เมื่อคุณเป็นนักพลังจิต
หยิบหนังสือแมกกาซีนเก่ามาอ่าน เจอคอลัมภ์นี้ น่าสนใจ เค้าเล่าถึงการร้องเพลงออกมาอย่างจริงจัง และตั้งใจ ว่านอกจากเป็นการออกกำลังปอดแล้ว เวลาที่เราร้องเพลงจิตใจย่อมเปี่ยมด้วยความสุข มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยสีสัน (ยกเว้นเพลงเศร้านะจ๊ะ) แล้วยังพูดถึงการอธิษฐานจิต การสวดมนต์ภาวนา การเจริญสมาธิ การทำวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งการทำเหล่านี้ ล้วนใช้จิตเป็นเครื่องกำหนดให้เกิดความสุขทั้งสิ้น

เค้าบอกว่าเวลาที่คุณรู้สึกเครียดมากมาก ขอคุณแค่นั่งต่อหน้าพระพุทธรูป หรือเทวรูปหรือศาสดาของศาสนาที่คุณนับถือ ไม่ต้องกราบ ถ้าไม่อยากกราบ ไม่ต้องสวดมนต์ภาวนา ขอแค่นั่งตรงหน้า ค่อยค่อยพิจารณาตั้งแต่พระเกศลงมา พิจารณาพระพักตร์และทุกองค์ประกอบของพระพักตร์อย่างพินิจพิเคราะห์ ใจเย็นเย็น แล้วคุณจะเห็นจะพบความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ที่เปล่งออกมาจากพระเนตร แววพระสรวลน้อยน้อยที่ประดับบนพระโอษฐ์ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากและในเวลาอันรวดเร็วแบบที่คุณคิดไม่ถึงและเหลือเชื่อทีเดียวหรือ ถ้าคุณกำลังโกรธใครบางคนอย่างมากมากจนแทบอยากจะฆ่าซะให้ตายไปกับมือ หรือชาตินี้ไม่ต้องมาเผาผีกัน (คำนี้ได้ยินบ่อยมาก) ก็ขอแค่ไปนั่งหน้าพระพุทธรูป ไม่ต้องสวดมนต์ไม่ต้องอธิษฐานแค่ไปนั่งเฉยเฉยต่อหน้าพระสักครู่ สิ่งที่คุณจะได้รับคือความเย็นด้วยพระเมตตาบารมีที่แผ่ปกคลุมเราไว้ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้ การทำเช่นนี้ คือนั่งเงียบเฉยนั้นคือการเรียกสติให้ค่อยกลับมาทีละน้อย ขณะที่สติค่อยค่อยคืนกลับมานั้นจิตคุณจะเริ่มเข้าสู่สมาธิ จิตจะเปิดกว้าง และในตอนนั้น ไม่เพียงคุณจะได้รับความเย็นฉ่ำเท่านั้น แต่คุณยังได้รับการสัมผัสรู้เข้าไว้ด้วย คือ คุณจะได้สัมผัสถึงความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในใจค่อยค่อยคลายลงเมื่อคุณกวาดสายตามองไปรอบตัว พิจารณาสถานการณ์พิจารณาถึงเหตุปัจจัยที่ก่อให้เกิดความโกรธขึ้นได้คุณย่อมเห็นผลที่ตามมา คือผลทางบวกและทางลบ ซึ่งสัณชาตญาณจะเป็นตัวบอกให้คุณเลือกเอง

ส่วนเรื่องการสวดมนต์และอธิษฐานจิตนั้น คือการติดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยคำพูดหรือความคิดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ความตั้งใจจริงในอันที่จะติดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเชื่อมั่นและศรัธาอย่างปราศจากความสงสัยว่ามีพลังอันสูงส่งที่สามารถช่วยเหลือเราได้

การอธิษฐานจิตเพื่อขอในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันเป็นยอดปรารถนานั้น จะเกิดได้เมื่อเรามีความตั้งใจ มีความเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราอธิษฐานถึงอยู่ การตั้งใจจริงคือการตั้งสติให้มั่น รวมพลังทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวให้เป็นหนึ่งเหมือนดังลำแสงไฟที่พุ่งผ่านสาดส่องไปยังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรากำลังอธิษฐาน ถ้าท่านสังเกตุจะเห็นว่า สิ่งที่เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงโดยเฉพาะสิ่งที่เมื่อขอแล้วจะก่อให้เกิดผลทางบวก ท่านจะได้รับคำตอบเสมอและคำตอบนั้นน่าพอใจด้วย ดังนั้น การใช้พลังจิตเพื่อติดต่อสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยสมาธิที่แน่วแน่ ท่านสามารถเชื่อมั่นได้เลยว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทรงรับรู้รับฟังและจะประทานพรให้ตามที่ขอแน่นอน

เวลาที่เราไปหาหมอดูหรือนักพยากรณ์ เรามักจะได้รับคำแนะนำให้ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิเสมอ นั้นก็คือการทำจิตให้มีสมาธินั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมหมั่นทำความดี ปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบคุณความดี คิดดี พูดดี ทำดี มักให้ผลทางบวกเสมอ แล้วที่สำคัญ อย่ามัวแต่อธิษฐานภาวนารอความช่วยเหลืออย่างเดียว ช่วยและพึ่งตัวเองก่อนเสมอนะจ๊ะ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดังนี้



Create Date : 29 ตุลาคม 2553
Last Update : 29 ตุลาคม 2553 21:40:00 น.
Counter : 702 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BeautyAstro
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



สนใจในความงามและศาสตร์พยากรณ์ลายมือโหงวเฮ้ง ศึกษาและเปิดกิจการเสริมความงามดูแลสุขภาพผิวหน้าผิวกายตั้งแต่ปี 2544 ศึกษาลายมือและการพยากรณ์ตั้งแต่ปี 2545 ถึงปัจจุบัน ส่วนเรื่องโหงวเฮ้งเพิ่งได้มีโอกาสศึกษาในปี 2550 ยังเป็นช่วงแห่งการค้นคว้าและศึกษาเพิ่มเิติม
อย่างไรก็ตาม ยินดีมากถ้ามีเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนความรู้กัน
votechdirect.com
votech school
Supported by votechdirect.com .
New Comments
All Blog