"GROWING OLD IS MANDATORY,
GROWING UP...OPTIONAL" By Henri-Frédéric Amiel
|
||||
Gandhara Buddha Image - พระพุทธรูปคันธาระ
กลับจากอังกฤษและไอร์แลนด์มาตั้งแต่ต้นเดือน แต่ยังไม่ได้เขียนบล๊อกเพราะมัวแต่วาดรูปเพื่อจะเอาไปเป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่ให้เพื่อน และเป็นการขอบคุณในการพาเข้าไปชม House of Parliament ที่ London ด้วย.. ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว อิ..อิ...
เลือกรูปที่จะวาด... ได้รูป พระพุทธรูปศิลปะคันธาระ หรือ คันธาราฐ. พระคันธาราฐเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นเป็นยุคแรกที่มีการสร้างรูปบูชาพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นฝีมือของช่างจากแคว้นคันธาราฐ ปัจจุบันอยู่ในประเทศอาฟกานิสถาน จุดเด่นของพระพุทธรูปนี้คือ มีพระพักตร์คล้ายเทพ Apolo ของกรีก ทั้งนี้เพราะเป็นศิลปะแบบ Greco-Buddhism เป็นการผสมผสานระหว่าง Classic Greek และ Buddhism, มีพระเกศาหยิกเป็นลอนเหมือนรูปปั้นกรีก ไม่เป็นก้นหอยตามคติในยุคหลัง, มีรัศมีอยู่หลังพระเศียร, หม่ผ้าคลุมแบบริ้วธรรมชาติตามศิลปะกรีก, มีมวยผมโป่งบนส่วนบนของศีรษะนูนสูงขึ้นคล้ายสวมมงกุฎ.. ที่อินเดียเขาเรียกว่าอุษณีษะ แต่ไทยเราเรียกว่าเกตุมาลา หรือเมาลี, มีพระกรรณยาวอันนี้ต่างจากศิลปะกรีก... ... เอาพอหอมปากหอมคอ เดี๋ยวจะผิดวัตถุประสงค์ที่จะเขียน อิ..อิ.. เมื่อได้รูปแล้วก็ตีตาราง ทั้งที่รูปและแคนวาสให้ได้จำนวนช่องที่เท่ากัน แล้วลงมือร่างรูปไปตามช่องต่างๆ ที่ทำวิธีนี้เพราะเราไม่ได้ฝึกการวาดรูป วิธีในี้ช่วยให้ได้รูปแบบใกล้เคียงกับต้นฉบับ แต่ถ้าใครจะใช้โปรเจคเตอร์ หรือ Pantograph ช่วยในการวาดก็ได้ เนื่องจากเราตาบอดสี โทน เขียว-แดง-เหลือง และ โทน น้ำเงิน-ม่วง-ฟ้า ดังนั้นการใช้สีของเราจะเป็นโทนเดียว แต่ใช้ contrast ในการไล่สีให้เข้มอ่อน ต้นฉบับเป็นสีขาวดำ แต่เราอยากให้รูปวาดเป็นสีหินทรายหรืออะไรทำนองนั้น :) สีที่เราใช้เป็นสี acrylic... เราผสมสีแดงและเหลือง กลายเป็นสีแสดหรือส้ม จากนั้นเติมสีน้ำเงินเล็กน้อย ก็จะได้สีน้ำตาล ในส่วนของเงาหรือส่วนที่ต้องการให้ดูลึกบุ๋มเข้าไป เราก็จะเติมสีน้ำเงินมากหน่อย ส่วนที่ต้องการให้ดูนูนขึ้นเราเติมสีขาวเพื่อนให้ได้สีน้ำตาลอ่อน (การผสมสีนี้ กะเอาเอง ไม่ได้มีหลักความรู้อะไรเท่าไหร่ แต่เอาเราชอบเป็นพออ่ะ) ลอกแบบ ตอนแรกจะลงแบล๊คกราวน์ก่อน แต่เปลี่ยนใจ ลงสีที่รูปก่อนดีกว่า เริ่มลงสีที่มวยผม แล้วเริ่มลงสีที่หูและตามด้วยผมที่หยักโศก ลงสีผมยังไม่หมดสองฝั่ง แต่อยากลงสีที่พระพักตร์... เลยหยุดการลงสีผมแล้วมาระบายสีที่ใบหน้า.. บอกตามตรงว่ายังไม่แน่ใจว่าผลงานจะออกมาเป็นเยี่ยงไร... :( ด้วยความใจร้อนอยากให้เสร็จไวๆ เลยระบายสี สะเปะสะปะ ระบายสีตรงหน้ายังไม่เสร็จก็ไประบายรัศมี แล้วไประบายตรงคอ และ จีวร ผลออกมาทำให้เหนื่อยใจ เลยต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ คอยๆ พยายามทำใจเย็นลง แล้วเริ่มลงมือระบายสีใหม่.. กลับไประบายสีส่วนที่เป็นเกศาแล้วไล่ลงมาส่วนที่เป็นจีวร ระบายสีส่วนที่เป็นหินแตกออกมา ระบายยังงัยก็ไม่เหมือนเลยเอาภู่กันแต้มๆ ทำตาเบลอๆ แล้วจินตนาการเอาเองก็แล้วกันน๊า.. อิ..อิ.. ลงสีในรูปหลักยังไม่ทันเสร็จ ดั๊นไปลงสีพี้นหลังซะแล้ว... คงต้องไปฝึกสมาธิมาใหม่ละ... ยิ่งงานใกล้จะเสร็จก็ยิ่งไม่ค่อยมีสมาธิ แต่ก็ยังกลั้นใจทำ และแล้วก็เสร็จจนได้ ที่สำคัญเสร็จวันวิสาขบูชาพอดี... โอ้วแม่เจ้า.. รูปนี้ขลังนะเนี๊ยะ ไม่สวยเท่ารูปต้นแบบ แต่ตั้งใจทำ... รูปนี้เริ่มวาดเมื่อวันที่ 7/5/2013 เสร็จเมื่อวันที่ 24/5/2013 บางวันลงมือวาดชั่วโมง, สองชั่วโมง... บางวันขี้เกียจก็ไม่ได้ลงสีเลย แต่ช่วงสองสามวันก่อนวาดเสร็จใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวัน เพราะต้องการให้เสร็จทันวันวิสาขบูชา ตอนนี้เอาไปเข้ากรอบที่ร้านตรงกันข้ามประตูสวนปรุง (ต้องไปรับยาแถวนั้นอ่ะ..อิ..อิ.. พูดเล่น..) ถ้าเสร็จเมื่อไหร่จะเอารูปตอนเข้ากรอบแล้วมาให้ดูอีกทีนะ.. ================================================= เย้!! เอาไปเข้ากรอบมาแล้ว เลยถ่ายรูปมาให้ดูตามสัญญา 2009-11-27 Painting : Roses - ระบายสีดอกกุหลาบให้เพื่อน
ที่จริงเริ่มลงมือเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ใช้เวลาวาดบ้างไม่วาดบ้างรวม 3 วัน ที่จริงถ้าให้ทำจริงๆ ก็แค่วันเดียวก็เสร็จแล้ว ที่ทำ 3 วันจริงๆแล้ววันละชั่วโมงสองชั่วโมง แบบว่าขี้เกียจอ่ะนะ...
ที่ใช้ชื่อว่าระบายสีเพราะเราก๊อปปี้ภาพจากต้นแบบแล้วก็แค่ลงสี เหมือนเด็กอนุบาลอะไรประมาณนั้น แต่ก็ภูมิใจนะ เพราะเราตาบอดสี ไม่ใช่ขาวดำ แต่เป็นโทนสีเขียวแดง และโทนสีฟ้า ม่วง น้ำเงิน ภาพที่ระบายครั้งนี้จะให้เป็นของขวัญแก่แมรี่, แมรี่เป็นญาติห่างๆของพอล เมื่อสามปีก่อนแมรี่ออกค่าใช้จ่ายไปเที่ยวนครวัด นครธม ให้เรา แมรี่มาเมืองไทยครั้งนี้เราก็เลยเตรียมของขวัญให้นะ ถึงไม่มีราคาค่างวดอะไรแต่ก็ทำให้ด้วยใจอ่ะ ปีนี้เราจะไปเที่ยวอินเดียกับพอลและแมรี่เดือนมกราคม 2553 ใครอยากดูก็คลิ๊กไปที่ Travel around the world - เมื่อฉันเที่ยวต่างแดน นะ แล้วจะชักภาพมาฝากเยอะๆ อรัมภบทมานาน ไปดูรูประบายสีของเราดีกว่า ใช้สีอะคลิลิค เราใช้ยี่ห้อ ST เนื้อสีระบายลื่นดี พู่กันเราใช้ Master Art จิตรกรน้อย เพราะขนแปรงไม่แข็งหรืออ่อนเกินไป อันนี้แล้วแต่ความเคยชินของแต่ละคน ข้างหลังเป็นกระเบื้องใช้แทนถาดสี ที่จริงเราก็มีฐานะนะ อิ..อิ.. แต่ใช้แผ่นกระเบื้องแทนถาดสีเพราะผสมสีได้ง่ายดี. ที่เห็นแก้วใบเล็กครอบสีนั่นคือระบบป้องกันสีแห้งของเรา แบบว่าเป็นคนทำงานช้า สีแห้งไวก็เลยใช้แก้วครอบทำให้สีแห้งช้าลง เวิร์คจิงๆ นะ. ในรูปอาจมองไม่ค่อยเห็นแก้วน้ำที่ใส่น้ำเปล่าเอาไว้ล้างพู่กันให้สะอาดอยู่เสมอ ถ่ายอุปกรณ์อีกมุมหนึ่ง ให้ดูอาร์ทๆ อ่ะ นำวัสดุที่จะวาดทาบลงบนแบบแล้วลอกลาย ในที่นี้เราใช้ผ้าขาวตัดขนาดกระดาษ A4 ทาบลงบนแบบแล้วใช้ดินสอวาด... ใครมีฝีมือด้าน Drawing ก็ไม่ต้องวาดตามแบบก็ได้. พอดีลอกลายแล้วระบายสีไปแล้วถึงนึกได้ว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปอ่ะ ที่จริงเราจะเริ่มตรงไหนก่อนก็ได้ แต่เราเริ่มที่ดอก สีที่ใช้มี 2 สีคือ แดงกับขาว วิธีการคือ ตรงกลีบที่ซ้อนกันให้มองว่ากลีบไหนอยู่ด้านบนก็เอาสีขาวทาตรงขอบ แล้วเกลี่ยสีให้บางลง กลีบดอกบนก็จะผลักระยะออกมาจากกลีบดอกล่าง ใบแรก ระบายได้แบนมากๆ ทั้งนี้เพราะยังไม่ค่อยชิน แก้ตัวนิดหน่อย. ไม่ได้วาดรูปมาปีกว่าแล้ว หลังจากเรียนทำเครื่องหนัง ก็ไม่ได้จับพู่กันเลย อันที่จริงเราเรียนวาดรูปแค่สามเดือนและยังวาดต่ออีกไม่เกินหกเดือนแล้วก็หยุดวาดไปเลย นี่เพิ่งกลับมาวาดใหม่ ได้แค่นี้ก็สวรรค์แล้วอ่ะนะ สีที่ใช้คือสีเหลือง กับ สีน้ำเงิน หลักการก็เหมือนกับการระบายสีดอกคือ ถ้าใบซ้อนกัน ให้ทาสีเหลืองที่ขอบใบหรือกิ่งที่อยู่ด้านบนแล้วเกลี่ยสีให้เนียน ส่วนใบหรือกิ่งที่อยู่ด้านล่างให้ใช้สีน้ำเงินทาตรงขอบแล้วค่อยๆ เกลี่ยสี ก็จะได้แสงและเงารับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ชะเอิงเอย... ใบที่สองเริ่มดีขึ้นหน่อย เริ่มเห็นโค้งเห็นเว้า เห็นแสงเห็นเงา วี๊ดวิ่ว... สุ-โค่ย อิ..อิ... เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เย๊!!! ระหว่างทำก็ไม่ได้รีบเร่งหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด เบรคทานส้มบ้าง ดื่มชาบ้าง ดูหนังบ้าง เช็คหุ้นบ้าง ออกไปช๊อปบ้าง ต่างๆนานา ตามประสาอารมณ์ศิลป์และอารมณ์ขี้เกียจ แล้วจาเส็ดมะเนี๊ยะ พักผ่อนมากกว่าทำงานเสร็จ ก็มาลงมือระบายดอกตูมต่อ แล้วระบายก้านไล่ลงมา ต้องใช้ความอดทน + สมาธิ + ความตั้งใจ + ความรักต่อสัตว์โลก... ว่าไปนั่น ลงลายมือชื่อซะหน่อย แล้วก็เสร็จสมบูรณ์ เด๋วถ้าเอาไปใส่กรอบแล้วจะถ่ายรูปมาให้ดู (ถ้าไม่ลืม) ก่อนไปเรียนวาดภาพ ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะสามารถสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะได้ ทัศนคติในแนวคิดเปลี่ยนไป... เราสามารถทำเกือบทุกอย่างได้ถ้าเราตั้งใจทำ 5/4/2010 แบบว่าเอารูปให้เพื่อนไปแล้ว และถ่ายตอนเข้ากรอบเรียบร้อยแต่ลืมเอารูปมาลง วันนี้มาเปิดบล๊อกดูเล่นๆ เลยเอารูปมาลงตามสัญญา |
annopwichai
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 88 คน [?] ชีวิตอิสระ, ชอบความเรียบง่าย, เป็นโรคภูมิแพ้ IT
Group Blog
All Blog Link MY VIP Friend |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |