ย่อหน้าแรกมาเลย "My name is ..... and graduated from .... " อะไรมันจะปฐมก.กาจ๋าขนาดนั้น ประโยคนี้ไม่ต้อง เกะกะ เดี๋ยวผมก็เห็นชื่อคุณใน CV หน้าถัดไปอยู่แล้ว เนื้อหาหลักย่อหน้านี้ผมต้องการรู้แค่
แล้วศัพท์แสง ภาษา ไวยากรณ์ ก็ไม่ต้องวิจิตรพิศดาร แบบฝรั่งเองยังล้อเลียนเสียดสีว่า ภาษาอังกฤษแบบพระราชินี (Queen English) ประเภทประโยคเดียวล่อไปสามบรรทัดกว่าถึงจะเห็นจุด full stop อ่านเสร็จแล้วงงว่ามันจะบอกอะไรตูว่ะ ไหนประธาน ไหนกริยา ไหนกรรม ไม่ใช่สอบ entrance นะครับ ผมเองความรู้ภาษาอังกฤษยิ่งเตี้ยๆอยู่ ฉุนจัดพาลไม่อ่านต่อซะดื้อๆ Simple is the best ครับ เอาง่ายๆไว้ก่อน ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณจบอักษรศาสตร์เอกวรรณคดีอังกฤษ
ย่อหน้าแรกผ่านไปแล้ว ต่อมาย่อหน้าที่สอง ...
ย่อหน้านี้คุณเปลื้องผ้าโฆษณาขายตัวเต็มที่ว่าคุณมีข้อดีเด่นอะไรบ้าง คุณเขียนได้ 2 วิธี คือพรรณาเป็นประโยค หรือ เป็น ข้อๆ ผมแนะนำแบบหลัง เพราะคุณเขียนก็ง่าย ผมอ่านก็ง่าย ไล่ไปจากจ๊าบเจ๋งและภูมิใจนำเสนอสุดๆ เอาสัก 5-6 ข้อใหญ่ๆก็พอ เอาที่มันเกี่ยวกับงานที่คุณจะสมัคร เช่น First class hon GPA 3.99 B. E eng 1997 อะไรก็ว่าไป หรือ The winner of 2008 young engineer inovation contest ไม่ก็ Improve sales of ... 50% over 1 year สำหรับงานด้านการตลาดอะไรแบบนี้ ไม่ก็ บอกว่าผมซี้ปึ๊กปั๊กรัฐมนตรีคนนั้นคนนี้ก็ว่าไป (ฮ่าๆ) ถ้าคิดว่า สวย หมวย เอ๊กซ์ เกี่ยวกับงานที่สมัครก็ใส่ลงไปในย่อหน้านี้เลยครับ
ตบท้ายด้วยย่อหน้าที่4 สุดท้ายแล้ว (ทนหน่อย) ส่วนนี้ต้องท้าทาย บอกรักให้ติดตาม ทิ้งที่อยู่ อีเมล์ เบอร์โทรฯ อ่อยเต็มที่ประมาณว่า คุณจะได้รู้ว่าที่ผมฝอยไว้จริงแค่ไหนก็ลองเรียกผมมาสัมภาษณ์ซิครับ อะไรทำนองนี้ แต่อย่าไปเขียนแบบนี้เข้าจริงๆล่ะ เอาแค่ I will be please to demonstrate my capability if you kindly permit me to interview .... อะไรประมาณนี้ แล้วก็ระบุไปด้วยว่าแจ้งล่วงหน้ากี่วันสำหรับการเรียกสัมภาษณ์ เพราะวันๆเราไม่ได้นอนเกาสะดือรอคุณเรียกฝ่ายเดียวเมื่อไร คนต้องกินต้องใช้ต้องทำงานมีภาระกิจและเราก็สมัครไว้หลายๆที่ (ฮ่า) การระบุเช่นนี้เป็นผลบวกเพราะทำให้คนอ่านรู้ว่าถึงฉันจะไม่ใช่พวกสวยเลือกได้ แต่ฉันก็ไม่ได้ว่างเสมอไปสำหรับคุณนะย่ะ และเราเป็นคนมีระบบระเบียบในชีวิต กรุณาบอกล่วงหน้า 5 วันก่อนเรียกสัมภาษณ์ (ทั้งๆที่อยากจะไปใจจะขาดรอนๆ)
ในบางบริษัทต้องการจ้างผมเป็นพนักงานประจำด้วยซ้ำไปหรือขอเซ็นสัญญาหลายปี แต่ผมปฏิเสธ ผมชอบที่จะเซ็นสัญญาปีต่อปีมากกว่าเพราะผมเรียกร้องอะไรได้มากมาย ให้ผมเป็น Production Manager ผมยังไม่เอาเลยเพราะผมทำแบบนี้ผมได้มากกว่า Production Manager มากมายนัก
ในบางบริษัทต้องการจ้างผมเป็นพนักงานประจำด้วยซ้ำไปหรือขอเซ็นสัญญาหลายปี แต่ผมปฏิเสธ ผมชอบที่จะเซ็นสัญญาปีต่อปีมากกว่าเพราะผมเรียกร้องอะไรได้มากมาย ให้ผมเป็น Production Manager ผมยังไม่เอาเลยเพราะผมทำแบบนี้ผมได้มากกว่า Production Manager มากมายนัก
เค้าถามเกี่ยวกับ the legal work area สำหรับผมครับ ถามว่าจะเริ่มงานให้เค้าได้เมื่อไหร่ ทำไมถึงสนใจอยากทำงานให้เค้า ให้เลือกระหว่าง ...... กับการวิเคราะ failure แนะนำมหาลัยที่เรียน
ฝากไว้สำหรับคนจบใหม่ หรือใกล้จบนะครับว่า ขยันๆเถอะ ถึงเกรดต่ำก็ยังทันที่จะอัพเกรดตัวเอง อย่างแรกต้องเชื่อมั่นก่อนว่าทำได้ นะ อย่างที่สองอย่าไปดูถูกคนอื่น คนเราหลายความคิด open mind
ภาพที่สองติดอยู่ข้างๆกัน เป็นภาพทะเลทรายกว้างเวิ้งสุดสายตา และตำแหน่งพระอาทิตย์ที่บอกว่าเป็นเวลาเที่ยงวัน มีรอยเท้าเล็กๆ 2 รอยอยู่ที่มุมภาพ ใต้ภาพเขียนว่า "A journey of ten thousand miles begins with one step" (การเดินทางพันไมล์เริ่มต้นที่ก้าวเดียว)
"They can becasue they think they can" บอกเขาว่า เขาต้องเริ่มที่จะเชื่อและศรัทธาเห็นคุณค่าในตัวเองเสียก่อน เขาจึงจะทำสิ่งที่เขาทำได้ "A journey of the thousand miles begins with one step" บอกเขาว่า เขาต้องเริ่มด้วยการลงมือทำก่อนเสมอ กิจการงานอะไรก็ตามไม่สามารถเสร็จไปได้ ถ้าเขาไม่ลงมือทำมันซะตั้งแต่วันนี้
คุณ korean girl ครับ ... ผมเชื่อครับว่าคุณทำได้ ...
คุณพ่อน้อง Fern ครับ ไปๆ มาๆ ผมคิดเอาเองว่าคุณพ่อน้อง Fern น่าจะรู้จักน้องชายผมหรือเปล่าก็ไม่รู้แฮะ SLB เลือดมันข้น เรื่องการขุดเจาะอะไรนี่ผมก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ ผมมัน IT ตื้อๆ common thing ร่วมกันน้อยเลยล่ะ
turn of tide แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน อาศัยว่าเราจะ รู้จักจังหวะ ไหม นายฝรั่งผมคนนึงชอบพูดติดปากว่า you have a chance to realize for your moment, your truly nature and some thing that your really desperate for"
......................................................
ขอให้ทุกคนในครอบครัวคุณพ่อมีสุขภาพแข็งแรงนะค่ะ