ตอนที่ 8
8 หลังรับประทานอาหารกลางวันอาโปมีเวลานั่งกินลมชมวิวอยู่ในอาณาบริเวณสวนย่อมที่ระเบียงตึกพอควรเธอพอใจที่สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่ให้ความสนใจใช้ประโยชน์จากความสวยงามของมันมากที่สุดในขณะที่คนอื่นๆ เมื่อถึงเวลาเที่ยงวันก็จะออกไปสรรหาอาหารจากร้านอร่อยๆนอกสำนักงานรับประทาน นี่ถ้ามีเปลผ้าใบมากางไว้สักตัวคงจะดีไม่น้อยนะเธอเอ่ยพลางยกมือขึ้นปิดปากหาวหวอด ใช้นิ้วปาดหน้าจอโทรศัพท์เพื่อดูเวลาแล้วก็ยิ้มยังมีให้งีบได้กว่าครึ่งชั่วโมง ร่างบางโน้มตัวลงบนโต๊ะที่ก่อนหน้านั้นใช้วางอาหารกลางวันแต่เวลานี้เธอใช้วางท่อนแขนเพื่อหนุนศีรษะแทนหมอนแล้วหลับตาลงตั้งใจว่าจะของีบสิบนาที เพื่อเติมพลังงานที่จะต้องใช้ต่ออีกไม่น้อยในช่วงบ่าย ใบหน้าที่ได้รับการตกแต่งบางเบาอย่างเป็นธรรมชาติพลิกกลับมายังด้านที่เธอไม่อาจรู้ได้เลยว่ามีใครอีกคนกำลังนั่งมองอยู่แทบจะทุกฝีก้าว หลับไปแล้วเหรอคนนั่งมองอยู่ภายในห้องกระจกติดแอร์เย็นฉ่ำเอ่ยถาม พลางลุกขึ้นขยับเข้าไปใกล้ รู้สึกพอใจกับภาพที่เห็นอยู่ภายนอกนักใบหน้ายามหลับดูอ่อนเยาว์ไร้เดียงสา ไม่ต่างจากเด็กสาววัยยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม สำหรับเขาแล้วนี่เป็นภาพที่งดงามกว่าไม้ดอกไม้ประดับที่ได้รับการจัดตกแต่งจนเต็มพื้นที่ระเบียงนั่นซะอีก คุณชายครับ เสียงเรียกจากประตูทำให้ชายหนุ่มโน้มตัวไปกระตุกสายมู่ลี่ให้ปิดลงบดบังทิวทัศน์ที่แสนจะงดงามภายนอก ก่อนเขาจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน มีอะไรเหรอคุณถวิล คุณท่านโทรมากำชับคุณชายครับว่าอย่าลืมงานเลี้ยงคืนนี้ถวิลเอ่ยถึงธุระที่ทำให้เข้าต้องเข้าพบคุณชายก่อนบ่ายโมง งานเริ่มทุ่มตรงไม่ใช่เหรอคุณถวิล ครับ...แต่คุณท่านอยากให้คุณชายกลับบ้านบ่ายนี้เลยเห็นบอกว่ามีเรื่องสำคัญ... ถวิลรายงาน เรื่องสำคัญ? อะไร? ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ผมคิดว่าคุณชายควรจะทำตามคำสั่งของคุณท่านนะครับ ชลธิศมองไปยังกองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะเขายังไม่ทันได้ตรวจดูความเรียบร้อยเลยด้วยซ้ำนับตั้งแต่มันถูกนำมาวางไว้ตรงหน้า...เขาไม่รู้หรอกว่าคุณย่ามีจุดประสงค์ใดในการเรียกตัวเขากลับหากเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ก็น่าจะโทรหาเขาโดยตรง ทำไมต้องติดต่อผ่านมาทางคุณถวิลถ้าไม่เพราะกลัวการปฏิเสธ นั่นเห็นได้ชัดว่าเรื่องที่อ้างถึงไม่ได้สลักสำคัญจริงอย่างที่บอก โทรเรียนคุณย่าก็แล้วกันว่าผมจะกลับให้เร็วขึ้นแต่ไม่ใช่เดี๋ยวนี้ ขอผมเคลียร์งานบนโต๊ะกองนี้ก่อน ครับคุณชาย ถวิลรับคำ เขาโค้งคำนับก่อนจะถอยจากไปทิ้งคุณชายไว้กับงานที่ให้ความสำคัญมากกว่าคำสั่งประกาศิตซึ่งน้อยคนนักที่จะกล้าขัด เดี๋ยวครับคุณถวิล เสียงเรียกเอาไว้ก่อนชายวัยเฉียดห้าสิบจะพ้นประตู เขาหันกลับมามองนายน้อยด้วยแววตาแห่งคำถามก่อนจะหมุนตัวกลับมายืนนิ่งรอรับคำสั่ง สั่งคนช่วยหาเก้าอี้นอนแบบสบายๆให้ผมสักตัวหน่อยจะเป็นไม้หรือพลาสติกก็ได้ เอาไปวางไว้ที่สวนย่อมด้านนอกหาจุดที่แดดส่องไม่ถึงในช่วงเที่ยงวันเป็นต้นไปถ้าไม่มีก็ทำให้มี...ผมต้องการให้เรียบร้อยก่อนเที่ยงพรุ่งนี้ ข้างนอก... ตรงระเบียง?ถวิลถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มพยักหน้าเขารับคำก่อนจะเดินกลับออกจากห้องไปด้วยอาการงุนงง ที่เพิ่มขึ้นมาอีกเป็นสองเท่า พอพ้นร่างผู้ติดตามวัยดึกชลธิศจึงลุกจากเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตรงมายังผนังกระจกสายมู่ลี่ถูกดึงให้เปิดออกเพื่อให้มองเห็นภายนอก...เวลานี้ไม่มีใครปรากฏให้เห็น ณบริเวณนั้นแล้ว ชายหนุ่มเหลือบมองนาฬิกาที่ผนัง หลับไม่ถึงห้านาทีจะพอเหรอ ชายหนุ่มแค่ปรารภแต่ใช่ว่าเขาจะต้องการคำตอบ มู่ลี่ถูกดึงให้ปิดลงตามเดิมเพราะเขาไม่ชอบแสงสว่างที่ดูเหมือนจะจัดจ้าเกินไปในยามบ่ายเมื่อไม่มีสิ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจของเขาแล้ว ความสนใจทั้งหมดทั้งมวลจึงถูกส่งไปยังกองงานบนโต๊ะทันที หลังใช้เวลาส่วนตัวในช่วงพักกลางวันพอประมาณแม้ไม่ถึงกับเต็มร้อย อาโปก็เดินหิ้วกระเป๋าผ้ากลับลงมายังชั้นที่เป็นสำนักงานของเธอเพราะเสียงเรียกจากโทรศัพท์ โทรเรียกฉัน มีอะไรหรือเปล่าอาโปเอ่ยถามเพื่อนสาวที่สนิทสนมที่สุดนับตั้งแต่เรียนจนกระทั่งทำงาน พ่อกับแม่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศบ่ายนี้...ฉันจำเป็นต้องไปรับท่านที่สนามบินน่ะอาโปไอรดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ก็ไปสิ...ลาครึ่งวันผู้จัดการใหญ่คงไม่ว่าอะไรหรอก เข้าไปลาเรียบร้อยแล้ว แต่งานฉันยังไม่เสร็จเลยคิวที่ต้องส่งตรวจพรุ่งนี้ซะด้วยสิ...ทำไงดี ไอรดาทำหน้าเศร้าครั้นจะให้ท่านกลับแท็กซี่ฉันก็เคยรับปากเอาไว้ว่าจะไปรับด้วยตัวเองไม่อยากผิดคำพูดน่ะ เพราะตอนไปส่งท่านขึ้นเครื่องฉันก็ไม่ได้ไป แล้วงานแกเหลืออะไรมั่ง อาโปเอ่ยถามพลางถอนหายใจเมื่อเดาจุดประสงค์ของเพื่อนออก แกจะช่วยฉันเหรอ...ขอบใจมากเพื่อน...แกเป็นเพื่อนที่ประเสริฐที่สุดที่ฉันเคยมีเลยจริงๆ ไม่ต้องมาทำพูดดี ฉันไม่ใช่คนบ้ายอ...ว่ามา..ไหนงานของแกที่ค้างอยู่ นี่ไง...ไม่เยอะหรอกแค่กองนี้กับกองนี้เท่านั้นเอง เจ้าของงานชี้ไปที่แฟ้มเอกสารสามสี่แฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะ เฮ้ย...นี่นะไม่เยอะของแกอาโปถึงกับทำตาโต รายละเอียดหลัก ๆ ฉันทำหมดแล้วเหลือแค่ตรวจสอบตัวเลขว่ามันตรงกันหรือเปล่าในแต่ละรายการ...สำหรับคนละเอียดรอบคอบอย่างแก งานนี้แค่เรื่องเล็กๆไอรดาหยอดคำหวานลงไปเพิ่ม ถึงจะรู้ดีว่าเพื่อนไม่ใช่คนบ้ายออย่างที่บอกแต่ความสามารถของอาโปเธอนั้นรู้แก่ใจดีว่าสิ่งที่เธอพูดไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เออๆ...โอเค...เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ ขอบใจมากเพื่อน...ขอบใจจริงๆ...งั้นฉันไปก่อนนะเครื่องจะลงตอนบ่ายสอง ไม่อยากให้ท่านรอนาน ไอรดายิ้มกว้าง เธอจัดแจงดึงเก้าอี้ออกห่างจากโต๊ะกดเพื่อนลงนั่งแทนที่อย่างกระตือรือร้น แล้วหันไปคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นคล้องไหล่โบกมือลาพร้อมรอยยิ้มอีกรอบก่อนจะรีบผละจากไปดั่งกลัวว่าคนที่นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของเธอจะเปลี่ยนใจ อาโปมองตามหลังไปจนเพื่อนเดินพ้นประตูออกไปก่อนจะหันกลับมามองกองแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็ต้องถอนหายใจงานเกี่ยวกับยอดการสั่งจองทัวร์ในประเทศและต่างประเทศย้อนหลังสามปีพร้อมรายละเอียดอื่นๆ ในการเบิกจ่ายสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางของลูกค้ารวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการติดต่อสถานที่พักในแต่ละทริปอาจไปใช่งานใหญ่แต่ก็ยุ่งยากพอควรที่ต้องตรวจสอบให้ยอดรายจ่ายตรงตามเอกสารหลักฐานที่ได้รับเพื่อประเมินว่าไม่มีการใช้จ่ายนอกเหนือจากที่ระบุ เมื่อรับปากแล้วก็ต้องลงมือทำให้จนสำเร็จ...คิดแล้วแฟ้มงานแรกก็ถูกกางออก...ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเธออย่างที่ไอรดาว่าก็ในเมื่อคิวงานของเธอเป็นคิวสุดท้าย ยังมีเวลาอีกหลายวันที่จะเคลียร์ให้เสร็จ ในแวดวงธุรกิจการจัดงานเลี้ยงมีให้เห็นบ่อยครั้งด้วยจุดประสงค์หลากหลายที่ซ่อนเร้นเพื่อส่งเสริมกิจการให้ก้าวไกลไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจึงไม่แปลกที่กลุ่มนักธุรกิจแนวหน้าของประเทศจะถูกเชิญมาร่วมงาน เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีและแสดงศักยภาพฐานะทางสังคมให้เป็นที่ประจักษ์ นับตั้งแต่ชลธิศเดินทางกลับมาใช้ชีวิตบนแผ่นดินเกิด...ไม่น้อยเลยกับจำนวนครั้งที่เขาได้รับเชิญไปร่วมงานในฐานะทายาทคนเดียวของตระกูลนรานุรักษ์ที่กำลังขึ้นนั่งตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของบริษัทในเครือการไปร่วมฉลองและแสดงความยินดีในความสำเร็จของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นกลุ่มมิตรหรือศัตรู เขาไม่เคยเกี่ยงที่จะไปร่วมงานพวกนั้น ทว่าในครั้งนี้กลับมีบางสิ่งแอบแฝงโดยใช้งานจัดเลี้ยงสร้างประโยชน์บางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยแม้สีหน้าที่แสดงออกในเวลานี้จะดูราบเรียบไร้ซึ่งสัญญาณแสดงให้ใครต่อใครล่วงรู้ถึงความรู้สึกภายในจิตใจ นี่คุณอรอนงค์เพื่อนของแม่กับหนูไอรดาที่แม่เคยนัดกินข้าวเมื่อไม่นานมานี้ไงลูกสองคนก็น่าจะรู้จักกันแล้ว คุณนพมาศแนะนำพร้อมรอยยิ้มสว่างไสวทั้งๆที่พอรู้อยู่ว่าการนัดหมายดูตัวครั้งนั้นล่ม เอ่อคือ...ไอซ์ต้องกราบขอโทษคุณป้าตรงนี้เลยนะคะที่วันนั้นติดธุระสำคัญไม่ตามนัดไม่ได้ ครั้นจะโทรแจ้งเลื่อนนัดก็ไม่มีเบอร์คุณชายเลยส่งเพื่อนให้ไปบอกเลื่อนนัดแทน ไอรดาออกตัวด้วยเชื่อว่าผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายหนุ่มต้องรู้ว่าเธอไม่ไปตามนัดแน่นอน นี่ลูกไม่ได้ไปตามนัดเหรอ คนที่หันมาซักฟอกเอาความจริงกลับเป็นมารดาที่ยืนอยู่ข้างๆไอรดาถึงกับทำหน้าแหย เพราะนึกขึ้นได้ว่าคนที่ยังไม่รู้เรื่องนี้ ยืนอยู่ใกล้ๆนี่เอง คือไอซ์ติดธุระด่วนค่ะ เลยวานอาโปไปบอกเลื่อนนัดให้เธออธิบายหน้าม่อย อาโป? เพื่อนของไอซ์ไงคะแม่ที่เรียนคณะเดียวกัน และยังทำงานที่เดียวกันอีกด้วย ไอรดาอธิบายเพิ่ม แม่ก็พอรู้อยู่ว่าเรามีเพื่อนสนิทแต่เพื่อนเราคนนี้ แม่ไม่เคยเห็นว่าเราจะพามาเที่ยวที่บ้านเลยคุณอรอนงค์บ่นให้บุตรสาว ลืมไปเลยว่านางไม่ได้ยืนสนทนาอยู่กันเพียงสองคน อาโปเป็นคนขี้เกรงใจค่ะแม่แต่อาโปเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของไอซ์นะคะ อย่างวันนี้ถ้าไม่ได้อาโปช่วยอยู่เคลียร์งานให้ ไอซ์ก็อาจจะยังอยู่ที่ออฟฟิศนั่งทำงานส่งพรุ่งนี้ ไม่ได้มางานเลี้ยงกับคุณแม่ ขณะที่หญิงสาวบรรยายสรรพคุณเพื่อนรักคิ้วเข้มของชายหนุ่มหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่บริเวณนั้นก็ขมวดหมุนเข้าหากันโดยอัตโนมัติทั้งยังยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา ช่างเถอะค่ะถึงวันนั้นจะยังไม่เจอกัน แต่วันนี้ก็ได้รู้จักกันเป็นทางการซะทีคุณนพมาศเอ่ยแทรก เมื่อไม่อยากให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่โต สวัสดีครับ เมื่อเห็นบุตรชายยกมือไหว้ทำความเคารพเพื่อนของนางและก้มศีรษะในเชิงทักทายให้หญิงสาวตรงหน้าโดยไร้ปฏิกิริยาใดๆ ก็ทำให้นางโล่งอก ลูกสองคนคุยกันไปก่อนนะแม่กับคุณอรอนงค์ขอเข้าไปทักทายเจ้าของงานหน่อยพอได้จังหวะคุณนพมาศก็หาวิธีเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้พูดคุณสร้างความสนิทสนมตามลำพังให้มากขึ้น ครับ... ชลธิศรับคำอย่างง่ายดาย นพมาศรีบจูงมือเพื่อนให้เดินตามไปด้วยกันด้วยรอยยิ้มสมใจ วิธีนี้ดูเนียนกว่าการดูตัวเป็นไหนๆเมื่อบุตรชายของนางเห็นความน่ารักและช่างเจรจาของหนูไอรดาบางทีเขาอาจเปลี่ยนใจใหม่ยกเลิกความคิดที่จะคว้าผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าที่เคยพูดถึงเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านให้นางต้องลำบากใจจนเข้าหน้าคุณแม่สามีไม่ติด ทว่าพอพ้นหลังมารดาทีท่าแห่งความเย็นชาเฉยเมยก็แผ่รัศมีออกจากร่างชายหนุ่มเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเขาล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงถอยฉากออกไปติดต่อสนทนาในระยะห่างพอที่จะมีความเป็นส่วนตัว คุณถวิล ตรวจสอบให้ด้วยว่าคุณอาโปยังอยู่ออฟฟิศหรือเปล่า...ส่งคำตอบเป็นข้อความเข้ามาก็แล้วกันชายหนุ่มกรอกคำสั่งลงไปในเครื่องส่งสัญญาณสื่อสารขนาดจิ๋วในมือ ครับคุณชาย ชลธิศเก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋าเช่นเดิมแล้วเดินกลับมายังจุดที่หญิงสาวผู้มีตำแหน่งที่เขาให้ความสำคัญอยู่แค่เพียงลูกจ้างในบริษัทซึ่งเวลานี้เขาอาจเพิ่มตำแหน่งให้เธออย่างให้เกียรติมาอีกอย่างนั่นคือบุตรสาวเพื่อนสนิทของแม่ แต่จะให้ยกฐานะขึ้นมากกว่านั้นคงไม่ได้แล้วเพราะตำแหน่งที่ใครหลายคนอยากให้เธอเป็นสำหรับเขา เวลานี้ไม่ว่างเสียแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะครับผมไม่ใช่คนชอบพูด อาจทำให้คุณอึดอัด ชลธิศเอ่ยเป็นประโยคแรก ไม่เป็นไรค่ะ...ไอรดาตอบทั้งส่งยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง สายตาของเธอลอบมองชายหนุ่มตรงหน้าเพื่อประเมิน...ชลธิศเป็นชายหนุ่มที่ดูดีไปซะทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยก็ว่าได้ เขามีเพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติรวมไปถึงความสามารถและอำนาจในการบริหารงานไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะกลายเป็นความใฝ่ฝันหมายปองของสาวๆ ทั่วบ้านทั่วเมืองนี่หากไม่เพราะสายตาเย็นชานั่นกับเพราะเธอมีเงาของใครอีกคนประทับอยู่ในหัวใจแล้วไม่แน่ว่าชายหนุ่มตรงหน้าอาจมีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้หัวใจของเธอเกิดอาการสั่นไหวได้เหมือนกัน ทว่า...เมื่อนึกถึงวันนัดดูตัวที่เธอส่งเพื่อนรักไปแทนแม้ทุกอย่างจะดูราบรื่นไร้ปัญหาให้กังวลแต่จนบัดนี้อาโปก็ยังไม่ยอมเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์วันนั้นให้เธอฟังเลยแต่จะว่าไป สำหรับอาโปผู้เป็นเพื่อนรักที่รู้จักนิสัยใจคอกันมาเนิ่นนานเป็นอย่างดีเธอก็พอเดาออกว่าเพื่อนมีความคิดเห็นอย่างไร...นั่นคงไม่พ้นวลีที่มักได้ยินจากปากอาโปเสมอก็คือ...เลิกใส่ใจซะ กระโดดให้ตายก็คว้าไม่ถึง ผมคงไม่เหมาะที่จะอยู่เป็นเพื่อนคุยกับคุณ...ตามสบายนะครับไม่ต้องใส่ใจว่าผมมีตัวตนอยู่ตรงนี้ก็ได้ชลธิศเอ่ยออกมาอีกประโยค ฉันคิดว่าคุณกำลังอึดอัดมากกว่านะคะ...อาจเพราะเราไม่ได้สนิทสนมกันมากมายพอจะมีเรื่องที่รู้จักและให้ความสนใจร่วมกันให้พูดถึง ก็คงอย่างนั้น แม้ตอบไปอย่างนั้นแต่ภายในใจของเขาก็เอ่ยคำคัดค้านใครบอกว่าเธอและเขาไม่มีเรื่องน่าสนใจให้พูดถึงร่วมกัน เรื่องย่อมต้องมีแน่นอนเรื่องที่ว่านั้นเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับสัญญาณสั่นสะเทือนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงในขณะนี้ โทรศัพท์ถูกหยิบออกมาอีกครั้งเพื่อดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามาตามคำสั่งก่อนจะเก็บมันไว้ที่เดิม สายตาคมประสานกับดวงตากลมโตที่กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน ได้ยินคุณว่าก่อนจะมางานนี้คุณวานให้เพื่อนทำงานแทนเหรอครับ เขาเปิดประเด็นสนทนา ค่ะ...ใจจริงก็ไม่อยากรบกวนเพื่อสักเท่าไรนักแต่ทำยังไงได้ งานนี้ดิฉันปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ไอรดาตอบตามจริง ผมว่างานเลี้ยงวันนี้ไม่ได้มีความสำคัญมากมายอะไรนักนะครับ ถ้าคุณไม่อยากมาก็น่าจะพอหาเรื่องหลีกเลี่ยงได้ ดิฉันไม่อยากขัดใจคุณพ่อคุณแม่ค่ะ...ดิฉันเห็นคำสั่งท่านสำคัญกว่าอื่นใด เหรอครับ...แต่กระนั้นคุณก็ยังส่งคนอื่นไปดูตัวแทน ชายหนุ่มเอ่ย ไอรดาพยายามประเมินความคิดของหนุ่มรูปงามตรงหน้าด้วยสีหน้า แววตา และน้ำเสียงที่เขาเอ่ยถึงเรื่องการดูตัวครั้งนั้นแต่ความเรียบเฉยที่ปรากฏ ไม่อาจทำให้เธอทราบอะไรได้เลย ไม่อยากเชื่อว่าดิฉันจะทำให้คุณผิดหวังเรื่องดูตัว ไม่หรอกครับ...ผมอยากขอบคุณคุณมากกว่าชายหนุ่มเอ่ย เมื่อนึกไปถึงคนที่มาแทนหญิงสาวตรงหน้า ถึงแม้ว่านั่นจะไม่ใช่การมาเพื่อดูตัวแต่เป็นการปฏิเสธแต่ก็ทำให้เขายินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้พบเธอคนนั้นอีกครั้ง ถ้าเช่นนั้นก็แสดงว่าดิฉันทำถูกแล้วที่ไม่ได้ไปตามนัดไอรดายิ้มกว้าง ก็คงจะอย่างนั้นสีหน้าและน้ำเสียงของคนตอบยังคงราบเรียบอยู่เช่นเดิม ความราบเรียบนิ่งเฉยเย็นชาของชายหนุ่มตรงหน้ากลับไม่ได้ทำให้ไอรดารู้สึกเบื่อหรือรำคาญทว่านั่นกลับทำให้เธออยากรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในใจเขา รวมไปถึงข้อความทางโทรศัพท์ที่ส่งสัญญาณสั่นสะเทือนให้เขาล้วงออกมาอ่าน แถมคราวนี้ชลธิศยังพิมพ์ตอบกลับไปซะอีก มีธุระด่วนเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายนะคะไม่ต้องกังวลถ้าผู้ใหญ่จะถามถึงคุณ ไอรดาเปิดโอกาส ถึงแม้จะเพียงชั่วพริบตาแต่หญิงสาวก็สามารถจับความกังวลบางอย่างในแววตาคู่นั้นได้ เมื่อเธอและเขาไม่ได้คิดที่จะสานสัมพันธไมตรีที่มากเกินไปกว่าคนรู้จัก ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะยึดเหนี่ยวเขาไว้ ขอบคุณครับ...งั้นผมไปล่ะ เมื่ออีกฝ่ายไม่ว่ากระไรเขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจใครร่างสูงหมุนตัวเดินจากไปในทันทีด้วยความรู้สึกที่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นบ่อยนัก...แต่นั่นหาใช่ความรู้สึกไม่ รถเก๋งคันหรูสีดำวาวจอดรออยู่นอกงานกว่าที่ร่างสูงของผู้เป็นเจ้าของจะเดินไปถึงชายวัยกลางคนยืนเตร่อยู่ใกล้ ๆ มองเจ้านายด้วยแววตาที่แสดงความรักและให้ความเคารพ กุญแจล่ะ ชายหนุ่มถามน้ำเสียงค่อนข้างจะห้วน เสียบคาอยู่ในรถครับคุณชาย ประตูด้านคนขับถูกกระชากเปิดออกอย่างเร่งรีบให้ร่างสูงก้าวเข้าไปนั่ง เขาเลื่อนกระจกลงทั้งชะโงกหน้ามาเพื่อสั่งการผู้ติดตามคนสนิท โทรเรียกรถอีกคันมาไว้รอรับคุณแม่นะถ้าท่านถาม ก็บอกแค่ว่าผมมีงานด่วนต้องรีบทำ ครับคุณชาย ว่าแต่ปัญหาที่เกิดสั่งคนเข้าไปแก้ไขหรือยัง ผมแจ้งไปยังฝ่ายผู้ดูแลแล้วครับพวกเขาบอกว่าจะรีบจัดการอย่างเร่งด่วน ดี... ชลธิศตอบรับเพียงสั้นๆก่อนจะพารถคันงามกระชากตัวแล่นออกไปโดยไม่คิดรั้งรออะไรให้เสียเวลา ****** แหะๆๆๆ โทษทีค่ะ ตอนที่แล้วรีบไปหน่อยลืมคลิกอนุญาตทุกคน...แต่ก็ดีใจนะคะที่ยังมีคอมเม้นต์มาให้ชื่นใจ... น่ารักจนอยากให้รางวัล ^_^
Create Date : 05 เมษายน 2560 |
Last Update : 5 เมษายน 2560 19:35:17 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1052 Pageviews. |
|
|
สู้ๆๆนะคุณชาย