บทความดีๆ สำหรับข้อคิดในชีวิต The End of the Day โดย วินทร์ เลียววาริณ ผมมีประสบการณ์หาแพทย์ที่เพิ่งจบใหม่หลายครั้ง พบว่าบางทีค่ารักษากับหมอใหม่แพงกว่าหมอที่มีประสบการณ์ยาวนาน ทั้งที่ขัดกับตรรกที่ว่า หมอที่ทำงานยาวนานน่าจะคิดค่ารักษาแพงกว่า เหตุผลก็เพราะว่า....หมอจบใหม่บางคนเกิดอาการเกร็งอาจเกิดอาการวูบขึ้นมาว่า "จะเกิดอะไรขึ้นหากวินิจฉัยโรคพลาด?" เมื่อเกร็งก้อเกิดความไม่แน่ใจ เพื่อความปลอดภัยต่ออาชีพของตน ก้สั่งให้มีการทดสอบในห้องแล๊บเพิ่มอีกหลายรายการ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคนไข้ท้องเสีย ก็สั่งตรวจดูว่าเกิดจากเชื้อโรคชนิดใด ทั้งที่คนไข้บอกว่าไม่ได้กินอาหารสกปรกแต่อย่างแน่นอน ผลตรวจที่ออกมาสรุปว่าท้องเสียไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค หากจาความเครียด เมื่อรวมค่าตัวของหมอใหม่ (ซึ่งไม่สูงนัก) กับค่าตรวจในแล๊บและอื่นๆ รวมๆแล้วก็มากกว่าที่คนไข้ควรจ่ายเมื่อรักษากับหมอที่มีประสบการณ์กว่า ครั้งหนึ่งผมเกิดอาการปวดหัวตึบๆ หมอใหม่ก็จัดการส่งผมไปสแกนสมอง ทั้งที่ผมรู้ว่าไม่เป็นอะไรมาก "เพื่อความชัวร์" หมอว่า เมื่อเห็นใบเสร็จ ผมเกิดอาการปวดหัวกว่าเดิม เพื่อนสถาปนิก-ผู้รับเหมาคนหนึ่งบอกว่า ในงานทุกชิ้นของเขา จะเจาะจงใช้แต่ช่างชั้นหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช้ มือใหม่หัดขับ เลยทั้งที่ค่าแรงช่างเก่าแพงกว่า 2-3 เท่า "ทำไม?" ผมถาม เขายากตัวอย่างงานปูน ช่างปูนที่ที่เพิ่งทำงานไม่น่าค่าแรงต่อวันถูกมาก แต่เนื่องจากยังอ่อนประสบการณ์ จึงใช้ปูนซิเมนต์เปลืองมาก ทุกครั้งที่ตักปูนมาก่อกำแพงหรือฉาบ ปูนมักหล่นเรี่ยราด ส่วนที่ตักเกินมาก็ปาดทิ้งกว่าจะจบงานชิ้นหนึ่ง ต้องเสียปูนไปเกินจำเป็น ขณะที่ช่างที่เชี่ยวชาญใช้ปูนเท่าที่จำเป็นเพราะแม่นงานมากว่า เมื่อคิดรวมดูแล้ว ใช้ช่างเชี่ยวชาญถูกกว่าและได้งานที่ดีกว่า ในช่วงชีวิตของเรา...ต้องพบกับการติดสินเลือกของสองอย่างที่เลือกยาก ส่วนมากมักมีเรื่องเงินทองมาเกี่ยว คนส่วนมากเมื่อเจอกับการตัดสินใจดังกล่าว มักหนีไม่พ้นเรื่องสัจธรรมของ เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อไปสมัครงานสองบริษัทและได้งานทั้งสองแห่ง แห่งหนึ่งให้เงินเดือนสูงกว่า แต่งานจำเจ อีกแห่งหนึ่งให้เงินเดือนต่ำกว่ามาก แต่งานท้าทายหลายคนเลือกเงินเดือนสูงไว้ก่อน เพราะมันทำให้รู้สึกว่ามีคนเห็นคุณค่าของเรามากพอที่จะยอมจ่ายมากๆ ในชีวิตของเรายังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องตัดสินใจเลือกไปทางซ้ายหรือทางขวา และเป็นการเลือกที่ยากเอาการ จะเรียนคณะวิชาที่ทำเงินหรือหรือคณะวิชาที่ชอบ? จะเลือกผู้หญิงที่ความสวยหรือความเก่ง? ฯลฯ ฝรั่งมีวลีหนึ่งที่ว่า at the end of the day หมายถึง การวัดผลในตอนจบวัน เป็นการใช้ชีวิตโดยการมองภาพรวม จะลงทุนมากหรือน้อย จำทำงานใหญ่หรือเล็ก ไม่สำคัญเท่ากับว่า ในตอนจบวันคุณหรือเหลือเงินในกระเป๋าสตางค์เท่าไร แม่ค้าขายขนมครกที่ทำงานไปเรื่อยๆตลอดวัน เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว อาจจะมีเงินในกระเป๋ามากกว่าเจ้าของร้านอาหารติดแอร์ ที่ถึงแม้มีรายได้ต่อวันสูงกว่ามาก แต่ค่าโสหุ้ยก็สูงเช่นกัน บางทีเมื่อวัดกันที่ ในตอนจบวัน อาจทำให้เราตัดสินใจหลายๆเรื่องได้ง่ายขึ้น ในตอนจบวันแฟนคุณช่วยสร้างเงินหรือถลุงเงิน? ในตอนจบวัน คุณเก่งกว่าเดิมหรือเปล่า? และในตอนจบวัน คุณรู้สึกว่าชีวิตในวันนั้นสูญปล่าหรือไม่?
 โดย: ตะวันสีชมพู
 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:53:21 น. |
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [