bloggang.com mainmenu search









พลเรือเอก หม่อมหลวง อัศนี ปราโมช (Admiral ML Usni Pramoj 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2477 - ) องคมนตรี และผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์

พลเรือเอก หม่อมหลวงอัศนี มีชื่อเล่นว่า "ตุ้ย" เป็นบุตรของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี และท่านผู้หญิงอุศนา ปราโมช ณ อยุธยา สมรสกับท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช ณ อยุธยา (สกุลเดิม ชลวิจารณ์) มีบุตรทั้งหมด 5 คน

ม.ล.อัศนี ปราโมช มีผลงานทางดนตรีมากมาย เป็นนักไวโอลิน นักวิโอล่า ผู้ประพันธ์เพลง และผู้อำนวยเพลง เป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ ทำให้ได้รับการยกย่องเป็น ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) เมื่อปี พ.ศ. 2537


การศึกษา

ในวัยเด็ก ได้รับการศึกษาที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ก่อนที่จะเดินทางไปศึกษาต่อทางด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ จนสำเร็จปริญญาตรี จากนั้นก็ได้เข้าศึกษาในหลักสูตรเนติบัณฑิต ที่สำนักอบรมศึกษากฎหมายเกรส์ อินน์ จนสำเร็จเป็นเนติบัณฑิตอังกฤษ


การทำงาน

หม่อมหลวงอัศนี เข้ารับราชการทหารที่กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม จนได้รับยศเป็นเรือเอก จากนั้นก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เข้าทำงานที่สำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ และได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 มาจนถึงปัจจุบัน

ในปี พ.ศ. 2527 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หม่อมหลวงอัศนีดำรงตำแหน่งองคมนตรี

ด้านการทหาร ได้รับพระราชทานยศเป็น

พลเรือตรีในตำแหน่งนายทหารพิเศษ ประจำกรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรือ เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2535
พลเรือเอกในตำแหน่งนายทหารพิเศษ ประจำกองบังคับการ กรมทหารราบที่ ๓ รักษาพระองค์ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน 16 ธันวาคม พ.ศ. 2550


ผลงานทางดนตรี

หม่อมหลวงอัศนีได้รับอิทธิพลในด้านดนตรี และศิลปะมาจากหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ตั้งแต่วัยเด็ก เริ่มเล่นดนตรีด้วยการฝึกไวโอลิน และได้รวมตัวกันเล่นดนตรีวงควอเตท ภายในครอบครัวบ่อยครั้ง เมื่อเดินทางไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ ได้ใช้เวลาว่างศึกษาเรียนรู้ดนตรีด้วยตนเอง ทั้งยังได้เข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรีกับทางมหาวิทยาลัยเป็นประจำ

เมื่อเดินทางกลับจากศึกษาต่อในปี พ.ศ. 2501 ได้ร่วมกับ อาจารย์กำธร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และชาวต่างชาติอีก 2 คน ตั้งวงสตริงควอเตทขึ้น

ต่อมาวงสตริงควอเตทได้พัฒนาไปเป็นวงโปรมิวสิคา ซึ่งเป็นวงดนตรีที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และก็ได้รับความสนับสนุนจากสถาบันเกอเธ่ (สถาบันวัฒนธรรมเยอรมัน) ให้ใช้สถานที่ฝึกซ้อม ทั้งยังได้ส่งนายฮันส์ กุนเธอร์ มอมเมอร์ มาช่วยควบคุมวง

วงดนตรีโปรมิวสิคานี้ นับเป็นวงดนตรีที่บุกเบิกวงการดนตรีคลาสสิกของประเทศไทย ซึ่ง ม.ล. อัศนีเป็นผู้ริเริ่มและรับหน้าที่เป็นทั้งหัวหน้าวง ผู้จัดการวง ผู้แสดงเดี่ยว และผู้อำนวยเพลง จนกระทั่งเกิดการรวมตัวครั้งใหม่เป็นวงดนตรีที่ใหญ่ขึ้น มีชื่อว่า วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ หรือ บางกอก ซิมโฟนี ออเคสตร้า (B.S.O.) นอกจากการเป็นนักดนตรี และผู้อำนวยเพลงแล้ว หม่อมหลวงอัศนียังมีผลงานประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสาน อาทิ

เรียบเรียงเสียงประสานเพลงพระราชนิพนธ์หลายเพลง อาทิ ความฝันอันสูงสุด แผ่นดินของเรา เราสู้ เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย ยามเย็น ลมหนาว อาทิตย์อับแสง ฯลฯ

ปี 2521 ประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสานเพลงบัลเล่ต์ ปางปฐม
ปี 2527 ประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสานเพลงทัศนะ (View) ซึ่งวงดุริยางค์เยาวชนอาเซียนได้นำไปแสดงที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปี ๒๕๒๘

ปี 2529 ประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสานเพลงศรีปราชญ์ (Tone Poem) เพื่อให้วงดุริยางค์เยาวชนอาเซียนแสดงที่กรุงเทพมหานคร ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
ปี 2531 ประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสานเพลง สำหรับวันฉัตรมงคล เพื่อให้วงดุริยางค์ ราชนาวีแสดงในงานดนตรีกาชาดคอนเสิร์ต

ปี 2533 ประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสานเพลงประกอบบัลเล่ต์ ชื่อ จันทกิน รีเพื่อการแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
ปี 2535 ประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสานเพลงประกอบบัลเล่ต์ชื่อ ศรีปราชญ์ ขึ้นใหม่เพื่อการแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

ประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสานเพลงพนาไพร เพื่อให้วงดุริยางค์ราชนาวีแสดงในงานดนตรีกาชาดคอนเสิร์ต ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

เรียบเสียงประสานเพลงปลุกใจและเพลงรักชาติในช่วงที่ประเทศชาติประสบกับภัยคุกคามของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์หลายเพลง อาทิ แด่ทหารหาญในสมรภูมิ จากยอดดอย วีรกรรมรำลึก ตื่นเถิดไทย อยุธยารำลึก ฯลฯ

พลเรือเอก หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) เมื่อ พ.ศ. 2537


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


โสรวารสิริสวัสดิ์ ปรีดิ์มนัสสวัสดิ์สิริค่ะ
Create Date :07 สิงหาคม 2553 Last Update :8 สิงหาคม 2553 0:55:32 น. Counter : Pageviews. Comments :0