bloggang.com mainmenu search



















ลมหนาวแรกสินะ เป็นลมหนาวที่ทำให้รู้สึกหนาว เพราะห่มผ้าห่มผืนเดียวไม่อุ่นเหมือนทุกวัน แต่ดีมากสำหรับการตื่นมาวิ่งตอนเช้า มองฟ้าเปลี่ยนสีรอบทิศ

แต่ก่อนพะวักพะวนเวลาคนที่บ้านไปประชุมเป็นอาทิตย์ ฉันไม่สามารถขับรถไปวิ่งที่โรงพยาบาลคนเดียวได้ ถึงไปได้แต่ก็ไม่สามารถวิ่งตามลำพัง ฉันกลัวความมืดที่โรงพยาบาล บางวูบที่คิดไปเองก็จะกลัวสารพัด ต้องทำจิตทำใจแผ่ส่วนกุศลไปต่าง ๆ นานา

แต่วันหนึ่ง เจอน้องนักวิ่งอัลตร้าเล่าให้ฟังว่า เธอยุ่งกับงานมากจนไม่มีเวลาซ้อมยาว แค่รับมือกับลูกค้าทั้งวันก็แย่แล้ว แต่ยังดีที่สามารถวิ่งรอบโกดังได้ แค่สามสิบเมตรเองนะพี่ ฉันถึงกับร้องโห... นึกถึงตัวเองที่แต่ก่อนเวลาใครถามว่า ไปซ้อมวิ่งที่ไหนก่อนลงมาราธอน ฉันก็ว่า ที่โรงพยาบาลน่ะ สนาม 600 เมตร คนที่ถามถึงกับอึ้ง งงว่าไม่เวียนหัวเหรอ ฉันก็ว่าไม่ ปลอดภัยและสงบดีด้วย เวลาซ้อมวิ่งของฉันคือหลังเลิกงานหรือไม่ก็เช้าตรู่ ไม่มีใครเคยเห็นเราไปซ้อมวิ่งกันหรอก

แต่พอฉันฟังเรื่องที่น้องซ้อมวิ่งในโกดังของเธอ ฉันทึ่งมาก คนมันจะซ้อมน่ะ ที่ไหนก็ซ้อมได้ ขอแค่ตั้งใจ มีใจจะซ้อมก็พอ ฉันก็เริ่มคิดซ้อมวิ่งรอบสระหน้าบ้านซึ่งแต่ก่อนที่ไม่ซ้อมเพราะฉันกลัวหมาเจ้าถิ่นรอบสระ แต่ช่วงหลัง ๆ เปลี่ยนความคิดแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ขอใช้ความรู้สึกแบบนี้แหละ เพราะต้องคิดแบบนี้ ไม่งั้นฉันจะเริ่มใหม่ไม่ได้ กลัวก็คือกลัวอยู่ร่ำไป (ขอยกเว้นเรื่องกลัวผีไว้เรื่องนึงนะ เพราะไม่เคยทำได้เลย)

พอไม่กลัวหมา ก็สามารถวิ่งวนรอบสระน้ำได้ รอบสระเพียง 250 เมตรเท่านั้น มองเห็นหน้ากันทุกทิศเพราะต้นไม้รอบสระไม่มี เริ่มลองวิ่งสั้น ๆ จนพยายามวิ่งสิบกิโลให้ได้อย่างน้อยสี่วันติดต่อกัน ซ้อมยาวจนถึง 25 k ได้ ลองวิ่งจนถึงสองทุ่มหรือสามทุ่มคนเดียวก็รู้สึกปลอดภัย เพราะรอบบ้านรู้จักฉันกันหมด เริ่มตั้งแต่เขาสงสัยว่าใครซ้อมวิ่งตอนกลางคืน พอเห็นเป็นฉันหรือเป็นเราสองคน เขาก็ไม่ออกมาดูแล้ว จากนั้นฉันก็เปลี่ยนเวลามาซ้อมวิ่งตอนเช้าเวลาที่สามีไปประชุม หมาที่บ้านตรงกันข้ามก็เห่าสักหนึ่งครั้งตอนผ่านหน้าบ้าน แต่พอรอบสองก็คุ้นแล้ว เพราะเห็นกันทุกวัน พวกมันก็หมอบดูเฉย ๆ

แต่ที่ต้องขอบคุณทุกวันคือพี่หมอก เขาจะมีความสุขมากที่ได้ออกบ้านและวิ่งหน้าเริ่ดซอยเท้าสั้น ๆ นำหน้าฉันทุกวัน จนเป็นที่ชินตาของคนผ่านไปมาทั้งเช้าและเย็น อะไรก็ไม่เท่าตอนเช้ามืดและตอนค่ำ ๆ พี่หมอกไม่เคยทิ้งฉันวิ่งคนเดียว เขาจะนำหน้าไปรอ แวะฉี่ แวะดมนั่นนี่ข้างทางแล้วพอฉันใกล้เขา เขาจะเริ่มออกวิ่งนำหน้า ทำหน้าที่ไม่บกพร่อง บางครั้งฉันกับสามีวิ่งคนละรอบ เขาก็พยายามจะออกไปเป็นเพื่อนรอบที่สอง แต่ก็วิ่งไม่ตลอดหรอกนะ เหนื่อยลิ้นห้อย โดยเฉพาะตอนวิ่งกับสามี ฉันรู้สึกรักและเอ็นดูหมอกขึ้นเยอะ ทั้งที่เขาเองก็สนุกไปกับเรา

หลายคนบอกเราว่า พาพี่หมอกไปวิ่งออกงานสิ งานในอำเภอเรานี่แหละ วิ่งสั้น ๆ ก็ได้ ฉันได้แต่ยิ้ม ๆ เป็นไปไม่ได้หรอก หมอกกลัวคน เขาจะกระวนกระวายเวลามีคนอื่นมาวิ่งกับฉัน เขาสนุกเฉพาะเวลาอยู่กับฉัน ทำหน้าเหมือนอวดว่านี่เจ้านายฉันนะ ฉันมันหมามีเจ้าของนะจะบอกให้ ความคิดแบบนี้แหละที่พี่หมอกจะกร่างเวลาเห็นคนอื่นจูงหมามาเดินเล่นรอบสระด้วย หมอกจะขู่ ไล่และหาเรื่อง พร้อมฟัดกับหมาทุกตัวโดยไม่เจียมตัวเองเลย เพราะถึงเวลาที่เขากระโจนกัดกัน เสียงเรียก เสียงห้ามไม่ทำให้พี่หมอกหายบ้าได้ หลังจากฟัดกันจนหนำใจ พี่หมอกก็มีรอยแผลบนหน้า ไม่ยอมให้ใส่ยาด้วย ดุก็หน้ามึน ตอนนี้กลายเป็นว่า ใครก็ไม่กล้าจูงหมามาเดินเล่นเวลาที่ฉันวิ่ง เพราะพี่หมอกใหญ่คับซอย เฮ้ออออ... จะเก็บพี่หมอกเข้าบ้านก็สงสารอีก โชคดีที่มันยังไม่เคยกัดคน แต่ห้ามพูดนะว่า มันไม่เคยกัดใคร

ฉันแค่นึกดีใจและขอบคุณพี่หมอกที่วิ่งเป็นเพื่อน หายกังเวลเรื่องหาที่ซ้อมวิ่ง ทั้งที่ไปเทศบาลก็ได้ ใกล้บ้านนิดเดียว แต่คนทั้งอำเภอมากระจุกอยู่ที่นี่ ดูเหมือนน่าสนุกแต่ฉันไม่ค่อยสะดวกใจ ชอบรอบสระหน้าบ้านมากกว่า มีแต่สอวอและคนคุ้นเคย เดี๋ยวนี้รอบสระเป็นเหมือนที่นัดพบกันทุกเย็น ใครไม่มาก็ถามหากัน พวกเขาก็เริ่มชินแล้วที่เห็นฉันวิ่งอยู่คนเดียวนานเป็นชั่วโมง ๆ ไม่มีใครรู้ว่าฉันวิ่งจริงจังตามสนามแข่งด้วย คิดแต่ว่าฉันคงวิ่งเพื่อลดความอ้วน

ความจริงมันน่าจะผอมลงมั่งนะ แต่ไหงความอ้วนตามติดตามฉันแบบไม่ยอมลดละ คิดซะว่า ถ้าไม่วิ่งคงหนักร้อยโลไปแล้ว




ชอบอะไรก็แค่ลงมือทำ
สวัสดีลมหนาว
สวัสดีเดือนพฤศจิกายน



ขอให้ทุกท่านมีความสุข
ภูพเยีย











Create Date :01 พฤศจิกายน 2562 Last Update :1 พฤศจิกายน 2562 10:16:07 น. Counter : 1370 Pageviews. Comments :2