[Movie] Love of siam * spoil

"เราไม่ได้เป็นแฟนกันไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักมิวนะ"

เนื้อเพลง : กันและกัน เพลงประกอบ รักแห่งสยาม

ถ้าบอกว่าเพลงนี้ แต่งให้เธอ เธอจะเชื่อไหม

มันอาจไม่เพราะ ไม่ซึ้งไม่สวยงามเหมือนเพลงทั่วไป



อยากให้รู้ ว่าเพลงรัก ถ้าไม่รัก ก็เขียนไม่ได้

แต่กับเธอคนดีรู้ไหม ฉันเขียนอย่างง่าย...ดาย



เธอคงเคยได้ยินเพลงรักมานับร้อยพัน

มันอาจจะโดนใจ แต่ก็มีความหมายเหมือนๆกัน



แต่ถ้าเธอฟังเพลงนี้ เพลงที่เขียนเพื่อเธอเท่านั้น

เพื่อเธอเข้าใจความหมายแล้วใจจะได้มีกันและกัน



มีความจริงอยู่ในความรักตั้งมากมาย

และที่ผ่านมาฉันใช้เวลาเพื่อหาความหมาย



แต่ไม่นานก็เพิ่งรู้ เมื่อทุกครั้งที่มีเธอใกล้

ว่าถ้าชีวิตคือทำนอง เธอก็เป็นดังคำร้องที่เพราะและซึ้งจับใจ



ให้มันเป็นเพลง บนทางเดินเคียง ที่จะมีเพียงเสียงเธอกับฉัน

อยู่ด้วยกันตราบนานๆ ดั่งในใจความบอกในกวี



ว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง

คือทุกครั้งที่รักของเธอส่องใจ ฉันมีปลายทาง



มีทางเดินให้เราเดินเคียง และมีเสียงของเธอกับฉัน

มีทางเดินให้เราเดินร่วมเคียง และมีเสียงของเธอกับฉัน

ดูเหมือนพอเปิดบล็อคนี้ขึ้นมาแล้ว จะได้ยินเพลงที่คุ้นหู เพลงที่ฟังบ่อยๆ เพลงที่ตอนนี้กำลังดังกันทั้งประเทศ ดูแล้วคะ เพลงนี้ดังจริงเพราะมันประกอบหนังรักแห่งปี "รักแห่งสยาม" ยอมรับว่าตอนแรกไม่ได้มีความคิดที่จะไปดูเลยแม้แต่น้อย เพราะด้วยชื่อเรื่องแล้ว ด้วยเคยไปอ่านเรื่องย่อแล้ว พบว่าหนังเรื่องนี้มันคงจะไม่เหมาะกับเราอย่างแน่นอน เพราะด้วยอารมณ์เราแล้วไม่ค่อยเหมาะกับหนังอย่างseason change แฟนฉัน หรือแม้กระทั่งเพื่อนสนิท แต่พอนานไปเมื่อรอบสื่อมวลชนฉาย ปรากฎว่า "รักแห่งสยาม" หนังวายหรอเนี่ย!!!!!!!!!!!! แล้วเพื่อนๆของดิฉันก็ไปดูกันๆ พร้อมกับโทรมาหาดิฉันแล้วเล่าให้ฟังกันยกใหญว่า หนังเรื่องนี้มันเหมาะสำหรับแกรจริงๆว่ะ และแล้วหลังจากที่เพื่อนๆที่ไปดูกันมาสครีมให้ดิฉันฟังอย่างไม่ขาดสาย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เองที่ดิฉันได้มีโอกาสไปดู ปรากฎว่า .......................

.

.

.

.

.

.

.

.

.

มาริโอ้หล่อซีเรียสเถอะ .......... (5 5 5+ ไร้สาระสิ้นดี)

ไม่ใช่ล่ะ นั้นไม่ใช่ประเด็นที่ต้องการจะพูด ประเด็นคือ เราคิดว่าเรื่องนี้มันลึกซึ้งกว่าสิ่งที่โปรโมต กว่าที่เค้าเล่ากัน แม้กระทั่งกว่าคำว่า "เกย์" โดยประเด็นของหนังเรื่องนี้แล้ว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉากจูบที่มียาวนานกว่า20วินาทิ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉากบอกรักของโต้งและมิว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉากที่โต้งทิ้งนังชนะ (แอ๊ะรู้สึกจะเริ่มใส่อารมณ์ส่วนตัว 5 5 5+) แต่เราพบว่าหนังเรื่องนี้ใช้สัญลักษณ์แทนเรื่องราวมากมาย ใช้สี มีประเด็นเรื่องศาสนา และอื่นๆมากมาย และที่สำคัญหนังเรื่องนี้จบลงด้วยความไม่สมหวังในความรักของทุกๆคน แต่หนังกลับสามารถทำให้คนดูอิ่มเอิ่มใจในการดู

เนื้อเรื่องย่อ+ความคิดเห็นนิดหน่อย (สำหรับคนที่ยังไม่เคยดู+ดูแล้ว)

ย้อนกลับไปสมัยเด็ก โต้ง (มาริโอ้) และมิว (พีช) อาศัยอยู่บ้านใกล้กันแถมว่าอยู่โรงเรียนเดียวกันอีกเลยสนิทกัน ครอบครัวของโต้งมี4คน คือพ่อ แม่ พี่สาวและโต้ง ในขณะที่มิวอยู่กับอาม่าเพียง2คนเนื่องจากพ่อและแม่ของมิวอยู่ที่ระยองเพื่อทำงานจึ้งทิ้งมิวไว้กับอาม่าเพียง2คน เรื่องราวเกิดขึ้นโดยที่ครอบครัวของโต้งได้ไปเที่ยวกัน พอตอนกลับมาพี่สาว(นามว่าแตง) ได้ขอเที่ยวต่อกับเพื่อน แต่แล้วแตงกลับหลงป่าแล้วหายไป ทำให้พ่อเสียใจมากวันๆเอาแต่กินเหล้า ส่วนแม่ต้องทนรับกับพ่อ และโต้งที่รู้สึกว่าทำไมพี่แตงไม่กลับมาอยู่กับพวกเรา พี่แต่งทิ้งพวกเราไปทำไม? เป็นไปได้ไหมว่า แตงได้จากโลกนี้ไปแล้ว  แต่การตายจากไปของแตงมันคงสร้างความปวดร้าวให้ทั้งพ่อและแม่อย่างใหญ่หลวง พ่อและแม่เลยโกหกโต้งไปว่าพี่แตงหลงป่า ด้วยความเครียดของพ่อ ต้องทำให้โต้งต้องย้ายบ้านเพราะด้วยความรู้สึกที่ว่าไม่อยากจะอยู่สถานที่เดิมๆให้นึกถึงแตง จากนั้นโต้งกับมิวเลยแยกจากกัน หลังจากที่แยกกันได้ไม่นาน อาม่าของมิวก็ลาจากโลกนี้ไปด้วยวัยชรา ด้วยความว่ามิวมีอาม่าเพียงคนเดียว แล้วอาม่าเพียงคนเดียวที่ทำให้มิวรู้สึกอบอุ่นนั้นได้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว  ความเหงาก็เริ่มครอบงำมิว

เมื่อกาลเวลาผ่านไป หนุ่มทั้ง2ได้เติบโตขึ้น มิวผู้ซึ่งรวมทีมกับกับเพื่อนสร้างวงออกัสขึ้นมา เป็นวงอินดี้เล็กๆที่เตรียมที่จะทำงานเพลงที่ใหญขึ้น การจะทำแบบนั้นได้ ก็ต้องแต่งเพลงที่เป็นสากล แต่งเพลงที่รู้สึกว่าเข้าให้ได้ถึงทุกคน เพลงที่ว่านั้นคือ "เพลงรัก" การแต่งเพลงรักอาจจะเป้นเรื่องง่ายของวัยรุ่นทั่วไป เพราะส่วนมากก็มีความรักกันทั้งนั้น แต่สำหรับมิวแล้ว แล้วความเหงามาหลายปีเมื่ออาม่าจากไปทั้งยังโต้ง (เพื่อนสนิท?เพื่อนชาย? 5 5 5+ )  ยังย้ายบ้านไปอีกดังนั้นการแต่งเพลงรักสำหรับมิวจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็นะมันมีเหตุให้มิวแต่งเพลงรักจนได้ซิน่า

เหตุการณ์ที่ทำให้มิวกลับมาแต่งเพลงได้เนื่องจาก วันนึงที่สยามโต้งได้ไปหาซื้อเพลงของวงออกัส แต่ก็นะเพลงดันหมด แต่เมื่อกี้มิวกับผองเพื่อนเพิ่งมาเช็คว่าเทปขาดหมดหรือป่าว พี่คนขายเลยบอกให้โต้งเลี้ยวไปทางนั้นเพราะว่าหนุ่มๆวงออกัสเพิ่งจะมาเมื่อกี้เอง นั่นแหละเป็นเหตุกาณ์แรกที่ทำให้โต้งได้พบกับมิวในรอบหลายปี มิวสัญญาว่าจะไรท์เพลงมาให้โต้ง เดี๋ยวให้มาเอาที่สยาม และแล้วถึงวันนั้นโต้งก็มาเอาที่สยาม แต่เอาซีดีกันท่าไหนไม่รู้โต้งเลยไปบ้านมิว เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกก คืนนั้นเองมิวได้พลั่งพลูความเหงาให้โต้งฟังว่าความเหงามันกินกัดหัวใจของเค้าเหลือเกิน ไม่นานแขนอันอบอุ่นของโต้งก็ถูกสอดเข้ามายังหัวมิวเพื่อให้ความอบอุ่นแก่หัวใจอันหนาวเหน็บของมิว วันนั้นล่ะมั้งที่ทำให้มิวเริ่มรู้สึกได้ว่าเค้าสามารถที่จะแต่งเพลงรักได้แล้ว

กลับมาที่ครอบครัวโต้งพ่อผู้ซึ่งยังเสียใจกับการหายตัวไปของแตง เป็นที่หนักใจของโต้งและแม่มากๆ จนโต้งได้ไปพบกับผู้จัดการของวงออกัส หน้าตาคล้ายพี่แตงมากๆ แม่เลยแบบว่าให้ผู้จัดการคนนั้น (นามว่าจูน) มาเล่นเป้นแตงว่ากลับบ้านมาแล้ว เพื่อให้พ่อดีใจอาการจะได้ดีขึ้น ดูเหมือนว่าพ่อจะดีขึ้นนะ แต่การทำแบบนี้มันทำให้พ่อลุกขึ้นยืนได้ด้วยตัวเองหรอ? จะให้พ่อจมกับความดีใจจอมปลอมกันไปถึงเมื่อไร? แต่ก็นะตอนนี้ให้ดีใจไปก่อนเถอะ ........ แล้วที่บ้านของโต้งก็จัดปาร์ตี้ให้แตง ในงานปาร์ตี้นั้นเอง เป้นที่มาของการกล่าวขวัญของหนังเรื่องนี้ ที่มีฉากจูบซึ่งมีการแลก เซ็นเซอร์ไว้เพราะว่าอาจจะมีเยาวชนเข้ามาอ่าน คือเราก็อยากให้มีภาพปากรอบนะ แต่ว่าสุดความสามารถจริงๆ ไม่มีภาพอ่ะ T^T ตอนแรกโต้งกับมิวอาจจะสงสัยว่าตกลงเราคบกันแบบไหน หนูเอ้ยยยยยยยย ไม่ต้องสงสัยแล้วแหละเล่นซบกันขนาดนั้น พิงกันขนาดนั้น จูบกันขนาดน้านนนนนนนนนนนน

ด้วยความสัมพันธ์เช่นนี้นี่เองทำให้แม่ของโต้งไม่พอใจเพราะเค้ารู้สึกว่าโต้งเป็นลูกชายที่ดีที่สุดสำหรับเค้า และคนเป็นแม่เองก็อยากให้ลูกเติบโตในสิ่งที่ถูกสิ่งที่ควร แม่เลยไปพูดกับโต้งว่า ให้หยุดความสัมพันธ์แบบนี้ซะ (โอ้ววววววววววว ปวดใจชาวสาวเลือดม่วงกันเลยทีเดียว) มิวเองก็พยายามหลบโต้งพร้อมทั้งหลบทุกๆคนด้วยความปวดใจ และทำให้มิวเองไม่สามารถที่จะร้อง"เพลงรัก" ได้อีก  แต่ด้วยสุดท้ายแล้วมิวก็กลับไปร้องได้อีกครั้ง นั้นไม่ใช่เพราะว่าโต้ง แต่เป็นเพราะว่า ความรักไม่จำเป็นต้องมีแค่ความสัมพันธ์ในเชิงแฟนหรือคนรัก ความรักยังมีอีกมากมาย เช่นความรักระหว่างเพื่อน มิวรู้สึกว่าเค้ากลับไปร้องได้อีกครั้งเพราะว่าเค้าไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป เค้ายังมีเพื่อนที่ยังรักเค้าอยู่

โต้งกับความสับสนของตัวเอง เพราะตอนแรกโต้งยังงงๆว่าทำไมมิวถึงขาดการติดต่อจากเค้า สุดท้ายถึงรู้ว่าแม่ไปพูดกับมิวและให้โต้งเลิกคบกับมิวซะ ยอมรับว่าตอนนั้น โต้งเองก็โมโหแม่ว่าทำไมทำกับเค้าแบบนี้สุดท้ายแล้วโต้งก็เข้าใจ ก็เพราะว่าแม่รักเราน่ะ แต่โต้งก็ไม่อยากทรยศความรู้สึกของตัวเองและยิ่งไม่อยากทำร้ายแม่อีก จึงเป็นที่มาของประโยคจบที่ว่า

"เราไม่ได้เป็นแฟนกันไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักมิวนะ"

จบ (สวัสดี)

อ่าพออ่านเรื่องย่อไปพอหอมปากหอมคอแล้วนะ (นั่นแถวบ้านเค้าเรียกว่าเรื่องย่อเรอะ) แต่ตอนนี้เราไปอ่านตามเวปต่างๆพบว่ามัสัญลักษณ์ของเรื่องมากมาย เลยอยากเอามาเฉลยในนี้ เอามารวบรวมให้อ่าน ^^

เรื่อง ผึ้ง ในแก้วน้ำหวาน



ภาพที่กรตื่นขึ้นมาแล้วแสงแยงตานั่น ผมกลับมองเป็นว่า ถึงคราวแล้วที่กร ควรจะหยุดทำร้ายตัวเอง เหมือนเป็นแสงแห่งธรรมชาติ ที่ทั้ง อบอุ่น และเป็นแสงแห่งปัญญาให้กรได้เห็นอะไรบางอย่าง



แม้ครอบครัวนี้จะเป็นคริสต์ แต่คติธรรมทางพุทธก็มีให้เห็นเกือบทั้งเรื่อง



โดยเฉพาะ ผึ้งน้อยที่ตกลงไปในแก้วน้ำหวานนั่น มันก็คือ มนุษย์คนหนึ่ง ๆ ที่จมจ่อมอยู่กับความสุขหรือกิเลสอย่างเมามัวนั่นเอง เปรียบกับผึ้งก็คงอยากได้น้ำหวานมาก ๆ อยากกินน้ำหวานมาก ๆ มากเสียจนกระทั่งตนเองหล่นลงไปในแก้วนั้นเสียเอง



อย่าลืมว่า แมลงก็มีจุดอ่อนแอหรือข้อด้อยของมัน เมื่อตัวมันหล่นลงไปในน้ำหวานนั้นแล้ว ปีกมันก็เปียก และบินต่อไปไม่ได้ แล้วมันต้องทำอย่างไร ก็ต้องพยายามป่ายปีนขึ้นมาเอง



กรเองก็เช่นกัน กรต้องพยายามช่วยตนเองให้ได้เช่นเดียวกันกับผึ้ง ทุกวันหลังจากที่มีจูนเข้ามาในชีวิต กรก็เหมือนได้เสพสุขที่หายไปนานอีกครั้ง แต่กรก็ยังไม่ได้พยายามที่จะดึงตัวเองให้พ้นจากทุกข์



นับจากฉากนั้นเป็นจุดหนึ่งที่บอกเป็นนัยยะแก่ผู้ชมว่า ถึงเวลาแล้วที่กร ควรลุกขึ้นมาตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อคนรอบข้างบ้าง ก็เท่านั้น

โดย ถ้าจะรักใครคนนั้นต้องเป็นเธอ * พันทิพย์

 มันเปรียบเสมือนเป็นการขึ้นมาจากความตาย เพราะผึ้งในความหมายของชาวตะวันตกเป็นเหมือนตัวเดินทางข้ามระหว่างสองภพ คือ นรกกับโลกเรา

โดยพี่มะเดี่ยว*ผกก

เรื่อง สี

1.มิวเป็นผู้ชายสีเขียว   ส่วนโต้งเป็นผู้ชายสีฟ้า (ดูจากสีห้อง เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน) ผมตีความว่า บุคคลิกของทั้ง 2 คน  คงเหมือนกับควมรู้สึกของสี  

-มิวจะดูใจเย็น  เป็นคนดี  อ่อนโยน  เหมือนความหมายของสีเขียว (ควมหมายของสีเขียวคือแนวศีลธรรม)

-โต้ง  คงเป็นคนที่  รักอิสระ  ใจกว้าง  ละเอียดอ่อนแต่ถูกชักจูงง่ายละมั้ง

-หญิง ดูเหมือนห้องจะมีลายดอกไม้  และเน้นสีชมพู กับขาว คงหมายถึง  เป็นสาวหวานที่มีความรักละมั้ง  (แต่ทำไมไปอยู่วงเหล้า  กับเพื่อนโต้งได้หว่า)

-โดนัท เป็นผู้หญิงสีน้ำตาล เย็นชา เรียบเฉย ดูเข้าถึงยาก แต่ลึกๆแล้วก็ใฝ่หาความรักเหมือนกันนั่นแหละ เพราะลึกๆแล้วก็รักโต้งเห็นได้จากการไปควงคนอื่นแล้วแต่ยังนึกถึงโต้งอยู่ แต่สิ่งต่างๆมันค้ำคอทำให้บวกกับความเอาแต่ใจตัวเองทำให้รักไปไม่รอด



2.ตอนท้ายที่โต้ง  วิ่งไปดูมิวร้องเพลงที่สยาม  ใส่เสื้อฟ้ากางเกงเขียว  คงหมายถึงการยอมรับในความสัมพันธ์  ของตัวเองกับมิวแล้ว

                                                                                                            โดย  Love@here  *พันทิพย์



3.โปสเตอร์สีเขียว กางเขนสีดำ ในอาณาเขตห้องสีฟ้าของโต้งน่าจะแสดงว่าในโลกของโต้งนั้นยังคงมีมิวอยู่ในใจเสมอแต่ยังโดนกรอบความเคร่งของชาวคริสต์ในครอบครัวกักขังเอาไว้ ภายใต้คำว่า Beleive  ถึงจะเป็นส่วนเล็กๆ ภายในห้อง แต่ มันก็เลือกที่แปะอยู่บนหัวนอน

ส่วนที่สำคัญและเด่นชัดในใจของโต้งครับ

 โดย ลินจง *พันทิพย์

เรื่องตุ๊กตาไม้

ราคาของตุ๊กตาไม้สูง ขึ้น หมายความว่า อย่าปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน เพราะ ยิ่งนานไป อาจจะยิ่งลำบากขึ้นในการที่ให้ได้สิ่งนั้นมา



 

โดย ลินจง *พันทิพย์

 

 

สุดท้ายหลังจากให้สัมภาษณ์ก็แบบว่าร้องเพลงกันรักกันที่หนุ่มโอ้ดูเหมือนว่าจะร้องไม่ค่อยได้

สุดท้ายยยยยย

คนที่ไม่คิดว่าจะเจอ

หนุ่มเคะที่เราหลง

เคะที่ในฝันของเรา

เคะหน้ามนที่เคย

เป็นแฟนกับพี่นัท v1

สุดท้ายล่ะ

แจจ๋าาาาาาาาาา

ใส่เสื้อซะรัดขนาดนั้น

ดิฉันจะละลายนะคะ

Create Date : 02 ธันวาคม 2550		8 comments
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 22:03:18 น.
Counter : 6833 Pageviews.
Share Tweet