ก่อนนั้นเคยคิดกันเล่นๆ ว่าถ้าได้มาอยู่ที่ฝรั่งเศส อยากจะอยู่เมืองไหน

ครั้งแรกๆของการเดินทาง มาทำงานในเมืองเล็กๆเงียบๆ ก็กลัวจะเหงา น่าเบื่อ ไม่มีอะไรทำ พอเดินทางเยอะเจอ ได้ไปเจอหลายๆเมืองเข้า ก็พบว่าเมืองใหญ่มันก็วุ่นวายเกินกว่าจะอยู่อาศัยอย่างเป็นสุข

พอไปเจอเมืองเมืองใหญ่ทางเหนือของฝรั่งเศส อย่าง Lille ความคิดก็เปลี่ยนไป เมืองใหญ่ที่คงความเก๋ไก๋ไว้ก็ยังมีอยู่ (คงจะเหมือนกับคนที่อยากจะอยู่เชียงใหม่มากกว่ากรุงเทพ) จุดที่ชอบมากคือ เขตเมืองเก่า ไม่ใหญ่มากแต่มีความชิคที่ลงตัว มีร้านขายของทุกชนิดตั้งแต่ไม้จิมฟัน ยันของแบรนด์เนมหรูๆ

อีกเมืองที่ชอบคือ Lyon เมืองใหญ่ทางตอนกลางของฝรั่งเศส ติดแค่ว่าคนพลุกพล่านมากไปหน่อย จนบางทีก็อึดดัด แต่จุดเด่นของเมืองนี้คือแม่น้ำไหลผ่านเมือง

ถัดมาทางใต้หน่อยคือ Avignon เมืองเก่าที่นี่น่ารัก กำแพงรอบเมืองสูงใหญ่ มีป้อมปราการ มีแม่น้ำไหลขนาบด้านนอก สำหรับฉันเมืองนี้สวยเรียบหรู บรรยากาศของ Avignon ดึงดูดคนมาเที่ยวเยอะมากช่วงหน้าร้อน และโดยเฉพาะช่วงดอก lavender บาน

เจอมาหลายเมือง ก็แอบเทียบไว้ในใจว่า เมืองนี้เมืองโน้นน่ามาอยู่

แต่พอมาเจอ Toulouse เข้าครั้งเดียวเท่านั้น ลืมภาพเมืองอื่นๆไปถนัดใจ

Toulouse ชนะขาดลอย แบบทิ้งห่างเป็นจ่าฝูง 

Toulouse มีทุกอย่างที่เมืองอื่นๆที่ว่ามาข้างต้น มีเขตเมืองเก่าที่เก๋มาก สีส้มอมแดงคล้ายสีกลีบดอกกุหลาบ จึงทำให้เมืองนี้ได้ฉายาว่า "นครสีชมพู" (La  Ville Rose)  มีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน สามารถมานั่งชมวิวริมน้ำได้ บางเทศกาลจะสีแสดงแสงสี หรืองานดนตรีก็มีให้เห็น

Toulouse อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีพรมแดนติดกับสเปน มีเทือกเขาพิเรนีสคั่นกลางอยู่ เป็นเมืองใหญ่อันดับที่สี่ของประเทศรองจาก Paris Lyon และ Marseille ที่นี่เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมการบินของโลก บริษัทผลิตเครื่องบินชื่อดังอย่างAirbus ก็ตั้งอยู่ที่นี่  เพื่อนร่วมทางของฉันก็เรียนจบจากที่นี่ แถมเพื่อนที่เรียนด้วยกันยังทำงานอยู่ที่Airbus ด้วย เลยได้โอกาสมาเที่ยวและมาเยี่มเพื่อนไปในตัว ที่นี่เค้าเรียกตัวเองว่าเป็น "บ้านของแอร์บัส" เพราะพนักงานแอร์บัสอาศัยอยู่ที่นี่กว่า 25,000 คนแหน่ะ เรียกว่าเดินชนคนทำงาน Airbus ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่

สิ่งที่ชอบมากในToulouse นอกจากอาคารบ้านเรือนแล้ว ยังเป็นเมืองที่ค่อนข้างสะอาดเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆทั่วไป  เพื่อนบอกว่าถ้ามาเมื่อสมัยเรียน สกปรกกว่านี้มาก แปลว่าตอนนี้คือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเยอะ  เค้าอนุรักษ์สถาปัตยกรรมโบราณตั้งแต่ยุคอาณาจักรโรมันไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

ไม่เชื่อ.....ตามมาดูกันค่ะ

…………………………………..…………………………………..…………………………………..………………………

ทริปต่อจากเมืองน่ารักๆ เมืองนี้ Carcassonne --> //pantip.com/topic/35415911

หลังทานอาหารเย็นที่ Carcassonne แล้ว แต่ฟ้ายังไม่มืดเท่าไหร่  เราก็มุ่งหน้าไป Toulouse ระยะทาง 94 กิโลเมตร บนถนนที่รถไม่ติด แต่มีฝนตกปรอยๆระหว่างทาง ทำให้ความง่วงเริ่มถามหา

อีกสองคืนหลังจากนี้จะมีการแข่งขันฟุตบอลยูโรที่นี่ แฟนบอลจากหลากหลายประเทศ ต่างก็มารวมตัวกัน ทำให้ที่พักค่อนข้างหายาก แต่โชคดีเราจองกันมาก่อนล่วงหน้า โดยลืมนึกถึงฤดูกาลยูโรด้วยซ้ำ

ขณะที่เข้าcheck in ที่โรงแรม ยังมีนักเดินทางเข้ามาถามหาห้องว่าง รถที่จอดอยู่ด้านหน้ามีทั้งป้าย Belgium Hungary สองทีมนี้จะแข่งวันถัดไป 

จาก Belgium ขับมาที่นี่เกือบ 1000 กิโล ส่วนมาจาก Hungary นี่ปาเข้าไป 1890 กิโล เรียกว่าถ้าใจไม่รัก คงทำไม่ได้ ระยะทางขับรถกันเกือบวัน เลยเดาว่าเค้าอาจจะจัด road trip เที่ยวมาเรื่อยๆ

คืนนี้นอนเก็บแรงไว้ก่อนดีกว่า เพราะพรุ่งนี้เช้า เรามีนัดพิเศษกับเมือง Toulouse เป็น exclusive meeting ที่ต้องใช้เวลาทั้งวัน

…………………………………..…………………………………..…………………………………..……………………

เช้าวันใหม่ ฟ้าใส เมฆสวย

แต่งตัวเต็มยศ เดินออกจากโรงแรม ทำไมอากาศเย็นกว่าที่คาดเอาไว้นะ ช่างมันเถอะ...คิดในใจว่าตอนสายๆน่าจะร้อน

เราเดินจากโรงแรม เลียบลำคลองที่น้ำใสมาก มารู้ทีหลังว่าคลองนี้มีความสำคัญ คลองชื่อ กานาลดูว์มีดี (Canal du Midi) เป็นลำคลองที่มีความยาวรวมกว่า 240 กิโลเมตร ผ่านทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสเชื่อมระหว่างแม่น้ำการอน (La Garonne) ไปยังทะเลสาบโต (Étang de Thau) ที่อยู่ทางตอนใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Canal du Midiได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 ว่ากันว่าการก่อสร้างคลองแห่งนี้ถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ในคริสต์ศตวรรษที่ 17  ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ยุโรปเลยทีเดียว

เรามาช่วงนี้ อากาศดีมาก สองข้างฝั่งคลองก็ร่มรื่นดี เห็นว่าในฤดูร้อนเราอาจจะได้เห็นเรือนักท่องเที่ยวแล่นตามคลอง มีคนเข้าคิวรอกันอยู่ตามประตูส่งน้ำสนนราคาการล่องเรือจะเป็นเท่าไหร่ก็ไม่รู้ได้ เพราะเราไม่ได้แพลนจะนั่งเรือชมวิว แค่เดินเลียบคลองเพื่อจะเข้าเมืองเท่านั้น (ซึ่งเจี๊ยบเดินเลียบคลองมาแค่พักเดียว เลยไม่ได้เห็นจุดขึ้นเรือ) 

เลียบคลองมาซัก10นาที ก็ถึงทางเลี้ยวเข้าตัวเมือง 

ทีแรกคิดว่าจะลองเช่าจักรนานปั่นเล่นรอบๆ เพราะที่ Toulouse สามารถเช่าจักรยานได้ไม่ยากเย็น จุดจอดจักรยานก็มีทั่วเมือง แต่ต้องวางแผนว่าจะไปไหนบ้าง

พอมาดูจุดจอดจักรยานและค่าเช่าแล้ว เกิดเปลี่ยนใจ....

จริงๆที่สำคัญไม่ใช่เพราะราคา(หรือว่าใช่) แต่เป็นเพราะว่า คาดคะเนจากแผนที่แล้วน่าจะเดินไหว และการเดินเข้าตามตรอกออกตามซอยเล็กๆ เป็นสิ่งที่ชอบมากๆ

ดังนั้นเลยชักชวนเพื่อนร่วมทาง ให้เดินดีกว่า

"เธอแน่ใจหรอ?"  คำถามจากเพื่อนร่วมทางที่ไม่ค่อยมั่นใจในสิ่งที่ได้ยินนัก เพราะรู่ใจกันมามากโขเรื่องการเดิน

"Let's GO เดินแนวราบชั่นไม่หวั่นหรอกนะ"        ตอบไปแบบมั่นใจมาก เพราะการเดินแนวราบชมเมืองนี่พอไหว แต่เดินขึ้นเขาแค่50เมตร นี่บ่นเหมือนปีนยอดเอเวอเรสต์ แต่พูดออกไปแล้วหมายความว่าหลังจากวินาทีนี้ จะบ่นไม่ได้อีกต่อไป

ถนนสายเล็กนำเรามุ่งหน้าไปสู่ใจกลางเมือง แค่เดินเลียบเมือง ก็สนุกสนานกับการเมียงมองตึกรามบ้านช่องของเค้า  มันสวยแทบทุกตึก หรือเพียงเพราะมันแปลกตาไปจากบ้านเราก็ไม่รู้ได้

ผ่านร้านกาแฟ ผ่านหน้าผับที่ยังปิดอยู่ แต่มีหลักฐานให้เห็นชัดว่าเมื่อคืนก่อนหน้ามีสงครามน้ำเมาที่นี่  นอกจากนี้ตามพื้นมีกระดาษรูปดาวเล็กๆ เกาะเต็มถนนไปหมด เดากันเอาเองว่าน่าจะมาจากการเชียร์ฟุตบอลและฉลองชัยในศึกยูโร หลักฐานเลยโชว์ให้เห็นเต็มท้องถนน