"GROWING OLD IS MANDATORY,
GROWING UP...OPTIONAL" By Henri-Frédéric Amiel
|
||||
วีซ่าอเมริกา... ไม่ยากอย่างที่คิด เรื่องไปเที่ยวอินเดียตอนเดือนกุมภาพันธ์ยังเขียนไม่เสร็จเลย แต่อยากเขียนเรื่องวิธีขอวีซ่าอเมริกาเพื่อเตือนตัวเองเผื่อต้องทำอีก ส่วนเรื่องอินเดียจะพยายามเขียนให้จบ เพราะจะมีเรื่องทริปหลวงพระบางที่ไปตอนต้นเดือนมีนาคมอีก เมื่อตอนไปทำวีซ่าอเมริกาเมื่อสี่ปีก่อน ไม่ได้บันทึกขั้นตอนเอาไว้ พอดีปีหน้าจะไปทำธุระที่อเมริกา และแม่จะไปด้วยเพื่อไปเยี่ยมพี่ที่อยู่แคนาดา ซึ่งพี่จะข้ามมารับแม่ที่นิวยอร์คและจะถือโอกาสนี้พาแม่เที่ยวนิวยอร์คด้วย เลยจะต้องดำเนินเรื่องขอวีซ่าทั้งอเมริกาและแคนาดาให้แม่.... เอ๊า... ลืมไปแล้วว่าขั้นตอนต้องทำยังงัย รู้งี้จดบันทึกไว้ก็ดีอ่ะ เข้าไปอ่านรายละเอียดขั้นตอนการขอวีซ่าที่ https://thailand.us-visaservices.com/Forms/default.aspx แต่ยังงัยก็อยากเขียนเองเผื่อคราวหน้าถ้าจะต้องขอวีซ่าอีกจะได้เข้าไปอ่านว่าตัวเองทำอย่างไร เพราะรายละเอียดของบล๊อกที่เข้าไปหาข้อมูลแต่ละที่จะแตกต่างกันเล็กน้อย เอาเป็นว่าเขียนเพื่อความเข้าใจของตัวเองก็แล้วกัน ขั้นตอนที่เราทำ 1. เข้าไปที่ link นี้ เพื่อกรอกแบบฟอร์มการขอวีซ่า DS160 https://ceac.state.gov/GENNIV/General/complete/complete_gettingstarted.aspx?node=Getting%20Started ถ้าพิมพ์ไม่เสร็จสามรถเซฟไฟล์ ตอนจะทำต่อก็โหลดไฟล์ที่เซฟไว้มาทำต่อ. ในส่วนหนึ่งของขั้นตอนการกรอกข้อมูลคือการสแกนรูปแล้ว attach ลงในแบบฟอร์ม เสร็จแล้วสั่ง print หน้ายืนยันของแบบฟอร์มแล้วจัดเก็บในแฟ้มเอกสารให้เป็นระเบียบ (ที่จริงให้ print เฉพาะหน้ายืนยัน ไม่ต้อง print แบบฟอร์มทั้งหมด แต่เราพิมพ์ออกมาทั้งหมดเพื่อกันขาด อิ..อิ..) 2. ไปที่ทำการไปรษณีย์แม่ปิงเพื่อซื้อ พินโค้ด ในการขอนัดสัมภาษณ์ ซึ่งพินโค้ดจะอยู่ในใบเสร็จรับเงินที่ทางไปรษณีย์ให้มาสำหรับชาวเหนือที่สามารถขออเมริกันวีซ่าที่เชียงใหม่ มี 15 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา สุโขทัย เชียงราย แม่ฮ่องสอน พิจิตร ตาก กำแพงเพชร น่าน พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ลำปาง เพชรบูรณ์ แพร่ 3. เข้าไปที่ link นี้ เพื่อทำการจองวันนัด https://thailand.us-visaservices.com/Forms/default.aspx ถ้าสามารถตื่นเช้าได้แนะนำให้จองรอบ 8 โมงเช้า ซึ่งต้องไปถึงก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง จากนั้น print ใบ Appointment Confirmation ซึ่งจะมีบาร์โค้ด ให้ตรวจดูให้แน่ใจว่าบาร์โค้ดที่พิมพ์มาชัดเจน 4. กลับไปที่ไปรษณีย์แม่ปิงอีกครั้งเพื่อชำระค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่า จำนวนเงินที่จ่ายคือ 4,620 บาท หรือ 140 เหรียญสหรัฐ และให้ซื้อซองจดหมายติดรหัสบาร์โค้ด ในราคา 75 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดไม่สามารถขอคืนได้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่ (ซองจดหมายเมื่อได้มาแล้วให้จ่าหน้าซองถึงเราให้เรียบร้อย) ((ที่จริงชำระพร้อมกับวันที่ซื้อพินโค้ดเลยก็ได้)) 5. เตรียมเอกสารให้พร้อม สิ่งที่เราเตรียมได้แก่ - หนังสือเดินทาง Passport ทั้งนี้หนังสือเดินทางต้องมีอายุอย่างน้อยหกเดือนก่อนระยะเวลาที่จะเดินทางออกจากอเมริกา - หน้ายืนยันแบบฟอร์ม DS-160 (ตามข้อหนึ่ง) - รูปถ่ายขนาด 5x5 นิ้วจำนวนสองใบ รูปต้องถ่ายไม่เกินหกเดือน พื้นหลังสีขาว, มองหน้าตรง, ห้ามสวมหมวกและแว่นกันแดด, สัดส่วนของใบหน้าต้องเกินกว่า ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่รูปถ่าย - หลักฐานการชำระเงินค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่า + ซองจดหมาย (ตามข้อสี่) - เอกสารยืนยันตนเองและยืนยันทุนทรัพย์ ได้แก่ ทะเบียนบ้าน, สมุดคู่ฝากธนาคาร (ก็เอาเงินเข้าให้ดูดีมีฐานะเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ว่าเรามีเงินพอที่จะนำไปละลายที่อเมริกา), ใบรับรองการทำงาน.... ในกรณีของแม่ซึ่งอายุ 60 ปี และไม่มีอาชีพ (เป็นแม่บ้านเฉยๆอ่ะ) เราให้พี่ส่งจดหมายเชิญและระบุว่าจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งในการเดินทางและการพำนักอยู่ที่อเมริกา 6. วันนัดสัมภาษณ์ ให้เดินทางไปก่อนเวลานัด 30 นาที ถึงหน้าสถานทูตแล้วยื่นใบ Appointment Confirmation (ตามข้อสาม) ที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยไม่ต้องนำอะไรติดตัวไปนอกจากเอกสารที่เตรียมไว้ตามข้อ 1 5 เท่านั้น และให้เข้าไปคนเดียว, ญาติสนิทมิตรสหายห้ามเข้าอ่ะนะ ทั้งนี้เพื่อความสะดวกและความเป็นระเบียบของทั้งทางสถานทูตและของเราเอง เมื่อเข้าไปก็จะได้คิวแล้วเจ้าหน้าที่จะเรียก จากนั้นยื่นเอกสารและสแกนข้อมูลชีวภาพ (ลายนิ้วมือทั้งสิบ... เขียนให้ดูดีมีฐานะอ่ะ อิ..อิ..) จากนั้นเจ้าหน้าที่จะคืนเอกสารที่ไม่ใช้ให้เรา จากนั้นก็เดินทางกลับบ้านเพื่อรอรับเอกสาร 7. รอรับเอกสาร อีกไม่เกิน 3 วันไปรษณีย์ก็จะมาส่งเอกสารลงทะเบียนให้เรา.... เปิดออกดูอเมริกันวีซ่าอย่างมีความสุข ขอวีซ่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่เราเตรียมตัวเตรียมเอกสารให้พร้อม และการสัมภาษณ์ก็ให้ข้อมูลจริง อเมริกันวีซ่าของแม่ได้แบบ 10 ปี Multiple คือวีซ่า 10 ปี เข้าออกได้หลายครั้ง ตอนนี้ก็เตรียมซื้อตั๋วและจัดตารางเวลา เราจะไปปลายเดือนมีนาคม 2511 เตรียมการนานกว่าครึ่งปีเลยทีเดียว น้องนพอ่านครั้งแรกแบบเร็วตั้งใจจะเม้นท์ภายหลังแต่วันนี้กลับมาอ่านแบบละเอียดอีกครั้ง ประทับใจน้องนพเขียนมากๆๆเลยเข้าใจง่ายนึกภาพออก พออ่านไปก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนตัวเองไปทำวีซ่าเองซะงั้น พี่ชอบที่น้องนพเขียนทุกอันเลยเขียนได้ดีจริงๆ แถมตื่นเต้นแทนแม่ด้วย
ถ้ามีอะไรเขียนมาอ่านอีกนะน้อง เขียนหนังสืออ่านใหมน้องพี่จะสมัครเป็นแฟนคลับ อิอิอิ ป้าเบญเด้อ โดย: เบญจรัตนะ แอนเดอร์เซ่น IP: 180.183.0.167 วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:12:53:59 น.
อยากทราบว่าบาร์โค๊ตยืนยันอยู่ตรงส่วนไหนคะ หามาไม่เจอะเลย
โดย: เล็ก IP: 203.185.69.124 วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:46:38 น.
ขอโทษคุณเล็กที่เข้ามาตอบช้าครับ... กลับมาเมืองไทยได้เกือบเดือนแล้วครับ แต่เพิ่งมีโอกาสเข้ามาเช็คบล๊อก
จะพิมพ์บาร์โค๊ดได้ก็เมื่อยืนยันวันนัดสัมภาษณ์กับทางกงศุลครับ นั่นก็คือเราต้องซื้อพินโค้ดที่ไปรษณีย์ แล้วเข้าเว็ปไซด์ของทางสถานทูต https://thailand.us-visaservices.com/Forms/default.aspx เมื่อจองวันเสร็จก็สั่งพิมพ์ เอกสารที่ได้ก็จะมีบาร์โค้ดอยู่ด้วยครับ โดย: Nop (annopwichai ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:23:18 น.
Thank you for the point that I want to know about visa 10 years for multiple travelling. Thanks
โดย: Eve IP: 115.87.125.245 วันที่: 1 สิงหาคม 2555 เวลา:15:05:24 น.
Thank you Khun Eve for visited my blog.
โดย: ์Nop (annopwichai ) วันที่: 29 สิงหาคม 2555 เวลา:20:19:46 น.
|
annopwichai
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 88 คน [?] ชีวิตอิสระ, ชอบความเรียบง่าย, เป็นโรคภูมิแพ้ IT
Group Blog
All Blog Link MY VIP Friend |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ถ้าเข้ามาอ่านแล้วจะเม้นท์อะไรสักหน่อยก็จะเป็นพระคุณนะฮาร์ฟฟฟฟ อยากรู้ว่าเขียนแล้วคนอื่นอ่านรู้เรื่องหรือเปล่า เพราะปกติจะเขียนแต่เรื่องไร้สาระหิ
เพิ่งเปลี่ยนรูปแบบการแสดงบล๊อกใหม่ ให้พี่เบญเม้นท์ได้เลย จะได้ไม่ยุ่งยาก