จดทะเบียนสมรสในประเทศอิตาลี
กรณีที่ฝ่ายหญิงได้วีซ่าประเภทเดินทางเพื่อไปจดทะเบียนสมรสกับฝ่ายชายที่ประเทศ
อิตาลี ที่ว่าการท้องถิ่น (Comune)ที่ฝ่ายชายมีถิ่นที่อยู่ จะขอให้หญิงไทยนำหนังสือรับรอง (NullaOsta) จากสถานเอกอัครราชทูตไทยว่าสามารถจดทะเบียนสมรสได้ไปยื่นแก่ที่ว่าการท้องถิ่นซึ่งจะ
ทำการประกาศแจ้งการขอจดทะเบียนสมรสเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แล้วจึงจะทำการจดทะเบียนสมรส
ได้ ในกรณีหญิงที่เคยสมรสและหย่ามาแล้ว หากจะทำการสมรสใหม่จะต้องหย่ามาแล้วเป็นเวลา
ไม่ต่ำกว่า 310วัน
การจดทะเบียนสมรสนี้มีผลเฉพาะตามกฎหมายอิตาลีเท่านั้นหากประสงค์จะให้
มีผลตามกฎหมายไทยด้วยต้องแปลทะเบียนสมรสเป็นภาษาไทย แล้วรับรองโดยสถาน
เอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม หรือโดยกรมการกงสุลแล้วนำไปยื่นขอจดทะเบียนฐานะครอบครัว ณ
ที่ว่าการอำเภอที่ฝ่ายหญิงมีทะเบียนบ้านบุคคลสัญชาติไทย
บุคคลสัญชาติไทยปัจจุบันอาศัยอยู่ในอิตาลีต้องการสมรสกับคนอิตาลีในประเทศอิตาลีสามารถทำการสมรสได้ตามกฎหมายอิตาลีโดยท่านจะต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นต่อสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโรม ดังต่อไปนี้
เอกสารของบุคคลสัญชาติไทย
-หนังสือรับรองความเป็นโสดหรือสถานภาพการสมรสต้นฉบับที่ออกจากอำเภอของไทยมีอายุไม่เกิน6 เดือนและต้องผ่านการรับรองจากกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ
- สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทางสำเนาสูติบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน หลักฐานการเปลี่ยนชื่อสกุลหากมี(จะต้องมีต้นฉบับมาแสดงด้วย)
- รูปถ่าย 1 ใบ
เอกสารของฝ่ายชายหรือหญิงที่เป็นคนต่างชาติ
- หนังสือรับรองความเป็นโสดหรือสถานภาพการสมรสต้นฉบับมีอายุไม่เกิน 6 เดือน
-สำเนาหนังสือเดินทางและบัตรประจำตัวมีต้นฉบับแสดงด้วย
- คำยืนยันว่าจะทำการสมรสกับบุคคลสัญชาติไทย
- รูปถ่าย 1 ใบ
เมื่อเอกสารพร้อมแล้วให้ท่านนำไปยื่นต่อสถานเอกอัครราชทูตไทย ฯ ซึ่งจะออก
หนังสือรับรองการสมรสที่เรียกว่า NullaOsta ท่านจะต้องนำไปรับรองลายมือชื่อเจ้าหน้าที่กงสุลที่ Prefetturaก่อน หลังจากนั้นจึงไปติดต่อที่อำเภอหรือcommune เพื่อดำเนินการสมรสตามระเบียบทางการอิตาลีต่อไป
2. บุคคลสัญชาติไทย อาศัยอยู่ในประเทศไทยต้องการสมรสกับคนอิตาลีตามกฎหมายไทยจะได้สามารถทำได้โดยท่านต้องไปติดต่อที่สถานทูตอิตาลีในประเทศไทยด้วยตนเองไม่เกี่ยวข้องกับสถานเอกอัครราชทูต ฯ ที่โรมโดยที่บุคคลสัญชาติไทยจะต้องเตรียมเอกสารต่างๆ คล้ายกับเอกสารในข้อ 1 แต่ต้องผ่านการรับรองเอกสารทุกอย่างจากกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศก่อนและแปลเป็นภาษาอิตาลี ก่อนนำไปยื่นต่อสถานทูตอิตาลีหลังจากนั้นสถานทูตอิตาลีจะออกหนังสือที่เรียกว่า procura speciale ให้ทั้งนี้บุคคลสัญชาติไทยจะต้องส่งเอกสารทั้งหมดไปให้คนอิตาลีเพื่อนำไปติดต่อกับอำเภอของอิตาลีดำเนินการทางเอกสารต่อไป
3. ผู้ที่จะสมรสจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
-ชายหญิงมีอายุครบ 17ปี หามีอายุต่ำกว่า 17ปีบริบูรณ์จะต้องมีคำสั่งศาลและได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองและหากอายุต่ำกว่า 20ปีบริบูรณ์จะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองเพราะถือว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะจะกระทำนิติกรรมใดๆไม่ได้
-ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต
-ไม่เป็นญาติทางสายโลหิต
-ไม่มีคู่สมรสอยู่แล้ว
-ไม่เป็นผู้รับบุตรบุญธรรมและเป็นบุตรบุญธรรมซึ่งกันและกัน
-หากฝ่ายหญิงหย่ามาก่อนแล้วจะต้องให้พ้น 310 วัน เว้นแต่ คลอดบุตรระหว่างนั้น หรือสมรสกับสามีคนเดิมหรือมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
การจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายอิตาลี
กรณีชายหรือหญิงไทยที่อยู่ในอิตาลีและประสงค์จะแต่งงานกับชายหรือหญิงอิตาลีชายหรือหญิงไทยจะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้เพื่อขอหนังสือรับรองคุณสมบัติในการสมรส(NullaOsta) จากสถานเอกอัครราชทูต ฯเพื่อนำไปยื่นต่ออำเภอที่คู่สมรสจะจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายอิตาลี
1. เอกสารของฝ่ายหญิงหรือชายไทย
1.1หนังสือรับรองความเป็นโสดที่ออกโดยอำเภอที่ผู้ร้องมีภูมิลำเนาอยู่และหนังสือดังกล่าวจะต้องผ่านการรับรองจากกองสัญชาติและนิติกรณ์กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (ถนนแจ้งวัฒนะ) ด้วย
1.2 สูติบัตรต้นฉบับหรือหนังสือรับรองการเกิดซึ่งระบุ วันเดือนปีเกิด สถานที่เกิด พรัอมชื่อบิดา มารดา
1.3 หนังสือเดินทาง
1.4 ทะเบียนบ้าน
1.5กรณีหญิงที่เคยสมรสและหย่ามาแล้วหากจะทำการสมรสใหม่จะต้องหย่ามาแล้วเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า310วันและจะต้องมีใบสำคัญการหย่าหรือทะเบียนการหย่าต้นฉบับมาแสดงด้วย
1.6 รูปถ่าย 1 รูป
2. เอกสารของชายหรือหญิงอิตาลี
2.1 หนังสือเดินทาง พร้อมสำเนา 1 ชุด
2.2 บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนา 1 ชุด
2.3 หนังสือรับรองสถานภาพ (StatoLibero) ต้นฉบับ
2.4 รูปถ่าย 1 ใบ
3. ชายหรือหญิงไทยจะต้องนำเอกสาร NullaOsta ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ฯ ออกให้ไปรับรอง
ลายมือชื่อกงสุล หรือเจ้าหน้าที่ที่ Prefetturaของท้องที่ที่จะทำการสมรสก่อนนำไปจดทะเบียนสมรสที่อำเภอนั้นๆ
หมายเหตุกรณีที่ชายหรือหญิงไทยไม่สามารถไปขอหนังสือรับรองความเป็นโสดจากอำเภอที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ได้จะต้องมาทำหนังสือมอบอำนาจที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม
สำหรับชายหรือหญิงไทยที่อยู่ในประเทศไทยและประสงค์จะสมรสกับชายหรือหญิงอิตาลีจะต้องติดต่อเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการด้านเอกสารจากสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทยเท่านั้น
กรณีมีปัญหาทะเลาะกับสามีไม่ควรนำบุตรออกไปจากบ้านเพราะจะทำให้
เสียเปรียบในการใช้อำนาจปกครองบุตรเมื่อศาลพิจารณาการหย่า
- การหย่าต้องยื่นคำร้องต่อศาลและแยกกันอยู่เป็นเวลา3 ปี เมื่อครบสามปีศาล
จึงจะเรียกไปจดทะเบียนหย่าระหว่างแยกกันอยู่ฝ่ายหญิงสามารถอยู่ร่วมกับชายอื่นได้แต่ไม่
สามารถทำการสมรสได้จนกว่าศาลจะสั่งให้หย่าขาดจากกัน
- กรณีหย่าหากไม่ได้ยื่นคำร้องขอสิทธิปกครองบุตรเพียงลำพัง หญิงและสามี
อาจใช้สิทธิปกครองบุตรร่วมกันโดยมีการตกลงสิทธิในการดูแล
- กรณีไม่สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือทนายความสามารถ
ยื่นคำร้องต่อศาลโดยตรงหรือผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาสงเคราะห์ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือชาวต่างชาติ
เพื่อขอรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- คู่สมรสสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินค่าเลี้ยงดูหลังการหย่าพร้อมคำร้องขอหย่า
แต่สิทธินี้จะหมดไปหากทำการสมรสใหม่
ข้อควรรู้สำหรับผู้ที่แต่งงานกับชาวอิตาลีและมีถิ่นที่อยู่ในอิตาลีตามกฎหมาย
- การจดทะเบียนสมรสในอิตาลีจะมีการจดทะเบียนทรัพย์สินที่แต่ละฝ่ายมีอยู่
ก่อนการสมรสเพื่อเป็นสินเดิมเช่นเดียวกับไทยทรัพย์สินที่คู่สมรสมีส่วนเป็นเจ้าของจึงมีแต่
สินสมรสเท่านั้น
- กรณีสามีเสียชีวิตและเป็นผู้ได้รับบำนาญภรรยาสามารถยื่นคำร้องขอรับ
บำนาญตกทอดได้จากสำนักประกันสังคม (INPS)
- เมื่อสามีเสียชีวิตภรรยายังมีสิทธิอยู่ในบ้านของครอบครัว และมีสิทธิได้รับ
มรดก ส่วนกรณีไม่มีบุตรหรือ 1/3 ส่วนกรณีมีบุตร 1 คน หรือ 1/4 ส่วนกรณีมีบุตรมากกว่า
1 คนแม้จะได้ยื่นคำร้องขอแยกกันอยู่แต่ยังไม่ได้หย่าขาดจากกันก็มีสิทธิรับมรดก
- กรณีมีปัญหาทะเลาะกันในครอบครัวและถูกทำร้ายร่างกายให้รีบไป
โรงพยาบาลเพื่อให้แพทยท์ำการตรวจและขอใบรับรองแพทย์เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการไปแจ้ง
ความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งจะเป็นประโยชน์ในเรื่องสิทธิต่างๆเมื่อมีการฟ้องหย่า
- สามีไม่มีสิทธิไล่ภรรยาออกจากบ้านหากถูกสามีไล่ออกจากบ้านให้รีบไปแจ้ง
ตำรวจเพื่อจัดการต่อไป
เรื่องการแต่งงานที่อิตาลีต่อไปนี้ไม่สามารถแต่งงานด้วยวีซ่าท่องเที่ยวเพราะต้องมี Permesso di soggiono แล้วเท่านั้นถ้าใครที่วีซ่าหมดอายุ ต้องกลับไทยอย่างเดียว ไม่สามารถแต่งงานที่นี่ได้เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานภาพ นอกจากว่าจะตั้งท้อง คนที่แต่งงาน แล้วอยู่ที่ประเทศอิตาลีหลังแต่งครบสองปี ถึงจะทำเรื่องขอสัญชาติได้และการทำเรื่องจะต้องพูดภาษาอิตาเลียนได้อย่างน้อย ขั้นพื้นฐาน กฏหมายถูกเสนอเข้าสภาวันที่ 25 ก.ค 2008 และผ่านสภาอนุมัติแล้ว
เมื่อแต่งงานจดทะเบียนสมรสแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากใน เอกสารต่างๆ ถ้าในกรณีที่ต้องเปลี่ยนนามสกุลตามสามีฝ่ายหญิงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนามสกุลตามสามี
เมื่อแต่งงานสามีของคุณเข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยใช้วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส O (หมายถึงเป็นคู่สมรสของคนไทย)จะแจ้งชื่อเข้าในสำเนาทะเบียนบ้านของพ่อแม่ภรรยาได้ตามกฎหมายการทะเบียนราษฎร์ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นจัดทำทะเบียนบ้านสำหรับคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่ได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองดังนั้นบิดาของคุณซึ่งเป็นเจ้าบ้านต้องไปแจ้งต่อสำนักทะเบียนตามภูมิลำเนาที่บ้านตั้งอยู่โดยกรอกคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์ (ท.ร.๑๓)ขอเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านเอกสารที่ต้องเตรียมไปคือ สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านบัตรประจำตัวประชาชนของบิดามารดาของคุณหนังสือเดินทางของสามีคุณ ทะเบียนสมรสใบอนุญาตทำงาน
หากสมรสตามกฎหมายอิตาลีแล้วไม่ต้องสมรสตามกฎหมายไทยอีกเพราะกฎหมายไทยยอมรับการสมรสตามกฎหมายต่างชาติอยู่แล้วเพียงแต่ท่านจะต้องนำเอกสารการสมรสตามกฎหมายต่างชาติมาแจ้งบันทึกฐานะแห่งครอบครัว(คร.22)เพื่อยืนยันการสมรสของท่าน
การแจ้งบันทีกฐานะแห่งครอบครัวหลังการสมรสหรือการหย่าตามกฎหมายต่างชาติ ไม่ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องแจ้งทางการไทยกี่วัน แต่ได้อนุโลมว่ากรณีที่พำนักอยู่ในต่างประเทศยังไม่ต้องแจ้งทางการไทยก็ได้จนเมื่อมีโอกาสเดินทางกลับประเทศไทย ขอให้ไปติดต่อเขตหรืออำเภอในประเทศไทยเพื่อดำเนินการต่อไป และถึงแม้ว่าตามกฎหมายใหม่ของไทยอนุญาตให้หญิงไทยที่สมรสแล้วสามารถคง
ชื่อสกุลตนเองไว้ได้ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อสกุลตามสามีก็ตามแต่เนื่องจากสถานภาพสมรสของท่านเปลี่ยนไปแล้วจากเคยเป็นโสดปัจจุบันสมรสแล้วดังนั้น คำนำหน้าจะเปลี่ยนจากนางสาวเป็นนางดังนั้นท่านจะต้องแจ้งบันทึกฐานะแห่งครอบครัวหรือ คร.22 โดยทางการไทยจะ
บันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าท่านจดทะเบียนสมรสกับใคร เมื่อใด ที่ไหน เลขที่ทะเบียนสมรสอะไร
โดย: dao_star_stella@hotmail.com IP: 195.72.218.101 3 กรกฎาคม 2556 3:47:57 น.
ดิฉันกับสามีต้องการหย่ากัน แต่เราแยกกันอยู่มา5ปีแล้ว และตอนนี้ดิฉันขึ้นอิตาลีไม่ได้เพราะวีซ่าแต่งงานหาย มา3ปี ดิฉันต้องทำยังไงบ้าง? ดิฉันได้อ่านเรื่องราว ถ้าแยกกันอยู่ครบ3ปีแล้ว เราจึงหย่าได้ใช่ไหมค่ะ? แล้วดิฉันต้องขึ้นอิตาลีเพื่อไปหย่า ดิฉันต้องอยู่อิตาลีกี่วัน? แล้วต้องทำอย่างไรบ้าง? ขอบคุณค่ะ
โดย: มยุรี หลีดนหมาน IP: 49.192.31.112 9 กุมภาพันธ์ 2557 17:25:05 น.
โดย: ค่ะ IP: 192.99.14.34 19 พฤษภาคม 2557 14:25:30 น.
โดย: แจม IP: 49.230.173.162 14 มิถุนายน 2557 16:56:56 น.
ไม่เข้าใจค่ะ รบกวนนะคะ
ขอบคุณค่ะ
โดย: คนเรียนน้อย IP: 101.108.6.114 13 กรกฎาคม 2557 13:33:39 น.
ขอบคุณค่ะ
โดย: ปิ่น IP: 1.46.98.59 18 ธันวาคม 2557 12:34:55 น.
โดย: จิรภัทร IP: 94.23.252.21 28 สิงหาคม 2558 3:49:11 น.
โดย: pine ph IP: 125.24.36.215 31 สิงหาคม 2558 11:15:42 น.
โดย: ดิฉัน หนูตาล ค่ะ IP: 49.230.223.144 1 มีนาคม 2559 18:04:42 น.
โดย: แอปเปิ้ล wiralaoka@gmail.com 19/6/2016 IP: 188.165.240.145 19 มิถุนายน 2559 12:48:42 น.
หลังจากแต่งงานสามารถทำอะไรได้บ้างเพืีอสามารถขอวีซ่าอยู่ที่อิตาลีต่อ
โดย: ติ๊ก IP: 188.165.240.145 25 ตุลาคม 2559 19:09:31 น.