Group Blog
 
 
ตุลาคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
17 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
แผนร้าย อุบายรัก - 2 - ปฏิบัติการเปลี่ยนสาวห้าวเป็นสาวเปรี้ยว





มุกตาภาเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเดินทางใบย่อมเพื่อเข้าไปอยู่ในบ้านของภวัตตามแผน โดยให้เหตุผลกับน้าสาวที่เธออาศัยอยู่ด้วยตั้งแต่พ่อแม่เสียชีวิตว่าต้องไปทำงานต่างจังหวัดสักสองสามเดือน แต่จะกลับมาเยี่ยมบ่อยเท่าที่จะทำได้

“ไปอยู่ที่อื่นนานๆ แบบนี้น้าเป็นห่วง โทร. มาทุกวันด้วยนะมุก น้าจะได้รู้ว่ามุกสบายดี”

‘นิอร’ บอกกับหลานสาวที่เธออุปการะมาตั้งแต่พี่สาวกับพี่เขยเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อนอย่างเป็นห่วง

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะน้าอร มุกจะดูแลตัวเองดีๆ น้าอรนั่นแหละ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ มุกจะโทร. บอกคุณพลให้มาคอยดูแลน้าอรบ่อยๆ น้าอรจะได้ไม่เหงา” หญิงสาวว่าพลางทำสายตาล้อเลียนจนได้รับค้อนคมจากน้าสาว

“บ้าจริงมุกนี่ ไม่ใช่ธุระอะไรที่เขาต้องมาคอยดูแลน้าสักหน่อย”

“แน่ะ หน้าแดงเลยน้าอร ไม่ต้องเขินหรอกน่า ตอนที่มุกไม่อยู่อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ นะคะ คนดีๆ อย่างคุณพลไม่ได้หาง่ายๆ นะ” มุกตาภาแซวน้าสาวยิ้มๆ

‘พลวัฒน์’ เป็นหนุ่มใหญ่หน้าตาดีและมีนิสัยน่ารัก เขาเริ่มจีบนิอรตั้งแต่มุกตาภายังเป็นเด็กมัธยม จนตอนนี้หญิงสาวเรียนจบปริญญาตรีแล้ว แต่นิอรก็ยังไม่ยอมลงเอยกับเขาเสียที อ้างว่าเป็นห่วงหลานสาวมาตลอด บ่อยครั้งที่มุกตาภาเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาใกล้ชิดน้าสาวเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้า แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่านิอรจะใจอ่อนยอมสละโสด

หวังว่าเธอกลับมาคราวนี้ น้าสาวคงตกลงแต่งงานกับพลวัฒน์สักที ถ้ากลับมาแล้วยังไม่ได้ผล เธอจะยุให้เขาจับกดแล้วมัดมือชกนิอรเข้าพิธีแต่งงานให้รู้แล้วรู้รอดไป

หญิงสาวคิดอย่างขบขันกับวิธีการป่าเถื่อนของตน แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดเฮฮาบ้าบอเท่านั้น ขืนพลวัฒน์ทำกับน้าสาวของเธอแบบนั้นจริง เธอนี่แหละจะลากคอเขาเข้าตะรางให้ดู

“เด็กอะไรพูดมากจริง แก่แดดด้วย ไปเลย นายวัตมารับแล้วน่ะ” นิอรเอ็ดหลานสาวแก้เขินเมื่อมองเห็นภวัตเดินเข้ามาในบ้านหลังน้อยของเธออย่างคุ้นเคย

ชายหนุ่มเปิดยิ้มเก๋ทักทายสองสาวต่างวัย “สวัสดีครับน้าอรคนสวย ผมมารับมุกครับ”

นิอรยิ้มหวาน “รีบมารับไปเถอะวัต น้ารำคาญคนพูดมากจะแย่แล้ว ขับรถดีๆ ล่ะ ฝากดูแลมุกด้วยนะ”

“ไม่ต้องห่วงครับน้าอร พอเสร็จงานปุ๊บผมจะรีบเอาหลานสาวน้าอรมาส่งปั๊บ อยู่กับผมสบายใจ หายห่วงครับ”

มุกตาภาค้อนขวับแล้วหันไปไหว้ลาน้าสาว “เสร็จงานแล้วมุกจะรีบกลับนะคะ”

นิอรเดินไปส่งทั้งสองคนที่หน้าบ้าน มองหลานสาวขึ้นรถไปกับเพื่อนอย่างสบายใจ เธอเชื่อว่าภวัตจะดูแลมุกตาภาเป็นอย่างดี



ภวัตขับรถเลี้ยวเข้าไปในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง

มุกตาภาขมวดคิ้ว “บ้านแกอยู่ที่นี่เหรอไอ้วัต?”

ชายหนุ่มค้อน ก่อนจะมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจดเท้าด้วยสายตาปลงๆ

“พี่รัณไม่ใช่คนโง่นะ จะหลอกทั้งทีมันต้องเนียนหน่อย แกเองก็รู้จักฉันมานานแล้ว รู้ใช่มั้ย ผู้หญิงในสเปกฉันน่ะเป็นยังไง”

พูดจบเขาก็เปิดประตูลงจากรถทันที หญิงสาวได้แต่ยกมือค้างกลางอากาศอย่างขัดใจเมื่อเป้าหมายไวกว่า เธอค้อนคมแล้วก้าวตามลงไปโวยวาย

“นี่แกจะให้ฉันแสดงเป็นสาวในสเปกของแกด้วยเหรอ แต่มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงนะ แกไม่ได้บอกฉันก่อนนี่”

ภวัตถอนใจ จิ้มนิ้วไปที่หน้าผากมนของคนเป็นเพื่อนเบาๆ ก่อนจะกอดอกอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจังราวกับเป็นนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ “เกิดฉันพาแกไปแนะนำให้พี่รัณรู้จักในฐานะ ‘เมีย’ ทั้ง ‘สภาพนี้’ นะ”

ว่าแล้วก็ชายหางตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจดเท้าอีกครั้งอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกที่บอกว่า ‘เพลีย’ มาก

“โดนจับได้แหง เพราะฉะนั้นแกต้องแสดงให้แนบเนียนที่สุด”

มุกตาภาแทบเต้นกับสายตาปลงสังเวชที่เพื่อนมองตน

“ทำไมยะ สภาพแบบนี้ของแกน่ะหมายความว่าไง ฉันเป็นแบบนี้แล้วไม่ดีตรงไหน เคลียร์มาเลย”

“มันก็ไม่ใช่ไม่ดีหรอกนะ แต่ถ้าแกเจอยัยน้ำหวานเจ้าปัญหาล่ะก็ เดี๋ยวแกต้องขอบคุณฉันทีหลังที่พาแกมาเปลี่ยนลุคให้สวยเช้งซะก่อน เชื่อฉันดิ” เขาบอกแล้วเดินนำเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้า

หญิงสาวอยากจะเถียงอะไรอีกเยอะแยะ แต่ก็หุบปากลงเสีย

ช่างเถอะ ตัดสินใจจะช่วยแล้วก็ช่วยให้ถึงที่สุดละกัน เพื่อแลกกับโปรเจกต์ใหญ่ที่เธอจ้องมาแสนนาน เอาไงก็เอาวะ!



ภวัตเดินนำหญิงสาวเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้ายี่ห้อดังหลายร้าน วันนี้เขาต้องใช้จ่ายเงินไปในจำนวนที่สูงพอสมควรเพื่อเปลี่ยนเพื่อนรักจากสาวห้าวให้เป็นสาวในสเปกของตัวเอง เสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้สำหรับผู้หญิงอีกหลายอย่างเขาก็เป็นคนเลือกให้ทั้งสิ้น เนื่องจากรู้ดีว่าขืนให้สาวเจ้าเลือกเองมีหวังจบเห่

มุกตาภาไม่ได้ตื่นเต้นกับของใช้ราคาสูงเหล่านี้นัก แต่ก็ไม่ขัดศรัทธาหากเขาจะซื้อให้

ก็มันอยู่ในแผนด้วยนี่นา เธอไม่อยากได้เท่าไหร่หรอกนะ ไม่อยากได้เลยจริงจริ๊ง...

ภวัตเลือกเดรสสั้นสีครีมมาหนึ่งชุดแล้วบอกว่า “เปลี่ยนซะ”

หญิงสาวมองหน้าเพื่อนสลับกับชุดนั้นงงๆ ก่อนจะรีบไปจัดการตามที่เขาบอกเมื่อชายหนุ่มย้ำอีกครั้งด้วยท่าทีจริงจัง เธอเข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในห้องลองชุดของร้าน จากสาวปอนๆ ในเสื้อยืดกางเกงยีนก็กลายมาเป็นสาวสวยในเดรสสั้นสีครีม

มุกตาภามองเงาตัวเองในกระจกอย่างนึกทึ่ง ผู้หญิงรูปร่างโปร่งบางในชุดแสนสวยที่มองสบตาเธอผ่านกระจกเงาบานใหญ่ช่างดูดีแตกต่างจากตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นคนละคน

เธอมองตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก็ไหวไหล่ เดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยท่าทีห้าวๆ เช่นเคย

ภวัตมองผู้หญิงตรงหน้ายิ้มๆ มุกตาภาไม่ถึงกับเป็นสาวห้าวที่ต่อต้านการใส่กระโปรงแบบหัวชนฝา แต่นอกจากกระโปรงนักศึกษากับกระโปรงยาวแบบใส่สบายตามสไตล์สาวอารมณ์ศิลป์แล้ว เขาก็ไม่เคยเห็นเธอใส่เดรสหรือชุดออกงานสักครั้ง วันนี้หญิงสาวเลยดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ

“นี่แกเป็นนางแบบได้สบายเลยนะเนี่ย” เขาแซวยิ้มๆ

มุกตาภาค้อนคม “แล้วแกจะเป็นเจ๊ดันให้ฉันมั้ยล่ะ ไม่แน่นะ ถ้าเกิดฉันดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาเนี่ย แกอาจรวยเละเลยก็ได้”

เขายิ้มขำ ส่งรองเท้าส้นเข็มสูงปรี๊ดให้หญิงสาวโดยไม่ว่าอะไร

เธอเบิกตากว้าง จ้องมองรองเท้าคู่นั้นราวกับมันเป็นตัวหนอนน่าขยะแขยง “อย่าบอกนะว่าฉันต้องใส่ไอ้เจ้านี่ด้วย?”

เขาพยักหน้าจริงจัง สำทับอีกราวกับต้องการยืนยันให้ชัดเจน “ถูก”

“แต่ฉันไม่เคยใส่ส้นสูงนี่ แล้วความจริงตัวฉันก็สูงมากพอแล้วนะ ไม่ต้องเสริมความสูงอีกก็ได้มั้ง” หญิงสาวบอกอย่างมีความหวัง

“ผู้หญิงของฉันต้องสวย เปรี้ยว แล้วไอ้รองเท้าผ้าใบเก่าๆ ของแกมันตรงกับคอนเซปต์ที่ไหนกัน” เขาว่าอย่างรำคาญ

“มันจะมากเกินไปแล้วนะไอ้วัต ทำไมฉันต้องทำถึงขนาดนั้นด้วยเนี่ย” มุกตาภาโวยวายเสียงดัง ตั้งท่าจะวางมวยมันตรงนั้น

“น่า...มุก ไหนๆ ก็ช่วยแล้วก็ช่วยให้ถึงที่สุดสิ ถึงแกจะคิดว่าตัวเองสูงพอแล้ว แต่สาวเปรี้ยวที่ไหนเขาก็ใส่ส้นสูงกันทั้งนั้น” ภวัตรีบบอกเสียงอ่อนอย่างประจบ

หญิงสาวจ้องอีกฝ่ายตาขุ่น นึกฉุนกับคำว่า ‘คิดว่าตัวเองสูง’ ของเพื่อน

นี่เธอสูงตั้งร้อยหกสิบแปดเซนติเมตรเชียวนะ ยังไม่เรียกว่าสูงอีกหรือไง ต้องสูงร้อยแปดสิบห้าอย่างเขาใช่ไหมถึงจะเรียกว่าสูงได้ ผู้หญิงนะยะ ร้อยหกสิบแปดเนี่ยถือว่าสูงแล้วย่ะ!

ภวัตยิ้มเอาใจ “ถ้าไม่ใส่ส้นสูงแบบนี้มันก็ไม่เข้ากับชุดนะมุก”

เธอก้มมองชุดที่ตัวเองใส่แล้วก็ถอนใจก่อนจะส่งค้อนให้เขาอีกที

มันก็ต้องยอมรับละนะ ว่าร้องเท้าส้นสูงเหมาะกับชุดนี้มากกว่าผ้าใบปอนๆ ของเธอ เฮ้อ...

เอื้อมมือไปรับรองเท้าส้นสูงคู่นั้นมาใส่อย่างยอมแพ้ แต่เมื่อยืนตรงๆ เธอก็พบปัญหาอีกแล้ว

“ฉันจะเดินยังไงเนี่ย แกนี่ไม่เห็นใจฉันบ้างเลยนะไอ้วัต นึกยังไงให้ฉันมาแต่งตัวประหลาดแบบนี้น่ะ เดินยากชะมัด รองเท้านี่ก็กัดเจ็บด้วย แพงซะเปล่า” หญิงสาวยังคงบ่นเป็นหมีกินผึ้ง เดินกะโผลกกะเผลกตามชายหนุ่มต้อยๆ

นี่ถ้าไม่ติดว่ารับปากไว้แล้วนะ ให้ตายก็ไม่ยอมแต่งตัวแบบนี้หรอก!

ชายหนุ่มยิ้มอย่างเอ็นดู หันไปบอกคนที่เดินไม่ถนัดด้านหลังด้วยน้ำเสียงล้อเลียน “แล้วแกก็ต้องเรียกฉันว่า วัตคะ วัตขาด้วยนะ ไม่ใช่ไอ้วัตแบบนี้ เข้าใจรึเปล่า”

มุกตาภาทำหน้าเหมือนกินยาขมเข้าไปถ้วยเบ้อเริ่ม “จะบ้าเหรอ! ทำไมต้องวัตคะ วัตขาด้วยวะ แหวะ จะอ้วก!”

ภวัตหัวเราะหึๆ ในลำคอ “ก็ถ้าไม่เรียกอย่างนี้แล้วคนอื่นเขาจะคิดว่าเรารักกันจริงๆ เหรอ แล้วก็อีกอย่างนะ...”

เขาหยุดเดิน หันมาเผชิญหน้ากับหญิงสาว ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเธอ “ถ้าฉันพูดอะไร แกก็ต้องเออออตาม แบบว่า...ว่าไงว่าตามกันน่ะ แล้วถ้าฉันแสดงอะไรออกไปแกต้องรับมุกฉันให้ทันด้วย เข้าใจที่พูดรึเปล่า?”

เธอชักสีหน้าไม่พอใจ “รู้แล้วน่า พูดมาก”

ชายหนุ่มยิ้มขำ “เออ...รู้ก็ดีแล้ว เอาละ...”

เขาจ้องหน้าเธออย่างจริงจัง เห็นผมดำขลับของหญิงสาวที่ถูกมัดเป็นหางม้าไว้ข้างหลังก็ดึงยางมัดผมเส้นนั้นทิ้งไปทันที

มุกตาภาอ้าปากจะประท้วง แต่เขาขัดขึ้นเสียก่อน

“ฉันว่าแกต้องไปแต่งหน้าทำผมซักหน่อยนะ”

ว่าแล้วก็ลากแขนเพื่อนให้เดินตามไปที่ร้านทำผมทันทีโดยไม่ขอความเห็นจากเจ้าตัวสักนิด

แม้อยากประท้วงสักเพียงใด แต่รองเท้าที่ใส่อยู่ตอนนี้ก็ไม่เอื้อให้เธอขยับร่างกายได้ตามใจปรารถนา จึงถูกลากหลุนๆ เข้าไปภายในร้านทำผมอย่างง่ายดาย

เจ็บใจชะมัด!

“เอาให้สวยและเปรี้ยวที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยนะครับ” ภวัตบอกกับเจ้าของร้านเมื่อบังคับให้เพื่อนนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจกได้สำเร็จ

“ได้ค่ะ ไม่เกินสามชั่วโมง รับรองสวยเจิด” เจ้าของร้านยืนยันแข็งขันว่าจะทำให้มุกตาภาสวยเฉี่ยวตามที่ชายหนุ่มต้องการได้แน่นอน แล้วหัน

ไปมองหญิงสาวด้วยแววตามุ่งมั่น

มุกตาภาสบตากับเจ้าของร้านอย่างใจคอไม่ดี รู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ อย่างไรไม่รู้ แล้วก็หันไปขอร้องเพื่อนรักด้วยสายตาวิงวอน หากต้องรู้สึกเหมือนโดนอีกฝ่ายถีบตกเก้าอี้ เมื่อเขาตัดบทอย่างไร้เยื่อใย

“เดี๋ยวมารับนะ ถ้าไม่สวยเช้งฉันไม่ให้ออกจากร้านจริงๆ”



สามชั่วโมงต่อมามุกตาภาที่เคยเป็นสาวห้าวอารมณ์ศิลป์ ใบหน้าสะอาดสดใส และมีผมดกดำที่เคยยาวสลวยถึงกลางหลัง ก็กลายร่างเป็นสาวสวยเปรี้ยวจี๊ดสมใจภวัต ตอนนี้หญิงสาวมีผมหยักเป็นลอนใหญ่สีน้ำตาลทองยาวสยายรอบกรอบใบหน้ารูปไข่ที่ตบแต่งด้วยเครื่องสำอางชั้นดีไว้อย่างเป็นธรรมชาติ

ชายหนุ่มจ้องมองเพื่อนสาวอย่างพึงพอใจในผลงานของช่างคนเก่งที่ยืนยิ้มกว้างรอรับคำชม

“เป็นไงคะ สวยสมใจรึยังเอ่ย?”

“สวยมากครับ ขอบคุณมากจริงๆ ที่ช่วยเนรมิตให้เพื่อนผมเป็นสาวสวยได้ขนาดนี้” ภวัตตอบพร้อมรอยยิ้มเก๋

มุกตาภาเม้มปากอย่างไม่พอใจ จะพูดพูดอะไรก็พูดไม่ออกสักคำ ภาพที่เห็นในกระจกเงาทำให้เธอรู้สึกว่าอยากกลั้นใจตายให้รู้แล้วรู้รอด เส้นผมที่เคยยาวเหยียดตรงสลวยของเธอตอนนี้กลายเป็นลอนใหญ่สีน้ำตาลทองอยู่รอบใบหน้า

พวกผู้ชายนี่ไม่รู้หรือไงนะว่ากว่าจะบำรุงผมให้ยาวสลวยและดำลื่นเป็นเงาน่ะมันยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน เธออุตส่าห์เสียสละเวลาเพื่อดูแลผมให้สวยเงางามมาตลอดหลายปี แต่มันถูกทำให้สูญเปล่าด้วยเวลาเพียงสามชั่วโมง

แค่สามชั่วโมงเท่านั้น มันน่าโมโหจริงๆ ฮึ่ม!



“นี่ใจคอจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอมุก” ภวัตพยายามง้อขณะที่ขับรถกลับบ้าน

มุกตาภาเหลือบมองเพื่อนด้วยหางตา พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่พูดอะไรออกมาตอนนี้ ไม่อย่างนั้นอุณหภูมิในร่างกายของเธอคงจะพุ่งสูงทะลุจุดเดือด และสุดท้ายมันอาจปะทุออกมาเหมือนกับลาวาร้อนที่ไหลลงมาตามปล่องภูเขาไฟระเบิดนั่นก็เป็นได้

“ไม่พูดก็ไม่พูด แต่ถึงบ้านเมื่อไหร่ อย่าลืมนะ วัตคะ วัตขา...” เขาหันมาล้อยิ้มๆ

หญิงสาวได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างขัดใจ แต่ไม่ว่าอะไร นอกจากท่องในใจ

เย็นไว้...เย็นไว้ก่อนมุกตาภา ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเอาคืน!









Create Date : 17 ตุลาคม 2557
Last Update : 17 ตุลาคม 2557 23:22:26 น. 1 comments
Counter : 622 Pageviews.

 
แค่เริ่มไม่กี่ตอนก็เริ่มสนุกแล้ว เป็นกำลังใจให้ค่ะ ระรออ่านตอนต่อไปนะคะ


โดย: Lucky IP: 94.23.252.21 วันที่: 18 ตุลาคม 2557 เวลา:1:47:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nawapat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




...เขียนเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หนักก็หยุด สนองนี้ดมันไปตามอารมณ์ ^^"...
Friends' blogs
[Add nawapat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.