Group Blog |
และแล้วก็มาถึงวันสิ้นสุดการตั้งครรภ์ หายไปนานเลยค่ะ เกือบ 1 ปี เพื่อไปดูแลลูก ๆ อย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้กลับมาแล้วนะค่ะ จะพยายามเอาความรู้และประสบการณ์ของการตั้งครรภ์และเลี้ยงลูกมาฝากคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ นะค่ะ และแล้วก็มาถึงวันสิ้นสุดการตั้งครรภ์ 7 โมงเช้า เรากับสามีเดินทางออกจากบ้านไปโรงพยาบาล เพื่อเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดคลอดช่วงบ่าย เริ่มตื่นเต้นเข้ามาทุกขณะ เพราะมันกำลังจะสิ้นสุดเวลาการตั้งครรภ์ การเหนื่อยล้าที่อุ้มท้องมาตลอดระยะเวลา 9 เดือน เรามีอาการกลัวนิดหน่อยเพราะว่าเป็นการผ่าตัดครั้งแรก ก็เลยขอร้องสามีว่าให้เข้าไปที่ห้องผ่าตัดด้วยกัน อย่างน้อยเราก็ได้เห็นหน้าเค้า เกิดอะไรขึ้นก็ยังพอจะช่วยเหลือกันได้ สามีเราก็ไม่อยากจะเข้าสักเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ด้วยความที่สงสารเราก็เลยยอม เราปลื้มนิด ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเค้ากลัวเลือดอย่างกะอะไรดี ก่อนการผ่าตัด จะมีการบล็อคหลัง เราเคยได้ยินบางคนก็บอกว่าเจ็บ บางคนก็บอกว่าไม่เจ็บ เราก็ไม่รู้ว่าอันไหนจริง ไม่จริง แต่ของเราไม่เจ็บเลยค่ะ แต่มันรู้สึกกลัวตอนที่เค้าให้เรานอนขดตัวค่ะ ขอย้ำค่ะ ขดตัวจริง ๆ นะค่ะ แล้วลองนึกภาพซิค่ะ คนท้องใหญ่มาก ๆ แต่ให้นอนขดตัว เค้าใช้นางพยาบาลสองคนจับเราขดตัวค่ะ เราคิดว่าเค้าให้ขดตัวให้มากที่สุดเพื่อจะได้เห็นกระดูกสันหลังแล้วฉีดยาได้ถูกจุดนะค่ะ เพราะฉีดเข้าไปแล้วนะค่ะ สักพักหนึ่งช่วงล่างของเราก็จะชาไปเลยค่ะ รู้สึกนะค่ะ แต่ไม่เจ็บเลยค่ะ เรารู้สึกเค้าจับขา จับท่าทางเรา เพื่อเตรียมพร้อมผ่าตัด แต่ไม่สามารถขยับเองได้เลยค่ะ ก่อนถึงเวลาผ่าตัด คุณหมอเดินเข้าห้องผ่าตัด อารมณ์ดีมากค่ะ ฮึมฮำเพลงมาด้วยนะค่ะ พอมาถึงตัวเรา คุณหมอก็ทักทายนิดหน่อย ชวนคุยเรื่องนู้น เรื่องนี้ เพื่อให้เรารู้สึกผ่อนคลาย แล้วเค้าก็ผ่าท้องเราค่ะ ช่วงที่คุณหมอกำลังผ่าท้องเรานะค่ะ สามีเราก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่ห้องผ่าตัด เค้าก็เห็นจะ ๆ เลยค่ะ ว่าคุณหมอกำลังอ้าท้องของเราให้กว้างค่ะ และแล้วคุณหมอก็เอยขึ้นว่า โห้ ลูกสองคนตัวใหญ่มากเลย นี่ ๆ มาดูเร็ว ๆ และเราก็ได้ยินเสียงนางพยาบาลบอกว่าตัวใหญ่จริง ๆ เวลา 13.09 คุณหมอพยายามเอาลูกคนแรกออกมาให้ได้ตามฤกษ์ แต่ก็ติดขัดนิดหน่อย ต้องใช้ทั้งคีมและแรงเพื่อดึงเค้าออกมา สุดท้ายลูกเราก็ออกมาได้พร้อมกับหน้าตาข้างขวาที่ช้ำเขียวมาก ๆ พร้อมกับน้ำหนักตัว 2.9 กิโลกรัม ช่วงเวลาที่เค้าเอาลูกคนแรกมาให้เราดู อยู่ดี ๆ เราก็น้ำตาไหลพรากเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่ามันเพราะอะไร แต่มันไหลแบบไม่รู้ตัวนะค่ะ ตอนนั้นอายนะค่ะทำไมตัวเองน้ำตาไหล แต่มันห้ามไม่ได้แล้วค่ะ ปล่อยเลยค่ะ เวลา 13.10 ลูกคนที่สองออกมาดูโลกอย่างง่ายดาย ไม่ติดขัดอะไรเลยค่ะ เค้าน้ำหนักตัว 2.5 กิโลกรัม คุณหมอจัดการเย็บแผลผ่าตัด คุณหมอเด็กเช็คสุขภาพของเด็ก แล้วก็แจ้งเราว่าลูกชายทั้งสองคนสมบูรณ์ทุกประการ ไม่ต้องเข้าห้อง NICU ที่เรากลัวนักกลัวหนา เรากับสามีนี่ยิ้มแก้มปริเลยค่ะ เพราะเราสองคนวางแผนอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ออกกำลังกาย พักผ่อน คุณหมอ โรงพยาบาล ทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะอยากให้ลูกชายทั้งสองคนแข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด ผ่านไป 1 ชั่วโมง นางพยาบาลก็เข็นเราออกมาจากห้องผ่าตัดมาอยู่ห้องพักฟื้น และสามีก็เข้ามาเยี่ยม คำถามแรกที่เราถามเค้าก็คือ ลูกเป็นไงบ้าง เค้าก็บอกว่าปลอดภัย สมบูรณ์ดีทั้งสองคน แต่เราแปลกใจ เอะทำไมสีหน้าไม่ค่อยดี ก็เลยถามอีก ว่ามีอะไรหรือเปล่า เค้าก็อธิบายว่าลูกชายคนแรกไม่เป็นไร อยู่ห้องเด็กแล้ว แต่ลูกชายคนเล็กย้ายไปห้อง NICU เรารู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันทีเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย สงสารก็สามีล่ะค่ะ ไม่รู้จะห่วงใคร แฟนก็นอนอยู่ที่ห้องพักฟื้น ลูกชายคนโตก็อยู่ห้องเด็ก ลูกชายคนเล็กอยู่ห้อง NICU ไม่รู้จะไปดูแลใครดี ถึงตอนนี้ก็ได้แต่แอบขำในความน่ารักของเค้าค่ะ สำหรับเคสลูกชายคนเล็กของเรา คุณหมอบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากค่ะ เค้าอธิบายว่าปกติเด็กควรจะคลอดแบบธรรมชาติ คือออกจากช่องคลอดเพราะจะมีการรีดน้ำในปอดออก แต่ลูกชายเราคนเล็กไม่ผ่าน process นี้ ก็เลยทำให้ยังมีน้ำในปอดอยู่ แกก็เลยยังควบคุมการหายใจของแกเองยังไม่ดีเท่าที่ควร เดี๋ยวหายใจเร็ว เดี๋ยวหายใจช้า แต่ก็ไม่เป็นอะไรมากค่ะ ประมาณ 2 วันแกก็ออกจากห้อง NICU แล้วก็มาอยู่ห้องเด็กปกติแล้วค่ะ วันนี้เลยขอเอาภาพมาอวดหน่อยนะค่ะ น้องยูจังกะน้องเคจังครับ
แวะมาเยี่ยม...สวัสดีครับ
โดย: **mp5**
![]() โดย: น้องเทพโคตรน่ารัก
![]() โดย: มะนาว (สมาชิกหมายเลข 2716342
![]() อ่านแล้วได้ประสบการณ์จ้า ใครกำลังหา เลกกิ้งคนท้องลองดูจ้า เลคกิ้งคนท้องมากมาย
โดย: thaiseaman
![]() ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีจ้า จะได้เตรียมตัวเตรียมใจคร่าา แนะนำแหล่งเลกกิ้งคนท้อง เลคกิ้งคนท้อง
โดย: thaiseaman
![]() |
dajoy
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | |||