พาไปเที่ยวนิกโก้เมืองมรดกโลก ตอน2 เมื่อตอนที่แล้วเรากำลังเริ่มเดินทางเข้าถึงศาลเจ้าโทโช-กู จะมีประตูโทริอิ สัญญลักษณ์ของวัดพุทธนิกายเซนทุกคนต้องหยุดถ่ายรูปหน้าประตู โทริอิ ป้าก็ไม่พลาดเช่นกันป้ายประจำตระกูลโตกุกาว่า เป็นรูปใบไม้สามกลีบในวงกลมศาลเจ้าโทโช-กู หรือที่เรียกว่าศาลเจ้านิกโก้ สร้างโดยอิเอะสุ โตกุกาว่า ต้นตระกูลของโชกุนโตกุุกาว่าเพื่อใช้เป็นสุสานประจำตระกูล เราคงเคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลโตกุกาว่าในประวัติศาตร์ญี่ปุ่นกันมาบ้างแล้วโดยเฉพาะคนที่ชอบดูหนังการ์ตูนเรื่องอิคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา โตกุกาว่า เป็นโชกุนตระกูลสุดท้ายที่ปกครองญี่ปุ่น โดยต้นตระกูลได้รบชนะโชกุนตระกูลอื่น แล้วขึ้นปกครองประเทศเมื่อ ๔๐๐ ปีก่อน หรือประมาณ ค.ศ.๑๖๐๐ โชกุนตระกูลนี้มีอำนาจอยู่ถึงรัชกาลที่๕ของไทยตระกูลโตกุกาว่า ปกครองญี่ปุ่นอยู่ ๒๕๐ ปี ซึ่งยาวนานกว่าตระกูลใดๆเล่ากันว่า โชกุนคนแรกของตระกูลโตกุกาว่า เป็นคนเชื่อถือเรื่องดวง เรื่องจวงฮุ้ยมากก่อนตายเลยหาที่ทำเป็นสุสานของตัวเอง แล้วมาได้ที่นิกโก้ เพราะตอนที่หาสถานที่ได้ให้หมอดูตรวจดู ก็พบว่าตำแหน่งของเมืองนิกโก้เป็นจุดที่เส้นเหนือกับเส้นใต้ตัดกัน แล้วเป็นจุดที่มีพลังมากที่สุดของประเทศจึงเลือกเมืองในหุบเขานี้เป็นที่ตั้งของสุสาน โดยสร้างไว้ตั้งแต่ตัวเองยังไม่ตายด้านหน้าสุสานสร้างเป็นศาลเจ้า ส่วนสุสานอยู่บนเขาสูงขึ้นไป ก่อนเข้าไปเราต้องเสียเงินค่าบำรุง คนละ ๑๓๐๐ เยน ผ่านเข้าประตูโยเมอิ-มง ประตูนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่นิกโก้ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกแม้ตอนที่สร้างศาลเจ้าและสุสาน ญี่ปุ่นปิดประเทศ เพราะเพิ่งเสร็จสิ้นสงครามภายในหมาดๆก็ยังไม่ค่อยมีเงินแต่โชกุนก็สามารถระดมเงินภาษีจากพ่อค้ามาเพื่อสร้างจนสำเร็จและสวยงามตระการตาแต่รูปแบบการก่อสร้างที่นิกโก้เป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ที่โชกุนเน้นความสวยงามโดยจ้างช่างทั้งญี่ปุ่น จีน เกาหลี ที่มีฝีมือระดับเซียนทั้งงานปั้น งานแกะสลัก ใช้แรงงานเป็นล้านคนหมดเงินทองไปมากมาย ที่ต้นทุนสูงมากเพราะของทุกอย่างนำมาจากเมืองเอโดะทั้งข้างนอกข้างในมีการปิดทองอย่างวิจิตรงดงาม เรียกว่าไม่เคยมีมาก่อนเลย นับเป็นงานของสมัยเอโดะเมื่อเข้ามาในบริเวณ หลายๆคนตั้งใจมาดูไม้แกะสลักรูปลิงสามตัวอันเลื่องชื่อ ลิงสามตัวเป็นแผ่นป้ายไม้แกะสลักอยู่บนคอกม้า ที่เป็นที่อยู่ของม้าที่เป็นของขวัญจากรัฐบาลนิวซีแลนด์ลิงสามตัว ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ซึ่งมีความหมายว่า ไม่ฟัง ไม่ดู ไม่พูดในสิ่งที่ไม่ควรเมื่อสมัยก่อนคนญี่ปุ่นไม่เคยเห็นช้างจริงๆ ภาพด้านบนคือช้างในจินตนาการณ์ของคนญี่ปุ่นสมัยก่อนก่อนเข้าไปด้านในสุสาน ต้องล้างมือเสียก่อนตามธรรมเนียมเจดีย์๕ชั้น สร้างใหม่เมื่อ ค.ศ.๑๘๑๘มาถึงแล้วสิ่งแกะสลักที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทางเข้าสุสานตรงด้านบนปากทางเข้าเหนือประตูถ้าเราไม่สังเกตุอาจจะผ่านเลยไป เพราะตัวจริงเล็กมาก ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นว่าแมวตัวนี้ตาปรือเหมือนจะหลับแต่ไม่หลับเขามีความเชื่อกันอีกว่า แมวตัวนี้จะช่วยระวังภัยให้สุสาน ประมาณว่าหนูตัวเดียวก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปในสุสานได้เมื่อผ่านประตูสุสานเข้าไป จะเป็นทางขึ้นเขาที่มีบันไดที่เป็นแผ่นหินวางเรียงขึ้นไปถึง ๒๐๗ ขั้นค่อยๆเดินขึ้นไปเรื่อยๆอากาศสดชื่นไม่ร้อนไม่หนาว ทำให้การเดินขึ้นเขาไปยังสุสานไม่เหนื่อยมากนักด้านบนเมื่อเดินขึ้นไปจะพบกับศาลาเล็กๆหน้าสุสาน เราทำบุญด้วยการโยนเหรียญอฐิษฐานนิยมที่จะโยนเหรียญห้าเยน ห้าเหรียญห้าสิบเยน ถ้าไม่มีก็สิบเยนหรือร้อยเยนก็ได้มาถึงหน้าประตูเหล็กอันหน้าเกรงขาม มีสิงค์โตที่เป็นของขวัญจากประเทศเกาหลีอยู่สองข้างเราดั้งด้นขึ้นมาเพื่อจะมาดูสิ่งนี้ สถานที่บรรจุอัฐิของโชกุน อิเอะยาสุ โตกุกาว่า เป็นบริวเวณที่สงบร่มเย็นเหมาะกับเป็นสถานที่่พักชั่วนิรันดร์บริเวณสุสานท่านโชกุนอิเอะยาสุ มีต้นไม้ใหญ่ให้ได้อฐิษฐานขอพร แต่ลืมถ่ายรูปมา ได้แต่ยกมือพนมขอพรให้ตัวเองและสามีสุขภาพแข็งแรงเดินออกมาด้านหน้ามีของที่ระลึกให้ได้หาซื้อไปเป็นเครื่องรางของขลังหลายอย่างเช่นเดียวกับวัดที่เมืองไทยเดินกลับลงมาด้านล่าง ยังสบายมากไม่เหนื่อยเพราะอากาศกำลังดี ว่ากันว่าเมื่อสมัยก่อนขบวนของโชกุนเวลามาที่นี่เป็นขบวนใหญ่ยาวมาก โชกุนมาถึงสุสานแล้ว แต่ขบวนสุดท้ายยังอยู่ที่พระราชวังอิมพิเรียลอยู่ จริงเท็จอย่างไรไม่สามารถรู้ได้เดินมาถึงประตูทางเข้า หน้ายังชิวๆ ต้องมาอีกแน่ตอนหน้าใบไม้เปลี่ยนสี ออกมานั่งพัก มองผู้คนลุงสาหร่ายกับกล้องคู่ใจ สาวแต่งชุดโบราณคอยเก็บตั๋วเข้าชม...ภาพนี้เป็นมุมมองจากด้านบน เราจะเห็นอาณาบริเวณอันกว้างขวาง สงบร่มเย็น ในสมัยก่อนเวลาโชกุนจะแต่งงานต้องแต่งภรรยาคนแรกที่เป็นพระธิดาของจักรพรรดิ์ หรือหญิงสูงศักดิ์จากราชสำนักมาแต่งงานเพื่อเป็นฐานให้ฐานะของโชกุนมั่นคงยิ่งขึ้น เพราะโชกุนไม่ใช่กษัติรย์ เป็นเพียงตำแหน่งที่สืบต่อกันมา อำนาจบารมีของโชกุนยิ่งใหญ่เปรียบดังนายกรัฐมนตรีบวกผบ.สูงสุดทางทหารโชกุนมีซามูไรเป็นกองกำลังคอยปกป้องคุ้มครอง สมัยก่อนญี่ปุ่นแบ่งกันเป็นก๊กเป็นเหล่า กว่าจะมารวมกันได้แบบนี้ก็มีการรบลาฆ่าฟันกันมาหลายพวกหลายเล่า เพิ่มเริ่มมาสงบร่มเย็นเป็นยุคทองก็เมื่อสมัยโชกุนโตกุกาว่าคนที่๔ ๕ภายในศาลเจ้าประกอบด้วยศาลหลายหลัง บางก็เปิดให้เข้าชมได้ บางก็เป็นที่หวงห้าม เราเดินออกมาจากศาลเจ้านิกโก้ เดินออกมาเรื่อยๆร่มรื่นชื่นใจเหลือแสน จนอยากจะทำอะไรบ๊องๆแบบนี้สามีบอกให้ถ่ายตรงนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไรเดินออกมาถึงสะพานชินเคียว สะพานนี้เป็นสะพานเก่าแก่หนึ่งในสามของญี่ปุ่น เราถ่ายภาพตอนแรกตอนอยู่บนรถบัสไปแล้วตอนนี้จะมาถ่ายที่หน้าสะพาน มุมที่ใครมาก็ต้องมาถ่าย พอดีฝนตกหนาเม็ด ภาพเลยไม่สวยเท่าที่ควรสมัยก่อนสามัญชนคนธรรมดาไม่สามารถที่จะเดินที่สะพานนี้ได้ เพราะเป็นสะพานสำหรับโชกุนและคนในราชสำนักเท่านั้นเพราะถือว่าเป็นสะพานเทพเจ้า เนื่องจากมีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อโชกุนจะข้ามสะพานนี้ ได้มีงูนิมิตรสองตัวมาทอดตัวให้ข้ามแม่น้ำโดยะไปการเดินทางท่องเที่ยวใกล้จบแล้ว ที่สะพานชินเคียวนี้ ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนได้ไปใช้บริการเดินข้ามโดยคิดราคา ๓๐๐ เยน ถ้าใครอยากจะมาถ่ายรูปแต่งงานที่สะพานนี้ก็มีบริการแต่งชุดแต่งงานให้มาถ่ายรูปนั่งรถบัสกลับ สถานีนิกโก้ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเที่ยวกับป้าพนอจัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มี่ธรรมชาติสวยงามถ้าท่านใดมีโอกาสมาเยี่ยมเยือนญี่ปุ่นอย่าลืมแวะไปเที่ยวที่นิกโก้เมืองมรดกโลก เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทำให้หลายล้านคนทั่วโลกประทับใจมาแล้ว Create Date :23 สิงหาคม 2551 Last Update :15 ธันวาคม 2555 9:02:09 น. Counter : Pageviews. Comments :12 twitter google สวยมากค่ะเมืองญี่ปุ่นอยากไปบ้างจัง โดย: b-boy IP: 125.26.216.116 23 สิงหาคม 2551 23:20:48 น.Fantastic ka. โดย: CrackyDong 23 สิงหาคม 2551 23:58:40 น.อยากไปสักครั้งจังเลยค๊า โดย: Borken 24 สิงหาคม 2551 3:16:29 น.น่าเที่ยวดีค่ะป้า โดย: sopida1981 24 สิงหาคม 2551 5:17:14 น.เดือนเมษาได้ไปเที่ยวหลายเมืองแต่ชอบที่สุดคือ Nikko นี่แหละคะ เสียดายถ้าได้ไปทีหลังคุณป้าจะดีกว่านี้เพราะได้มาอ่าน review ก่อน โดย: pixp 24 สิงหาคม 2551 11:23:18 น.อยากไปช่วงอากิค่ะ อากาศคงเย็นสบายต้นไม้ใบไม้เปลี่ยนสีสัน อยากไปถ่ายรูปค่ะน้าต้อย โดย: a.miyazaki 24 สิงหาคม 2551 15:20:27 น.ป้าพนอจันแต่งตัวน่ารักอีกแล้ว วู๊ โดย: yr_naughty_annie 25 สิงหาคม 2551 6:58:50 น.จะมีโอกาสได้ไปไหมน้อๆๆๆๆๆ โดย: ยายหิ่น (Laynee-floral ) 26 สิงหาคม 2551 21:04:04 น.ดูรูปแล้วอยากไปเห็นของจริงบ้าง โดย: ลุงสอน จ.ลำปาง IP: 118.172.110.13 26 มกราคม 2553 16:28:15 น.นิคโก้ เป็นเมืองที่ บีส ชอบมาเลยค่ะ คุณป้า วัดเกิด ทุกปี สามีจะขับรถพาไปเที่ยวทุกปี เพราะ แค่นั่งรถ ชม วิว ต้นไม้ใหญ่(ต้นสนชีต้าร์) สองข้างถนน ก็มีความสุขมาก ๆ แล้ว และยิ่งขึ้นไปดูน้ำตก ข้างบน สวยมาก ๆเลยค่ะ พอดีบ้านอยู่ไกล้นะค่ะ ขับรถ 2 ชั่วโมง ก็ถึงค่ะ โดย: Beeze IP: 219.126.144.18 5 มกราคม 2554 17:03:52 น.ต้นสนซีดาร์ ค่ะ หุ หุ เมื่อตะกี้ พิมพ์ผิด ค่ะ โดย: Beeze IP: 219.126.144.18 5 มกราคม 2554 17:12:10 น.เคยเห็นชื่อป้าพนอจันในกระทู้พันทิปมานานแล้ว เลยตามมาที่บล็อกดูบ้างก็ไม่ผิดหวัง ได้ความรู้มากมาย อย่างน้อยก็รู้สึกว่ามีคนที่ยินดีจะให้คำปรึกษาการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นอย่างป้าอยู่ ถ้ามีโอกาสอาจจะมีรบกวนหลังไมค์ไปสอบถามขอคำแนะนำบ้างนะคะ เผอิญแต่งงานแล้วจะย้ายไปญี่ปุ่นปีหน้าค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ โดย: ~@JaPPanNy@~ 21 ตุลาคม 2555 20:52:39 น.
อยากไปบ้างจัง
โดย: b-boy IP: 125.26.216.116 23 สิงหาคม 2551 23:20:48 น.
โดย: CrackyDong 23 สิงหาคม 2551 23:58:40 น.
โดย: Borken 24 สิงหาคม 2551 3:16:29 น.
โดย: sopida1981 24 สิงหาคม 2551 5:17:14 น.
โดย: pixp 24 สิงหาคม 2551 11:23:18 น.
ต้นไม้ใบไม้เปลี่ยนสีสัน อยากไปถ่ายรูปค่ะน้าต้อย
โดย: a.miyazaki 24 สิงหาคม 2551 15:20:27 น.
โดย: yr_naughty_annie 25 สิงหาคม 2551 6:58:50 น.
โดย: ยายหิ่น (Laynee-floral ) 26 สิงหาคม 2551 21:04:04 น.
ดูรูปแล้วอยากไปเห็นของจริงบ้าง
โดย: ลุงสอน จ.ลำปาง IP: 118.172.110.13 26 มกราคม 2553 16:28:15 น.
โดย: Beeze IP: 219.126.144.18 5 มกราคม 2554 17:03:52 น.
โดย: Beeze IP: 219.126.144.18 5 มกราคม 2554 17:12:10 น.
โดย: ~@JaPPanNy@~ 21 ตุลาคม 2555 20:52:39 น.