ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2558
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
22 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 
จันทน์กะพ้อ บทที่ ๑๖





ใบที่สิบเจ็ดเสร็จความช่างงามเลิศ แสนประเสริฐสิ่งสมอารมณ์หมาย

จะตกถิ่นฐานใดไม่วอดวาย ทั้งหญิงชายเสน่หาเมตตาตน

อันลาภนั้นยิ่งทวีไม่มีขาด เปรียบดังพฤกษาชาติดาษดื่นผล

ทั้งแก่อ่อนมีคละอยู่ปะปน งอมก็หล่นให้เราลิ้มอิ่มอุรา

หากจะถามถึงคู่ไว้สู่สม จะได้ชมชูพักตร์แน่หนักหนา

ถามถึงบัตรสุดสวาทไม่คลาดคลา เป็นบุตราถูกแท้อย่างแน่นอน

ถามญาติมิตรหรือลูกหนี้ที่หน่ายพักตร์ ว่าคงจักได้เจรจาอย่าใจร้อน

อันเรื่องความนั้นเป็นต่อข้อสุนทร จบคำกลอนว่าใบนี้ดีนักเอย




“ดีเกินไปไหมนี่” จันทน์กะพ้อพึมพำกับตัวเอง เมื่อเอาใบเซียมซีซึ่งได้มาจากศาลเจ้าพ่อออกมาอ่านอีกครั้ง คราวนั้นเธอเจอกับพะนอขวัญและพี่น้องของเขตชล และไม่นานเธอก็ได้พบกับเขตชลอีกครั้ง

“อ้ายอ้าย...นอนแล้วบ่”

จันทน์กะพ้อเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงน้องสาวตามมา เธอร้องบอกให้เขามาได้

“แก้วนอนนำได้บ่” แก้วพิกุลเข้ามาในห้องแล้วเอ่ยขอนอนกับพี่สาวด้วย จันทน์กะพ้อยิ้มและพยักหน้า แก้วพิกุลจึงเดินเข้าไปหาพี่สาวและทรุดนั่งลงบนเตียงข้างๆ พี่สาวที่กึ่งนั่งกึ่งนอน พิงหัวเตียงอยู่

ทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่สาวไม่ได้ไปแล้วไปลับ หากเธอก็รู้สึกใจหายอย่างไรพิกล

ไม่เหมือนกับเมื่อตอนที่พี่ไปเรียนมหาวิทยาลัย

ไม่เหมือนตอนที่พี่สาวทำงานอยู่ที่อื่น

แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง...หากเหมือนพี่สาวคงรู้เพราะมือที่ยื่นมาขยี้ผมเธอเบาๆ

“เดี๋ยวอ้ายก็กลับ...กรุงเทพฯ บ่แม่นบ้านเฮา” จันทน์กะพ้อเอ่ย

“อื้ม...บ้านเฮาดีที่สุด” แก้วพิกุลยิ้มสดใสขึ้น ยังไงพี่สาวก็ต้องเห็นบ้านนี้ดีกว่าอยู่แล้ว ก่อนจะเหลือบเห็นว่ามีกระดาษใบเล็กๆ อยู่ในมือพี่สาวด้วย

ใบเซียมซีคุ้นตา...เพราะเธอเองก็ไปไหว้เจ้าพ่อและเสี่ยงเซียมซีอยู่บ่อยๆ

“แก้วอ่านได้บ่...”

“กะอ่านไปแล้วแม่นรึ” จันทน์กะพ้อเอ่ยกลั้วหัวเราะ เพราะน้องสาวชะโงกมาอ่านใบเซียมซีในมือ เธอจึงส่งให้เจ้าตัวไปเสีย

แก้วพิกุลยิ้มกว้าง...ก่อนจะรับใบเซียมซีมาอ่านจริงจัง

“ว้าว...ใบนี้ดีสุดๆ เลยอ้ายอ้าย เซียมซีศาลเจ้าพ่อนี่ว่าแม่นหลาย” แก้วพิกุลร้องเบาๆ เมื่ออ่านใบเซียมซีของพี่สาวจบ “โดยเฉพาะเรื่องคู่นี่...จะได้ชมชูพักตร์แน่หนักหนา” แก้วพิกุลหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ

จันทน์กะพ้อจิ้มหน้าผากน้องสาวเบาๆ ก่อนจะดึงใบเซียมซีมาเก็บ

ก็ว่ากันว่าเซียมซีที่ศาลเจ้าพ่อนั้นแม่นมาก แต่เรื่องแบบนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อและโชควาสนาของแต่ละคน สำหรับเธอก็เก็บคำทำนายดีๆ ไว้เป็นขวัญกำลังใจล่ะนะ

“อ้ายอ้ายบ่มักพี่อ้ายติ”

ก็ในใบเซียมซีมีบอกเรื่องคู่ด้วยนี่นา

“นอนเถอะ...ดึกแล้ว” จันทน์กะพ้อล้มตัวลงนอน ริมฝีปากแย้มนิดๆ เมื่อน้องสาวบ่นออดๆ แอดๆ เรื่องที่เธอไม่ยอมตอบคำถาม

“อ้ายอ้ายก็แบบนี้ตลอด” แก้วพิกุลส่ายหน้า หากก็รู้ว่าพี่สาวจะไม่พูดอะไรต่อ เธอนอนลงข้างๆ ร่างโปร่ง เหลือบมองเสี้ยวหน้านวล

แต่พี่สาวก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบเขตชล

เสียงหายใจสม่ำเสมอของน้องสาวบอกให้รู้ว่าหลับไปแล้ว หากจันทน์กะพ้อกลับลืมตาท่ามกลางความมืดของห้องนอน

อ้ายอ้ายบ่มักพี่อ้ายติ...

นึกถึงยิ้มกว้างของคนที่เปลี่ยนใจนอนที่บ้านสวนตามคำชวนของศักดิ์สิทธิ์

ถ้าพรุ่งนี้แฮงค์ขึ้นมา...จะทิ้งไว้นี่แหละ




ศักดิ์สิทธิ์ยกถุงใส่ข้าวสารที่สีมาใส่รถปิกอัพสี่ประตู ข้าวของของจันทน์กะพ้อมีกระเป๋าเดินทางสองใบ ใบใหญ่ใส่เสื้อผ้าและของใช้ กับใบเล็กใส่หนังสือแล้วก็พวกเอกสารต่างๆ แต่ที่เยอะก็คือของจากสวนที่เขาช่วยขนมาให้ รวมถึงปลาร้าอีกไหด้วย

ท่าทางจันทน์กะพ้อจะประเดิมด้วยการเป็นสาวน้อยบ้านนาเข้ากรุง

เขาหันไปมองเพื่อนทั้งสองของน้องสาว สีหน้ายิ้มๆ นั่นก็คงคิดเหมือนเขานี่แหละ แต่ก็ไม่มีใครห้ามหรือพูดอะไร ตามใจจันทน์กะพ้อกันทุกคน

“ขอบคุณจ้ะอ้ายศักดิ์” จันทน์กะพ้อเอ่ย ก่อนจะหันไปไหว้ลาตาและพ่อกับแม่ และขยี้ผมน้องสาวเบาๆ “อ้ายไปก่อนเด้อ” ก่อนจะหันไปสบตาเพื่อนทั้งสอง ซึ่งหน้าตาสดใสดี แม้จะมีรอยหนวดเคราครึ้มอยู่...คงไม่ได้โกนหนวดโกนเครากัน

“เดี๋ยวพวกเรามากันใหม่นะครับ” เขตชลกับขันติไหว้ลาครอบครัวเพื่อนสาว

“ขับรถกันดีๆ ล่ะ เดินทางปลอดภัย เจ้าพ่อคุ้มครอง” ตาเมฆลูบศีรษะหลานสาวสุดที่รักเบาๆ ก่อนส่งต่อให้ลูกชายลูกสะใภ้กอดล่ำลากันอีกรอบ จันทน์กะพ้อจึงขึ้นรถ โดยเจ้าตัวเป็นคนขับรถเอง เพื่อนลูกสาวบอกว่าเดี๋ยวค่อยเปลี่ยนกันขับ โดยเฉพาะช่วงเข้ากรุงเทพฯ ก็จะเป็นเขตชลที่คุ้นเคยกับถนนในกรุงเทพฯ มากที่สุด

รถของหลานสาวแล่นออกไปจากบ้าน ตาเมฆถอนหายใจและพึมพำ

“ปกปักฮักษาลูกพวกเจ้าสองคนนำล่ะ บุษ...ก้อง”

 ก็หวังว่าลูกสาวและลูกเขยจะคอยดูแลหลานสาว




จันทน์กะพ้อมองแนวกำแพงอิฐสูงที่ขนานแนวถนนซึ่งรถของเธอกำลังแล่นช้าๆ โดยมีเขตชลเป็นคนขับ ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่ ความรู้สึกที่ไม่ชัดเจนที่เธอก็ไม่ชอบเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อรถหยุดลงที่ประตูใหญ่...ประตูรั้วเหล็กดัดลวดลายแบบโบราณ ซึ่งสามารถมองเห็นตัวตึกทรงยุโรปด้านในได้

“ถึงแล้ว” เขตชลเหลือบมองจันทน์กะพ้อซึ่งนั่งด้านข้างคนขับ ตั้งแต่เข้าเขตกรุงเทพฯ มาก็พูดน้อยลงจนเห็นได้ชัด และเงียบไปเลยเมื่อเขาบอกว่าใกล้ถึงจุดหมายแล้ว

บ้านอักขรลักษณา

เขาเองก็ไม่เคยมาที่นี่มาก่อน...เท่าที่เห็นจากภายนอกก็ต่างจากบ้านเขามาก ที่นี่เป็นตึกแบบยุโรปสองชั้นขนาดใหญ่...เป็นบ้านในแบบที่นิยมกันของขุนนางใหญ่สมัยก่อน

“อืม...” จันทน์กะพ้อพยักหน้า

“ประตูปิดอยู่นี่...เอาไงวะ” ขันติซึ่งนั่งอยู่เบาะหลัง ยื่นหน้ามาตรงกลางระหว่างที่นั่งด้านหน้า เขาก็ชักตื่นเต้นเหมือนกัน

ก่อนที่พวกเขาจะเอ่ยต่อ ประตูเล็กด้านข้างก็ถูกเปิดออก มีชายวัยกลางเดินออกมา จันทน์กะพ้อกดปุ่มเลื่อนกระจกประตูด้านตัวเธอลง

“มาพบใครครับ” เขาถามพลางมองสำรวจคนข้างในรถปิกอัพ

“เอ่อ...มาหาลุงเกริกกับป้าภาค่ะ” จันทน์กะพ้อตอบแบบไม่ค่อยแน่ใจนัก เพราะไม่รู้เหมือนกัน หากเธอก็มาลุงกับป้านั่นแหละ 

“หรือว่า...คุณหนูลูกสาวคุณก้อง” เพราะคนทั้งบ้านอักขรลักษณาต่างก็รู้ว่า ‘ลูกสาวของคุณก้อง’ จะมาในวันนี้

จันทน์กะพ้อกะพริบตา

หมายถึงพ่อก้องเกียรติอย่างนั้นหรือ

“เอ่อ...ค่ะ” มองใบหน้าคร้ามแดดที่ตอนนี้เปิดยิ้มกว้างด้วยความแปลกใจ เขายินดีที่ได้เจอเธออย่างนั้นหรือ

“ชะ...เชิญครับคุณหนู” น้ำเสียงละล่ำละลัก ก่อนจะวิ่งกลับเข้าประตูเล็ก  แล้วไปกดสวิตซ์เพื่อเปิดประตูซึ่งควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ประตูเหล็กดัดลวดลายงดงามค่อยๆ เปิดกว้าง

“คุณหนู...หึๆ ฮ่าๆ” ขันติอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างดัง แม้เพื่อนสาวจะหันมาทำตาเขียวใส่ก็ไม่สามารถหยุดได้ง่ายๆ แต่ก็รีบถอยกลับไปนั่งให้ห่างมือเพื่อนสาวให้มากที่สุด

“หัวเราะเข้าไป” จันทน์กะพ้อเข่นเขี้ยว ปรายตาไปยังคนที่อยู่หลังพวงมาลัย ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียงหัวเราะ หากไหล่กว้างนั้นกระเพื่อมอย่างชัดเจน

เขตชลกลั้นหัวเราะอย่างสุดชีวิต ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะถูกลงไม้ลงมือแทนขันติที่เบียดตัวเองไปกับเบาะหลังหลบมือของเพื่อนสาว หากก็ทำให้บรรยากาศตึงเครียดเมื่อครู่คลายลงไปได้...นิดหน่อยละมั้ง

เขาขับรถผ่านประตูรั้วสูง มุ่งไปยังตัวตึกใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า



บ้านอักขรลักษณา

จันทน์กะพ้อมองตึกทรงยุโรปหลังใหญ่ด้วยความรู้สึกเฉยชา...ตึกหลังงามแวดล้อมด้วยสวนสวยช่วยให้โดดเด่นและคงทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกตื่นตาตื่นใจ

แดดยามบ่ายสะท้อนตัวบ้านให้เปล่งประกาย ต้อนรับสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมา

หากความรู้สึกภายในของจันทน์กะพ้อ เหมือนกับมีสายหมอกอยู่รอบกายและค่อยๆ หนาขึ้นเรื่อยๆ

“อ้าย...”

“หืม...” คล้ายกับมีเสียงแหวกหมอกหนาทึบนั้นเข้ามา

“อ้าย...โอเคไหม”

จันทน์กะพ้อละสายตาจากตึกหลังใหญ่ไปยังคนที่อยู่ด้านข้าง แวบหนึ่งที่สบกับดวงตาคม ราวกับจะมีแสงสว่างแสนอบอุ่นค่อยๆ ละลายสายหมอกให้เธอเห็นแสงรอบกายอีกครั้ง หากชั่วอึดใจ ทั้งสองก็หันกลับไปที่เบื้องหน้าอีกครั้ง

ริมฝีปากบางค่อยๆ คลี่ยิ้ม

มาถึงแล้วสินะ...




คุณศศิภาเงยหน้าขึ้นเมื่อสาวใช้เข้ามารายงานว่าหลานสาวมาถึงบ้านแล้ว เธอหันไปยิ้มกับสามีซึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ทั้งคู่อยู่ในห้องนั่งเล่นและรอเวลาที่หลานสาวจะมาถึงด้วยกัน

“คุณคะ...” คุณศศิภาลุกขึ้นพร้อมกับฉุดมือสามีตามขึ้นมา

คุณเกริกเกียรติยิ้มบางๆ ยอมลุกขึ้นตามภรรยาโดยดี ก็ศศิภากระวนกระวายเรื่องหลานสาวมาตั้งแต่เช้าแล้ว เขาเองก็ใจจดใจจ่ออยู่เช่นกัน

จันทน์กะพ้อ...หลานสาวคนเดียวของเขา




สองสามีภรรยาออกจากห้องนั่งเล่นมาที่มุขหน้าตึก ก็พอดีกับที่รถปิกอัพสี่ประตูเคลื่อนเข้ามาจอด สายตาทั้งคู่จ้องไปยังประตูที่เปิดออก และร่างโปร่งก้าวลงมา ดวงตาคู่งามมองตรงมายังพวกเขาด้วยประกายแจ่มใส เรียกรอยยิ้มกว้างจากทั้งสองโดยทันที

“ลุงเกริกป้าภา...สวัสดีค่ะ” จันทน์กะพ้อพนมมือไหว้ทั้งสองท่าน ก่อนจะถูกดึงไปกอดอย่างแนบแน่น...ไม่ต่างจากทุกครั้งที่ได้พบกับผู้เป็นลุงและป้า

ความอบอุ่นที่ไม่ต่างจาก ‘ครอบครัว’ ที่เธอเติบโตมา

“มาถึงเสียทีนะ...ป้าเขารอตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ” คุณเกริกเกียรติลูบศีรษะหลานสาวเบาๆ และกระเซ้าภรรยาเสียหน่อย คุณศศิภาหัวเราะ ปรายตาค้อนสามีน้อยๆ

“คุณเองก็เหมือนกันล่ะค่ะ”

จันทน์กะพ้อยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ แม้จะปล่อยตัวเธอออกจากอ้อมกอดแล้ว หากคุณศศิภาก็จับจับมือเธอไว้ จันทน์กะพ้อเหลือบไปยังเพื่อนทั้งสองที่ลงจากรถตามมา

“นี่เพื่อนอ้ายค่ะเขตกับขัน ลุงกับป้าของฉัน” จันทน์กะพ้อแนะนำ เขตชลกับขันติไหว้ญาติผู้ใหญ่ของเพื่อนสาวทันที ทั้งสองคนดูไม่ต่างจากที่จันทน์กะพ้อเล่านัก ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สง่างามและใจดี และความอบอุ่นและความเอื้อเอ็นดูที่มีต่อจันทน์กะพ้อนั้นฉายชัดจนพวกเขาเองก็รับรู้ได้

“จ้ะ...ขอบใจทั้งคู่นะจ๊ะที่ช่วยมาส่งอ้าย” คุณศศิภาเอ่ยยิ้มๆ กับเพื่อนของหลานสาว ทั้งคู่อยู่ในชุดง่ายๆ คือเสื้อยืดสีเข้มกับกางเกงยีนสีซีดไม่ต่างจากหลานสาวนัก มองไปก็คล้ายๆ แฝดสาม หากแต่ละคนก็สะดุดตาไปคนละแบบ เมื่อตอนเช้าที่เธอโทรศัพท์ไปหา จันทน์กะพ้อบอกว่าขับรถมาพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน หากเธอก็ไม่นึกว่าจะเป็นเพื่อนผู้ชายทั้งคู่ แม้จะรู้อยู่แล้วก็ตามว่าหลานสาวเรียนจบในคณะที่มีผู้ชายมากมายก็เถอะ

จันทน์กะพ้อส่งสายตาไปยังเพื่อนทั้งสอง บอกถึงคำขอของเธอที่บอกก่อนหน้านี้ เขตชลกับขันติพยักหน้านิดๆ เป็นเชิงเข้าใจ พวกเขายอมตกลงทำตามคำขอร้องของจันทน์กะพ้อในระหว่างที่ขับรถเข้ากรุงเทพฯ

“มาเหนื่อยๆ เข้าไปในบ้านกันก่อนจ้ะ”

“เอ่อ...เราสองคนต้องขอตัวก่อนครับ” เขตชลเอ่ย จันทน์กะพ้อขอร้องว่าเมื่อไปถึงที่บ้านแล้วขอให้พวกเขากลับกันทันที แม้จะไม่ได้ถามเหตุผลก็พอจะเข้าใจว่าจันทน์กะพ้อต้องการที่เชิญหน้ากับครอบครัวใหม่ด้วยตัวเอง

แม้จะเป็นห่วง...หากก็เข้าใจ

“อ้าว..จะรีบไปไหนจ๊ะ” คุณศศิภาท้วง

“มีธุระต่อนิดหน่อยครับ” เขตชลอ้าง การที่ได้พบกับลุงกับป้าของจันทน์กะพ้อก็ทำให้เขาคลายใจ ดวงตาทั้งสองคู่ที่มองจันทน์กะพ้อนั้นเปี่ยมไปด้วยความรักและเอ็นดูอย่างแท้จริง

คุณศศิภาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ หากก็ไม่ได้ทัดทานต่อ

“งั้นก็ตามใจจ้ะ ขอบใจที่มาส่งอ้ายกันนะจ๊ะ”

ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะขยับตัว ก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาใกล้ ทำให้ทุกคนหันไปมองรถคันใหญ่ที่แล่นตรงมา ก่อนจะหยุดลงต่อท้ายรถของจันทน์กะพ้อ

“คุณพ่อกับคุณอา...กลับมากันแล้ว” คุณศศิภาเอ่ยมาเบาๆ เธอเหลือบมองทั้งสามีและผู้เป็นหลานสาว โดยเฉพาะจันทน์กะพ้อนั้นมือที่เธอจับอยู่เกร็งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

จันทน์กะพ้อมองไปยังรถคันหรู คนขับรถซึ่งเป็นชายวัยกลางคนลงมาเปิดประตูที่นั่งด้านหลัง ก่อนจะวิ่งอ้อมมาเปิดอีกข้าง

ร่างสูงใหญ่ก้าวลงมาจากรถ...และมองไปยังกลุ่มคนที่ยืนอยู่กันที่หน้ามุข

จันทน์กะพ้อหายใจเข้าลึก...ก่อนจะสบดวงตาคมที่มองตรงมา


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




Create Date : 22 มิถุนายน 2558
Last Update : 22 มิถุนายน 2558 21:18:33 น. 6 comments
Counter : 3947 Pageviews.

 
ลุ้นๆค่ะ


โดย: บอล IP: 182.53.84.203 วันที่: 22 มิถุนายน 2558 เวลา:22:39:29 น.  

 
จบตอนแบบนี้คนอ่านจะตายเอา ลุ้นอยากรู้ว่าจะเป็นยังงั้ยต่อไป อีกทั้ง 7 วันกว่าจะมา โอ้ยเครียดดดดดด


โดย: WOW IP: 110.78.157.234 วันที่: 23 มิถุนายน 2558 เวลา:8:10:36 น.  

 
เจอเจ้าคุณปู่ครั้งแรก จะเป็นไงน้า


โดย: nasa IP: 202.28.78.71 วันที่: 23 มิถุนายน 2558 เวลา:15:07:33 น.  

 
หนูอ้ายปะหน้าคุณปูแล้ว จะเป็นยังไงน๊า ลุ้นๆ


โดย: nako IP: 27.130.145.199 วันที่: 23 มิถุนายน 2558 เวลา:21:52:55 น.  

 
อ่านตอนนี้แล้วตื่นเต้น ลุ้นแทน (นึกว่าตัวเองเป็นอ้าย)


โดย: mal IP: 202.143.157.12 วันที่: 24 มิถุนายน 2558 เวลา:10:13:49 น.  

 
รอ รอ รอ รอมาตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ อัพเถอะค่ะคุณฬี ถือว่าทำบุญให้คนอ่านได้หลับได้นอน Please....


โดย: Nonny IP: 180.183.78.151 วันที่: 29 มิถุนายน 2558 เวลา:22:42:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.