All Blog
► Special : 50 เรื่องควรรู้ก่อนไป Work and Travel :: Part 3 (ข้อ 37-50)


50 เรื่องควรรู้ก่อนไป Work and Travel :: Part 3 (ข้อ 37-50)




37. ขาไปลง Seattle ขากลับขึ้นที่ San Francisco ได้ไหมคะ ?


ได้ค่ะ แต่ต้องบอกล่วงหน้าตั้งแต่ตอนจองตั๋วนะ

หากมาเปลี่ยนทีหลังก็จะมีค่าธรรมเนียมค่ะ

อย่างเช่นของ OZ หากมาเปลี่ยน port ทีหลังจะโดนชาร์จเพิ่ม $75

แต่ถ้าหากน้องๆไม่ได้จองตั๋วผ่านเอเจนซี่และจะจองแบบไม่ปกติแบบนี้ก็ทำได้ค่ะ

โดยการเข้าไปที่เวปจองตั๋วเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็น expedia, kayak , travelocity หรืออื่นๆ

จากนั้นคลิกตรงที่เขียนว่า multiple destination

จากนั้นก็ทำการวางแผนการเลยค่ะ

-------------------------------------------------------

38. หนูไปคนเดียวจะรอดไหมคะ ?

Nakoze เองไป WAT ก็ไปคนเดียวตลอด

จริงๆแล้วเืรื่องการไปคนเดียวมีนี่หลายแบบนะ

แบบแรกคืองานที่น้องจะไปทำอ่ะ ทั้งร้านมีน้องเป็นคนไทย เป็นเด็ก WAT แค่คนเดียว

ซึ่งถามว่ามันเลวร้ายไหม ? ตอบเลยว่าไม่เลวร้าย แค่แบบตอนพักไม่รู้จะเมาท์อะไรกับใครดี

เลิกงานดึกๆก็ไม่มีเพื่อนเดินกลับบ้าน ไม่มีคนถ่ายรูปให้

มันก็เหงาๆนิดนึง แต่ว่าถ้าน้องผ่านวิถีชีวิตเช่นนี้แล้ว ในอนาคตน้องจะเป็นคนที่

เอาตัวรอดได้อย่างสบายๆ จะเป็นคนที่ไม่ต้องรอเพื่อน ทำอะไรตัวคนเดียวได้


ส่วนแบบที่สอง คือ สมัครคนเดียวไม่มีเพื่อน แต่งานนั้นน่ะ ไม่ได้รับน้องแค่คนเดียว

เค้าอาจจะรับเด็กไทยซัก 5 คน แบบนี้น้องก็จะได้เจอเพื่อนใหม่อีกตั้ง 4 คน

ดังนั้นแล้วได้เพื่อนแน่ๆจ้า แต่ช่วงแรกอาจจะลำบากหน่อย เพราะเค้าจะคุยกันถึงบุคคลที่ 3

ซึ่งเราไม่เข้าใจว่ามันเป็นใครวะ

แต่ซักพัก พอเราสนิทกันมากขึ้น ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองแหละจ้าาาาา

-------------------------------------------------------

39. เอเจนซี่ไหนมีงานในนิวยอร์คคะ ?

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าคำว่า NY ต่างกับ NYC

NY : นิวยอร์ค , NYC : นิวยอร์คซิตี้

มันต่างกันตรงที่ว่า NY มันเป็นรัฐ ซึ่งใหญ่มากๆ และ NYC ก็เป็นเมืองนึงที่อยู่ใน NY

ดังนั้นแล้วหากพูดว่าอยากได้งานในนิวยอร์ค ก็บอกได้เลยค่ะว่าเกือบทุกเอเจนซี่แหละ มีงานในนิวยอร์ค

แต่มีไม่กี่เอเจนซี่ที่เค้ามีงานใน NYC

NYC คืออะไร ? NYC ก็คือ new york city คือที่ๆมี time square , มีเทพีเสรีภาพ ,มีตึก empire state

คือสรุปถ้าเอเจนซี่บอกว่ามีงานในนิวยอร์ค อย่าเพิ่งดีใจไปค่ะ

ถามเค้ากลับว่านิวยอร์คเนี่ย เมืองไหน NYCหรือเปล่า ?

เพราะบางทีน้องยังไม่เห็น job offer แค่เค้าบอกว่ามีงานในนิวยอร์ค

ก็รีบสมัคร รีบจองมัดจำ แต่หารู้ไม่ว่าไอ้งานนั้น อยู่ในรัฐ NY จริงล่ะ

แต่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองเล๊ย.....

NY ก็เหมือนรัฐอื่นๆทุกรัฐ คือมีเมืองที่เจริญสุดๆแบบ NYC และมีเมืองที่ธรรมชาติมากๆ

คือมันไม่ได้บลิงๆ เท่ากันทั้งรัฐ

-------------------------------------------------------

40. อยากทำงานเมืองที่คนไทยน้อยๆ จะได้ได้ภาษา ?


รัฐที่รับเด็ก WAT มากที่สุด คาดว่าจะเป็น ฟลอริด้า

เฉพาะ orlando ก็มีพวก disney ไปแล้ว 200-300 คนได้มั้ง

ส่วน Ohio , Virginia , เพนซิลวาเนีย , นิวเจอร์ซี่ พวกนี้ก็เยอะ

แต่!! จริงๆเด็ก WAT ก็เยอะเกือบทุกรัฐล่ะ แค่ว่ามันกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ

น้องก็ไปดูเอาว่างานน้องอ่ะรับกี่คน ถ้ารับซัก 15 คน แบบนี้เราโอเคหรือยัง ?

ถ้ามากไปก็ดูงานอื่น บางงานเอเจนซี่น้องอาจจะรับสัก 2 คน แต่ให้ลองดูเอเจนอื่นด้วย ว่าเขารับกี่คน

ถ้างานนี้เอเจนอื่นไม่มี แบบนี้น้องพอใจก็เอาเลย

-------------------------------------------------------

41. ไป WAT ได้ภาษาจริงไหมคะ ?

แล้วแต่บุคคลนะ ถ้าเลือกคบแต่กับเพื่อนฝรั่ง ภาษาก็จะพัฒนาได้เร็ว

แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกจริงไหม ตราบใดที่งานนั้นไม่ได้มีคุณคนเดียว

คุณก็ต้องคุยภาษาไทยกับเพื่อนบ้างล่ะ จริงอยู่ที่ระหว่างการทำงานต้องใช้ภาษาอังกฤษ

แต่ว่ากลับบ้านเมื่อไรล่ะก็ เปิดละครไทยดู ก็เม้าท์ภาษาไทยกันอยู่ดี

อีกทั้งคนไทยอ่ะ ไม่ทิ้งกันเองหรอก อยู่ด้วยกันมันคุยแล้วสนุกกว่าเยอะ

เพราะวัฒนธรรมเรามันเหมือนกัน เราตลกกับสิ่งที่เหมือนๆกัน

แต่กับฝรั่งบางอย่างที่เราตลก เค้ากลับไม่เก็ท

หรือสิ่งที่ไม่เห็นมันตลกเลยวะ เค้าก็หัวเราะอย่างกับคนบ้า

มันก็จะเกิดอาการ dead air คือไม่รู้จะพูดอะไรแก้เก้อต่อ

ถ้าอยากได้ภาษาจริงๆแล้วล่ะก็ ลองหาโปรแกรม summer course อื่นๆดู

ราคาก็มีหลากหลายค่ะ แล้วแต่ประเทศที่อยากไป

Nakoze เคยไป take course มาบ้าง แล้วรู้สึกว่าเออมันได้ใช้ภาษามากกว่า

คือที่โน่น เราอยู่กับภาษาอังกฤษตลอด 24 ชั่วโมง มีคนกระตุ้นเราอยู่ตลอดเวลา

แต่ตอน Nakoze เรียน คือเข้าเรียนตั้งแต่ 9 โมงเช้า เลิกเรียนตอน 5 โมงเย็น หัวแทบพัง

ตอนเย็นยังต้องมาอยู่กับ host family ต่อให้มีเด็กไทยเป็น mate กัน

แต่ว่าเราสองคนก็เหมือนถูกกดดันให้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา

ดังนั้นแล้วเลือกโครงการให้เหมาะกับความต้องการของท่านดีกว่าค่ะ

-------------------------------------------------------

42. เอเจนซี่นี้มีงานที่ LA ด้วย เอาดีไหมคะ ?

อันนี้ Nakoze เคยเถียงกับเอเจนนึงแทบเป็นแทบตาย

หล่อนโทรมาบอกว่ามีงานที่เมืองใหญ่คือ los angeles อย่างที่ Nakoze ต้องการแต่เป็นงานฟาสฟู้ดนะ

ตอนแรกหูผึ่งเลยค่ะตอนบอกว่ามีงานใน los angeles แต่พอบอกว่างานฟาสฟู้ด

ไอ้เราก็เอ๊ะ ไม่เคยเห็นงานฟาสฟู้ดใน los angeles เลยนี่หว่า

ปรากฏว่าเถียงกันไป เถียงกันมา พี่ที่เอเจนซี่เค้าเข้าใจผิด เพราะคำว่า LA มีอยู่ 2 แบบ

1.LA = Los Angeles อันนี้ทุกคนรู้จักดี ลอสแองเจลลิส ไม่ได้เป็นรัฐนะ

หากแต่เป็นเมือง ซึ่งอยู่ในรัฐ California

ซึ่ง LA แบบแรกนี่เจริญสุดๆ บลิงๆจริงๆ

2.LA = Louisiana อันนี้เนี่ย เป็นชื่อรัฐ มีเมืองคือ Baton Rouge หรือเมือง New Orleans

อันนี้เนี่ยไม่ได้บลิงๆเท่าไรเลย เรียกว่าต่างกับ Los Angeles พอสมควร

ดังนั้นแล้วหากเอเจนเสนองานมาว่า LA ให้ถามกลับเลยว่า LA ไหน

Los Angeles หรือ Louisiana กันแน่

-------------------------------------------------------

43. หนูอยากทำงานที่รัฐ San Francisco ค่ะ ?

ไม่มีรัฐชื่อ San Francisco ค่ะ มีแต่เมือง San Francisco ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐ California อีกทีนึง

ชื่อคุ้นๆไหม .. ก็รัฐเดียวกับ Los Angeles ไง

-------------------------------------------------------

44. อยากไปทำงานที่เมืองหลวงของอเมริกาค่ะ ที่ New York?

ป๊าด .... อันนี้สมควรไปเข้าคอร์สประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ใหม่

เมืองหลวงของอเมริกาคือ Washington D.C. ค่ะ ไม่ใช่ New York

และ Washington D.C. ไม่ได้เป็นรัฐ แต่เป็นเขตการปกครองพิเศษ

หากคุณอยากทำงานที่เมืองหลวงของอเมริกาจริงๆแล้วล่ะก็

มีบางเอเจนซี่เค้ามีงานค่ะ เป็นงาน Life guard ส่วนอีกอันก็เป็นร้านอาหาร

หรืออาจจะมีเพิ่มมากกว่านี้ก็สุดทราบได้

ไปเสาะหากันเอาต่อเองจ้า

-------------------------------------------------------

45. Washington D.C. vs Washington

ต่างกันตรงไหน ?

Washington D.C. เป็นเืมืองหลวงของประเทศ

ส่วน Washington เป็นรัฐบนสุด ฝั่งตะวันตก มีเมืองที่รู้จักกันดีคือ Seattle

น่าจะเคยได้ยินหนังเรื่อง sleepless in seattle มาบ้างใช่ไหม

Washington ตัวนี้เป็นรัฐ ชื่อย่อคือ WA

ดังนั้นแล้วหากว่าเอเจนซี่บอกว่า มีงานที่วอชิงตัน

ให้ถามเค้าก่อนว่าวอชิงตันไหน ? DC หรือเปล่า

ส่วนถ้าใครทำงานที่ seattle ก็ทำใจได้เลยว่าฝนตกชุกมากๆ อากาศจะหม่นๆเหงาๆ

-------------------------------------------------------

46. Home Sick & Culture shock

Home Sick : อาการคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อ แม่ นู๋อยากกลับบ้านนนนนนน

อาการพวกนี้จะเกิดน้อยลงถ้าคุณมีเพื่อนไป WAT ด้วย

เนื่องจากมันจะสนุกจนลืมบ้านและอาการนี้ก็เป็นกันไม่นานหรอกค่ะ

พอปรับตัวได้ ได้เพื่อนใหม่มันก็จะหาย เรียกได้ว่าเป็นอาการที่เกิดระยะต้นๆเวลาห่างบ้าน ห่างพอแม่

อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวมันก็หายเอง แต่ถ้าไม่อยาก Home Sick มากๆ ก็ออกไปเปิดหูเปิดตา ดูบ้านดูเมือง

เดินถ่ายรูปไปอะไรไป คือออกไปหากิจกรรมทำนองบ้าน

อย่าเอาแต่นั่งเช็ดรูปถ่ายครอบครัวแค่นี้ก็พอจ้า

ส่วน Culture Shock คือไปเห็นในสิ่งที่มันต่างจากบ้านเรา Nakoze มีเรื่องที่พอจะนึกได้ก็ เช่น

☺บ้านเราใช้เท้าคือไม่สุภาพแต่บ้านเขาการใช้เท้าอาจจะเป็นเรื่องปกติ

☺บ้านเรากินอาหารโดยช้อนส้อม แต่ฝรั่งก็จะนิยมใช้ส้อมในการกินแม้ว่ามันจะกินข้าวก็เถอะ

☺กินไก่ KFC บ้านเรามักจะอายที่จะยกแทะ แต่ที่โน่นเ็ต็มที่เลยจ๊ะ

☺ถ้าเมืองที่ค่อนข้างห่างไกล ร้านค้าเม่งปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็น บางร้านก็ไม่เปิดวันอาทิตย์

☺ คนไทยหนาวจะตายห่า แต่แม่คุณดันใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้นเดินไปเดินมา

☺ ไม่อาบน้ำ !!!!!!!!!

☺ ใช้เครื่องล้างจานเสร็จแล้ว ยังเห็นมีฟองติดอยู่เลย แต่แกกลับยกไปผึ่งหน้าตาเฉย

☺ ประตูห้องน้ำมีช่อง !! มันเป็นอย่างนี้จริงๆ หากคุณอยากรู้ว่าช่องมันขนาดไหน

ให้ไปดูที่สนามบิน Seattle มันมีช่องข้างประตูใหญ่พอทีจะเห็นว่าเค้าทำอะไรอยู่นัี่่นแหละ

ช่องข้างประตูยังไม่พอ ข้างล่างยังยกประตูขึ้นสูงด้วย กรี๊ด !!!!!!

☺ ถ้าเพื่อนร่วมงานเป็นวัยรุ่นอายุไม่เกิน 23 และอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ๆ

เรื่องที่มันจะคุย คือเผาแฟนและคุยเรื่อง sex

และมันอาจลามปามมาถามเรื่อง sex กับคุณผู้ซึ่งนั่ง innocent อยู่แถวนั้นก็ได้

วิธีรับมือกับ Culture Shock ก็คือไม่ต้องทำอะไรค่ะ เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม

แต่ถ้าเห็นว่าอะไรเป็นเรื่องที่ไม่ดี ก็ไม่ต้องไปทำตามเค้า

อาธิเช่น เห็นฝรั่งเม่งแอบลอดเข้า subway ฟรี เรารู้อยู่ว่ามันผิด เราก็อย่าไปทำโอเคไหม ?

-------------------------------------------------------

47. ว่าด้วยช่วงเทศกาล

เทศกาลต่างๆนี้มีผลกระทบต่อเด็ก WAT อย่างไร ?

ตอบ อเมริกาเป็นประเทศที่มีเทศกาลเยอะมาก

แล้วพอถึงช่วงเทศกาล ร้านค้าต่างๆก็จะมากระหน่ำลดราคาสินค้า

ซึ่งถึงตอนนั้นเอง เด็ก WAT อย่างเราก็จะซื้อหน้ามืดตัวมัว เนื่องจากว่าถูกมากกก

เอาล่ะค่ะเรื่องเทศกาลก็แล้วแต่เมืองนะ ถ้าเมืองใหญ่ๆ ก็จะมีตัวเลือกเยอะหน่อย

ร้านค้าก็จะเยอะ แข่งขันกันลดจนเราเลือกซื้อไม่ถูกกันเลยทีเดียว

● 17 มีนาคม : Saint Patrick's Day : เป็นวันเฉลิมฉลองของชาวไอริช โดยจะมีขบวนพาเหรด ที่ทุกคนแต่งชุดสีเขียว ใส่หมวกเขียว ขบวนจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็อยู่ที่เมืองและจำนวนชาวไอริช ถ้าเมืองใหญ่ๆหน่อยอย่าง NYC ก็จะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เรียกว่าเป็นสีสันมากๆ

● 28 พฤษภาคม : Memorial Day : คงคล้ายๆกับวันทหารผ่านศึก ในวันนี้ร้านค้าจะพากันลดกระหน่ำมากมาย เรียกได้ว่าเกือบทุกแบรนด์ ทุกยี่ห้อ ส่วนมากก็จะลดกันตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน

● 1 เมษายน : April Fools' Day : วันโกหก จริงๆไม่ได้สำคัญอะไรหรอก แ่ต่ก็อาจจะมีคนเดินมาบอกว่า "I love you" ให้เรางงแตก ก่อนมันจะหัวเราะแล้วบอกว่า สุขสันต์วันโกหก...ฟายเอ้ย!!

● 8 เมษายน : Easter Day : วันอีสเตอร์นี้จะปรับเปลี่ยนไปตามปฏิทินของชาวคริสเตียน ซึ่งปี 2012 Nakoze หาข้อมูลมาว่าเป็นวันที่ 8 เมษายนนะคะ
วันนี้ก็จะมีขบวนพาเหรดอย่างยิ่งใหญ่ ที่แต่ละนางก็บรรจงทำหมวกอย่างอลังการ
มีสัญลักษณ์คือไข่และกระต่าย อันจะเห็นได้จากช็อกโกแลตที่ทำเป็นรูปกระต่าย

● 22 เมษายน : Earth Day : อันนี้น่าจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆหรือเปล่าไม่ชัวร์นะ อาจจะไม่ใช่ 22 เมษาของทุกปี ในวันนี้เราก็จะมาร่วมประหยัดพลังงาน โดยนัดกันปิดไฟทั่วโลกค่ะ อย่างปีที่แล้ว Nakoze อยู่ NYC เค้าก็ร่วมปิดไฟที่ time square และ ตึก empire state ค่ะ ใครอยากเห็นตัวอย่างเชิญชมได้ที่ you tube

● 1 พฤษภาคม : May Day : น่าจะเป็นวันแรงงานนะ ก็มีร้านค้าลดประปราย แต่ไม่เท่า Memorial day อันนั้นเยอะสุดๆ

● วันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม : วันแม่ : วันนี้พวกสินค้าเกี่ยวกับผู้หญิงๆ จะทยอยกันมาลดราคาค่ะ พวกเครื่องสำอางค์ ชุดชั้นใจ ครีมบำรุงต่างๆ

● วันอาทิตย์ที่ 3 ของเืดือน June : Father's Day : คาดว่ามีเด็ก WAT เหลือบางตา ที่เหลือคงกลับไทยกันหมดแล้ว วันพ่อนี้ก็จะลดของเกี่ยวกับผู้ชายค่ะ พวกเน็กไท เข็มขัด น้ำหอม

● 4 กรกฏาคม : วันชาติ เฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ Nakoze ไม่มีโอกาสเข้าร่วมกับเค้าซักที เอาไว้ปี 4 เมื่อไร รับรองจะไปร่วมสนุกให้เต็มที่

-------------------------------------------------------

48. ไปอเมริกาควรซื้ออะไรดี , อะไรราคาถูก ?

อันนี้เกี่ยวเนื่องกับเรื่องของช่วงเทศกาลด้านบน สินค้าบางอย่างจะถูกเฉพาะช่วงเทศกาล

แต่บางอย่างก็ถูกอยู่แล้ว

1. วิตามิน : ถูกกว่าร้านรับหิ้วในอินเตอร์เน็ตมากพอสมควร Nakoze เคยได้รับใบสั่งให้ซื้อวิตามินจากพี่สาว หิ้วเข้าประเทศมาประมาณ 30 ขวดกันเลยทีเดียวจ้า

2. ช็อกโกแลต : ช็อกโกแลตนี้ช่วงที่ถูก คือหลังเทศกาล อีสเตอร์ จะมีช็อกโกแลตมากระหน่ำลดราคา และต้องบอกว่าถูกจริงๆ

3. Bath and Body works : อันนี้ถ้าราคาปกติก็จะถูกกว่าไทยไม่มาก ปกติราคา $10.5 แต่พอวัน Memorial day เท่านั้นแหละ แม่เจ้าโว้ย !! ซื้อ 3 แถม 3
เท่ากับว่าลด 50% โอ้ยคุณขา อิฉันเดินหลงวนเวียนเืลือกกลิ่นจนแทบอ้วกคาร้าน มันถูกม๊ากกก แต่ !! ตัดใจซะไม่ต้องซื้อกลับมาเยอะหรอก เพราะมันหนัก

4.Victoria Secret : อันนี้จะลดก็ช่วงวันแม่ แต่ปกติก็จะมีลดราคาประเภทโล๊ะสต็อกอยู่แล้ว อย่าง 2 ปีก่อน Nakoze เล็งน้ำหอมไว้ขวดนึง $40 แต่ไม่ได้ซื้อ
เพราะตอนนั้นงก แต่ปีที่แล้วกลับไป แม๊ะ มันลดราคาเหลือ $19.99 ฮ่าๆ คว้าแทบไม่ทัน

5.Forever 21 : บอกก่อนว่า Forever 21 นี้ไม่ได้มีอยู่ทุกเมือง ถ้าเมืองใหญ่ถึงจะมี จะลดราคาเสื้อผ้าช่วงเปลี่ยน season เช่นจาก spring เข้าฤดูร้อน ก็จะเอาเสื้อผ้ามาลดราคา แล้วถ้าลดนะ ถูกจริงๆเหลือตัวละ $9 บ้าง $15 บ้าง
แต่ประเด็นคือ ถ้าคุณไปดูที่ร้านมันมักจะไม่มีแบบ ดังนั้นคุณก็ต้องซื้อออนไลน์เอา ซึ่งประเด็นมันมีว่าคุณต้องใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตที่ออกให้โดยอเมริกาเท่านั้น แล้วเด็ก WAT จะซื้อได้ไหม ? ตอบถ้านายจ้างจ่ายเงินคุณโดยการให้บัตรมา จำพวก global cash card แบบนี้ซื้อได้ค่ะ ของที่ราคาถูกก็พวกแว่นตาราคาแค่ $6.5

* ประเด็นบัตรเครดิตสำหรับ Forever 21 จริงๆ Nakoze ไม่ชัวร์นะ ว่าบัตรเครดิตจากไทยจะใช้ได้หรือเปล่า ถ้ามันมีให้กรอก Billing address ก็ไม่น่าจะใช้ได้ แต่ถ้าไม่มีให้หรอก ก็น่าจะได้ หรือจริงๆเวปforever21อาจจะใช้ pay pal หักเงินได้ ต้องเช็คแต่ละเวปอีกทีนะ แต่อย่าง Ray Ban ตัดเงินได้แค่บัตรเครดิตที่ออกโดยอเมริกาเท่านั้น

ุุ6.H&M : อันนี้ขอแสดงความเสียใจสำหรับผู้ที่อยู่เมืองไกลโพ้น เพราะไม่มีแน่ๆจ๊ะ จะมีก็บางเมืองบางรัฐเท่านั้นจ๊ะ เสื้อผ้า H&M แพงกว่า Forever 21 เล็กน้อย แต่เรารู้สึกว่า H&M คุณภาพดีกว่าเล็กน้อย เล็กน้อยจริงๆนะ

ึ7. Papaya : อันนี้เป็นแบรนด์เสื้อผ้าค่ะ ไม่ใช่สวนมะละกอนะเออ เราค่อนข้างชอบแบรนด์นี้ เพราะแบบมันไม่หลุดโลก และใส่ได้จริงในเมืองไทย

8. Abercrombie & Fitch : แบรนด์วัยรุ่นที่สวย...ตรงไหน ? ราคาก็แพงหูดับตับไหม้ เอ้อ สงสัย Nakoze จะตาไม่ถึง

9.Banana Republic & Gap & Old Navy: ราคาถูกแต่แบบไม่ค่อยจะถูกใจวัยรุ่นเลย

10. Aeropostale : แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์โดยการพิมพ์แบรนด์ตัวเองเป็นลายติดเสื้ออย่างเปิดเผย ช่วงMemorial day จะลดราคาจะถูกมาก เสื้อยืดลดเหลือแค่ตัวละ $5

11. นาฬิกา : อันนี้ใน outlet ราคาจะถูกมาก เช่น Fossil , Diesel

12. แว่นตา : Ray Ban ถูกกว่าเมืองไทยเยอะมากก เราไม่ทราบเรื่องของแท้-ปลอมนะ เพราะเราสั่งจากเวป Ray Ban มาโดยตรง ส่วนตาม outlet หรือ ห้างเช่น Century 21 พวกนี้ Ray Ban และแว่นยี่ห้ออื่นๆถูกมาก เจอแว่น Esprit อันละ $10 ของ Coach ก็อยู่ที่ประมาณ $39-69 , Oakley ก็ถูกเหมือนกัน

13.กระเป๋าสตางค์ ยี่ห้อที่ราคาถูกก็เช่น CK , Tommy , Coach , Kenneth Cole, ส่วน Juicy มันลดยังไง Nakoze ก็ว่าแพงอยู่ดี

14. น้ำหอม เอิ่ม...ถูกทุกยี่ห้ออ่ะ ยิ่ง DKNY อื้มมมมม

15. รองเท้า Vans , Nike , Adidas , Converse , Nine West

16. เครื่องสำอางค์ Revlon , รอลีอัล , MAC , NARS [รู้สึกว่าไม่ถูกเท่าไร] , ลิป Burt's Bees , คลินิค , estee lauder , Neutrogena , Smashbox , ลิปที่มีกลิ่น มีรส เ่ช่น รสคุ้กกี้ รสโคล่า รสแบบเด็กๆอย่าง Lip Smacker

ส่วนเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าเราไม่ขอพูดถึงนะ เพราะเราไม่ค่อยโอเคกับการซื้อแบบนี้ ยกเว้นอันไหนที่เป็น international guarantee แบบนี้ถึงจะน่าซื้อ

หากใครสนใจเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นพิเศษ เชิญเช็คราคาได้ที่ //www.bestbuy.com


-------------------------------------------------------

49. แหล่งช็อป ไปซื้อที่ไหนดีคะ ?

ปกติ Walmart ของจะถูก เสื้อผ้าก็โอเค ไม่ไ้ด้แฟชั่นจ๋า แต่ถ้าลดราคามาทีนึงก็็น่าสน

ยิ่งช่วงเปลี่ยนฤดูอย่างที่บอก บางแบบก็จะลดเหลือแค่ $2-5

แบบนี้พวกเด็ก WAT เค้าถึงบอกว่าไม่ต้องพกเสื้อผ้าไปเยอะ

ส่วนถ้าเป็นช็อปของแบรนด์ทั้งหลาย แนะนำให้ไป out let

ซึ่งฝั่ง ลอสแองเจลลิสก็จะมี Barstow Outlet

รัฐมินิโซต้า ก็มี Mall of America ที่ใหญ่มากๆ

คนฝั่งนิวยอร์คก็มี Woodbury Outlet หรือใส NYC เองก็มีที่นึงที่คนเยอะมากกกก

และตั้งอยู่แถวๆ ตึกเวิร์ลเทรดเก่าที่ถล่ม ชื่อห้างว่า Century 21

ส่วนฟลอริด้า อย่าพูดถึงเลย ก้าวท้าวออกจากบ้านก็เจอ Outlet แล้วมั้ง

คงจะมีอยู่ทัวทุกหัวมุมเลยซะม๊างงงงงง

-------------------------------------------------------

50.สัมภาษณ์ไม่ผ่านจะได้ไปไหมคะ ?

อยู่ที่ว่าสัมภาษณ์อะไรค่ะ ถ้าสัมภาษณ์งานไม่ผ่าน ก็ไม่ได้ไปงานนั้นค่ะ

ก็เลือกงานใหม่เอา ส่วนถ้าสัมภาษณ์วีซ่าไม่ผ่าน

ก็ต้องเสียเงินซื้อ pin แล้วสัมภาษณ์ใหม่ ทำจนกว่าจะผ่าน

หรือบางคนสัมภาษณ์วีซ่าพอไม่ผ่านก็ถอดใจ ไปขอเงินจากเอเจนซี่คืนก็ได้เช่นกัน

แต่ไม่ได้เต็มจำนวนนะ ได้คืนบางส่วนเท่านั้น

-------------------------------------------------------

เย่ๆ ในที่สุดก็ครบ 50 ข้อแล้วจ้า

สำหรับบล็อกหน้า Nakoze ว่าจะเขียนเรื่อง กิน เที่ยว ช็อปในนิวยอร์ค

และการ Stop over ที่เกาหลี ค่าใช้จ่ายอย่างประมาณการ

เจอกันใหม่ครั้งหน้าวันนี้สวัสดีค่ะ




คลิกเพื่ออ่านต่อ Step 2 : Agency ไหนดีน๊ะ !!
คลิกเพื่อย้อนกลับ 50 เรื่องควรรู้ก่อนไป Work and Travel :: Part 2(ข้อ 21-36)







Create Date : 20 ตุลาคม 2554
Last Update : 10 ตุลาคม 2556 19:43:24 น.
Counter : 19475 Pageviews.

15 comments
  
เฮ้อ..เหนื่อยแทนเลย แต่ก็ดีใจด้วยที่ครบ 50 ข้อแล้ว มีประโยขน์ทั้งนั้น
ไม่รู้ว่าคุณน้องมีอะไรพอจะรู้และแชร์เกี่ยวกับ Au Pair บ้างป่าว? เนื่องจากเห็นว่าพวกที่มาๆกันก็ปัญหาเยอะแยะมากมาย
โดย: หมอนทอง IP: 66.58.193.173 วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:14:03:32 น.
  
ขอบคุณที่ลงให้อ่านนะคะ มีประโยชน์มาก ๆ เลยค่ะ
ขอบคุณค่าา
โดย: princess of rock วันที่: 8 มิถุนายน 2555 เวลา:22:23:32 น.
  
กำลังหาข้อมูลอยู่ค่ะ ขอบคุณมากๆ
โดย: blue IP: 182.53.158.242 วันที่: 14 สิงหาคม 2555 เวลา:23:43:22 น.
  
สุดยอดดดดดดดดดดดดดดด!!!
ขอบคุณมากๆๆๆจริงค่ะ รู้สึกเหมือนเจอคัมภีร์ลับเลย ฮ่าๆๆๆ
โดย: MJ IP: 101.109.174.233 วันที่: 15 สิงหาคม 2555 เวลา:23:21:15 น.
  
@ คุณหมอนทอง , princess of rock , blue , MJ ยินดีจ้าา เผื่อจะเกิดประโยชน์กับใครอีกหลายๆคน
โดย: nakoze วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:21:09:54 น.
  
มีโครงการจะไปพอดีเลยค่ะ หาแหล่งช็อปที่โน่นพอดี 55

กลัวไปแล้วเอ๋อหาที่ช็อปมิเจอ
โดย: Poy IP: 27.130.206.220 วันที่: 26 สิงหาคม 2555 เวลา:1:50:02 น.
  
สุดยอดข้อมูลจริงๆค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ
โดย: pumpkinz IP: 124.120.3.32 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:37:47 น.
  
thanks na ka.
โดย: moccamint IP: 223.206.215.38 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2555 เวลา:1:03:01 น.
  
เป็นข้อมูลที่ดีมากๆค่ะ
ช่วยตัดสินใจได้เยอะเลย
ขอบคุณค่ะ
โดย: Yok IP: 101.51.15.35 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:28:53 น.
  
ขอบคุณมากๆค่ะ :) เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆ
เท่าที่อ่านมาคุณต้องเก่งภาษาอังกฤษมากแน่ๆเลย ฮาๆๆ ;)
โดย: <3 IP: 110.168.188.89 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา:17:45:00 น.
  
อยากไป แต่ยังเริ่มต้นไท้ถูกเลยค่ะ อยากขอคำปรึกษาสำหรับเด็กใหม่หน่อยคะ อยากไปปีหน้านี่เลยอ่ะ แบบอารมณ์อยากไปไม่มีไรทำ เลยๆไม่ได้วางแผนเลย facbook.Nu nizz หรือเมล์ nitaya.patcha@gmail.com
โดย: Niizz.P IP: 27.55.163.131 วันที่: 19 ธันวาคม 2555 เวลา:14:56:40 น.
  
@Niizz.P มีคนใช้เฟสนี้อยู่เป็นสิบคนเลยจ้า ส่วนเมล์เสิร์ชแล้วไม่เจอ แอดพี่มาทางนี้ดีกว่านะ https://www.facebook.com/b.faii ส่งแมสเสจมาทักด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่ไม่ได้รับแอด
โดย: nakoze วันที่: 19 ธันวาคม 2555 เวลา:20:30:28 น.
  
ขอบคุณมากนะคะ ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะเลย
โดย: charming-berry IP: 75.1.102.162 วันที่: 3 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:05:48 น.
  
อ่านเพลินจริงๆค่ะ. ให้ความรู้กันทุกด้านเลย. คนเขียนใจดีมีน้ำใจมากๆ ขอบคุณแทนทุกๆคนที่เก็บเกี่ยวข้อมูลเพื่อกำลังจะไปเวิร์คด้วยค่ะ (ลูกสาวเรียนปี3 มอ.กำลังทำเรื่องติดต่อไปปี2014นี้ค่ะ)
โดย: Kanokorn IP: 182.53.135.168 วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:8:44:55 น.
  
ขอบคุณมากๆเลยครับ
โดย: Jeerayut IP: 184.22.119.65 วันที่: 10 พฤษภาคม 2561 เวลา:2:27:19 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nakoze
Location :
  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]



New Comments