มานวดหัวแก้นอนไม่หลับกันเถอะ
เคยเป็นมั้ย รู้สึกอ่อนเพลียมากหาวแล้วหาวอีก ง่วงมาก แต่สมองไม่ยอมหลับ?

บางครั้งก็ตื่นกลางดึก แล้วไม่ยอมหลับอีกเลย หลายคนมีวิธีจัดการกับสิ่งเหล่านี้ แต่อีกหลายหลายคน ไม่รู้จะจัดการยังไง บังคับสมองก็ไม่ได้ ลองมาดูวิธีจัดการแบบอายุรเวชกันดีว่า คุณสามารถทำให้ตัวเองแบบง่ายง่าย แค่คุณเตรียมสิ่งต่างต่างดังนี้

1. น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ หรือ น้ำมันงา 25-30 มล.
2. ศรีษะคุณ แฮะ แฮะ

ขั้นตอนต่อไป ก็คือการวอร์มน้ำมันให้อุ่น ห้ามเข้าไมโครเวฟเด็ดขาด วิธีก็คือ
ทำให้ร้อนในน้ำ นำน้ำมันที่เราเตรียมไว้ ใส่แก้วแล้วนำไปทำให้ร้อนในถ้วยน้ำร้อนที่วางบนที่อุ่นกาแฟสำหรับคนที่ไม่มี ก็ใช้วิธีต้มน้ำในกระทะ ใช้กระทะไฟฟ้าก็ได้ แล้วนำแก้ววางไว้อีกทีเหมือนเวลาเราตุ๋น ทิ้งไว้เบาเบาประมาณ 5 นาที ลองแตะดูถ้าน้ำมันอุ่นจัด ใช้ได้ จะดีมากถ้าคุณสามารถทำให้น้ำมันอุ่นตลอดเวลาี่เรานวด

วิธีนวดศรีษะ เราจะหาเส้นกลางศรีษะเป็นเส้นยาวตลอดแนวแบบผ่าซีก เส้นตรงกลางนี้เราแบ่งเป็น 3 จุด ที่จะนวด

จุดที่1 - ใช้ฝ่ามือซ้ายวัดโดยวางเส้นแรกที่ข้อมือตรงบริเวณคิ้ว แนบกับหน้า จุดแรกคือจุดที่นิ้วกลางแตะเส้นกลางศรีษะ ใช้น้ำมันอุ่นหยดจุดนี้ ใช้นิ้วกลางมือขวานวดวนตามเข็มนาฬิกากดนิ้วลงมีน้ำหนักพอรู้สึกว่าโดนกด นวดวนเบาเบานับ 1-5 ช้า ปล่อย แล้วทำใหม่ประมาณ 6-7 ครั้ง

จุดที่2 - ใช้ 3 นิ้วชิดติดกัน คือนิ้วชี้ กลาง นาง นับจากจุดที่1 คือจุดที่ 2 วิธีทำก็คือหลังนวดกดจุดที่1 เราวางนิ้ววัดต่อจุดที่ 2 เมื่อได้แล้วก็หยดน้ำมันอุ่นแล้วกดจุดนวดวนแบบเดียวกับจุดแรก

จุดที่3 - ใช้ 4 นิ้วชิดติดกัน คือ ก้อย นาง กลาง ชี้ นับจากที่จุดที่ 2 คุณก็จะพบจุดที่ 3 แล้วก็หยดน้ำมันทำเหมือนเดิม

สิ่งต่างๆ ที่คุณทำก็คือ ก็หยดน้ำมันอุ่นเพื่อบำรุงหนังศรีษะ และทำให้รู้สึกสบายและช่วยลดแรงเสียดทานลดความเจ็บจากการนวดวน ส่วนจุดที่คุณกดนี้ จุดที่เป็น เป็นจุดรวมประสาทของส่วนหน้าของศรีษะ คือ บริเวณด้านหน้าทั้งหมดและหน้าผาก เป็นการผ่อนคลายและปรับสมดุล จุดที่สอง สำคัญมากเพราะเป็นจุดกึ่งกลางศรีษะ เป็นจุดรวมศูนย์ประสาททั้งหมดในร่างกาย จุดที่ 3 คือเป็นจุดของศูนย์รวมประสาทด้านหลัง ตามหลักของอายุรเวชเหมือนกันกับหลักการฝังเข็มของจีน คือการไปปรับความสมดุลของจุดที่ประสาทต่อเนื่องเชื่อมกันในแต่ละจุด หากแต่ของจีนเป็นฝังเข็มแต่ของอินเดียเป็นการกดจุด คุณสามารถทำได้บ่อย หรือถ้าคุณลองสังเกตุ หากคุณรู้สึกปวดศรีษะ คุณแค่ลองกดแล้วนวดวนเบาเบาจุดกลางศรีษะ คุณก็จะรู้สึกสบายขึ้น

สิ่งที่จะแนะนำคือ การหยดน้ำมันอุ่นในแต่ละจุดยิ่งมากยิ่งสบายถ้าคุณไม่กลัวศรีษะมัน ถ้าคุณรู้สึกว่าหาจุดที่ 1 และ 3 ยาก คุณอาจใช้จุดเดียวคือจุดกลางศรีษะก็ได้ สำหรับผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลัีบมานาน การนวดวนทำได้มากกว่า 6-7 ครั้ง อาจทำ 10 ครั้งในแต่ละจุด

การนวดวนก็ไม่จำเป็นต้องทำก่อนนอน คุณสามารถทำได้ตลอดเวลาที่คุณสะดวก หลังนวดกดจุดถ้ามีน้ำมันเหลือคุณสามารถใช่ชโลมให้ทั่วศรีษะแล้วหมักทิ้งไว้เป็นการบำรุงผม แล้วค่อยสระก็ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ จำไว้นะคะ น้ำมันต้องอุ่นตลอดเวลาที่นวดคะ

ทดลองดูนะคะ แล้วคุณจะหลับสบายทั้งคืนเชียว อ้อ! ไม่ใช่ทำครั้งแรกแล้วหลับปุ๋ยยาวรวดเดียวนะคะ แต่คุณจะรู้สึกได้ว่าคุณหลับได้ง่ายขึ้น ยาวนานขึ้น ทำหลายครั้งเมื่อร่างกายปรับสมดุลแล้ว คุณก็หลับสบาย ทำได้เรื่อยเรื่อย และบ่อยบ่อยคะ




Create Date : 28 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2553 10:23:13 น.
Counter : 1551 Pageviews.

1 comment
เมื่อคุณเป็นนักพลังจิต
หยิบหนังสือแมกกาซีนเก่ามาอ่าน เจอคอลัมภ์นี้ น่าสนใจ เค้าเล่าถึงการร้องเพลงออกมาอย่างจริงจัง และตั้งใจ ว่านอกจากเป็นการออกกำลังปอดแล้ว เวลาที่เราร้องเพลงจิตใจย่อมเปี่ยมด้วยความสุข มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยสีสัน (ยกเว้นเพลงเศร้านะจ๊ะ) แล้วยังพูดถึงการอธิษฐานจิต การสวดมนต์ภาวนา การเจริญสมาธิ การทำวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งการทำเหล่านี้ ล้วนใช้จิตเป็นเครื่องกำหนดให้เกิดความสุขทั้งสิ้น

เค้าบอกว่าเวลาที่คุณรู้สึกเครียดมากมาก ขอคุณแค่นั่งต่อหน้าพระพุทธรูป หรือเทวรูปหรือศาสดาของศาสนาที่คุณนับถือ ไม่ต้องกราบ ถ้าไม่อยากกราบ ไม่ต้องสวดมนต์ภาวนา ขอแค่นั่งตรงหน้า ค่อยค่อยพิจารณาตั้งแต่พระเกศลงมา พิจารณาพระพักตร์และทุกองค์ประกอบของพระพักตร์อย่างพินิจพิเคราะห์ ใจเย็นเย็น แล้วคุณจะเห็นจะพบความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ที่เปล่งออกมาจากพระเนตร แววพระสรวลน้อยน้อยที่ประดับบนพระโอษฐ์ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากและในเวลาอันรวดเร็วแบบที่คุณคิดไม่ถึงและเหลือเชื่อทีเดียวหรือ ถ้าคุณกำลังโกรธใครบางคนอย่างมากมากจนแทบอยากจะฆ่าซะให้ตายไปกับมือ หรือชาตินี้ไม่ต้องมาเผาผีกัน (คำนี้ได้ยินบ่อยมาก) ก็ขอแค่ไปนั่งหน้าพระพุทธรูป ไม่ต้องสวดมนต์ไม่ต้องอธิษฐานแค่ไปนั่งเฉยเฉยต่อหน้าพระสักครู่ สิ่งที่คุณจะได้รับคือความเย็นด้วยพระเมตตาบารมีที่แผ่ปกคลุมเราไว้ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้ การทำเช่นนี้ คือนั่งเงียบเฉยนั้นคือการเรียกสติให้ค่อยกลับมาทีละน้อย ขณะที่สติค่อยค่อยคืนกลับมานั้นจิตคุณจะเริ่มเข้าสู่สมาธิ จิตจะเปิดกว้าง และในตอนนั้น ไม่เพียงคุณจะได้รับความเย็นฉ่ำเท่านั้น แต่คุณยังได้รับการสัมผัสรู้เข้าไว้ด้วย คือ คุณจะได้สัมผัสถึงความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในใจค่อยค่อยคลายลงเมื่อคุณกวาดสายตามองไปรอบตัว พิจารณาสถานการณ์พิจารณาถึงเหตุปัจจัยที่ก่อให้เกิดความโกรธขึ้นได้คุณย่อมเห็นผลที่ตามมา คือผลทางบวกและทางลบ ซึ่งสัณชาตญาณจะเป็นตัวบอกให้คุณเลือกเอง

ส่วนเรื่องการสวดมนต์และอธิษฐานจิตนั้น คือการติดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยคำพูดหรือความคิดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ความตั้งใจจริงในอันที่จะติดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเชื่อมั่นและศรัธาอย่างปราศจากความสงสัยว่ามีพลังอันสูงส่งที่สามารถช่วยเหลือเราได้

การอธิษฐานจิตเพื่อขอในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันเป็นยอดปรารถนานั้น จะเกิดได้เมื่อเรามีความตั้งใจ มีความเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราอธิษฐานถึงอยู่ การตั้งใจจริงคือการตั้งสติให้มั่น รวมพลังทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวให้เป็นหนึ่งเหมือนดังลำแสงไฟที่พุ่งผ่านสาดส่องไปยังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรากำลังอธิษฐาน ถ้าท่านสังเกตุจะเห็นว่า สิ่งที่เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงโดยเฉพาะสิ่งที่เมื่อขอแล้วจะก่อให้เกิดผลทางบวก ท่านจะได้รับคำตอบเสมอและคำตอบนั้นน่าพอใจด้วย ดังนั้น การใช้พลังจิตเพื่อติดต่อสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยสมาธิที่แน่วแน่ ท่านสามารถเชื่อมั่นได้เลยว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทรงรับรู้รับฟังและจะประทานพรให้ตามที่ขอแน่นอน

เวลาที่เราไปหาหมอดูหรือนักพยากรณ์ เรามักจะได้รับคำแนะนำให้ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิเสมอ นั้นก็คือการทำจิตให้มีสมาธินั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมหมั่นทำความดี ปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบคุณความดี คิดดี พูดดี ทำดี มักให้ผลทางบวกเสมอ แล้วที่สำคัญ อย่ามัวแต่อธิษฐานภาวนารอความช่วยเหลืออย่างเดียว ช่วยและพึ่งตัวเองก่อนเสมอนะจ๊ะ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดังนี้



Create Date : 29 ตุลาคม 2553
Last Update : 29 ตุลาคม 2553 21:40:00 น.
Counter : 701 Pageviews.

0 comment
สาวมากฝันกับหนุ่มพอเพียง
: เราจะแต่งงานแล้วละ เพื่อนสาววัย 45 บอกกลุ่มเพื่อน เพื่อน
: ดี ดี ลงคานได้แล้วอีกหนึ่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสียงหลายหลายคนแสดงความยินดี
: แล้วเป็นใคร? อยู่ไหน? แต่งแล้วยังไงต่อ? อยู่บ้านใคร? จะมีลูกมั้ย?
.....???? คำถามมาเป็นกระบุง ก็เพื่อนอยากรู้นี่นา
: เค้ามีสวน ทำอะไรนิดหน่อยอยู่ต่างจังหวัด ชอบความสุขสงบ ชีวิตเรียบง่าย พอเพียง กลัวเป็นหนี้ที่สุด นี่เค้ายังว่าเราเลยว่าทำอะไรเยอะแยะมากมาย จะหาเงินหาหนี้ซื้อสมบัติอะไรเยอะแยะ ไปทำไม
: แล้วยังงงี้ทำงัย เธอต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกับแฟนเลยเหรอ?
: ไม่หรอก ก็ทุกอย่างคงเหมือนเดิม เพราะแฟนอยู่ต่างจังหวัด เสาร์อาทิตย์วันหยุดก็เจอกัน ให้เราหยุดทำงาน ไปอยู่ที่นั่นนะ ไม่ไหวหรอก สำหรับเรานะ งานคือความสุข เงินคือความสบาย และ ความรักคือยาฃูกำลังจ๊ะ
: แล้วแฟนยอมเหรอ? อายุตั้งเท่านี้แล้ว เราว่าเค้าคงอยากมีเพื่อนอยู่ด้วยตอนแก่น๊ะ จะได้ดูแลกัน
: โอ๊ย! ยังไงก็ต้องยอม เรายังอยากทำอะไรอีกเยอะ มีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ และอีกหลายอย่างทำแล้วยังไม่สำเร็จ เอาไว้รวย รวย มีเงินเยอะเยอะก่อนแล้วค่อยอยู่ต่างจังหวัด ใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบนั้น

หายไปนาน สำหรับเพื่อนคนนี้ สองถึงสามเดือนก็จะได้ข่าวสักครั้งหนึ่ง

: งานเยอะ แล้วก็ต้องคอยวิ่งไปมา กรุงเทพ - ต่างจังหวัด ทุกอาทิตย์ เพราะบางครั้ง เราก็ต้องเป็นฝ่ายไปบ้าง เหนื่อยมาก
: แฟนยังโอเคป่าว ไม่บ่นเหรอ??
: ไม่หรอก เค้าเข้าใจหละ

เสียงเพื่อนสาวบอกพร้อมกับทอดถอนหายใจ

ไม่นานมานี้ เรามาเจอกัน ดูลายมือให้หน่อย มีอะไรคืบหน้า มีโชคมีลาภเปล่า? งานจะเวิร์คมั้ย

งานยังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ ยังต้องรอไปอีกหน่อย เพราะมันจะช้า แต่เธอไม่มีปัญหากับคู่เหรอ เราว่าเธอต้องระวัง ใจเย็นนะช่วงนี้ เพราะในมือมันบอกว่า อาจมีปัญหากับคู่ หรือ ผู้ใหญ่ที่ใกล้ตัว อาจมีเรื่องไม่พออกพอใจเรา ทำให้มีข้อขัดแย้ง ให้เหนื่อยและทุกข์กังวลใจ

: ก็อย่างที่เธอบอกหละ เค้าไม่พอใจ บอกให้เราขายคอนโดที่นี่ แล้วไปอยู่ต่างจังหวัดด้วยกัน ถ้าอยากทำงานก็ให้ทำที่โน่น เค้าไม่ไหวแล้ว เหนื่อยและก็ขี้คร้านคอยตอบคำถามเพื่อนที่คอยถามว่า อ้าว แล้วแฟนหายไปไหนละ นี่เราก็ว่าจะย้ายไปอยู่ที่โน่นแล้วละ ขายคอนโดได้ก็ไปอยู่ถาวรเลย
: แล้วจะอยู่ได้เหรอ? เสียงเพื่อนแย่งกันถาม เธอชอบทำงาน ไปโน่นนี่ พบปะคนใหม่ใหม่ ไม่อยู่นิ่งนิ่งกับที่ เดี๋ยวคงเฉา
: ก็ต้องทำให้ได้ ต้องปรับตัว ..................

คุณคิดยังไง?? เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย

ชีวิตคืองานจริงหรือเปล่า คู่ความรักเป็นแค่ยาชูกำลังใช่หรือ
เห็นชีวิตของคนวัยทำงานหลายหลายคนเป็นแบบนี้ สามีมีกิ๊ก มีอีหนู แล้วบอกว่าภรรยาไม่สนใจ เห็นงานสำคัญกว่า ไม่เอาใจเหมือนเดิม ฝ่ายภรรยาก็ว่าไม่จริง หน้าที่ภรรยาคงเหมือนเดิม แถมอีกหลายคนมีหน้าที่แม่เพิ่มด้วย แล้วยังงี้ยังว่าบกพร่องอีกเหรอ เหนื่อยแสนเหนื่อยรักเอาใจลูกเอาใจสามีไม่เคยขัด ยังไม่เห็นใจหากิ๊กหาอีหนูให้ช้ำใจ หลายคนทนไม่ไหวขอเลิก หลายคนทำใจไม่ได้สติแตก ทำร้ายตัวเองบ้าง ทำร้ายคู่กรณีบ้าง

อยากให้ตั้งสติให้ดี คิดดูใหม่ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ งานสำคัญ แต่ไม่อยากให้สำคัญกว่าการใช้ชิวิตคู่ ถ้าคุณคิดและตัดใจสินมีคู่ คุณควรมีเวลาให้กัน เข้าใจกัน รู้จังหวะและเวลาที่ต้องการกันและกัน บางคนติดคู่นัวเนียจนน่ารำคาญ บางคนทำงานทิ้งห่างจนน่าตกใจ ถ้าเพียงเรารู้และเข้าใจว่า บางครั้งเราก็ต้องมีเวลาส่วนตัว มีมุมและชีวิตส่วนตัว มีความลับบ้าง มีอะไรที่เป็นของเราคนเดียวไม่ต้องแชร์ ชีวิตคู่คงน่ารื่นรมย์ เราไม่ต้องรู้เรื่องเค้าทุกเรื่อง เราไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดตัวติดกันดังหนึ่งคู่แฝด ไม่ต้องคอยจัดการเรื่องเงินให้ ความสุขคงมีซึ่งกันและกันไม่เสื่อมคลาย แค่คุณรู้หน้าที่ รู้ความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน แค่นั้นชีวิตคงดีมีเพื่อนอยู่ด้วยตอนแก่ไม่ต้องกังวลจะเหงาอยู่คนเดียวตอนตาย คุณว่าจริงมั้ย อ้อ! เกือบลืมไป ไอ้เรื่องเซ็กซ์ยังคงสำคัญอยู่ อย่าปล่อยปละละเลยจนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรู้ึสึกขาดละ ก็มันเป็นเหมือนยาชูกำลังนี่นา แฮะ แฮะ







Create Date : 15 กันยายน 2553
Last Update : 15 กันยายน 2553 9:06:26 น.
Counter : 690 Pageviews.

0 comment
ความรัก ความตาย ความสวยงาม
ไปงานศพมาคะ

ผู้ตายเป็นลุงเขย อายุก็ไปตามวัยอันควรคือ แปดสิบกว่าปลายปลาย ในงานเป็นไปด้วยดี ไม่มีความเศร้าโศกให้รู้สึกหดหู่ มีแต่ความรู้สึกสุขใจ อิ่มใจ และอบอวลเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

บางคนอาจบอกว่าทำไมไม่โศกเศร้า ไม่อาลัยหรืออย่างไร? มีซิอันนั้นต้องมีแน่นอน ความอาลัย แม้แต่ผู้เป็นภรรยาและบุตร ต้องอาลัยแต่ไม่โศกเศร้าเพราะทุกคนยอมรับว่ามันเป็นวัฏสงสาร เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา

ถามป้าว่า เสียใจมั้ย ป้าบอกว่า ก็แก่แล้ว ลูกลูกก็บอกว่ามันเหมือนผลไม้นั่นแหละ เมื่อมันสุกคาต้นนาน ถึงวันก็ต้องล่วงหล่น ชีวิตคนก็เหมือนกัน ถึงเวลาก็ต้องไป (ป้าเป็นคนจีน ไม่เคยเข้าวัดฟังธรรมมะแบบคนไทย) ป้าบอกเพียงว่าเสียดาย ไปเร็วไปหน่อยยังไม่ได้คุยกันเลย เพราะก่อนตายยังช่วยงานอยู่เลย เหนื่อยไปนอน แล้วก็ช๊อคไปไม่ทันรู้เรื่อง ไปโรงพยาบาลก็เข้าไอซียูเลย

ส่วนลูกลูกก็บอก อย่าเสียใจ ถ้าคุณได้ทำหน้าที่ลูกดูแลพ่อแม่อย่างสมบูรณ์แล้ว บางคนร้องไห้ฟูมฟายเมื่อพ่อแม่ตายจาก (แป๊ปเดียว) เพียงเพราะรู้สึกใจหายเหมือนทำอะไรหายไป แต่เมื่อยามท่านเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ ไม่เคยหรือน้อยครั้งมากที่จะกลับมาดูแล เพราะมัวแต่อ้างเวลา อ้างงาน เลยไม่ได้มาดูแล อันนั้นพวกลูกลูกของลุงบอกไม่มีประโยชน์ เพราะคุณไม่ได้ให้ความสำคัญของพ่อแม่เป็นอันดับหนึ่ง

คุยต่อดีกว่า ในงานอบอวลด้วยความรัก เพราะญาติพี่น้องมาจากทุกสถานที่ กรุงเทพฯ หรือ จังหวัดที่ไกลจากสถานที่จัดงาน ก็ยินดีมากันพร้อมหน้า ทุกคนเต็มใจมาเคารพศพผู้ตาย ได้มาเจอญาติพี่น้อง พูดคุยทักทาย รุ่นหลานหลานที่ไม่รู้จัก ก็ได้รู้จักกัน เป็นการต่อยอดวงศาคณาญาติได้เป็นอย่างดี
งานศพเป็นงานที่ญาติพี่น้องมาครบมากกว่าวันแต่งงาน เพราะเป็นวันสุดท้ายที่ได้เจอหน้าผู้ตาย เป็นโอกาสครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย ดังนั้น ถ้าต้องเลือกไป คงเลือกงานศพแน่นอน ไม่รู้คิดเหมือนกันหรือเปล่า

มางานศพคราวนี้ก็เลยมีโอกาสเจอเพื่อนเก่า เพื่อนบอกว่าเธอสนใจชอบดู ดวง จะพาไปหาหมอดูลายมือ แม่นมาก (อยู่ในอำเภอส่วนที่ติดชายแดนไทยมาเลย์) ได้ไปหาเพื่อนคนที่อยู่ที่นี่ด้วย ไม่เจอกันตั้งสิบกว่าปีแล้ว ค่าดูไม่แพง ไอ้ตัวเราก็ชอบ อยากเจออาจารย์ดี เก่งเก่ง เพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติม ปรากฏว่า พอยื่นมือมา อาจารย์ดูดวงก็ถามว่า จะมาดูอะไร เราก็บอกว่า กำลังทำเรื่องติดต่อธนาคาร อยากซื้อบ้านเพื่อทำร้านค้า อาจารย์ ก็บอกว่า .......?......บอกว่า ไม่ต้องห่วง มีคนช่วยได้แน่ แต่ในสถานที่ประกอบการเดิม มีผู้หญิงสวยมาก ใส่ชุดสีทอง ชอบเราเค้าจะช่วยถ้าเราบูชาเคารพเค้าดีดี เค้าจะช่วยให้รวยมาก เสียดายที่เราอยู่ถึงกรุงเทพฯ ไม่อย่างงั้นจะไปตั้งให้ แต่ก็ให้คำแนะนำในการปฏิบัติและขั้นตอนการบูชา ส่วนเพื่อนอีกสองคนที่ไปด้วยกัน ก็คนหนึ่งบอกว่า .....?....บอกว่า ดวงกำลังตกหนัก ต้องสะเดาะเคราะห์โดยด่วน เนี่ย .......?........บอกว่า ดูต่อไม่ได้แล้ว เคราะห์หนักมาก ส่วนอีกคนหนึ่งก็บอกว่า ....?....บอกว่า ดวงนี่จะได้ลาภได้โชค ก็ไม่ได้ มีอุปสรรคติดขัด ต้องทำพิธีเสริมดวงชะตา โดยด่วนเหมือนกัน (เพื่อนคนนี้เชื่อและศรัธาหมอดูคนนี้มาก) ทั้งสองคนรีบตกลงทันที่ไม่ถามค่าใช้จ่าย คุยนัดแนะเสร็จสรรพ ถามหาค่าใช้จ่าย ไม่มากไม่น้อย แค่สี่พัน คนละสองพัน ต่อรองไปมา เหลือสองพันเจ็ด นัดกันวันต่อไป

เฮ้อ! เสียดายสตางค์แทน ห้ามก็ไม่ทัน ตกลงมัดจำไปแล้ว พอถามหลังจากนั้นก็ยืนยันว่า มีหลายคนทัก ทำแล้วสบายใจ ไม่เป็นไร

พอวันต่อมาช่วงเย็น หลังจากไปทำพิธีมา คุยกันเป็นเรื่องเฮฮา บอกว่ารู้สึกเสียค่าโง่ไปตั้งสองสามพัน แต่ก็ยังมีความหวังจะรอดูต่อไป เพราะหมอดูบอกว่า หลังเสร็จพิธีแล้ว คุณจะมีจะได้บ้าน ได้อสังหาริมทรัพย์เพิ่มอีกหลายแห่ง เอาเป็นว่าตัวใตนตัวมันแล้วกัน

ดูซิ ไอ้เราก็มาคิด ดูชีวิตคนตายที่เพิ่งไปมา ไม่รู้ไม่สนเรื่องดวง วันวันทำงานอย่างเดียว ชีวิตมีแต่ครอบครัวและงาน ปัญหาคือเรื่องที่มีไว้ให้แก้ไข ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่เครียด ไม่ได้ก็หยุดก่อน หายเหนื่อยว่ากันใหม่หาทางแก้ไขใหม่ คำสั่งสอนที่กล่าวแก่ลูกลูก คือความอดทน ใช้สติ ใจเย็น แต่ไอ้คนเป็นที่อยู่ข้างข้างรอบตัวเรา ชีวิตหวังพึ่งดวง พึ่งหมอดู เป็นน้ำทิพย์คอยชโลมใจ เหมือนยาอาหารเสริมเพิ่มความหวังให้ชีวิตไม่เหี่ยวเฉา แต่ต้องคอยหลบเลี่ยงตอบคำถามสามี คอยหาคำตอบที่สามีฟังแล้วมั่นใจว่าไม่โดนดุโดนว่า แถมบอกเราว่า เธออย่าเผลอไปเล่าเชียวนะ เพราะฉันอุตสาห์วางแผนตั้งนานเพื่อโกหกสามีแอบไปทำพิธีนี้ ฮะ ฮะ เลยได้ความลับไว้แบล๊คเมล์กินข้าวฟรีอีกหลายมื้อ เอวังจึงเป็นไปด้วยประการฉะนี้แล



Create Date : 31 สิงหาคม 2553
Last Update : 31 สิงหาคม 2553 9:33:43 น.
Counter : 521 Pageviews.

2 comment
เซ็กซ์ซซซ กับมือ อยากรู้ละซี้
คุยเรื่องเซ็กซ์ จะว่าไม่สำคัญก็ไม่แน่ใจ จะว่าจำเป็นที่สุดในชีวิตก็ไม่กล้ายืนยัน แต่ที่แน่ แน่ หลายคู่ หลายคน มีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตคู่ เพราะเจ้านี่เป็นเหตุก็เยอะ

คุยกันเล่น เล่น นะ พอดี บ่อยครั้งที่ได้ยินบรรดาสาว สาว คุยกัน เรื่องความสุขสมกับคู่รัก หรือสามี บางคนก็บอก ว่าไม่เค้ย ไม่เคย รู้จักเล้ย ไอ้ที่ว่าสุขสุดสุดนะ บางคน ก็บ่นสามีแข็งแรงสุดบรรยาย จนเธอบอกจะตายอยู่แล้ว และก็อีกหลายคนบอก แหม ไอ้สามีหรือคู่รักฉันนะมันทื่อเอาแต่หลับ บอกเหนื่อยอย่างเดียว ไอ้จะรักก่อนก็แสนกระดาก (พอดีสาวสาวที่มาคุยกันอายุเลยเลขสี่แล้วนะจ๊ะ เพราะถ้าเป็นสาวสมัยนี้คงไม่มีบ่นเรื่องแบบนี้เนอะ) ไอ้ตัวเราก็ไม่รู้ทำไง ได้แต่ฟังแล้วก็คิดว่า เออ!! ถ้ามีเทคนิคในการเลือกคู่สุขสมก่อนตัดสินใจก็ดี คิดได้แบบนี้แล้วก็เลยมาคุยเรื่องมือกันดีกว่า มีอะไรพอบอกได้บ้างถ้ารู้จักดู ง่ายไม่ยากจ๊ะ

อันที่หนึ่ง ผู้หญิงหรือผู้ชายที่มีมือสวย เรียว หนา นุ่ม เนื้อตรงโคนนิ้วหัวแม่มือเยอะมาก (เนินศุกร์) เส้นชีวิตโค้งกว้างเกือบกลางฝ่ามือ แบบนี้ ชอบอ่อนโยน อ่อนหวาน ฉอเลาะ เอาใจมากมาก เป็นคนน่ารัก มีเสน่ห์ เต็มเปี่ยมด้วยความรักจนทะลักเลยละ

อันที่สอง ผู้ชายหรือผู้หญิงที่มีเส้นแยกขี้นลงระหว่างเส้นใจและเส้นสมอง (เส้นกลางมือและเส้นบนใกล้โคนนิ้วมือ) พวกนี้อารมณ์อ่อนไหว ความรักคือชีวิต มีแฟนที่มีเส้นในมือแบบนี้ เอาใจใส่มากมาก อย่าให้เขาหรือเธอรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งเชียว เพราะเขาและเธอจะเศร้าสุดสุด

อันที่สาม ถ้ามีเส้นโค้งบนสุดฝ่ามือใกล้โคนนิ้วมือ เรียกว่าเส้นวีนัส อาจเป็นเส้นโค้งสวยระหว่างช่องนิ้วชี้และนิ้วนาง หรือเป็นเส้นสั้นหน่อยก็ได้ แต่ รู้ไว้นะจ๊ะ เขาและเธอสุดแสนโรแมนติค ไม่ชอบบุ่มบ่ามจ๊ะ ช่วงสตาร์ทขอคำหวานหรือความเพลิดเพลินวอร์มหน่อย แต่รับรองคุ้มจ๊ะ

อันที่สี่ คือผู้ที่มีอันที่สองและสามรวมกัน ฮะฮ่า เอาสองความหมายรวมกัน อันนี้ เซ็กซ์คืออาหารจำเป็นในชีวิตจ๊ะ ไม่เคยเบื่อถ้าต้องกินวันละ 3 มื้อ

อันที่ห้า เส้นที่ว่าอันที่สาม คือเส้นวีนัส ถ้าเป็นเส้นตรงยาวลึกชัด หรืออาจสั้นหน่อย หรือ ขาดเป็นท่อน แต่สรุปรวมแล้วเป็นเส้นตรงแข็ง พวกนี้อย่าถามหาความโรแมนติคเลย เพราะเขาหรือเธอ เป็นคนตรง แข็ง ประมาณปากกับใจตรงกัน อาจน่าเบื่อสำหรับสาวโรแมนติค แต่จริงใจนะ พวกนี้เป็นพวกเครื่องดีเซล เครื่องร้อนช้า แต่อึดและทนจ๊ะ ส่วนเรื่องความถี่แล้วแต่สุขภาพและอายุจ๊ะ

แล้วถ้าไอ้เจ้าเส้นวีนัสนี่ เยอะเต็มไปหมด เป็นเส้นเล็กเส้นน้อยโค้งไปโค้งมาโค้งมั่ง ไม่โค้งมั่งละ พวกนี้เค้าว่าเครื่องสปาร์คติดเร็ว ดับเร็ว แต่ติดได้บ่อยและเร็วจ๊ะ

เฮ้อ !! เหนื่อยจัง อ่านแล้วก็ว่ามันยุ่งพิลึกไอ้เกิดเป็นคนนี่ แต่ยังไงก็อย่าจริงจังนะ รู้เอาไว้หาคนที่เหมาะสมกับเรา เอาไว้พอเป็นทางเลือกทางหนึ่งเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ ดีกว่าทดลองอยู่ทดลองนอนก่อน แล้วไม่ชอบหาเรื่องเลิกหรือทิ้งกันทีหลัง แต่ที่สำคัญ สุดท้ายแล้วเมื่อวันที่สังขารล่วงเลยไป เราจะรู้ว่าไอ้เซ็กซ์นะ มันก็เหมือนอาหารจานสวย น่ากิน น่าลิ้มลอง แต่พอนานไปก็จะเบื่อ ข้าวกับไข่เจียวหรือ ข้าวราดผัดกระเพราก็อิ่มท้องพอแล้ว ที่จะทำให้มีความสุข อยู่กันอย่างยั่งยืน คือความเข้าใจ ไว้ใจ ให้เกียรติเคารพซึ่งกันและกัน แค่นี้ก็อยู่กันจนขี้คร้านจะเบื่อแล้วละจ๊ะ





Create Date : 21 สิงหาคม 2553
Last Update : 22 มิถุนายน 2554 21:59:07 น.
Counter : 2179 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

BeautyAstro
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



สนใจในความงามและศาสตร์พยากรณ์ลายมือโหงวเฮ้ง ศึกษาและเปิดกิจการเสริมความงามดูแลสุขภาพผิวหน้าผิวกายตั้งแต่ปี 2544 ศึกษาลายมือและการพยากรณ์ตั้งแต่ปี 2545 ถึงปัจจุบัน ส่วนเรื่องโหงวเฮ้งเพิ่งได้มีโอกาสศึกษาในปี 2550 ยังเป็นช่วงแห่งการค้นคว้าและศึกษาเพิ่มเิติม
อย่างไรก็ตาม ยินดีมากถ้ามีเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนความรู้กัน
votechdirect.com
votech school
Supported by votechdirect.com .
New Comments
All Blog