bloggang.com mainmenu search



คลังตั้งทีมรื้อค่ารักษา ข้าราชการ 7 หมื่นล

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552
//www.posttoday.com/news.php?id=79661

กรมบัญชีกลาง ตั้งที่ปรึกษาคุมค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ พบใช้ยาแพงเวอร์ ผงะโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยต้นตอ

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กรมบัญชีกลางตั้งคณะที่ปรึกษา ให้ คำแนะนำกรมบัญชีกลางในการดูแล การเบิกจ่ายค่ารักษาของข้าราชการให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะคำแนะนำการใช้ยาในการรักษาพยาบาล

ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าต้นทุนงบประมาณหมวดนี้สูงมาก เนื่องจากข้าราชการมีการเบิกจ่ายยาแพง ใช้ยาที่ผลิตจากเมืองนอก รวมถึงการใช้ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นในการรักษา

สำหรับคณะที่ปรึกษาจะประกอบด้วยบุคคลภายนอกที่ทรงคุณวุฒิด้านการ แพทย์และรักษาพยาบาล เช่น แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านยา และนักเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข เป็นต้น ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะให้ความเห็นทางวิชาได้ดีมากกว่ากรมบัญชีกลาง และเมื่อได้คำปรึกษาที่ได้ข้อสรุปแล้ว ทางกรมบัญชีกลางก็จะทำหนังสือไปถึงโรงพยาบาลต่างๆ ให้ใช้ยาในการรักษาโรคต่างๆ ว่าไม่ให้ใช้ยาแพงที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน โดยให้ไปใช้ยาในบัญชีหลักมากขึ้น

“กรมบัญชีกลางมีอำนาจที่จะสั่งการให้โรงพยาบาลใช้ยาอะไรก็ได้ เพราะเราเป็นคนจ่ายเงิน แต่เพื่อให้เหมาะสมก็ต้องมีการตั้งที่ปรึกษามาให้คำแนะนำการใช้ยาที่ไม่จำ เป็นต้องเป็นยาราคาแพง หรือยานอกเสมอไป เพื่อให้เกิดการประหยัดการ ใช้งบประมาณ โดยที่ไม่กระทบกับการรักษาและคุณภาพชีวิตของข้าราชการ” นายพงษ์ภาณุ กล่าว

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมา มีการเบิกจ่ายวงเงินถึง 7 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้ 80% เป็นการจ่ายให้กับข้าราชการที่ไปรักษาเป็นผู้ป่วยนอก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่ายาที่ใช้รักษา ที่เหลืออีก 20% เป็นข้าราชการที่เป็นผู้ป่วยใน

นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงพยาบาลประมาณ 34 แห่ง ที่เป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย เบิกค่ารักษาพยาบาล เป็นสัดส่วนถึง 90% ของวงเงินทั้งหมด จากการเข้าไปตรวจสอบเบื้องต้น ก็พบตามสมมติฐานที่กรมบัญชีกลางตั้งไว้ คือ มีการใช้ยาแพง ยาผลิตจากต่างประเทศ ไม่ใช้ยาบัญชีหลัก และก็มีการจ่ายยาจำนวนมาก ทำให้ต้องมีควบคุมการใช้ยาอย่างจริงจัง

กรมบัญชีกลางประเมินว่า หากไม่เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ จะทำให้ในปีงบประมาณ 2553 มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1.05 แสนล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่ตั้งไว้ไม่เพียงพอ ต้องใช้เงินคงคลังเป็นภาระของประเทศ โดยนอกจากการดูแลการใช้ยาให้เหมาะสมแล้ว กรมบัญชีกลางต้องออกกฎหมายแก้ไขพระราชกฤษฎีกาค่ารักษาพยาบาลในปี 2523 ควบคุมค่าใช้จ่าย เช่น การแก้ไขให้ข้าราชการเบิกจ่ายในการบำรุงดูแลรักษาสุขภาพ เพื่อไม่ต้อง ใช้เงินรักษาพยาบาลจำนวนมากเมื่อเกิดโรคภัยไข้เจ็บในยามชรา โดยจะเสนอครม. เร็วๆ นี้


แถม อีกข่าว ....

คลังหน้ามืด! ค่ารักษาขรก. พุ่ง1.5แสนล.

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

//www.posttoday.com/news.php?id=77292

โพสต์ทูเดย์ — งบรักษาข้าราชการพุ่งแสนล้านบาท เร่งแก้กฎหมายให้ข้าราชการดูแลสุขภาพ

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การเบิกค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการในปัจจุบันสูงมาก ทำให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลในปี 2552 จะสูงถึง 7.05 หมื่นล้านบาท และในปี 2553 จะสูงถึง 1.05 แสนล้านบาท พอถึงปี 2563 จะเพิ่มเป็น 1.56 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ปริมาณที่สูงขึ้นทุกปี ทำให้กระทรวงการคลังต้องออกกฎหมายแก้ไขพระราชกฤษฎีกาค่ารักษาพยาบาลในปี 2523 รวมถึงกำหนดมาตรการต่างๆ ควบคุมค่าใช้จ่ายให้เกิดความเหมาะสม เช่น การแก้ไขให้ข้าราชการเบิกจ่ายในการบำรุงดูแลรักษาสุขภาพเพื่อไม่ต้องใช้เงิน รักษาพยาบาลจำนวนมากเมื่อเกิดโรคภัยไข้เจ็บในยามชรา โดยจะเสนอครม. ในเร็วๆ นี้

“วิธีแก้ไขปัญหาของกรมบัญชีกลาง คือ ขอความร่วมมือให้ข้าราชการหันมาใช้บัญชียาหลักแห่งชาติ และในอนาคตจะกำหนดเกณฑ์เงื่อนไขการเบิกยา และให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพมากขึ้น” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว

นายพงษ์ภาณุ กล่าวด้วยว่า หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ก็จะออกหลักเกณฑ์เพื่อจูงใจให้ข้าราชการหันมาทำ ประกันสุขภาพเพิ่ม โดยหลักๆ จะเพิ่มสิทธิการรักษาพยาบาลให้ กับครอบครัวข้าราชการ ให้สิทธิข้าราชการเบิกหรือรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนได้ ให้ข้าราชการเบิกสิทธิค่ารักษาพยาบาลได้ 2 ทาง คือ ทั้งประกัน และเบิกจากรัฐบาล

ปล. บางคนอาจสงสัยว่า ผมนำข่าวมาลงเพราะผมเสียประโยชน์ .. ก็เลยแจ้งไว้ก่อนว่า ผมลาออกจากราชการแล้ว .. จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิทธิรักษาพยาบาลของข้าราชการ ( ตอนนี้ ใช้บัตรทอง ..ฟรีทุกอย่าง )


พ.ศ.2552 ...กรมบัญชีกลางคุมเข้มเบิกจ่ายยา ขรก. ไม่ทำตามเกณฑ์ เรียกเงินคืนคลัง //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=12-12-2016&group=29&gblog=1

พ.ศ.2552 … คลังตั้งทีมรื้อค่ารักษา ข้าราชการ 7 หมื่นล. ... คลังหน้ามืด!ค่ารักษาขรก. พุ่ง1.5แสนล. //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=08-12-2009&group=29&gblog=2

พ.ศ.2552 … สรุปอภิปราย “มาตรฐานการกำหนดค่าใช้จ่ายและสิทธิประโยชน์ใน สวัสดิการการ ของ ข้าราชการ” //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=26-02-2010&group=29&gblog=3

พ.ศ.2552 … เสนอเลือกเบิกจ่ายยาให้ข้าราชการบางกลุ่ม ??? .... ข้าราชการ ก็เตรียมตัวไว้บ้าง //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=18-05-2009&group=29&gblog=4

พ.ศ.2553 … คลังเปิดทางให้ ข้าราชการนอนรักษาร.พ.เอกชนได้ ..... (ดูเหมือนดี แต่มันจะดีจริงหรือ ???) //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=03-09-2010&group=29&gblog=5

พ.ศ.2554 … ขรก.จ๊ากแน่ คลังเลิกจ่าย ยานอก9กลุ่ม (ไทยโพสต์) ....นำกระทู้มาลงไว้เป็นข้อมูล //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=25-01-2011&group=29&gblog=6

พ.ศ. 2555 … จ่ายยาต้นแบบให้ข้าราชการ (เบิกได้)แต่หมออาจต้องจ่ายเงินตัวเองให้ DSI.. //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=22-07-2012&group=29&gblog=8

พ.ศ.2556 ...คลังรุกอีกคุมเข้ม"ป่วยนอก"ขรก.วางแนวให้"เหมาจ่าย"เผยเจอข้อมูลส่อทุจริตเวียนรับยารพ.600ครั้ง/ปี //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=05-11-2012&group=29&gblog=7

พ.ศ.2557 … ปัญหายาข้าราชการ....ประเด็นที่ยังไม่มีใครพูดถึง ... โดยนาวาอากาศโท นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=25-10-2012&group=29&gblog=9

พ.ศ.2559 … กรมบัญชีกลาง “เตะหมูเข้าปากหมา”?ตัดงบ 60,000 ล้าน ให้ บ.ประกันบริหารค่ารักษา ขรก. //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=29-09-2016&group=29&gblog=10

พ.ศ.2560 … ขบวนการใช้สิทธิขรก.โกงยา “สวมสิทธิ-ยิงยา-ช็อปปิ้งยา” – ปี’59 ใช้บริการกว่า 27.8 ล้านครั้ง //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=14-08-2017&group=29&gblog=11

Create Date :08 ธันวาคม 2552 Last Update :14 สิงหาคม 2560 23:01:04 น. Counter : Pageviews. Comments :8