ความรักคือชีวิต หรือ ความสุขของชีวิต ??
คราฟท์ เอบบิ้ง นักเพศวิทยาผู้มีชื่อเสียงกล่าวไว้ว่า สำหรับผู้หญิง ความรักคือชีวิต แต่ผู้ชาย ความรักคือความสุขของชีวิต และถ้าเมื่อไรที่พลาดรัก สำหรับผู้หญิงแล้ว คือการทำลายชีวิตและความสุข แต่คุณผู้ชาย พลาดรักก็แค่ความปวดร้าวหัวใจเท่านั้น (ขอประทานโทษนะคะ จำชื่อหนังสือที่คัดลอกมาไม่ได้)
ความเดิมตอนที่แล้วเราคุยกันเล่นเล่น เรื่องปวดหัวใจ แต่เรื่องปวดใจยังไม่ได้คุย เพราะเห็นว่าคุยไปเท่าไรก็ไม่จบ มันเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึกและความคิด ถ้าเราไม่พยายามรู้จักตัวเอง ไม่ปรับเปลี่ยนความคิดและทัศนคติ ก็ยากที่จะแก้ไข เลยคิดว่ามาคุยเรื่องสุขภาพกันดีกว่า ชาวฮินดู ให้ความสำคัญของเส้นหัวใจว่าคือชีวิตเชียว แต่ถ้าเรารู้จักเส้นชีวิตและหัดสังเกตุ ก็เห็นจะเป็นประโยชน์ในการระวังและดูแลสุขภาพได้ดีทีเดียว เส้นชีวิต คือเส้นที่เริ่มจากง่ามนิ้วระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ โดยมากมักเริ่มจากประมาณส่วนกลางของพื้นที่นี้ แล้ววิ่งโอบล้อมโคนนิ้วหัวแม่มือไปหาข้อมือ เส้นชีวิตนี้เป็นตัวบอกสภาวะทางร่างกาย ความสมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้น สภาพของเส้นที่อยู่ในมือถ้าไม่เป็นเส้นคม ชัด ลึก ไม่กว้างมากเกินไปแล้ว มักบอกถึงสภาพที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ของร่างกาย เส้นที่มีลักษณะบาง เบา แตกเป็นเส้นฝอย ขาดตอน หรือเป็นเกาะ พวกนี้เป็นสัญญาณเตือนภัยให้ระวังสุขภาพให้จงดี ควรเลิกหรือลดจำนวนการสูบบุหรี่ การดื่มของมึนเมา ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงความเครียด เพราะคุณมีแนวโน้มการเจ็บไข้ได้ป่วยมากกว่าคนอื่นที่ไม่มีเครื่องหมายเหล่านี้ บางท่านอาจบอกว่า ฉันไม่เห็นเป็นอะไร ก็แข็งแรงดี ยังคะ ต้องรอเวลาของมันเมื่อไรอายุคุณเดินมาถึงตรงเครื่องหมายนั้น เมื่อนั้นแหละ เจอกัน และบางตำรายังบอกอีกว่า เส้นชีวิตที่แตกออกแล้ววกกลับเข้ามากลายเป็นเกาะที่เส้นชีวิต คุณมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งร้ายได้มากกว่าผู้อื่น เกาะเล็กใหญ่คือความร้ายแรงของโรคค่ะ ส่วนถ้ามีเครื่องหมายเกาะเป็นเม็ดเล็กเล็กติดเส้นชีวิตด้านในมือ อันนี้เป็นสัญญาณเตือนให้ท่านจงระวังเรื่องการรับประทานอาหารให้เป็นเวลา มิฉะนั้น โรคกระเพาะจะถามหานะจ๊ะ ส่วนถ้าดูที่มือแล้วเห็นเครื่องหมายดอกจัน หรือ เส้นตัดกันไปมาดูเป็นรูปดอกจันทับอยู่ในเส้นชีวิต ก็ให้ระวังอุบัติเหตุ ดอกเล็กใหญ่บอกความเล็กใหญ่ของอุบัติเหตุด้วยจ๊ะ พวกชอบซิ่ง ชอบแว้น ดูมือตัวเองบ้างเน้อ ถ้าวันไหน ดูมือเห็นไอ้เจ้าเครื่องหมายนี้ชัดแจ๋ว แถมเป็นสีแดง หรือ ชมพู หรือคล้ำเห็นชัดละก้อ วันนั้นงดซิ่งดีมั้ยตัวเอง อันตรายจริงจริงนะ บางคนถึงแก่ชีวิตเชียว แล้วถ้าเป็นเส้นตัดตรงในมือละ บางคนมีเต็มไปหมด ตัดซะเส้นชีวิตกลายเป็นท่อนท่อนตลอดเส้นเลย อันนี้หมายถึงทุกอุปสรรค ความยากลำบากที่มาบั่นทอนชีวิตคะ บางท่านอาจเป็นเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องคนรัก แล้วแต่เส้นที่มาสัมพันธ์ด้วย ความหนา บางของเส้นที่มาตัด บอกถึงความหนัก เบาของปัญหาและอุปสรรค ถ้าเส้นหนัก ตัดซะเส้นชีวิตเกือบขาด หรือ สะดุดชะงัก หรือขาดไปเลย ก็เป็นปัญหาใหญ่ คุณต้องใช้กำลังภายในอย่างเต็มกำลังพร้อมสติปัญญา เพราะมันมีอิทธิพลมากกว่าคุณ แต่ถ้าเป็นเส้นบางเบาก็แค่น้ำจิ้มเผ็ดนิดหน่อย กินน้ำเย็น อมน้ำแข็งก็หายเผ็ดแล้วละคะ บางตำราว่าถ้าเกิดขึ้นในมือที่เราไม่ถนัด อุปสรรคปัญหาอาจเกิดจากกรรมเก่าที่เราสร้างสมมา ถ้าพยายามแล้วไม่อาจพ้นปัญหานี้ได้ ก็ให้ทำใจให้สบาย ยอมรับปัญหาแบบมีสติ แล้วค่อยคิดหาทางแก้ไขต่อไป (ขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรด้วยก็ดี) แต่ถ้าเป็นในมือที่เราถนัด ปัญหาอุปสรรค เกิดจากตัวเราหรือสิ่งที่เราทำโดยไม่ตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็อย่าโทษใคร ก้มหน้าก้มตาแก้ไขปัญหาไปด้วยใจมุ่งมั่น มั่นคงด้วยสมาธิ และสติ เปิดใจกว้างยอมรับสิ่งที่เกิด คิดด้วยเหตุและผล ทางออกมีแน่นอน มีรายละเอียดอีกเยอะบนเส้นชีวตที่บอกเราได้ ไม่ว่าเรื่องคู่ เรื่องศัตรู เรื่องการตั้งครรภ์ แต่ต้องมีเวลาและประสบการณ์ในการดู คุยไปอาจงง เอาเป็นว่า ใครมีเส้นในมือเหมือนอย่างในนี้ อยากให้ดูแลสุขภาพตัวเอง รักตัวเองมากมาก อย่านิ่งดูดายเมื่อยามเจ็บป่วยเล็กน้อย เพราะไอ้เรื่องเล็กเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ทุกที รักกันจริงจริง ถึงเล่าให้ฟังนะเนี่ย โอ๊ย ปวดใจเหลือเกิน รู้อย่างนี้ ป้องกันล่วงหน้าก็ดีหรอก !!!
เสียงร้องโอดโอย เจ็บปวดหัวใจ คงดังกระทบใจใครบางคนหรือหลายหลายคนบ้าง เหมือนฉันเลย มันช่างเจ็บปวด ปวดจี๊ด ปวดจี๊ด ทั้งเจ็บทั้งช้ำเหลือทน แฮะ แฮะ ขอโทษนะ วันนี้คุยเรื่องเจ็บหัวใจ แต่ไม่ใช่เพราะอกหักช้ำรักหรอกน๊ะ แต่จะคุยเรื่องโรคภัยไข้เจ็บที่มันคุกคามให้เจ็บปวดจริงจริงไม่ใช่แค่เป็นความรู้สึกหรอก
ปัจจุบันโรคหัวใจเป็นโรคที่พบเห็นได้ง่ายในผู้คนวัยที่ไม่อันควรจะเป็น สถิติเมื่อก่อน โรคหัวใจจะเริ่มพบได้ในวัยกลางคนหรือสูงวัย แต่ปัจจุบันกลับพบว่า แค่เริ่ม 30 ปลาย ก็เริ่มเป็นกันแล้ว เรามาระวังกันดีกว่า 25 กรกฏาคม 2553 วันไหว้ครูของบรรดาลูกศิษย์ มูลนิธิสมาคมโหรฯ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ พร้อมใจกันไปในงาน รื่นเริงบันเทิงใจ สุขขีกันพร้อมหน้า รับพรครูบาอาจารย์กันอย่างเต็มคราบ อิ่มอกอิ่มใจกันทุกคน นั่งกินกันไป คุยกันไป (หลังเสร็จพิธี) ได้ความรู้เพิ่มเติมพอมาคุยกันให้ฟังคิดว่าคงพอมีประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อย มีพี่คนหนึ่ง เป็นรุ่นพี่ตั้งแต่ปี 2530 ประมาณนั้น ถูกโรคหัวใจเล่นงานซะจนแทบแย่ พี่ก็เลยใจดีแบมือให้ดูเป็นวิทยาทาน พร้อมสอนให้คอยระวังตัวเอง เนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บมาเล่นงานทันด่วน เราระวังได้ เป็นอย่างนี้จ๊ะ - บริเวณฝ่ามือใต้นิ้วนาง (เนินอาทิตย์), เส้นอาทิตย์เป็นเกาะ สีเขียวคล้ำ - เส้นจิต บริเวณใต้นิ้วนาง เป็นเกาะ ใหญ่เห็นได้ชัด - เส้นและสีของเส้นจิต บาง แตกเป็นเส้นฝอย - เนินอังคาร บริเวณง่ามนิ้วมือระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ สีคล้ำ จนเขียว - เส้นชีวิต มีบางช่วงเป็นเกาะหรือ ขาดช่วง สะดุด (อันนี้บอกเวลาที่จะเกิด) เหล่านี้เป็นเครื่องหมายบอกให้เราจงระวังสุขภาพตัวเองในเรื่องของโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับสายตา ระบบการไหลเวียนของเลือด โคเลสเตอรอลในเส้นเลือด เลือดจาง ความดันโลหิต สูง, ต่ำ (ไม่เกี่ยวกับโรคดันทุรังสูงนะจ๊ะ) โรคตาฝ้าตาฟาง โรคต้อ ถ้าใครมีเครื่องหมายเหล่านี้ในมือ ไม่ว่ามือซ้ายหรือขวา ควรหมั่นสนใจสุขภาพตัวเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดเครื่องดื่มของมึนเมา(เป็นครั้งคราวก็ยังดี) ควรตรวจเช็คสุขภาพ เราก็อาจหลีกเลี่ยงโรคร้ายได้ หรือถ้าเป็นก็เป็นไม่มาก ป้องกันรักษาทันท่วงที อันนี้ พี่คนที่ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน ผ่าตัดหัวใจมา 2 ครั้งแล้ว วันที่แบมือให้ดูก็ถูกโรคร้ายกำเริบ นั่งปวดใจเป็นนาน สองนาน (ไม่ได้ลบหลู่นะจ๊ะ) ส่วนอีกคนหนึ่ง ก็เพิ่งผ่าตัดสายตาจากโรคต้อมา ขณะที่แบมือให้ดูนั้น ก็บอกว่า 2 อาทิตย์ที่แล้ว ผ่าข้างขวา อาทิตย์นี้ คุณหมอนัดผ่าข้างซ้ายต่อ จากนั้นก็จะผ่าเข่าต่อในอีก อาทิตย์หรือ สองอาทิตย์ถัดไป ไม่รู้เมื่อไหร่จะพ้นทุกข์พ้นโรคภัยไข้เจ็บซะที สองคนนี้ มีลักษณะของเส้นและเนินเหมือนข้างบนนี้เลยจ๊ะ แล้วจากประสบการณ์ความรู้ด้านลายมือของรุ่นพี่คนดังกล่าว คอนเฟิร์มได้เลยจ๊ะ ไม่ผิดตำราแน่ ไว้คราวหน้าเรามาคุยเรื่องเส้นลายมือกับสุขภาพกันใหม่ ใครอยากรู้เรื่องโรคอะไร บอกกล่าวหรือคุยกันได้นะคะ จะค้นหาให้พบแล้วมาเล่าให้ฟังกันต่อ วันนี้สวัสดี โชคดีมีสุขนะจ๊ะ เพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ปฏิบัติธรรมดีนะเธอ ...... จริงเหรอ..????
ปฏิบัติธรรมดีนะเธอ ฝึกกรรมฐานดีนะเธอ ................ ฟังคำนี้มาก็มากกว่า 5 ปี ยังตัดสินไม่ได้ว่าดีจริงเหรอ แล้วดียังไง เราก็เป็นคนธรรมดา ทุกข์บ้างสุขบ้าง ก็งั้น งั้น ตั้งสติได้เมื่อไร ก็ลืมทุกข์ เผลอสติก็ทุกข์ต่อ เวียนว่ายอยู่อย่างนั้น จนมองไม่เห็นว่ามันทุกข์จนทนไม่ได้ซะเมื่อไหร่ แล้วทำไมต้องไปถือศีล ปฏิบัติธรรม กรรมมัฎฐาน อะไรทำนองนั้น แต่เพื่อน เพื่อนก็ยังยืนยัน ลูกค้า คนรู้จัก ก็ยืนยันว่า ดีจริงจริง เอ้า! ดีก็ดี งั้นไปไหนดีละ
- ไปวัดอัมพวันซิ....... โอ๊ย ! เค้าทำไม่ได้หรอก วัดนี้เคร่งมากเลย - ไปวัดสุวรรณประสิทธิ์ก็ได้ ................. โอ๊ย ! ไม่เคยฝึกมาก่อน ไม่ได้ หรอก ยังไม่รู้เลยว่าต้องปฏิบัติอย่างไร วัดนี้เค้าให้ฝึกปฏิบัติเอง - งั้นไปวัดมเหยงค์ซิ วัดนี้ก็ดี ................ โทรไปถามดู ถ้ามาเอง มีวีซีดีเปิดให้ดูวิธีปฏิบัติ ตกลง เลยตัดสินใจไม่ได้ว่าไปไหนดี มีแต่คนบอกว่า ต้องไปปฏิบัติน๊ะ ดีมาก มาก แต่ดีทุกที่ เลยยังเป็นตาบอดคลำทางอยู่ สงสัยกรรมยังมากอยู่ เลยยังไม่รู้ไปไหน เพื่อนบอกว่า ถ้าถึงเวลาอันสมควร กรรมจัดสรรให้เอง ชะรอยจะเป็นจริง อยู่ดีดี ลูกค้ามาวันเสาร์ พี่ พี่ หนูไปที่นี่มา ดีมากมาก แม่ชีใจดี มากด้วยเมตตา บรรยากาศก็ดี ยังก๊ะไปอยู่รีสอรต์ ได้ปฏิบัติธรรมด้วย ได้พักผ่อนร่างกายผ่อนคลายด้วย ได้ทั้งทางโลกและทางธรรมเลยนะ นี่งัย ดูรูปซิ ถ่ายรูปมาให้ดูด้วย อื้อหือ ดีจริงแฮะ สวยจัง มีเขาล้อมรอบ บรรยากาศรีสอร์ต ที่พักสะดวกสบาย มีแม่ชีมากด้วยเมตตาสอนปฏิบัติ ไม่ดุเหมือนบางที่ที่ได้ยินมา เหมือนกรรมจัดสรรให้จริงจริง แค่ดูรูปและฟังคำบรรยาย ตัดสินใจทันทีว่าจะไป (ทั้งที่ฟังมามากกว่า 5 ปี เฉย และ ลังเลตลอด หาเหตุผลสารพัดอ้างกับตัวเองตลอด) ตัดสินใจ ไปวันพุธเลย จัดการธุระสำคัญให้เสร็จภายในวันอังคาร เก็บเสื้อผ้า เฃ้าวันพุธไปเลย ตามแผนที่ที่ได้มาจากเว็บไซต์ หลงทางอยู่ 3 ครั้ง ที่สุดก็มาถึง ตอน ประมาณ บ่ายโมง อยากรู้แล้วใช่มั้ยว่าที่ไหนเหรอ ???? สถานปฏิบัติธรรม พุทธสาวิกา บ้านบึง ชลบุรีคะ ไปแล้วก็มีเรื่องแปลกใจ ทางเข้าแสนไกล รถราก็ลำบาก แต่คนเข้าออกถือศีลปฏิบัติได้ทุกวัน เพราะแม่ชีแม่แก้วท่านเมตตา ไม่เคยปฏิเสธคนมาปฏิบัติธรรม ท่านบอกว่า คนมาปฏิบัติธรรม มาทำความดี ปฏิเสธได้อย่างไร ปฏิบัติอยู่ 10 วัน (ทั้งที่คิดว่าคงอยู่ไม่ได้) วันแรก ยัง งง งง อยู่ วันที่สอง หลังตื่นมาทำวัตรเช้า ยิ่ง งง ใหญ่ มาทำอะไรนี่เรา วันที่สาม ตัดสินใจ อยู่ครบสามวันออกดีกว่า (แต่มีน้อง ๆ ที่มาปฏิบัติธรรมอยู่ก่อนบอกว่า ไม่ได้หรอกพี่ ออกก่อนแจ้งไม่ได้ แต่อยู่ครบแล้วต่อได้) วันที่สี่ อารมณ์เข้าที่เข้าทางเริ่มเข้าใจ เริ่มมีความสงบทางใจ (ขอแนะนำปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่ติดต่อใคร) ปฏิบัติอย่างเดียว วันที่ห้า ถึงวันต่อ ต่อไป ครบ 10 วัน เต็มไปด้วยความสงบ สบายใจ สติปัญญามา ปัญหาต่างๆ มีคำตอบ มีเวลาเมื่อไหร่ จะมาอีก สัญญากับตัวเอง ................ ระหว่างอยู่ปฏิบัติ น้องน้อง เพื่อนพ้องชาวโลก เข้าออกทุกวัน บางคนขับรถมาคนเดียว บางคนมากับเพื่อน 2-3 คน บางคนมาเป็นกลุ่ม อะ อะ อย่างเพิ่งบอกว่าไม่มีรถมาไม่ได้ มีเรื่องน่าทึ่งมาก คงเป็นเพราะกรรมจัดสรรให้จริงจริง บางคนบอกว่าหนูไม่มีรถ พี่ที่ทำงานอาสาพามาส่ง บางคนพ่อแม่ พี่น้องมาส่ง บางคนมาเอง (อ้นนี้ทึ่งมาก) หนูมายังไงคะ (เราถาม) หนูนั่งรถตู้มาจากกรุงเทพ ลงรถที่บ้านบึง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์เข้ามาที่นี่ (เท่าไหร่คะ) สองร้อยบาทคะพี่ เพราะมันไกล โอ้โห้ คิดในใจ น้องเค้าคงได้บุญมากแฮะ อนุโมทนาด้วยคะ (อันนี้ก็เป็นความรู้ใหม่ น้องน้องที่นั้นบอกว่า ถ้าใครทำดี ปฏิบัติดี ให้เราอนุโมทนากับเค้านะพี่ เราจะได้บุญด้วย) เล่ามาตั้งนาน จะคุยให้ฟังว่า ที่นี่มีออกกรรมแบบที่วัดเขาสมโภชน์ด้วย สำหรับผู้ที่มีความเชื่อว่าจะทำให้รู้กรรมเก่า หรือ ผ่อนการใช้หนี้กรรมเก่าได้ แต่แม่ชีบอกว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์ด้วยนะ เพราะเป็นการบำบัดร่างกายอย่างหนึ่งโดยการใช้ลมหายใจ ร่างกายจะได้ผ่อนความเจ็บไข้ได้ป่วย ให้หายหรือสบายขึ้น ลองทำดูก็จริง (ทีแรกไม่กล้าทำ) อาการปวดเอว ปวดหลังดีขึ้นเยอะ อาการปวดคลายจากการโยกตัวและหายใจยาวและลึก มีโอกาสลองมาดูนะคะ สถานปฏิบัติธรรมพุทธสาวิกา บ้านบึง มีเว็บไซต์คะ แต่ที่จะคุยอีกนิดคือ เรื่องลายมือ คือที่นี่ห้ามดูหมอโดยเด็ดขาด ไอ้เรามันก็พวกอยากรู้อยากเห็น อยากรู้ว่า ทำไมเค้าทุกข์ยังไง เป็นยังไง ถึงมาปฏิบัติธรรม อายุยังน้อย บางคนเพิ่มเรียนจบ บางคนกำลังทำงาน บางคนกำลังเรียน บางคนมีครอบครัว หลายหลายคนเข้ามา ดูหน้าตาเศร้าเหลือเกิน ไอ้ความอยากรู้ก็แซะแซะอารมณ์กิเลสให้ฟุ้ง เค้าทุกข์เรื่องอะไรนะ ?? อันนี้ความลับ อย่าบอกใครนะ ว่าแอบดูลายมือในวัด แฮะ แฮะ เราก็พูดหลอกโกหกตัวเอง และผู้อื่น ผิดศีลเห็นเห็น มุสาวาทาฯ บอกน้อง น้องว่า ไม่ได้ดูลายมือให้นะคะ แค่ขอดูมือเฉย เฉย กำลังศึกษา อยากรู้นิดหน่อย น้องก็ใจดี้ใจดี ส่งมือให้ทันที พร้อมบอกว่า พี่ดูเป็นเหรอคะ ?? ออกคำทายนิดหน่อย พอเป็นอะไรที่เตือนสติสำหรับบางคน แล้วบอกตัวเองให้ไปจุดธูปขอขมาพระพุทธรูปที่ทำผิดศึลข้อห้าม (คงช่วยอะไรไม่ได้แต่ทำให้ตัวเองสบายใจได้นิดหน่อย เพราะสนองกิเลสตัวเองไปแล้ว) ที่จะเล่าให้ฟังคือ บางคนมาครั้งแรก บางคนมาหลายครั้ง แต่ทุกข์เค้าไม่หายคลายไปก็ตอนอยู่ปฏิบัติ ทุกข์หนักเมื่ออยู่บ้าน พอดูลายมือจึงเห็นได้ - มือนุ่มเหลว รูปมือบาง (ไม่อดทน รักสบาย ไม่ทนงานหนัก) - มือรูปเรียว ปลายนิ้วแหลม เส้นจิตสั้น (ฉลาด รั้น ขี้งอน เจ้าอารมณ์) - เส้นจิตแตกลงเป็นฝอย (อารมณ์อ่อนไหว ขึ้นลงเร็ว สุขทุกข์ง่าย) - เส้นจิตเป็นฝอย เป็นเกาะ เป็นลูกโซ่ (ขี้กังวล อารมณ์ไม่ปกติ สุขภาพและความรักไม่ค่อยสมหวัง) - เส้นจิตยาวลงช่องระหว่างนิ้วชี้นิ้วกลาง นิ้วกลางค่อนข้างยาวมาก (ใจดีมากเกินไปทุกข์เพราะรักและห่วงคนรอบข้าง ชอบวางแผนเข้าไปจัดการชีวิตคนอื่นที่ตัวเองรัก) - เส้นสมองแตกเป็นเกาะ เป็นลูกโซ่ (คิดฟุ้งซ่าน ไร้สาระ ขี้หลงขี้ลืม ถ้าเป็นสุขภาพก็อาจมีปัญหาเรื่องปวดศรีษะบ่อยเช่น ไมเกรน) - เส้นสมองเป็นเส้นขึ้นลงเป็นฝอย (รักหลงพะวงอยู่แต่เรื่องความรักความใคร่ ยึดติดอารมณ์ความคิดไม่ปล่อยวาง เปลี่ยนความคิดได้แบบรวดเร็ว เต็มไปด้วยความลังเลไม่แน่ใจ) - เส้นสมองยาวโค้งลงมาหาริมฝ่ามือด้านล่างเกือบริมมือ (คิดอะไรมักเกินเลยเกินความจริง ช่างจินตนาการเกินเหตุ ฉลาดเกินความจำเป็น เจ้าแห่ง โปรเจ็ค - เส้นขีวิตขาดสั้น มือนุ่มนิ่ม เส้นจิตสั้น ฯลฯ (ใจร้อนใจเร็ว ไม่อดทน ตัดสินใจเร็ว ขาดความรอบคอบเพราะใช้อารมณ์และความรู้สึกตัดสินมากกว่าเหตุผล ชีวิตเลยมีแต่การเปลี่ยนแปลง) เหล่านี้ล้วนเป็นเส้นเสีย ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนที่เล่าให้ฟัง ก็เลยบอกทุกคนว่า เหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้ทุกข์ หมายถึงสิ่งที่เป็นตัวเป็นตนที่อ่านจากลายมือ ไม่ใช่ลายมือคือเหตุผลนะคะ ถ้าเค้าไม่พยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำให้ทุกข์ คืออุปนิสัย ต่าง ต่างเหล่านี้ ชีวิตเค้าก็เป็นวงเวียน เค้าปฏิบัติได้ถ้าไม่บรรลุสำเร็จเข้าใจถึงจุดประสงค์ของการปฏิบัติ (หมายถึงการปฏิบัติศีล กรรมฐานต่าง ต่างเพื่อการละซึ่งกิเลสดับทุกข์การละการวางสิ่งที่ทำให้เป็นทุกข์ เค้าก็จะได้แค่สิ่งที่เป็นอยู่ คือสงบเมื่อเข้ามาปฏิบัติ ทุกข์เมื่อออกจากที่นี่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเข้ามาปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น ที่พูดมานี้เพื่อเป็นคำตอบให้คนที่ทุกข์แล้วมาปฏิบัติธรรมไม่ได้หรือมาบ่อยตามความต้องการไม่ได้ เพราะอ้างเวลาหรือภาระ เพียงแค่คุณรู้ตัวเอง ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ปฏิบัติตัวในศีลในธรรม ฝึกให้รู้สติอยู่กับตัวเสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ที่บ้าน ที่ทำงาน บนรถเมล์ หรือกำลังเดิน แม้ขณะที่กำลังกินอาหาร แค่รู้สติ ฝึกบ่อย บ่อย คุณก็จะเห็นทุกข์ และขจัดมันไปได้ ตามกำลังและความพยายามคะ อ้าว! วันก่อนยังบอกว่าดีมากอยู่เลย ทำไมวันนี้มาด่าว่ากันละ
** ดูซิ ! มันนะ ไม่ใช่คนดีหรอกนิสัยแย่ เอาแต่ใจตัวเอง เอาเปรียบเห็นแก่ตัว เรานะดีกับมันจะตาย มันยังทำได้..............
&& อ้าว ! เห็นวันก่อนยังชมให้ฟังอยู่เลย บอกว่า ดีมาก เป็นคนมีน้ำใจ เอาใจเก่ง เป็นห่วงเป็นใยสารพัด ใจดี ช่วยเหลือยังไม่ได้เอ่ยปากเลย จัดการทุกอย่างให้เสร็จ .................. ** โอ๊ย ! คนมันเลว (ว่าเข้านั่น) สารพัดเลว มันไม่ใช่คนดีหรอก เสียดายจัง ใครๆ ก็เตือนแล้ว ดวงมันซวย ดันไม่เชื่อ ซวยจริงจริง ซวยซ้ำซาก เมื่อไหร่จะเจอคนดีดี บ้างนะ เบื่อชีวิตโคตร คุณ คุณ ว่าซวยจริงหรือเปล่าคะ ความจริงมันน่าจะเพราะความดื้อรั้น มั่นใจ ดันทุรังของเขามากกว่าความซวย เห็นด้วยมั้ยคะ ความจริงน่าสงสัย ทำไมคนเราถึงได้โดนหลอกได้อยู่เรื่อย ขนาดใครทักท้วงก็ไม่ทำให้เชื่อหรือเปลี่ยนได้ ทั้งๆ ที่ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ผิดพลาดให้น่าเสียใจแบบซ้ำซ้ำ เหมือนเดิม เรื่องเดิม เฮ้อ ! ไปเชื่อมันได้งัย ?? คุณคุณคงตอบได้ ถ้ารู้จักกับความหลงใหล ไอ้เจ้านี่ มันร้ายกว่ารักซะอีก แล้วเราหลงกันทุกคนหรือเปล่า ตอบว่าเปล่า เพราะ บางคนจะบอกว่า รักนะแต่ไม่เคยหลง ไม่มีใครมาหลอกฉันได้หรอก (คงเป็นคนฉลาดมาก) หรือไม่ก็ รักแล้วก็หลง แต่เราไม่ให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลได้หรอก (โชคดีที่ตนนี้มีสติดีและหนักแน่นมั่นคงดี) มีลายละเอียดนิดหน่อยเกี่ยวกับลายมือเอาไว้ให้ดีเล่นๆ เผื่อใครมีก็จะได้คอยเตือนสติตัวเองไว้ ไอ้เจ้าเส้นลายมือที่เป็นตัวทำให้เรากลายเป็นคนโง่ เซ่อ ถูกหลอกหรือเสียเปรียบอยู่เรื่อย คือ เส้นจิต (เส้นบนสุดใกล้โคนนิ้วนั่นละคะ) ปกติ ถ้าเส้นนี้ยาวโค้งมาสั้นแค่บริเวณนิ้วกลาง มักเป็นคนใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง ยิ่งถ้าเส้นนี้แตกแยกโค้งหรือทิ่มลงมากลางฝ่ามือ (หาเส้นสมอง) เป็นหลายหลายเส้นด้วยแล้วละก็ แหม ! คุณคุณเหล่านนั้น อารมณ์ปรวนแปร เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จนตามไม่ทัน แต่ไอ้ที่ทำให้เราโง๋เซ่อก็คือ มันดันยาวแล้วโค้งลงมาหาเส้นสมอง อาจบริเวณระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง หรือ บริเวณนิ้วกลาง (ไอ้ความยาวก็มีส่วนทำให้โง่เร็วโง่ช้าได้เหมือนกัน คงงง ถ้าสั้นแค่นิ้วกลาง ก็โง่แบบเด็กเด็ก คือไม่เอาเหตุเอาผล เอาอารมณ์เป็นใหญ่ก็โง่เร็วหน่อย แต่ถ้ายาวมาหน่อยถึงนิ้วชี้ ก็โง่แบบผู้ใหญ่ รู้เหมือนกันแต่มักเข้าข้างตัวเองมีเหตุผลเหมือนกันแต่เป็นเหตุผลของตัวเอง แต่อันนี้เป็นบางส่วนที่มีอิทธิพลแบบนี้ บางคนอาจจะบอกว่า ฉันก็มี แต่ฉันไม่เห็นเป็นเลย เพราะ มีเส้นสมอง และรูปแบบลักษณะของมือและนิ้วมือความหยาบหนาหรือเนียนนุ่มมีความยืดหยุ่นหรือเหลวเปลาะแปละมาประกอบด้วยอีกที) แต่ย้ำนะคะ ต้องเป็นเส้นโค้งลงไม่ใช่ตัดเป็นเส้นตรงทำมุมแหลมลงมาเหมือนมุมสามเหลี่ยม เพราะถ้ายังงั้น ความหมายเปลี่ยนเลย เพราะเขาหรือเธอผู้นั้น จะมีหัวใจเป็นนักวางแผนตัวยง ทำอะไรมักคิดและวางแผนเสมอ กลับมาเรื่องเส้นโค้งต่อ เรื่องโง๋เซ่อ ถูกหลอก ไม่ใช่เฉพาะเรื่องรักใคร่อย่างเดียวนะคะ รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์ ความรัก ความรู้สึกดีดี ที่มีในตัวเราต่อคนอื่น เช่น กับเพื่อนร่วมงาน หุ้นส่วน คนสนิท หรือแม้แต่ลูกน้อง บางคนจะพบว่า มักเสียเปรียบหรือเหมือนถูกหักหลังเสมอ เพราะเจ้าตัวนี่แหละ มันทำงานเวลาที่เรารู้สึกดีหรือรักใคร มันจะคอยบอกเราว่า นี่แหละ คนดีที่สุด เชื่อใจได้ที่สุด เค้าไม่หลอกเรา เค้ารักเรา จริงใจกับเราที่สุด แล้วเราก็เชื่อ หัวใจเต็มร้อย เพื่อเพื่อนเพื่อเธอ ได้อยู่แล้ว (ขอยืมมาพูดหน่อย) ใครอย่าบังอาจมาเตือนหรือบอกอะไรให้ฟังนะจ๊ะ เพราะนอกจากไม่เชื่อแล้ว เถียงแทนด้วยจ๊ะ ถ้าเป็นเส้นโค้งลงมาหลายเส้น ก็เจ็บหลายครั้งหน่อย หรือถ้าเป็นเหมือนกันสองมือ ก็คงเป็นพรมลิขิต ต้องใช้พลังมหาศาลถึงจะทำให้ตัวเองไม่หลงใหลกับใครได้ง่าย (อย่าเพิ่งท้อนะ) แต่เหล่านี้ที่เคยเห็นส่วนมากช้ำใจก็ได้แต่ร้องโอดโอย ครวญครางให้คนอื่นฟัง มีอีกประเภทหนึ่งคือ ถ้าทำฉันเจ็บละก็ อย่าให้มีโอกาสนะ เอาคืน คือถ้ามีเส้นจิตในมืออีกข้างเป็นเส้นตรงยาวมากเข้าบริเวณนิ้วกลางเกือบสุดริมมือ พวกนี้มักเจ็บแล้วอาฆาต ส่วนจะเอาคืนขนาดไหนก็ต้องดูลักษณะรูปมือ เส้นสมอง เป็นส่วนประกอบ เอาไว้วันหลังถ้าได้มีโอกาสจะเล่าให้ฟังใหม่ ทีนี้คงมีคนถามว่าแล้วจะทำไง แก้เคล็ด(ขัดยอก) ได้ยังงัย คำตอบง่ายจ๊ะ ท่องคำนี้ให้ขึ้นใจ อย่าเพิ่งไปเชื่อมัน ถามคนอื่นก่อนดีกว่า ถามเพื่อนอีกคนก่อนดีกว่า ถามพ่อแม่ก่อนดีกว่า แค่นี้เอง ง่ายนิดเดียว แล้วเจอมันใหม่นะจ๊ะ  เมื่อคุณซึ้งใจกับใครบางคน
พี่ครับ ขอบคุณมากครับ วันนี้ผมยังไม่ได้ทานครับ
อ่านเรื่องนี้ในบล๊อคคนกันเอง น้ำตาพาลจะไหล แถมซึ้งใจคนกันเองของเราอีก แหม! ทำไมช่างจิตใจดีแถมกล้าหาญอย่างนี้น้า ในสถานการณ์แบบนี้ เราคงได้แต่นั่งวิจารณ์อยู่กับบ้าน นั่งลุ้นและให้กำลังใจพวกบรรดาทหารหาญทั้งหลาย (มีตำรวจญาติพี่น้องทางใต้ของเราก็ถูกส่งมาปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ด้วย ได้เพียงแต่ให้กำลังใจช่วยและอวยพรให้พระคุ้มครองรอดปลอดภัย) คุยเรื่องต่อดีกว่า นั่งนึกว่า ทำไมน้า ผู้หญิงตัวเล็กเล็กคนนี้ ช่างมีจิตใจแน่วแน่จริงจัง กล้าหาญ ไม่กลัวที่จะแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยในสิ่งที่คิดว่าไม่ถูกต้อง ไม่ยุติธรรม คิดไปคิดมาก็ถึงบางอ้อ เป็นเพราะลักษณะของมือที่มีเนื้ออูมอิ่มในเนินพฤหัสและอังคารต่ำ แถมเส้นจิตก็พุ่งไปเนินพฤหัส นี่เอง อ่านแล้ว คนไม่มีความรู้คงงง เนินพฤหัส อยู่ใต้โคนนิ้วชี้ ส่วนเนินอังคารต่ำก็อยู่บริเวณง่ามนิ้วมือระหว่างนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือจ๊ะ ส่วนเส้นจิตก็เส้นในมือเส้นบนสุดที่ขึ้นจากริมฝ่ามือด้านนอกใต้นิ้วก้อยวิ่งยาวเข้าไปในฝ่ามือแล้วแต่สิ้นสุดตรงไหน ความหมายก็เปลี่ยนไปตามความสั้นยาวจ๊ะ แต่พี่เราคนนี้ เส้นจิตยาวค่อนไปหานิ้วพฤหัส เนินก็อิ่มนูนสูงซะสองเนิน หมายถึงอะไรก็เก็บเป็นความรู้ดูคนใกล้ตัวกันนะจ๊ะ เนินพฤหัส นูนสูง เป็นคนรับผิดชอบสูง มีคุณธรรม ยุติธรรม รักความยุติธรรม ส่วนมากคนไม่ดีไม่ค่อยเจอ นอกจากเส้นอื่นในมือเนินอื่นในมือเป็นเส้นและเนินเสีย (ไม่ได้มีดีอย่างเดียว ข้อเสียก็มี พวกนี้ อีโก้สูงไปหน่อย (ตามความนูนจ๊ะ) เนินอังคารต่ำ อดทน อดกลั้นได้ดี ไม่กลัวที่จะต่อสู้ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ดังนั้น คนประเภทนี้ สู้ไม่ถอย ถ้าคิดว่าตัวเองถูกต้อง เส้นจิต วิ่งยาวไปหาเนินพฤหัส บอกให้รู้ว่าเป็นคนจริงจัง ไม่เหลาะแหละ รักใครรักจริง รักความถูกต้อง มีเหตุมีผล มีอย่างใดอย่างหนึ่งก็เป็นแบบหนึ่งๆ แต่พอมีสามแบบรวมกัน ประกอบกับรูปมือแบบสี่เหลี่ยมของนักปฏิบัติ ก็หมายรวมว่า รักยุติธรรม มีคุณธรรม กล้าหาญไม่กลัวที่จะแสดงออก จิตใจดี ซื่อสัตย์ มั่นคงยึดมั่นในความถูกต้องแล้ว ยังไม่นั่งเฉยอยู่กับบ้านแล้วใช้ปากพูดถึงความยุติธรรม (แบบเรา) พี่แกเลยไปปรากฏตัวในสถานที่เสี่ยงอันตรายแบบนั้นไงจ๊ะ เขียนมาเล่าให้อ่านเล่นเพื่อเป็นความรู้ทั่วไปเอาไว้ดูมือคนข้างๆ หรือคนที่จะสมาคมด้วย รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งก็รบไป เราไม่รบด้วยหรอก จริงมั้ย ก็เรามันคนรักความสงบนี่จ๊ะ ฮิฮิ |
BeautyAstro
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] สนใจในความงามและศาสตร์พยากรณ์ลายมือโหงวเฮ้ง ศึกษาและเปิดกิจการเสริมความงามดูแลสุขภาพผิวหน้าผิวกายตั้งแต่ปี 2544 ศึกษาลายมือและการพยากรณ์ตั้งแต่ปี 2545 ถึงปัจจุบัน ส่วนเรื่องโหงวเฮ้งเพิ่งได้มีโอกาสศึกษาในปี 2550 ยังเป็นช่วงแห่งการค้นคว้าและศึกษาเพิ่มเิติม อย่างไรก็ตาม ยินดีมากถ้ามีเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนความรู้กัน
     
Group Blog All Blog
|
|||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
||||||||
