bloggang.com mainmenu search


Title : Doctor X Writer: Miho Nakazono
Director: Naomi Tamura, Hidetomo Matsuda
Network: TV Asahi Oct -Dec 2012 Thursdays 21:00
Episode : 8 viewership rating : 19.1%




ในตอนแรกไม่ได้คาดหวังไว้เลยกับซีรีย์เรื่องนี้ เพราะไม่มีนักแสดงที่ดึงดูดเลยสักคน เปิดไปสองรอบก่อนหน้า เห็นหน้าเหลี่ยมของนางเอกถึงฉากในผับที่เธอช่วยคนป่วยคนนั้นทีไร ก็เลิกดูเสียทั้งสองครั้ง เพราะนางเอกหน้าตาไม่เป๊ก

ครั้งนี้ เป็นความพยายามรอบที่สาม ทนดูดูต่อไปอีกหน่อย

ติดเลย .. มันสนุกสมค่าตัวเลขเรตติ้ง ๑๙.๑ %



หน้าตาของนางเอกไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะคาแรคเตอร์ของเจ๊นั้น โดนใจสุดๆ เสียดายแต่ว่าทำไมถึงสร้างแค่ ๘ ตอน ทั้งที่เรตติ้งก็งามออกปานนี้

ขออีกได้ไหม ขอ Season ๒ บอกตรงๆ เลยว่า แค่ ๘ ตอน มันน้อยเกินไป แถมยังเหลือประเด็นคลุมเคลือที่ค้างคาใจ ขอรบกวน TV Asahi ช่วยจัด season ๒ มาเคลียร์ให้ที

Doctor X เป็นเรื่องราวของแพทย์หญิงคนหนึ่ง ที่ในถ้อยคำบรรยายใช้คำว่า "A lone wolf woman doctor" เป็นคำที่เปรียบได้ดี ทำให้เห็นภาพชัด เธอเหมือนหมาป่าโดดเดี่ยว เขี้ยวเล็บแหลมคม..มาก! และไม่ต้องการเข้าฝูง

เธอไม่ใช่เจ้าหน้าที่แพทย์ประจำอยู่สังกัดโรงพยาบาลใด แต่เป็นแพทย์อิสระรับทำงานตามสัญญาจ้างที่เรียกกันว่า Freelance doctor



ศัพท์แสงของซีรีย์เรื่องนี้ เป็นอะไรที่ยากมากสำหรับผู้เขียน นี่ถ้ามันไม่สนุกจริง คงจะไม่อดทนนั่งเปิด Dictionay เอาซะมาก พราะหลายประโยคก็อยากจะเข้าใจมันจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่จะเข้าใจทุกประโยคถ่องแท้ไปซะหมด สาเหตุที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย "Teito Medical University third hospital" ต้องประสบวิกฤตการขาดแคลนแพทย์ เรื่องนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่ไม่เข้าใจชัดแจ้ง แปลศัพท์แล้วเดาสุ่มเอาคร่าวๆ เข้าใจว่ามีผลมาจากกฏเกณฑ์บางอย่างของกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับระบบการฝึกหัดแพทย์ (The new post -graduate training system in 2004) การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้โรงพยาบาลมหา'ลัยได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแพทย์ฝึกหัดและแพทย์ที่มีอยู่ก็ต้องเผชิญภาวะการทำงานที่หนักหน่วง (Harsh environment) ทำให้แพทย์หลายคนยื่นใบลาออกไป ด้วยสถานการณ์นี้เองที่บีบบังคับให้ทางโรงพยาบาลต้องหาทางออกด้วยการจ้าง Freelance doctor เข้ามาเสริมในส่วนของแพทย์ที่ขาดแคลน



จ้างหนึ่งเหมือนได้สาม นั่นคือคุณสมบัติของแพทย์คนใหม่ที่ Office manager "ทารายามาซัง" ได้รายงานการว่าจ้างต่อผู้บริหารของโรงพยาบาล แต่ถ้าเธอได้เห็นบิลชาร์ตเพิ่มค่า OT ค่าผ่าตัดพิเศษ ค่าผ่าตัดฉุกเฉินจากบริษัทเอเจนซี่ที่จะตามมาหลังจากรับแพทย์คนนี้เข้าทำงานล่ะก็.. เธออาจจะตัดสินใจจ้างสาม สี่ หรือห้า เพื่อไม่ต้องจ้างหนึ่งเดียวคนนี้ก็ได้ ใครจะรู้



"ศัลยแพทย์หญิง ไดมอน มิจิโกะ"

เธอโผล่มาด้วยเสื้อผ้าสะดวกสบายสไตล์ "นุ่งสั้น"

แม้จะมาทำงานแป๊บๆ ก่อนจะถูกไล่ออกสายฟ้าแล่บเหตุเพราะความสามารถในการวินิจฉัยและการผ่าตัดที่หักหน้าหมอไปตลอดจนถึงศาสตราจารย์มากกเกินควร แต่สายตาโปนๆ ของเธอก็มองเห็นอะไรรอบตัวและด้วยเหตุผลบางประการที่เธอถูกว่าจ้างกลับมาอีกครั้ง เธอจึงมาพร้อมเอกสารร่างกฏของเธอเอง และทำการประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน




การร่วมขบวน(เสริมบารมี)เดินวอร์ดของผู้บริหารหรือศาสตราจารย์ (Direcot's round / Professor's round)
การช่วยงานวิจัยของศาสตราจารย์
ติดสอยห้อยตามศาสตราจารย์เข้าร่วมงานสัมนาวิชาการ
ขับรถให้ศาสตราจารย์ไปตีกอล์ฟ
ออกอุบายช่วยปิดบังอำพรางเรื่องอีหนูของศาสตราจารย์
บลา บลา บลา

ทั้งหมดนี้ I will not do it "ฉันจะไม่ทำ"

I will not do anything that can be done without medical license.
"ฉันจะไม่ทำสิ่งใดๆ ที่ถูกทำได้ โดยไม่ต้องใช้ใบอนุญาตทางการแพทย์"

การรักษา การผ่าตัดคนไข้ ต้องมีใบอนุญาตของการเป็นแพทย์ เรื่องไร้สาระอื่นใดที่ไม่จำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตนี้ "ฉันจะไม่ทำ"

ชัดมั้ย !! ? (ที่จะมาเรียกร้องให้เธอทำอะไรๆ .. จบนะ)



เกลียดการเข้ากลุ่ม เกลียดผู้มีอำนาจ เกลียดข้อจำกัด
(Averse to groups , Averse to authority , Averse to constraints)

ใบอนุญาตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทักษะที่เฉียบคมของเธอเองคืออาวุธเดียวที่เธอมี
(A medical specialist's license and her self-honed skill are her only weapons)

เธอไม่พูดคุยเรื่องส่วนตัว ไม่ต้องการชิตแชตเรื่องไร้สาระกับใคร
และเธอเข้างาน-เลิกงานตรงเวลา แปดโมงเข้างาน
ห้าโมงปุ๊บสลัดเสื้อกาวน์เด้งออกจากโรงพยาบาลปั๊บ

กิจกรรมหลังเลิกงานคือ เข้าผับเป็นสาวขาแดนซ์ หรือไม่ก็นั่งเล่นเกม (เกมอะไรก็ไม่รู้) พร้อมกับเมาท์มอยอยู่กับสองสามคนที่เข้าใจว่าคงเป็นแพทย์ freelance สังกัด Agency เดียวกันกับเธอ อยู่ในบ้านที่เป็นทั้งสำนักงานและเป็นทั้งที่พักของเธอด้วย



เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงไม่มีนอบน้อม ไม่มีเห็นหัวใคร และไร้มารยาท (ที่จริงแล้ว เธอก็แค่ไม่เกรงกลัวอำนาจ และคิดพูดทำอย่างตรงไปตรงมา) แต่เพราะว่าฝีมือของเธอไร้ที่ติ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดไปต่อการให้การรักษาหรือผ่าตัดผู้ป่วย จึงเป็นเรื่องค่อนข้างยากจะโจมตี และเพราะฝีมือของเธอนี่เองที่ทำให้ศัลแพทย์ในแผนกศัลกรรมย์มีความอ่อนไหว (sensitive) กับความรู้สึกว่าด้อยกว่า (ตัวก็เตี้ยกว่าด้วย) มันควรต้องมีสักอย่างที่จะเป็นจุดอ่อนของหมอไดมอน



แต่ว่า ประวัติการทำงานของเธอก็สุดแสนจะโชกโชนอย่างเหลือเชื่อ แถมเธอยังระบุเอาไว้ชัดเจนว่า ความสามารถพิเศษ : ผ่าตัด / งานอดิเรก : ผ่าตัด (เธอเกิดมาเผื่อผ่า)

การยัดเยียดภาพลักษณ์ของการเป็นหมอหน้าเงินให้กับหมอไดมอนที่ดูเหมือนจะชอบกระโจนเข้ารักษาคนรวยๆ เพื่อหวังเงินรางวัลสำหรับการขอบคุณ ( Gratuity ) ดูจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้หมอคนอื่นรู้สึกสูงส่งขึ้น ทั้งที่จริงแล้ว บางคนก็แค่มือถือสากปากถือศีล ทำดีแค่เพียงเพื่อภาพลักษณ์ ตามกฏของทางโรงพยาบาล ห้ามไม่ให้หมอรับเงินรางวัล หรือของตอบแทนจากครอบครัวผู้ป่วย แต่พอลับหูลับตา ก็มีหรอกน่า ที่หมอคว้ามันใส่กระเป๋าเสื้อกาวน์หมับ ไม่งั้นหมอจะเอาเงินที่ไหนหว่านใส่สาวโฮสเตส หรือเลี้ยงดูอีหนู



แต่เธอก็ไม่สะทกสะท้านกับข้อกล่าวหาว่าเป็นหมอไร้จริยธรรม ผู้กล่าวหาก็รู้ดีกว่าหมอคนอื่นหรือแม้แต่ตัวเองที่กินในที่ลับก็ไม่ได้ดีไปกว่าเธอแน่ ความจริงแล้ว ใครจะคิดจะว่าอย่างไรมันก็ไม่มีผลกระเทือนอะไรต่อหมอไดมอนทั้งนั้นแหละ เพราะเธอไม่สนใจใคร (นอกจากอาการที่เจ็บป่วย และวิธีที่ต้องผ่าตัดรักษา) เมื่อไม่สนใจย่อมไม่มีอะไรต้องแคร์ เธอไม่เข้าสังคม ไม่กินข้าวกลางวันร่วมกับกับใคร ไม่ไปสังสรรค์หลังเลิกงาน เธอไม่สนใจอะไรอื่นทั้งนั้น นอกจากเข้างาน ทำงาน และออกจากงานห้าโมงตรง



เธอมีจุดแข็ง ที่แม้ไม่อยากยอมรับ แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับ

I never fail. " ฉันไม่เคยพลาด"
I don't make mistake. " ฉันไม่ทำพลาด"
I won't fail. " ฉันจะไม่ทำพลาด"

เป็นคำพูดที่ทำใครๆ อึ้ง ก่อนจะตามมาด้วยความน่าหมั่นไส้อะไรเช่นนี้ (ผู้เขียนก็หมั่นไส้) แต่นั่นก็เป็นเพราะความสามารถที่เธอมี ทำให้เธอมีความมั่นใจที่แข็งแกร่ง และที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดที่ช่วยลบความรู้สึกว่าเธอช่างเป็นคนยโสที่โอ้อวดในฝีมือ คือ เธอหมายความตามนั้นจริงๆ




นั่นเป็นเป้าหมายที่เธอกดดันตัวเองให้ตั้งอยู่ในความรับผิดชอบ ทุกครั้งที่ลงมือผ่าตัด

"ฉันจะไม่ทำพลาด"

เพราะเธอเป็นหมอที่เกลียดคนป่วย และเพราะเกลียดคนป่วยเธอจึงต้องเป็นศัลแพทย์ ใครเจ็บป่วยอะไร ผ่าๆ จัดการต้นตอซะ (อย่างไม่มีพลาด) จะได้หายป่วย ทัศนคติแปลกหมอแบบนี้ก็เพิ่งจะเคยเจอในซีรีย์หมอนี่แหละค่ะ ^^

และเพราะเหตุนี้ เธอจึงไม่ทำประกันทางการแพทย์ ที่แพทย์โดยทั่วไปจะมีไว้เพื่อช่วยคุ้มครองตัวเองในกรณีที่อาจถูกฟ้องร้องจากผู้ป่วย แต่หมอไดมอนไม่มีประกันนี้ เพราะเธอจะไม่ทำพลาด จึงไม่จำเป็นต้องมีประกันไว้ทำปลวกอะไร

ก็สมควรให้ชาวบ้านหมั่นไส้และเรียกว่า "หมอเดมอน" ( Demon) แทนน่ะนะ



ปริศนา Doctor X ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยนำพาความด่างพร้อยมาสู่หมอไดมอนได้ หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าอดีตของเธอคือ Doctor X ที่ยังคงเป็นความลับของวงการแพทย์มาจนถึงปัจจุบัน และหากเธอคือ Doctor X โรงพยาบาลแห่งนี้กำลังรอวันพบกับความเสื่อมเสียครั้งใหญ่ ที่อาจล้มล้างความน่าเชื่อถือและนำพาวิกฤติมาให้เสียยิ่งกว่าปัญหาการขาดแคลนแพทย์



โดยคาแรคเตอร์ของหมอไดมอน เมื่อไปผสมเข้ากับเนื้อเรื่องและประจันหน้ากับตัวละครอื่นๆ ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้สนุกมาก เธอเป็นสิ่งแปลกปลอมก็จริง แต่ก็ยังไม่ถึงกับสุดโต่ง เห็นด้วยกับบางคอมเมนท์ว่าเธอไม่ใช่คน หยิ่งผยอง ( arrogant ) แค่เป็นคนที่ตรงๆ โต้งๆ ( Truthful ) เมื่อไม่เห็นด้วยเธอคัดค้าน แต่ไม่ถึงกับดื้อด้านต่อสู้เพื่อให้เป็นไปตามนั้น เธอไม่สนอำนาจผู้บริหาร แต่เธอก็ไม่หาเรื่องใส่ตัวโดยไปคัดง้างอำนาจนั้น ดังนั้นหากจะว่าเธอขวางโลก ผู้เขียนก็คิดว่าพฤติกรรมกวนๆ ที่บางทีก็ตลกร้ายของเธอไม่ได้ล้ำเส้นไปถึงขั้นนั้น เพราะเธอยังอยู่กับความเป็นจริงที่แม้คนอื่นจะไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธ



เช่นเดียวกันกับความสามารถ ถ้าเทียบกับหมอ อาซาดะ ริวทาโระ เรื่อง IRYU ที่ให้ความรู้สึก "ขั้นเทพ" จนหาใครมาเทียบไม่ได้อีกแล้ว เธอยังคงให้ความรู้สึกอยู่เพียง "ผู้เชี่ยวชาญ" ที่ไม่ปล่อยให้ตัวเองทำพลาดเท่านั้น (ยังไปไม่ถึงขั้นเทพ) หรืออาจจะเป็นเพราะ จำนวนตอนน้อยกว่า เคสรักษาที่น้อยกว่า และอาการเจ็บป่วยที่ต้องผ่าก็ไม่ดูวิกฤติพิศดารเท่าล่ะมัง



ไม่ผิดแผกไปจากซีรีย์หมอทั่วไปที่ยังคงวนเวียนอยู่กับการเมือง จริยธรรม จรรยาบรรณของการเป็นแพทย์ แต่เพราะมันไม่สุดโต่ง ประเภทเดินออกมาเดินเป็นขบวนฮีโร่แบบ IRYU หรือเล่นอยู่กับอารมณ์หนักหน่วงของการเป็นแพทย์ หรือ เรื่องราวชีวิตผู้ป่วยและครอบครัว เหมือนอย่าง Code Blue ความปานกลางในเนื้อหาของสิ่งเหล่านี้จึงทำให้เป็นละครที่กลมกล่อม ดูสนุกๆ เอามันส์พอประมาณ แบบไม่ต้องเครียด

ทีนี้มาแนะนำตัวละครกันค่ะ



ศัลแพทย์หนุ่มมือยังใหม่ "หมอโมริโมโตะ" ผู้ตกอยู่ในความ อึ้ง ทึ่ง ฉงนสนเท่ห์กับความสามารถและพฤติกรรมต่างๆ ของหมอไดมอน แล้วก็เกิดเป็นความสับสนในตนเอง จะแอนตี้คล้อยตามคนส่วนใหญ่หรือควรจะยืดถือหมอไดมอนไว้เป็นแบบอย่าง เพราะก็ไม่แน่ใจว่าพฤติกรรมต่างๆ ของเธอนั้นมันควรน่ารังเกียจหรือน่ายกย่องกันแน่



วิสัญญีแพทย์ แม่หม้ายลูกหนึ่ง "หมอจุโนะอุจิ" เป็นตัวละครที่ชอบมากที่สุดในเรื่อง สีหน้าแววตาของเธอดูสนุกอยู่ทุกครั้ง ที่ได้เฝ้ามองพฤติกรรมนอกกรอบของหมอไดมอน ความรู้สึกดีกับการได้ทำงานร่วมผ่าตัดกับหมอเก่งๆ ที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ปรากฏให้เห็นโดยไม่ต้องมีคำพูดชื่นชม เพราะการยอมรับนับถือ รวมทั้งความเชื่อใจที่เกิดขึ้นในห้องผ่าตัด มันอยู่ในสายตาและรอยยิ้มของหมอจุโนะอุจิอยู่แล้ว ส่วนอีกเหตุผลที่ทำให้ชอบเธอมากคือ เรื่องนี้เจ๊ยูกิ เธอสวยเป็นพิเศษ




คู่หู คู่วิพากษ์หมอไดมอน หมอฮาระ กับ หมอคาจิ เห็นพฤติกรรมนอกคอกของเธอแล้วสองหมอสุมหัวบอกได้คำเดียวเลยว่า ต้องจับตาดูเธอเอาไว้ โดยเฉพาะหมอคาจิที่ดูจะไม่ถูกชะตาหมอไดมอนมากกว่าใคร เหตุเพราะว่าการมาของเธอทำให้ศักดิ์ศรีของศัลแพทย์มือหนึ่งของแผนกศัลยกรรมถูกลบหลู่ แต่ก็อย่างว่าละนะ ได้แต่ขัดเคืองอยู่ฝ่ายเดียว เพราะหมอไดมอนเป็นคนประเภท ฉันไม่สนใจ ฉันไม่เดือดร้อน (อยากเป็นคนแบบนี้บ้างจัง แต่ก่อนจะเป็นได้ ต้องเป็นคนมีความสามารถสูง และฉันไม่เคยพลาดซะก่อนน่ะนะ )




และนี่คือผู้มีอำนาจทางการเมืองในโรงพยาบาล หมอบุสุจิมะ ผู้อำนวยการผู้หวังตะกายออกจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไปสู่ตำแหน่งที่ดีกว่าในโรงพยาบาลหลัก (Main Hospital) อีกคนคือ ศาสตราจารย์โทริ ผู้เป็นใหญ่ในแผนกศัลกรรมและเป็นผู้มีอำนาจเบอร์สองรองจากหมอบุสุจิมะในโรงพยาบาลแห่งนี้ และเพื่อจะเป็นเบอร์หนึ่งในวันข้างหน้าเขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเก้าอี้เบอร์สองนี้ไว้ให้ดีที่สุด



ส่วนเธอคนนี้ไม่ได้เป็นหมอ แต่เป็น Office Manager ของโรงพยาบาล และเรื่องของการประจบสอพลอเจ้านาย เธอสมควรได้รับตำแหน่งตัวแม่อันดับหนึ่ง



คุณลุง Ittoku นักแสดงที่ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของซีรีย์ทางการแพทย์ รับบทคันบาระ อากิระ เจ้าของบริษัท Kanbara Doctor Referral Agency ที่หมอไดมอนสังกัดและพักอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน เขาเป็นผู้รอบรู้วงการแพทย์ ทั้งการรักษา บุคลากร และความเคลื่อนไหวของการบริหารจัดการโรงพยาบาล เอ่ยชื่อหมอคนไหน เป็นรู้เบื้องหลัง รวมทั้งเป็นที่น่าสงสัยว่า เขาอาจจะรู้เรื่อง Doctor X



เรื่องนี้ลุงมาในคาแรคเตอร์สราญใจคล้ายกันกับบท ผอ.โรงเรียนเรื่อง Ruri no shima บทบาทคือตาแก่ว่างงานนั่งเมาท์มอยและเล่นเกม (ที่ไม่รู้ว่าเกมอะไร) อยู่ที่บ้านสำนักงานตลอดทุกช่วงฉากทุกวันด้วยเสื้อลายสีต่างๆ และนอกเหนือจากฉากเหล่านั้นคือการใส่สูทผูกไทน์หิ้วกล่องแตงโมและกระเป๋าเอกสารมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับรอยยิ้มเบิกบานพร้อมยื่นใบวางบิลเพื่อเรียกเก็บค่าโอที และหรือมูลค่าเพิ่มในกรณีต่างๆ ที่หมอไดมอนได้ลงมือรักษานอกเหนือไปจากเงื่อนไขการทำงานปกติตามสัญญาค่าจ้างปกติ แถมยังเรียกเก็บสิทธิใน Gratuity จากผู้ป่วยที่หมอไดมอนเป็นผู้ลงมือผ่าตัดด้วย หลังจากมาเร็วเคลมเร็ว เขาก็จะจากไปพร้อมกับอาการลัลล้าไปตามทางเดินของโรงพยาบาลอย่างมีความสุข ( ขำดี )




ซีรีย์เรื่องนี้ทำให้คิดเป็นการส่วนตัวว่า ปริมาณของซีรีย์เกี่ยวกับหมอที่มีให้เลือกดูเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีมานี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อคุณภาพของซีรีย์ว่าจะซ้ำซากน่าเบื่อ แม้โดยแก่นสารแล้วไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก เพราะอย่างไรก็หนีไม่พ้น การเมืองในโรงพยาบาล จรรยาบรรณของแพทย์ คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหลังได้รับการรักษา ปัญหาการฟ้องร้อง ที่มักแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่างของการรับผิดชอบและความเสียสละในหน้าที่ ซื่อตรงจริงใจ และกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง

แต่หากคนเขียนบทมีฝีมือพอจะสร้างเรื่องราวในการเสนอประเด็นเดิมๆ เหล่านี้ได้สนุก ซีรีย์ก็ยังคงสนุกได้อยู่ และคงจะสร้างซีรีย์หมอๆ กันได้อีกเยอะ




แอบไปส่องดูผลงานผู้เขียนบท Nakazono Miho ที่เคยดูมีอยู่สองเรื่องคือ Marriage at twenty กับ Koi no Call Center และมอง Doctor X กับ Koi no call center ที่เป็นแนวอาชีพเหมือนกัน ทำให้พอเชื่อได้ว่าเธอเขียนบทแนวนี้ได้สนุกเบาสมองแต่ว่าไม่ขาดสาระดีๆ ส่วนเรื่องที่เคยดูแต่พอคุ้นกับชื่อเรื่องและแนวเรื่องแบบผ่านๆ มาบ้างก็มี Anego , Minami's girlfriend และหนังเรื่อง Tokyo Tower



เปลี่ยนทางไปดูผู้กำกับทั้งสองคน Tamura Naomi, Matsuda Hidemoto แม้ทั้งสองจะมีรายการผลงานเยอะอยู่เหมือนกัน แต่นอกจาก Asuko March และ Koni no call Center ก็ไม่คุ้นเคยกับเรื่องอื่นๆ เลย ใน Doctor X ก็ไม่ทำให้รู้สึกถึงความพิเศษอะไรไม่ว่าจะฉากทั่วไปหรือฉากในห้องผ่าตัด แม้เรื่องมันจะสนุกก็เถอะนะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังชอบฉากในห้องผ่าตัดมากที่สุดอยู่ดี รองลงมาก็ต้องเป็นฉากรวมพลคนเสื้อกาวน์ การประชุมของคณะแพทย์ที่จะทำการวินิจฉัยอาการ ระบุวิธีการรักษา และแต่งตั้งศัลแพทย์หลักที่จะทำหน้าที่ในการผ่าตัด ( Primary Surgeon ) ดูจากระบวนการแบบนั้นแล้ว ถ้าเราเป็นผู้ป่วยคงรู้สึกอุ่นใจได้มากเลยนะคะ ว่าการระบุรายละเอียดของอาการและวิธีการรักษา ไม่ได้ทำสุ่มสี่สุ่มห้าโดยแพทย์คนสองคนที่ก็ไม่รู้ว่าจะเก่งมากน้อยแค่ไหน การประชุมแบบนั้น ข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะต่างๆ จะถูกชูขึ้นมาและหาข้อสรุปจากคณะแพทย์ด้วยกัน



ในกรณีของหมอไดมอนเธอก็มักจะลุกขึ้นมาหัวโด่ เพื่อคัดค้าน หรือไม่ก็เสนอวิธีการรักษาที่ต่างออกไป วิธีที่แพทย์คนอื่นคิดว่าเสี่ยงกับชีวิตผู้ป่วยมากเกินไป ไม่ควรทำ หรือทำไม่ได้ เธอกลับมั่นใจอย่างไม่ไว้หน้าใคร

I can do it "ฉันทำได้"

Leave it to me "ปล่อยเป็นหน้าที่ฉัน"

I never fail "ฉันไม่เคยพลาด"

เจ้าประคุณรุนช่องเอ๊ย ยืนหัวโด่อยู่ท่ามกลางคณะแพทย์ทั้งโรงพยาบาล แล้วพูดจาประโยคเหล่านั้น ใครบ้างจะไม่คิดว่าเธอเป็นคนผยองในตนเอง



ขอเล่าถึงตอนหนึ่งที่ผู้เขียนขำ เมื่อทางโรงพยาบาลได้ชี้แจงวิธีการโน้มน้าวให้ผู้ป่วยเซนต์ใบยินยอมเข้ารับการผ่าตัด วิดิโอที่อัดเอาไว้ตอนหมอไดมอนพูดจากับคนไข้ (ทางโรงพยาบาละจะมีการบันทึกวิดิโอเพื่อเป็นหลักฐานในกรณีถูกฟ้องร้อง) ถูกนำมาใช้เป็นตัวอย่าง "ผิดทุกข้อ" คำต้องห้ามทั้งหลายที่ไม่ควรใช้ หมอไดมอนเธอ "พูดทุกคำ" บรรยากาศความน่ากลัวที่ทำให้คณะแพทย์อึ้ง ดูแล้วมันขำจริง ๆ เพราะสรุปจากพฤติกรรมและคำพูดของเธอแล้วดูเหมือนเธอกำลังพูดว่า อย่ามาเรื่องมากนะ อาการเป็นอย่างนี้ และต้องผ่าแบบนี้ จะผ่ามั้ย ได้ .. ไม่อยากผ่าก็ไม่ต้องผ่า แต่ตายนะ แต่ถ้าไม่อยากตาย ฉันก็บอกอยู่นี่ไงล่ะว่า ฉันไม่เคยพลาด



และถ้าคุณคือผู้ป่วย คุณจะอยากได้หมอใจดีที่ทำให้คุณประทับใจ หรือหมอปากคอเราะร้าย แต่ช่วยทำให้คุณรู้สึกมั่นใจที่จะฝากชีวิตไว้ได้กันล่ะ

แต่ถึงอย่างนั้นในตัวตนของหมอไดมอน ก็มีรอยยิ้มและความอ่อนโยน (แอบแฝง)ที่กำลังรอคอยให้คุณได้ค้นหาอยู่นะคะ





มาถึงนักแสดงคนสำคัญของเรื่อง โยเนกุระ เรียวโกะ (Ryoko Yonekura) ได้ยินว่าเธอเป็นคนที่ไม่เคยทำให้ TV Asashi ต้องผิดหวังกับการรับบทตัวละครนำ กับเรื่องนี้ก็ยืนยันเช่นกัน I never fail.

Awards :

Best Actress : 75th Television Drama Academy Awards
Best Actress :16th Nikkan Sports Drama Grand Prix (Oct-Dec 2012)

แม้เธอจะอายุ ๓๗ สวยไม่ถูกใจ แถมในเรื่องนี้ยังชอบทำตาโปนแปลกๆ อยู่บ่อยๆ แล้วไงล่ะ คงไม่ต้องอธิบายอะไรอีก รางวัล Best Actress จากสองสถาบัน คงชัดแล้ว















ขอบคุณ Gooddrama.net , Dramacrazy.net , Asianwiki , Dramawiki

Create Date :08 เมษายน 2556 Last Update :8 เมษายน 2556 17:17:44 น. Counter : 11934 Pageviews. Comments :8