้เลือดมีน้ำตาลเพิ่มขึ้น ทีนี้สมองเราก็จะเบลอ .. เคลิ้ม และหลับ....
ผลิตภัณฑ์นม ไม่ว่าจะเป็นนมเปรี้ยว โยเกิร์ตหรือชาใส่นม เนื่องจากโปรตีนในนมจะหลั่งกรดอะมิโนออกมา และเมื่อร่างกายมีกรดมากเกินไปเราก็จะง่วงนอน
กล้วย กล้วย เป็นอาหารแก้เครียด เพราะมันอุดมไปด้วยฮอร์โมนเซโรโทนินและนอร์เอพินฟริน ซึ่งทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมา แต่ในสถานการณ์นี้ ความสุขที่คุณได้รับจะมาพร้อมความทุกข์ ถ้าเจ้านายผ่านมาเห็นตอนคุณหลับคาโต๊ะทำงาน
ที่มา - //women.mthai.com
Create Date : 26 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 26 มีนาคม 2553 14:24:34 น. |
Counter : 195 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ออกกำลังช่วงอายุ 50 ปี ยืดอายุออกได้ อีก 2 ปี ..
ทีมนักวิจัยของสวีเดน ได้ความรู้จากการศึกษาจากหนุ่มใหญ่วัย 50 ปีเรือนพันคนว่า คนเราสามารถยืดอายุตัวเองขึ้นอีกได้ หากว่าโหมออกกำลังเมื่อช่วงย่างเข้าวัยกลางคนให้มากขึ้น ไม่แพ้ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้
ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัย อัปปศาลายังได้พบด้วยว่า แม้ผู้ที่อยู่ในวัย 50 - 60 ปี ก็ยัง อาจจะมีอายุยืนยาวออกไปได้ พอ ๆกันกับเพื่อนวัยกลางคนที่ออกกำลังอยู่เป็นประจำ
ผู้เชี่ยวชาญการสาธารณสุข ยังกล่าวเสริมด้วยว่า รายงานผลการศึกษาแสดงว่า ไม่ มีใคร แก่เกินกับการออกกำลัง และบอกแจ้งว่าขาดการออกกำลังระดับสูง หมายถึงการออกกำลังด้วย การเล่นกีฬาหรือการปลูกต้นไม้ดายหญ้าอย่างคร่ำเคร่งในแต่ละอาทิตย์ นานไม่ต่ำกว่า 3 ชม.
รายงานผลการศึกษาพบว่า กลุ่มผู้ที่โหมออกกำลังหนักขึ้น เมื่อตอนช่วงอายุ 50 ปี จะยืดอายุให้ยืนยาว ได้นานกว่าคนที่เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ 2.3 ปี และนานกว่าคนที่ออกกำลังระดับปานกลาง 1.1 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
Create Date : 25 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 25 มีนาคม 2553 18:58:40 น. |
Counter : 257 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|