ตอบ
ตามความเข้าใจหากจะให้วิเคราะห์ลงลึกกว่านี้ วิเคราะห์ว่า พระภิกษุรูปนี้น่าจะบวชอย่างถูกต้องครับ และท่านมีปฏิปทาดีคือชอบความวิเวกจึงยึดเอาสถานที่หลีกเร้นเช่นนั้น และน่าจะมีคุณธรรมระดับสมาธิระดับหนึ่ง แต่อย่างที่ว่าเมื่อท่านไม่แยบคายในศีลละเอียดข้อดังที่กล่าวไว้ใน คห.ที่ 9 นั้น มันส่อแววว่าท่านผู้นี้ หลงทางมากกว่าที่คิดจะ อวดอุตริ เพื่อหาทรัพย์หรือลาภสักการะ
ฉะนั้นจึงได้กล่าวว่า "ท่านน่าสงสาร" อาจเป็นเพราะเกิดอาการขัดใจกับสำนักที่บวชว่าไม่มีปฏิปทาเรื่องการภาวนา ท่านจึงหลีกเร้นผู้เดียวโดยที่ไม่ศึกษาหรือไม่มีที่ให้ศึกษาก็ได้ในเรื่องศีลละเอียด
โดยส่วนใหญ่พระภิกษุเหล่านี้จะบวชเมื่ออายุมากแล้ว และข้อสำคัญคือไม่มีโอกาสพบเจอ หมู่สงฆ์ที่ปฏิบัติอย่างถูกต้องชัดเจนจึงทำให้ ศีลวัตรออกนอกแนวอย่างนั้น สังเกตุได้ว่าที่ท่านผู้นี้เอ่ยเรื่องการสร้างวัด สร้างพระ ซึ่งส่อเจตนาว่าท่านคิดดี แต่รากมูลของการคิดนั้นมันเบี่ยงเบนเสียแล้วจากเรื่องวินัยละเอียดไม่ได้ศึกษา(สิกขา) หรือไม่ได้ประพฤติ เรื่งของพระภิกษุรูปนี้เป็นเหตุให้สาธุชนในที่นี้ได้แง่คิดมากครับว่า
สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงดำรัสนั้นพระองค์ไม่ได้ทรงใช้คำว่า "ให้ทำดี" ทรงมีพุทธดำรัสว่า จงยังกุศลให้ถึงพร้อม ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่า "ความดี" กับ"กุศล" นั้นอาจแตกต่างกันได้ ซึ่งผู้แปลหลายที่ แปลข้อความตรงนี้ว่า จงทำดี ซึ่งอาจให้ความหมายที่ไม่ตรงได้ในยุคนี้