bloggang.com mainmenu search









































































































































































ก่อนเบอร์ลินมาราธอนเริ่มในวันพรุ่งนี้ • มีประเพณีที่นักวิ่งรอคอย ก็คือ การวิ่งแห่มาราธอน หรือว่า Breakfast Run ครับ วิ่ง City Run กันหลายพันคน ไปตามท้องถนน
ราว 5-6 กิโลเมตร

แต่ละชาติก็สามารถนำเสนอเอกลักษณ์ของชาติตัวเอง
ตั้งแต่ธง ชุดประจำชาติ จะขอ Following IG กันก็ไม่ผิดครับ เป็นเรื่องของมาราธอนที่เป็นภาษาสากล หรือใครอยากจะ tinder กันก็ไม่ผิดมั้งนะ

จุดหมายของการวิ่งยามเช้าครั้งนี้ จะไปจบที่ Olympic Stadium (Olympia Stadion) ของเมือง Berlin บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ครับ เพราะว่าที่นี่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของโลก ~ ไม่ว่าจะถูกใช้จัดงานโอลิมปิกในเบอร์ลิน เยอรมันตอนปี 1936

เป็นสนามจัดฟุตบอลโลกถึง 2 ครั้ง. ครั้งแรกในปี 1974 ปีที่อินทรีย์เหล็กเป็นเจ้าภาพและเยอรมันตะวันตกเป็นแชมป์ ว่ากันว่าวันนั้นเสียงเชียร์ เสียงเฉลิมฉลองจากคน 81,100 คนในสเตเดียมที่ดังกระหึ่มไปทั่วเมือง แต่มีคนอีกฟากของกำแพงเบอร์ลิน พวกเขาไม่มีโอกาสได้ชม ในนัดที่เยอรมันตะวันตกชนะชิลี่ 1-0

และที่นี่ถูกใช้ดวลแข้งอีกครั้งในปี 2006 ที่เยอรมันกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งหลังจาก การถลายกำแพงเบอร์ลิน ทีมชาติเยอรมันโคจรมาเจอกับทีมชาติอาร์เจนติน่าที่นี่
มีคนนับแสนคนอยู่ในเหตุการณ์เมื่อ 30 มิถุนายน 2006 นัดนั้นเยอรมันชนะ 4-2 เมืองทั้งเมืองแทบเป็นลานเฉลิมฉลองการเข้ารอบของอินทรีย์เหล็ก

ที่นี่ยังเคยเป็นที่จัดคอนเสิร์ตของ U2 , Coldplay , Madonna , Guns n'roses หรือแม้แต่ Ed Sheeran ,etc

และที่สุดของที่สุด คือ ในปี 2009 นักวิ่งนามว่า ยูเซน โบล์ท ก็มาทำสถิตื 100, 200 เมตร ที่เร็วที่สุดในโลก World record ที่นี่ในงานกรีฑาชิงแชมป์โลก ปีนี้ครบรอบ 10 ปีพอดีด้วย

อย่างน้อยเบอร์ลิน มี WR เกิดขึ้น 3 รายการครับ 100,200 และ 42.195Km

ดังนั้นลูกทัวร์ของ Running Insider ในปี 2020 พวกคุณเตรียมไปฟินน์กับประวัติศาสตร์บทนี้ได้เลยครับ / #เราควรจะทำทัวร์กันใช่ไหม | รูปสวย | กินอิ่ม | นอนสบาย | เข้าใจสายวิ่ง

ไปไหม ข้อมูลแน่นนะ ขอบอก ไม่พลาดทุกอณูความสุขในนครแห่งมาราธอน

#BerlinMarathon2019
#เบอร์ลินมาราธอน2019
#BerlinLegend

Photo | Raiwin Boat
©️RunningInsider

เครดิต : https://www.facebook.com/search/top/…

บทความข้างต้นนี้ลอกมาจากคุณบุ๊ยแห่งรันนิ่ง อินไซด์เดอร์มาเลยนะคะ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ด้วยความไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเบรคฟาสรันมาเลย เพิ่งทราบรายละเอียดหลังจากที่ได้อ่านนี่แหละค่ะ

ปีนี้ แก๊งค์เราล็อตโต้มาได้สามคน เราสองคนนั้น ขอวิ่งแค่ทันคัทออฟ 6 ชั่วโมงก็พอใจ
ส่วนน้องอีกคน เธอซ้อมโปรแกรม 330 วันของครูดินมา และทำได้ 100 % เต็มจนน่าทึ่ง สนามเบอร์ลินนี้เป็นทางเรียบ สามารถทำสถิติใหม่ได้สำหรับคนที่ตั้งใจและซ้อมมาดี น้องก็หวังเช่นนั้น พวกเราเชียร์เต็มที่ เพราะถ้าได้เวลาตามความตั้งใจล่ะก็ สามารถใช้ใบเซอร์ทิฟิเคตสมัครไปบอสตันมาราธอนได้เลย

สำหรับพวกเรานั้น ไม่มีใครซุ่มซ้อมนะ ซ้อมก็บอกว่าซ้อม ใครซ้อมน้อยก็จะคอยกระตุ้นกัน ชะล่าใจไม่ได้ รู้ ๆ อยู่ว่า มาราธอนไม่มีฟลุ้ค ไม่มีปาฏิหาริย์ ไม่มีกินบุญเก่า ยิ่งหวังตัวเลขดี ๆ ยิ่งต้องซ้อมหนัก แค่ให้รอดคัทออฟยังต้องวางแผนเลย

ขนาดว่าซ้อมดี มีวินัย ยังมีอะไรเกิดขึ้นแบบไม่คิดไม่ฝันทุกครั้ง ฉันจะป่วย เป็นหวัด ท้องเสียอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่ระวังเรื่องอาหารการกินมากแล้ว เผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็มนี่แทบจะไม่แตะ สังขารหนอสังขาร

ว่าไปแล้ว เราสองคนซ้อมไม่หนักแต่ก็ไม่น้อย ฉันตั้งเป้าว่าซ้อมวิ่งโซนสองตลอดเดือนหลังจากวิ่งเทรลแม่แจ่มมา ขอให้ได้เฉลี่ย 45-60 กิโลต่อสัปดาห์ วิ่งช้า ๆ ซึ่งก็ช้าเป็นปกติอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ไม่ต้องลุ้นหนักวันวิ่งจริง และงานนี้ สามีเกริ่นมาว่าจะพาวิ่งซึ่งทำให้ฉันคิดหนัก ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือไม่ เนื่องจากว่า

ตอนที่ฉันเริ่มวิ่งใหม่ ๆ ฉันดีใจที่สามีวิ่งเป็นเพื่อนข้าง ๆ ฉันกลัววิ่งไม่จบ ซึ่งแต่ก่อนจะวิ่งแต่มินิมาราธอน ก่อนปล่อยตัวก็จะตื่นเต้นมาก คิดในใจว่าจะจบมั้ยน้อ สิบกิโลนี่ไกลมาก ๆ และจะเหนื่อยมากหลังกิโลที่ห้าเป็นต้นไป จะขาตายตอนไหนก็ไม่รู้ ไม่เคยคิดเรื่องเวลาอะไรเลย ไม่รู้จักเพซ ไม่เคยมีนาฬิกาข้อมือหรือถือมือถือวิ่ง จะวิ่งตามเขาไปตลอด เข้าเส้นชัยก็กรี๊ดดีใจกับเหรียญจนลืมคูลดาวน์หรือเข้าเต็นท์หาอาหารกิน

พออัพเลเวลไประยะฮาล์ฟฯ ก็มีเขาเป็นเพซเซอร์ประจำตัวให้ตอนฮาล์ฟแรก เช่นเดียวกับมาราธอนแรกและอัลตร้าฯแรก แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง จึงรู้ว่า เราเหนื่อยที่วิ่งตามเขาและเริ่มไม่ค่อยสนุกเพราะแรงเราน้อยและวิ่งช้ากว่าเขา เหนื่อยที่จะต้องตามให้ทัน แทบไม่สนุกกับการวิ่ง ไม่ได้ดูผู้คนระหว่างทาง ดูแต่หลังของสามีคนเดียว

พอเรียนรู้จากประสบการณ์การวิ่งมากขึ้น ก็เริ่มรู้แล้วว่า วิ่งให้สนุกนั้นต้องวิ่งด้วยเพซของเรา จังหวะของเรา ช้าก็ช้าอย่างมีความสุข เขาก็เช่นกัน ไม่ต้องมาพะวักพะวน คอยเหลียวหลังดูฉันทุกเวลาว่าตามมาทันหรือยัง เสียจังหวะการวิ่ง ฉันก็ไม่มีความสุขเป็นคำรบสองที่ทำให้เขาวิ่งไม่สนุกไปอีกคน

พอเราต่างเข้าใจตรงนี้ เลยต่างคนต่างวิ่ง เขาทิ้งฉันตั้งแต่เสียงแตรปล่อยตัวดังเลยทีเดียว ส่วนฉันก็แฮปปี้ไปเรื่อย ๆ มีคนรอถ่ายรูปให้ตอนเข้าเส้นชัย ดีจะตาย จริงมั้ย

ช่วงหลัง ๆ เราต่างคนต่างวิ่งมาแทบทุกสนาม เจอกันที่เส้นชัย เรื่องสถิติหรือตัวเลขนั้นไม่สำคัญกับเรา อย่างที่ว่ากัน ' เวลาไม่สำคัญ ตราบที่ความฝันของเราแข็งแรง ' มุกอะไรเนี่ย ลอกใครมาาาาา ...

เรารู้ว่าเราซ้อมยังไง จะหวังเรื่องตัวเลข เราต้องซ้อมอีกแบบหนึ่งซึ่งคงเอาเวลาของเราไปทั้งหมด จากการวิ่งเพื่อคลายเครียดหรือพักผ่อน ก็อาจจะหลงประเด็นไป แต่เราเข้าใจเรื่องตัวเลขเหล่านั้นและเข้าใจคนที่ทำลายสถิติได้ มันคือคุณธรรมในการซ้อมจริง ๆ

แต่ที่ฉันซ้อมทุกวันเพราะต้องลงสนามที่มีกติกาเรื่องเวลา ซ้อมเพื่อควบคุมการวิ่ง การหายใจและไม่ควรบาดเจ็บหรือบอบช้ำหลังการแข่งขันจนชีวิตประจำวันผิดเพี้ยน

สำหรับเบอร์ลินมาราธอน เขาบอกจะพาวิ่ง ฉันแอบกังวลนิด ๆ เนื่องจากว่า ฉันวิ่งช้า สตาร์ทเพซช้าและชอบคุมเพซให้เหมือนตอนซ้อม เรื่อย ๆ จะได้ไปยาว ๆ หากเร่งแต่เริ่ม ร่างกายจะไปไม่ไหวตอนฮาล์ฟครึ่งหลัง ฉันต้องกะแรงเอาเอง ต้องเกลี่ยกำลัง ต้องเผื่อเหลือเผื่อ ไม่รีบ ไม่งั้นวิ่งไม่จบแน่

ฉันมีกฎส่วนตัวว่า ซ้อมอย่างไร วิ่งอย่างนั้น
และก่อนแข่ง ฉันจะหยุดซ้อม 4 วัน จะกินกับนอนพักเยอะ ๆ รอวิ่งวันจริงทีเดียว

พอมีเบรคฟาส รันก็คิดมาก เพราะแม้จะวิ่งเล่น แต่ก็ต้องวิ่งอยู่ดี
อีกใจหนึ่งก็อยากวิ่งมากเพราะงานนี้น้อง ๆ บอกว่าสนุกมาก ของกิน ของแจกเพียบ คนเห็นแก่กินก็หูผึ่ง แต่สำคัญสุดคือการไปปล่อยของกัน เอาธงชาติเรา ใส่ชุดพื้นเมืองไปวิ่งกัน ได้วิ่งเข้าสนามแข่งโอลิมปิคของเบอร์ลิน สนามในตำนาน อลังการมากอีกด้วย น้อง ๆ บิวท์ฉันสุดฤทธิ์ !

เช้าวันวิ่งเบรคฟาสรัน นาฬิกาและมือถือของฉันยังไม่เปลี่ยนเวลา ยังเป็นเวลาเมืองไทยอยู่ เราต้องตั้งเวลาย้อนหลังไป 5 ชั่วโมง

ฉันสะดุ้งตื่น ดูนาฬิกา 7 โมงเช้า สงสัยว่าทำไมในห้องนอนทุกคนนอนเงียบกริบ ไม่มีใครลุกมาเข้าห้องน้ำเปลี่ยนชุดวิ่งกัน เราต้องไปก่อน 9 โมงนะ ไหนจะต้องกินอาหารเช้า ไหนจะต้องนั่งรถไฟไปอีก จะทันมั้ยเนี่ย

แต่อีกใจนึงก็คิดว่า ไม่ไปก็ดี เราจะนอนอีกวันเต็ม ๆ แรงน้อยก็ต้องนอนออมแรงไว้ดีกว่า เราไม่เหมือนน้อง ๆ เขาแข็งแรงกว่าเราเยอะ แอบดีใจ นอนต่อ ไม่ปลุกใครดีกว่า (แอบเลว อิอิ )

หลับงีบนี้ยาวเพราะเหนื่อยจากการเดินทางเหลือเกิน สะดุ้งตื่น พวกเขาตื่นกันหมดแล้ว กำลังอาบน้ำ อยู่ในชุดวิ่งกัน ฉันถามว่า เราจะไปทันเหรอ นี่มันเกินเก้าโมงเช้าแล้วนะ

พี่ )))) น้องลากเสียงยาววววว นาฬิกาพี่ยังไม่เปลี่ยนเหรอคะ นี่เพิ่งหกโมงอยู่เลย เดี๋ยวกินมื้อเช้าเจ็ดโมง มีเวลาไปสนามทันถมเถ

เนี่ยแหละ เอ๋อ อยู่คนเดียว เลยหัวเราะแก้เก้อว่า อุตส่าห์ดีใจ ไม่ต้องไป

เขาไม่ได้บังคับคร่าาาา แต่ ' breakfast run เส้นทางวิ่งไปที่โอลิมปิก สเตเดียม ถือเป็น A Must ของการมาวิ่งที่เบอร์ลินเลยนะพี่ '
อยากให้พี่ไป ไม่ไปจะเสียดายทีหลัง วิ่งนิดเดียวเอง 6 กิโลเข้าสเตเดี้ยมด้วยนะ เค้ามาวิ่งปีที่แล้วยังประทับใจอยู่เลย

ฉันก็พังกฎส่วนตัวเดี๋ยวนั้นเช่นกัน

อาหารเช้าที่โรงแรมก็แบบฝรั่งนั่นแหละ วันแรก ๆ ก็โอเคอยู่นะ ขนมปัง(แข็งมาก เคี้ยวจนเมื่อยปาก) แฮม เนย ชีส กาแฟ พีช แอปเปิล กล้วย(ยาวเท่าแขน) น้ำผลไม้(ออกไปทางเปรี้ยวมากกว่าหวาน) เรากินกันแน่นท้อง กะกินกันวันละมื้อเท่านั้น เซฟค่ากินไว้เพราะค่าบิน ค่าสมัคร ค่าโรงแรมแพงลิบ อันนี้คือคิดไว้ในใจ (แต่ จุด จุด จุด มากในความเป็นจริง)

กินอิ่มแล้ว ยังพกกล้วยไปกินระหว่างเดินทางไปวิ่งอีกนะ ดูเอาเถิดคนเรา แต่ไม่เคยทิ้งนะ เอาไปก็กินหมด ตัวสั้น ๆ อย่างฉันสามารถโหลดแป้งได้ไม่อั้นจริง ๆ

อากาศตอนเช้ากำลังดี ออกจะเย็น ๆ สักหน่อย ต้องไปต่อคิวเข้าห้องน้ำนี่สิคือปัญหา ภาวนาว่าวันวิ่งจริง ๆ อย่าปวดหนักปวดเบาเลยนะ เพราะคิวเข้าห้องน้ำยาวมาก ๆ ทุกห้อง

ถึงเวลาปล่อยตัวเบรคฟาส รันเช้านี้ ตื่นเต้น ๆ มองไปรอบ ๆ อัดคลิปไปหลายคลิป เก็บภาพนักวิ่ง ภาพรองเท้า ทักทายนักวิ่งชาวไทยที่เจอกันประปรายในงาน เขาว่ามางานนี้ประมาณ 300 กว่าชีวิต

แก๊งค์เราก็วิ่งกันสนุกสนาน งานนี้สำหรับทุกคน ไม่เฉพาะนักวิ่งที่ได้สิทธิ์ในงานเท่านั้น ใจกว้างมากเพราะกองเชียร์คือสีสันจริง ๆ นักวิ่งต่างชาติวิ่งร้องเพลงกันไป แม้ต่างสีผิวสีผม มีเพียงหัวใจที่ไม่ต่าง เพราะมาราธอนคือความสวยงามอย่างหนึ่ง เป็นภาษาสากล

แก๊งค์เราก็วิ่งถ่ายรูปคนนั้นคนนี้ ไปกันเรื่อย ๆ ฉันน่ะตื้นตันใจ คิดไม่ถึงว่าฉันจะได้มาอยู่ในกลุ่มนักวิ่งมาราธอนกับเขาได้ เหลือเชื่อ ฉันประทับใจรอยยิ้ม ความร่าเริง ความกระฉับกระเฉง เหล่านี้คือบทเพลงแห่งความงามและความสุข

ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย
Road to Berlin Marathon 2019 ( ep. 1 )








Create Date :09 ตุลาคม 2562 Last Update :11 ตุลาคม 2562 8:08:41 น. Counter : 569 Pageviews. Comments :1