 |
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
 |
26 มีนาคม 2552 |
|
 |
 |
|
 |
|
|
|
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
 |
 |
|
บทเรียนราคาแพงเมื่อเราใจดีกับนักเรียนมากเกินไป
ตลอดสามปีที่ได้มาเป็นครูพิเศษหรือพาร์ทไทม์ ผมได้เห็นประสบการณ์ที่ทั้งดีและไม่ดีที่ได้จากการสอนหนังสือ วันนี้ผมอยากจะพูดถึงประสบการณ์ด้านลบที่ผมได้รับจากการสอนหนังสือ เป็นประสบการณ์ที่เกิดจากความผิดพลาดของตัวผมเอง
เมื่อเริ่มแรกที่เป็นครูสอนหนังสือผมมีอาการตื่นเต้นมากเกินไปในการสอน ทำให้การสอนไม่ได้ผลตอบรับที่น่าพอใจ บุคลิกที่นับได้ว่าเป็นข้อเสียของผมอย่างหนึ่งก็คือผมเป็นคนที่ใจดีเกินไป ผมไม่ชอบขึ้นเสียงกับใครนัก เมื่อใดที่ทำผมมักจะกลับมานั่งทบทวนรู้สึกผิดอยู่คนเดียวเงียบ ๆ เพราะผมไม่ชอบอากัปกิริยาของตัวเองที่แสดงกับคนอื่น จากพื้นฐานทางความคิดของตัวเองในลักษณะนี้ทำให้น้อยครั้งนักที่ผมจะตักเตือนเด็กด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ตอนแรกผมมองว่าการเป็นครูที่ใจดีนั้นไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด ตรงกันข้ามผมมองว่าเด็กพอใจที่ได้เจอครูแบบนี้ ตัวผมเองก็พอใจที่เด็กชอบและก็ดูจะตั้งใจเรียนกันดี ผมต้องใช้เวลาถึงสามปีกว่าจะตระหนักได้ว่าตัวเองได้ทำผิดพลาดอย่างมหันต์
ความผิดพลาดนั้นคืออะไร ผมเชื่อว่าคนเป็นครูที่มีประสบการณ์คงจะเข้าใจได้ และพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกเป็นก็ย่อมจะเข้าใจได้ไม่ยากเช่นกัน
ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมเอาความพึงพอใจของตนเองเป็นที่ตั้ง สิ่งนี้ขัดแย้งกับกฎระเบียบที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมพฤติกรรมของตนเอง เด็กนักเรียนทุกคนก็มีพื้นฐานทางความคิดที่แตกต่างกันไปแต่จุดที่เหมือนกันก็คือพวกเขาไม่สามารถบังคับตนเองให้อยู่ในกฎระเบียบได้ตลอดเวลา และแม้ว่าในตอนแรก ๆ พวกเขาจะดูตั้งใจเรียนกันดีแต่พอเวลาผ่านไปได้เพียงแค่เทอมเดียวพวกเขาก็ปล่อยธรรมชาติของเด็กในตัวออกมา ไม่สนใจเรียนมากขึ้น ชอบแหกกฎ ไม่ฟังที่ผมสอน และที่สำคัญพวกเขาไม่กลัวผมเลย
ความกลัวใช่ว่ามีแต่ด้านลบ ด้านบวกของมันก็มีอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ผู้เฒ่าผู้แก่มักสอนให้เด็ก ๆ กลัวเรื่องผีหรือเรื่องลึกลับต่าง ๆ ก็เพื่อปรามความประพฤติของเด็ก ๆ ไม่ให้ซนจนเกินไป
แม้ว่าในปัจจุบันความกลัวครูของเด็กนักเรียนจะลดน้อยถอยลงไปไม่เหมือนสมัยเมื่อราวสิบยี่สิบปีก่อน แต่ครูที่มีบุคลิกที่ดูดุ ไม่โอนอ่อนแต่แข็งหรือมีบุคลิกดูไม่เป็นมิตรยังพอจะข่มนักเรียนได้บ้าง
แต่สำหรับครูที่แทบจะไม่เคยดุเลยอย่างผมนั้น แน่นอนว่าเด็กจะไม่มีทางกลัวเพราะผมได้แสดงความเป็นมิตรกับพวกเขามากเกินไปแล้วนั่นเอง
สิ่งที่ผมได้สัมผัสมาก็คือเด็กพวกนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีจิตสำนึกเรื่องผิดชอบชั่วดีหรอกนะครับ พวกเขามีสิ่งนี้อยู่ในตัวหากแต่ว่าถ้าเราไม่เน้นย้ำอยู่ตลอดเวลามันจะค่อย ๆ ถูกฝังลงไปในใจของพวกเขาเรื่อย ๆ จนชินชากับการทำผิดไปในที่สุด
ผมเลยกลายเป็นครูที่ไม่มีอำนาจใด ๆ ต่อตัวนักเรียนนอกจากมาทำหน้าที่สอนและให้คะแนนเท่านั้น แน่ละว่าผมรู้สึกผิดหวัง ผมไม่ได้ผิดหวังกับนักเรียนแต่ผมผิดหวังกับตัวเองที่ไม่สามารถคุมนักเรียนได้เลย
บุคลิกที่ผมแสดงออกกับนักเรียนไปนั้นเป็นธรรมชาติของตัวผม ความเป็นคนใจดีและคุยสนุก แต่มันกลับให้ผลร้ายกับผมซะเองเพราะถ้าผมจะกลับมาว่านักเรียนนั้นก็กลายเป็นว่าผมกำลังฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองและนักเรียนก็จับจุดตรงนี้ได้เป็นอย่างดีด้วยเหตุนี้ไม่ว่าผมจะทำอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้ฟังผมมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นัก
ที่แย่กว่านั้นคือผมใช้เวลาสามปีที่จะตระหนักถึงความจริงข้อนี้ ก่อนหน้านี้ผมมักมองข้ามปัญหาไปโดยคิดว่าเด็ก ๆ ก็แบบนี้แหละ คุมยาก คุมไม่อยู่ แต่ความจริงคือทุกอย่างอยู่ที่เรา อยู่ที่ครู และอยู่ที่ผู้ใหญ่ทุกคน
ตอนนี้ผมพอเข้าใจแล้วว่าทำไมเราต้องปราบเด็ก ต้องตักเตือน ต้องดุหรือแม้แต่ต้องตีพวกเขา การลงโทษนั้นสมควรจะมีแต่ต้องมีขอบเขต ทุกอย่างไม่ว่าชมหรือตักเตือนก็ต้องมีความพอดี หากแต่ปัจจุบันนี้ความพอดีเหมือนไม่มีที่อยู่ เด็กมองอย่างหนึ่ง ครูมองอย่างหนึ่ง แต่ที่แย่กว่าคือผู้ปกครองของเด็กก็มองไปอีกทางหนึ่ง
โดยส่วนตัวผมรู้ว่าควรทำอย่างไรมากขึ้น แต่ก็ยังไม่อาจบอกได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ แต่ผมต้องเตือนตัวเองว่าอย่าใจดีมากเกินไปและต้องสอนให้นักเรียนเข้าใจกฎระเบียบมากขึ้น กับเทอมใหม่กับนักเรียนใหม่ ส่วนนักเรียนที่เคยเรียนกับผมมาผมก็ต้องเล่นกับเขาน้อยลงและมีสมาธิกับการสอนมากขึ้น
บทเรียนราคาแพงนี้สอนให้ผมเข้าใจถึงสิ่งที่คนสมัยก่อนทำกันมา สมัยที่ผมเป็นนักเรียนผมก็ไม่ชอบหรอกกับการถูกลงโทษ แต่เมื่อเราทำผิดเราก็ต้องยอมรับว่าผิด และการยอมรับผิดทำให้เรารู้จักรับผิดชอบและขอบเขตของการกระทำ น่าเศร้าที่ทุกวันนี้เด็ก ๆ ไม่สำนึกในจุดนี้ขณะที่พ่อแม่ก็ปกป้องลูกของตัวเองมากเกินไป ทำให้คุณภาพของเด็กในทุกวันนี้น่าเป็นห่วงมากขึ้น แม้เด็กดี ๆ จะยังมีอยู่ แต่โดยภาพรวมแล้วก็เหมือนน้ำในลำคลองทุกวันนี้ที่มีแต่จะเน่าเสียลงเรื่อย ๆ แม้น้ำดีจะยังมีอยู่แต่สีของน้ำก็ไม่ชวนน่าดื่มน่าใช้เหมือนในอดีตเสียแล้ว
Create Date : 26 มีนาคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 26 มีนาคม 2552 21:49:53 น. |
Counter : 5431 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: โจโฉ IP: 124.120.3.182 14 เมษายน 2552 19:54:46 น. |
|
|
|
| |
|
|
 |
 |
 |
 |
|
|
สอนเด็กนี้สอนยากชมัด ปรามอะไรไม่ค่อยฟัง (ก็ไม่กลัวนิน่า) บางทีรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหัวหลักหัวตอเลยอ่ะครับ