การป้องกันโรคเหงาในสุนัข
การป้องกันโรคเหงาในสุนัข
บทความพิเศษ
เรื่อง การป้องกันโรคเหงาในสุนัข
(สนับสนุนข้อมูลโดย น.สพ.พัฒนา รัตนชินกร
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ เอ็น.พี.)
อย่างไรที่เรียกว่าโรคเหงา
คุณคงไม่สามารถที่จะอยู่กับสุนัขได้ตลอดเวลา
สุนัขของคุณชอบเห่า ปัสสาวะเรี่ยราด
หรือชอบทำลายข้าวของบ้างหรือเปล่า
ถ้าเป็นอาจจะแสดงว่าสุนัขของคุณเป็นโรคเหงา
สุนัขเป็นสัตว์สังคม สุนัขป่าก็ยังอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง
สุนัขบ้านจะถือว่าสมาชิกในครอบครัว
คือฝูงของมันเช่นเดียวกัน
สุนัขที่สนิทกับเจ้าของหรือสมาชิกในครอบครัวมากๆ
จะเกิดอาการเครียดและเหงา
เมื่อถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง
โดยแสดงออกด้วยการเห่า ขุด กัดแทะ
และพยายามทำลายข้าวของในบ้าน
คุณต้องเข้าใจว่าสุนัขของคุณไม่ได้มีเจตนาแกล้ง
เพียงแต่มันรู้สึกไม่สบายใจเวลาที่ต้องอยู่เพียงลำพัง
และพยายามที่จะหาทางไปหาเจ้าของให้ได้
เช่น การขุด กัดแทะประตู
หรือทำไปเพื่อผ่อนคลายอารมณ์เครียด
เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ หรือรื้อข้าวของในบ้านมากัดเล่น
แล้วสุนัขของคุณเป็นโรคเหงาหรือเปล่า
คุณจะทราบได้อย่างไรว่าสุนัขของคุณเป็นโรคเหงา
การที่สุนัขเห่า กัดทำลายของ
หรือ ขุดคุ้นทำลายสวนสวยของคุณ
ไม่ได้เป็นอาการของโรคเหงาเพียงอย่างเดียว
อาจจะมีอย่างอื่น เช่น คันฟัน ปวดฟัน ฯลฯ
ซึ่งต้องให้สัตวแพทย์ตรวจดูว่า
ไม่ได้มีสาเหตุจากโรคเหล่านี้ก่อน
สุนัขที่เป็นโรคเหงา
มักจะแสดงอาการเมื่อเจ้าของไม่อยู่ด้วย
หรือเห็นเจ้าของแต่เจ้าของไม่มาหา
สัตว์ก็จะแสดงอาการกระวนกระวาย
การแก้อาการเหงา
เป็นเรื่องที่คุณต้องทำงานมากทีเดียว
มีขั้นตอนหลายขั้นในการรักษาอาการอยู่ตัวเดียวไม่ได้
ซึ่งต้องทำไปพร้อมๆ กันหลายๆ ขั้นพร้อมๆ กันไป
เป้าหมายของแต่ละขั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อ
- ลดความต้องการอยู่ใกล้ชิดเจ้าของของสุนัข
- เพิ่มความมั่นใจให้กับสุนัข
สุนัขที่มีความมั่นใจในตัวเอง
จะไม่กังวลกับการที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน
หรือถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง
และจะไม่ทำลายข้าวของของคุณ
เช่นเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง
แต่ไม่ได้หมายความว่าสุนัขจะเฉยหรือเย็นชาเมื่อเห็นคุณ
เพียงแต่สุนัขเกิดความมั่นใจ
ว่าคุณจะไม่ได้ทิ้งเขาไปเฉยๆ โดยไม่กลับมา
ดังนั้นคุณต้องให้สุนัขมั่นใจ
ว่าทุกครั้งที่คุณออกจากบ้านไป
คุณจะกลับมาหาเขาทุกครั้ง
ขั้นแรก
ลดอาการดีใจหรือเสียใจสุดเหวี่ยง
เมื่อเวลาที่คุณเข้าหรือออกจากบ้าน
เมื่อเจ้าของกลับมาบ้านหรือออกจากบ้าน
ทั้งสองอย่างก่อให้เกิดความเครียดในตัวสุนัขอย่างมาก
พฤติกรรมทำลายข้าวของจะเกิดทันที
ที่เจ้าของก้าวเท้าออกจากบ้าน
หรือก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน
(โดยเฉพาะผู้ที่กลับบ้านตรงเวลา)
การลดความเครียดของสุนัขในเรื่องนี้
ทำโดยอย่าทำให้สุนัขตื่นเต้น
เมื่อเวลาเจ้าของเข้าหรือออกจากบ้าน
โดยทำทีไม่สนใจตัวสุนัขสัก 5 นาที
ขณะที่คุณเตรียมเก็บเอกสารหรือข้าวของ
เช่นกุญแจ เสื้อคลุม ฯลฯ ทำอย่างปกติเรียบๆ
ก่อนออกอาจจะกล่าวคำว่าสวัสดี
หรือบ๊ายบาย ด้วยน้ำเสียงปกติ
แล้วเดินออกจากบ้านไปอย่างปกติธรรมดา
อย่ากล่าวคำสั่งเสียกับสุนัข
เช่น ดูแลบ้านให้ดีนะ อย่ากัดทำลายของ ฯลฯ
เพราะจะไปกระตุ้นให้สุนัข
เกิดความตื่นตัวก่อนที่เราจะออกจากบ้าน
เพราะจะทำให้สุนัขรู้สึกว่าถูกทิ้งตามลำพัง
ซึ่งสุนัขจะรู้สึกว่าแย่ การที่ทำทีไม่สนใจสุนัข
เขาจะเข้าใจว่าคุณอยู่บ้านในที่ใดสักแห่งที่เขาไม่เห็น
เวลากลับเข้าบ้านก็เช่นเดียวกัน
ทำเป็นไม่เห็นสุนัขของคุณสัก 5 นาที
ขณะเดียวกันคุณก็วางข้าวของของคุณตามปกติ
อย่าพูดกับสุนัขยกเว้นดุให้เขาสงบลง
สำหรับสุนัขที่ควบคุมยากให้ยืนหันหน้าเข้าหากำแพง
อย่าทักทายสุนัขจนกว่าสุนัขจะสงบลง
จึงกล่าวคำทักทาย เช่น ตบเบาๆ ที่ไหล่
แล้วกล่าวคำว่าสวัสดี แต่อย่าทำให้สุนัขตื่นเต้นดีใจอีก
ข้อควรระวัง
คือ ห้ามลงโทษสุนัขเมื่อกลับเข้ามาในบ้าน
ไม่ว่าสุนัขของคุณ
จะทำลายข้าวของเสียหายขนาดไหนก็ตาม
เพราะสุนัขอาจจะคิดว่า
คุณทำโทษเขาเพราะเขาอยู่เพียงลำพัง
ซึ่งจะยิ่งทำให้แย่ลงไปอีก
ถ้าสุนัขเคยฝึกให้อยู่ในที่เฉพาะก็จะยิ่งง่าย
แต่สุนัขบางตัวก็อาจยิ่งมีอาการตื่นกลัว
เมื่อถูกจำกัดบริเวณหรืออยู่ในที่แคบ
โดยเฉพาะในกรงของสุนัข
กรณีนี้ไม่ควรให้สุนัขอยู่ในกรง
ขั้นที่ 2
จำกัดบริเวณสุนัข วัตถุประสงค์
เพื่อลดการทำลายข้าวของในบ้านให้น้อยลง
ถ้าเจ้าของทำได้ ควรจำกัดบริเวณที่สุนัขอยู่ให้แคบลง
เพื่อลดการทำลายข้าวของ
ขั้นที่ 3
หาอะไรให้สุนัขทำ
อย่างเช่นหาของเล่น พวกของแทะหรือกระดูกเทียม
หรือสิ่งที่สุนัขชอบ ของเล่นที่มีโพรงข้างใน
อาจใส่ขนมล่อใจที่สัตว์ชอบสุนัข
เพื่อให้สุนัขพยายามแคะออกมากิน
หรือห่อขนมไว้ในกระดาษหนังสือพิมพ์
แล้วใส่ไว้ในกล่องอีกทีแล้วปิดเทปกาวทับ
สุนัขก็จะพะวงกับการเอาขนมออกจากกล่อง
สุนัขก็จะไม่มีเวลาไปทำลายข้าวของในบ้าน
แต่สุนัขบางตัว
ก็ไม่ยอมรื้อขนมออกจากกล่องที่ท่านทำไว้
ท่านเจ้าของต้องพยายามล่อใจ
ให้สุนัขสาละวนกับของที่ให้ไว้ก่อนออกจากบ้าน
ขั้นที่ 4
ภาวะที่สุนัขจะยอมรับเมื่อเจ้าของออกจากบ้าน
ขั้นนี้เป็นขั้นที่สำคัญที่สุด
และต้องใช้ระยะเวลานานที่สุด
ท่านต้องใจเย็นมากๆ
สุนัขที่เฝ้าดูเจ้าของเก็บกุญแจบ้าน,
กุญแจรถ, กระเป๋าถือฯลฯ
เวลาที่เจ้าของออกจากบ้าน
สุนัขที่เป็นโรคเหงาจะเริ่มแสดงอาการ
เมื่อเจ้าของก้าวไปที่ประตูบ้าน
เจ้าของต้องรอจนกว่าสุนัขจะคลายความตื่นเต้น
หรือกังวลลง เพื่อให้สุนัขตายใจ
ว่าท่านไม่ได้กำลังออกจากบ้าน
และเจ้าของต้องไม่เปิดประตู
หรือทำท่าว่าจะออกไปจากบ้าน
เมื่อสุนัขผ่อนคลายความกังวลลง
ให้ขนมหรือของที่สุนัขชอบ
เจ้าของอาจต้องทำท่าอย่างที่กล่าวซ้ำหลายๆ ครั้ง
เพื่อให้สุนัขไม่แสดงอาการกังวล
ขั้นต่อไปคือทำท่าทางเก็บข้าวของออกจากบ้าน
เดินตรงไปที่ประตูแล้วเปิดประตู
แต่อย่างก้าวเดินออกไปเป็นอันขาด
แค่เดินไปเปิดแล้วปิด ทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง
จนสุนัขรู้สึกชินและเฉยจึงให้รางวัลล่อใจ
ขั้นตอนต่างๆ ที่ทำซ้ำ
ควรเว้นระยะห่างประมาณ 5-10 นาที
ขั้นต่อไปคือ
ทำท่าเก็บข้าวของออกจากบ้านเดินไปที่ประตู
เปิดประตูแล้วเดินออกไปแต่อย่าปิดประตู
ทำซ้ำเช่นเดิมจนสุนัขชินจึงให้รางวัล
ขั้นต่อมาคือ
ทำท่าเหมือนจะออกจากบ้าน
แล้วเดินไปที่ประตู เปิดแล้วเดินออกจากประตู
พร้อมกับปิดประตู
แต่ท่านเจ้าของต้องรีบเข้ามา
ถ้าสุนัขเริ่มมีความระแวง
ถ้าสุนัขเฉยท่านรอสัก 30 วินาที
ค่อยเดินเข้าประตูมา
เจ้าของสุนัขต้องทำเช่นที่กล่าวซ้ำๆ
แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาที่อยู่นอกประตู
ให้นานขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าสุนัขจะชิน
เช่นเพิ่มเวลาจาก 30 วินาทีเป็น 1 นาที,
2 นาที, 5 นาที, 10 นาที, 20 นาที,
เพิ่มไปเรื่อยๆ จนเป็นชั่วโมง
สุนัขแต่ละตัวอาจต้องการเวลาในการฝึกแตกต่างกัน
เมื่อเพิ่มเวลาอยู่นอกบ้านของเจ้าของได้เป็นชั่วโมง
ก็ง่ายที่จะเพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ จนถึง 7-8 ชั่วโมง
สุนัขจะกังวลมากเมื่อถูกทิ้งไว้ตัวเดียว
โดยแสดงอาการต่างๆ เช่น ครางหงิ๋ง ๆ ,
เห่า, ขุด, แทะ, หอน,
ปัสสาวะเรี่ยราด, วิ่งวนไปรอบๆ ,
พยายามหลบหนีออกนอกกรงหรือบ้าน
สุนัขที่ขี้เหงามักจะอ้อนเจ้าของค่อนข้างมาก
และต้องการเวลาทักทายเมื่อพบเจ้าของ
หลังเวลาเลิกงาน นานกว่าสุนัขปกติ
สุนัขพวกนี้มักเดินตามเจ้าของไปรอบบ้าน
กระโดดหรือเข้ามาคลอเคลีย เห่า ครางหงิ๋ง
หรือเลียมือและหน้าเจ้าของเป็นเวลานาน ๆ
ถ้าสุนัขไม่ดีขึ้นจะทำอย่างไร
โรคเหงาเป็นอาการที่รักษาได้ยาก
และสุนัขบางตัวก็ไม่คลายกังวลเมื่อเวลาอยู่ตัวเดียว
ถ้าเป็นเช่นนี้
ท่านลองส่งสุนัขไปฝึกกับครูฝึกสุนัข อาจจะช่วยได้
หรือบางรายอาจต้องให้ยาคลายเครียด
ซึ่งได้ผลดี ปรึกษาสัตวแพทย์ดูได้
สิ่งสำคัญในการฝึก
สุนัขเป็นสัตว์สังคม และเป็นเรื่องปกติ
ที่สุนัขจะคิดถึงเจ้าของเมื่อเวลาเจ้าของไม่อยู่
อย่าให้สุนัขตื่นเต้นเวลาคุณออกจากบ้าน
ฝึกให้สุนัขสงบเมื่อเวลาคุณกลับเข้าบ้าน
จำกัดบริเวณสุนัขตลอดช่วงระยะเวลาการฝึก
ให้ของที่สุนัขกัดแทะได้เพื่อไม่ให้มีเวลาไปทำลายข้าวของ
หาอะไรให้สุนัขทำเวลาอยู่ตัวเดียว
ให้ทำตามขั้นตอนทั้ง 4 ที่กล่าวมา มักได้ผลดี
อาจต้องพึ่งยาในรายที่ไม่สามารถฝึก
ให้คุ้นกับการอยู่ตัวเดียวได้
เอกสารอ้างอิง
Campbell WE: Behavior problems in dogs,
1992, American Veterinary Pubs. Goleta, CA.
Hart BL; Hart LA: Canine and feline behavioral therapy,
1985, Lea & Febiger. Philadelphia, PA.
น.สพ.พัฒนา รัตนชินกร
**************
Create Date : 20 ธันวาคม 2549 | | |
Last Update : 20 ธันวาคม 2549 1:07:25 น. |
Counter : 572 Pageviews. |
| |
|
|
|