วันเสาร์ที่ ๑๖ สิงหาคม เราได้ออกเดินทางไปเที่ยวเมืองมรดกโลก NIKKO ซี่งเป็นเมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองมรดกโลก

ออกเดินทางจากบ้านไปตั้งแต่เช้า การเดินทางครั้งนี้ เราไปรถไฟของเจอาร์ โดยขึ้นสายUsunomiya Line

ไปลงสุดสายที่ Usunomiya แล้วเปลี่ยนไปอีกชานชาลาที่ ๕ เพื่อขึ้นสาย Nikko Line การเดินทางค่อนข้างสบายๆ

เหมือนรถหวานเย็น ถ้าเราต้องการไปอีกเส้นทางหนึ่งก็สามารถไปได้ทางสายTobu Line จะเร็วกว่าแต่มีรถน้อย



ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมง จึงมาถึงสถานีนิกโก้ ซึ่งเป็นสถานีเก่าแก่ ยังคงสภาพเอาไว้ได้ดี


ห้องที่พระเจ้าจักรพรรดิ์เคยทรงเสด็จมาประทับ ได้รับการดูแลไว้เป็นอย่างดี เปิดให้ประชาชนได้เข้าชม



เราซื้อตั๋วรถบัสราคา2000Yen ตั๋วนี้สามารถขึ้นลงกี่ครั้งก็ได้ภายในเวลาสองวัน ระยะทางถึงน้ำตก
ถ้าต้องการไปสูงกว่านั้นก็มีอีกราคาหนึ่ง คือ 5000Yen 10,000Yen ถ้าจะไม่ซื้อตั๋วนี้ ก็ไปเสียเงินเวลาลง
ราคาจะมีบอกไว้เป็นระยะๆ ถ้าเราไม่ซื้อตั๋วราคา2000Yen ราคาค่าโดยสารไปถึงน้ำตกเที่ยวเดียวก็ 1100 Yen



นั่งรถบัสมาได้ประมาณสิบนาทีก็ได้เห็นสะพานไม้เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก
เป็นสะพานเก่าแก่ ๑ ใน ๓ สะพานของญี่ปุ่น ฐานของสะพานวางอยู่บนหินก้อนใหญ่เหมือนการต่อโลโก้
สะพานนี้มีชื่อว่า สะพานชินเคียว Shinkyo ซึ่งแปลว่าสะพานแห่งเทพเจ้า เดิมสะพานไม้สีแดงนี้มีชื่อว่ายามาสุเกะ-โนะ
ที่แปลว่าสะพานแห่งงู มีความกว้าง ๖ เมตร ยาว ๒๗ เมตร ฐานรากของสะพานก่อขึ้นจากการวางหินซ้อนกันขึ้นมาเท่านั้น แล้วจึงมีสะพานวางทอด อยู่ข้างบน


เมืองนิกโก้นี้ ตั้งอยู่ในจังหวัดโทจิงิ อยู่ห่างโตเกียวไปทางเหนือประมาณ๑๒๕กิโลเมตร
จุดท่องเที่ยวที่สำคัญ คือสะพานชินเคียว วันรินโนจิ ศาลเจ้าโทโซ-กู และน้ำตกเคออง ทะเลสาปชิโยเซ็นซิโกะ


เรานั่งรถบัสไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยจนถึงชั้นที่เป็นจุดชมน้ำตก ซึ่งเราจะลงลิฟท์ลงไปดูอย่างใกล้ชิด
แต่ก่อนที่จะไปดูน้ำตก เราต้องหาอาหารใส่ปากใส่ท้องให้อิ่มหนำสำราญก่อน เพราะถ้าท้องหิวการเที่ยวก็ไม่สนุกแน่
เราเลือกได้ร้านทงคัตสึ อาหารประจำของเราสองคน ไปไหนไม่รู้จะทานอะไรก็ขอทงคัตสึ เจ้าหมูทอดกรอบเป็นอาหารในดวงใจ



อิ่มหนำสำราญเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางต่อไป โดยเดินเรื่อยๆไปจนถึงสถานีที่ต้องลงลิฟท์ไปดูน้ำตก
เราต้องเสียค่าบริการลิฟท์คนละ

ความสูงของน้ำตกนี้ ๑๒๗๔ เมตร เราลงลิฟท์ลงไป ๑๐๐ เมตร ใช้เวลาประมาณหนึ่งนาที
เมื่อลงมายังชั้นที่เป็นจุดชมน้ำตก จะมีน้ำกระเซ็นมาซึมตามพื้นตามผนังเย็นฉ่ำไปทั้งทางเดิน



เห็นน้ำตกอยู่ตรงหน้า น้ำแรงมาก ว่ากันว่าเมื่ออากาศหนาวเย็นจัดๆน้ำตกนี้จะกลายเป็นน้ำแข็งเป็นภาพที่น่าอัศจรรย์มาก



ถ่ายรูปรอบด้าน



ขึ้นมาจากด้านล่าง มาถ่ายภาพกับป้ายชื่อน้ำตก และแวะดูของที่มีขายอยู่ที่ร้านต่างๆจะเป็นลิงน่ารักๆหลายรูปแบบ
ที่นี่ลิงเยอะ อาจจะวิ่งอยู่ตามริมถนนเวลารถผ่าน เขาจึงทำของที่ระลึกเป็นรูปลิงออกมาให้ซื้อกลับไปดูเล่น



เดินกลับไปขึ้นรถเพื่อลงไปยังศาลเจ้า โทโช-กู หรือเรียกง่ายๆว่าศาลเจ้านิกโก้ เป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น
สองข้างทางที่เดินเข้าไปยังศาลเจ้า ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่เขียวชอุ่มน่าเพลิดเพลินยิ่งนัก


เดินไปจนถึงหน้าศาลเจ้า ต้องเสียค่าบำรุงคนละ ๑๓๐๐ เยน เมื่อสมัยโชกุนโตกุกาว่า ใช้ศาลเจ้าแห่งนี้ืเป็นที่บวงสรวง



ขอพักแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยไปเที่ยวกันต่อค้ะ