นกแล ก็คือนกแก้ว............
วงดนตรีเด็กน้อยๆ ของชาวเชียงใหม่ ที่เคยสร้างชื่อเสียงอันโด่งดังในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลังจากนั้นเด็กน้อย เหล่านั้นก็เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันไปหมดแล้ว



เมื่อวานนี้ วันที่ 2 เมษายน 2552 จากงาน รวมใจภักดิ์ รักษ์มรดกไทย เทิดไท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินทร ณ ลานกิจกรรม Think Park สี่แยกรินคำ ได้มีกิจกรรมอนุรักษ์มรดกไทย และช่วงท้ายของงานได้มีการแสดงดนตรีของ วงดนตรีนกแล


วงดนตรี นกแล ได้กลับมาสร้างสีสันให้กับชาวเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้ว โดยการนำเพลงชุดเก่า ที่รู้จักกันดี ร้องกันได้ติดปาก มาให้ชม ให้ฟังกันอย่างสนุกสนานทีเดียว



นกแล เป็นวงดนตรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2523-2524 ก่อตั้งเริ่มต้นจากการคัดเด็กมาเป็นนักดนตรีวงดุริยางค์ เด็กทุกคนจะเริ่มจากวงดุริยางค์ อาจารย์สมเกียรติ สุยะราช อดีตอาจารย์ผู้สอนโรงเรียนพุทธิโสภณ จ.เชียงใหม่ เด็กๆ แต่งกายชุดชาวเขา ในปี พ.ศ. 2528 อัลบั้มชุดแรกของวงนกแล ‘หนุ่มดอยเต่า’ สร้างปรากฏการณ์กลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วประเทศ




ปี พ.ศ. 2526 นกแลเริ่มตั้งวงสตริง หาเครื่องดนตรีมาให้เด็ก เอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของวงนกแลก็คือ เล่นดนตรีเอง เวทีใหญ่ เวทีแรกของวงนกแล คือ เวทีคอนเสิร์ตโลกดนตรี ที่มีอดีตพิธีกรผู้ล่วงลับ เสกสรรค์ ภู่ประดิษฐ์ เป็นโฆษก ด้วยข้อจำกัดทางด้านเวลา ทำให้ในวันนั้นวงนกแลมีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตโลกดนตรีเพียง 3 เพลง



เมื่อกลับจากกรุงเทพฯ มาถึงเชียงใหม่ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ อาจารย์สมเกียรติ์ก็ได้รับโทรศัพท์ติดต่อให้นำวงดนตรีนกแลไปเล่นแบบเต็มๆ วงที่ช่อง 5 สนามเป้า และวันนั้นเองที่หนึ่งในผู้ก่อตั้งค่ายเพลงแกรมมี่อย่าง เรวัติ พุฒินันท์ ก็ได้มีโอกาสชมการแสดง จึงนำมาสู่การทำเทปอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2528 อัลบั้มชุดแรกของวงนกแล ‘หนุ่มดอยเต่า’ ก็วางแผง และสร้างปรากฏการณ์กลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วประเทศ



ด้วยเสียงร้องกวนๆ ของทินกร ศรีวิชัย เจ้าของเพลงไอ้หนุ่มดอยเต่า หรือ ความน่ารักสดใสของ ‘ตุ๊ดตู่’ ในเพลง ‘อย่าลืมน้องสาว’ ทำให้ชื่อของนกแล กลายเป็นเอกลักษณ์ของวง



ภาพยนตร์ ‘แฟนฉัน’ ที่เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2528 ผู้กำกับทั้ง 6 คน ได้เลือกใช้เพลง ‘คอนเสิร์ตคนจน’ ของวงนกแล ในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย



นกแลมีมาแล้ว 15 รุ่นหมุนเวียนเข้าออกผลัดเปลี่ยนกันไป
ไม่แน่ใจว่ารุ่นที่แสดงนี้เป็นรุ่นที่เท่าไรแล้วนะครับ

มีภาพส่วนที่เหลือ มาชมกันไปจนจบเลยก็แล้วกัน


คัดลอกบางส่วนมาจาก //th.wikipedia.org



วันที่ได้ฟังเพลงของวงดนตรีนกแล อีกครั้งหนึ่ง กับการแสดงที่ได้ชมนี้ ก็ต้องยอมรับเลยว่า วงดนตรีนกแลยังสามารถสร้างเด็กๆ รุ่นใหม่ ขึ้นมาแทนที่รุ่นพี่ๆ ที่ต่างก็จบการศึกษาไปแล้ว



การได้มาฟังเพลงของวงดนตรีนกแลในครั้งนี้ ได้ฟังเพลงเก่าๆ ของวงดนตรีนกแล ที่ฟังแล้วก็คุ้นหูขึ้นมาทันที หลังจากที่ไม่ได้รับฟังกันมาหลายปี



เปิดวงด้วยเพลง หนุ่มดอยเต่า ฟังแล้วก็ร้องเพลงตามได้ (เกิดมาทันปีไหนไม่รู้ 555) จำได้ว่าหนุ่มน้อยตัวเล็ก "ทินกร" ร้องเพลงนี้ได้อย่างสนุกสนานทีเดียว



อุ๊ย........เสียงร้องของเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ส่งเสียงเรียกร้อง อุ๊ยยยยยย จนทำให้เพลงนี้ก็ติดหู ติดอันดับไปด้วย



และ นกแลก็คือนกแก้ว เสียงแจ้วๆเป็นหยั๋งใดจา แต่เจ๊ากินข้าวแล้วกา ไปไหนกันมา บินถลาลอยลม

เจ๊าเย็น บ่ได้เห็นหน้า นกแลจ๋า ข้าหวังเชยชม ปากแดงแกมเหลืองส้ม เขียวกลมๆ น่าชมนกแล

ชอบเกาะบนกิ่งไม้ไหว กินบะถั่วใน ผักแคบแดงแจ๋ กล้วยไต้กับใบผักแค ลำแต้ๆเป๋นดีถูกใจ๋

นกแลก็คือนกแก้ว เสียงแจ้วๆบินมาเร็วไว ค่ำแล้วบ่ดีไปไก๋ ระวังหมู่ไซกินตับไต๋นกแล



และเพลงที่สนุนกสนานอีก 1 เพลง คือ คอนเสิร์ตคนจน ก็ได้ถูกบรรเลงให้ฟังกัน ในเพลงต่อมา



และก็ยังมีเพลงเก่าๆ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับนกแล ก็นำมาร้องและแสดงให้ชมกันแบบจุใจทีเดียว











ขอบคุณทีมงานนักดนตรี นักร้อง ของวงนกแล ไว้ด้วยครับ และที่ขาดไม่ได้ อาจารย์สมเกียรติ ที่สร้างวงดนตรีนกแลตั้งแต่ยุคแรก จนถึงรุ่นปัจจุบัน และนำมาสร้างความสนุกสนาน ให้กับชาวเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้ว

และขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายชุดนี้ด้วยนะครับ