อุตรดิตถ์ ... โบราณสถานแห่งเมืองทุ่งยั้ง อ.ลับแล ตอนแรกตั้งใจจะเขียนเล่าไปทีละวัดทีละสถานที่ แต่ทั้งหมดกลับมาลงในที่เดียวกันคือทุ่งยั้ง ขอเริ่มจากเวียงเจ้าเงาะ หาทางเข้าหลายครั้งเพิ่งมาถูก รูปเป็นตำแหน่งกำแพงมุมทางตะวันตกเฉียงใต้ของเวียงเจ้าเงาะ บนถนน ทล. 102 อุตรดิตถ์ - ศรีสัชนาลัย เลี้ยวเข้าข้างรั้วขนส่งจังหวัดอุตรดิตถ์ ทางไปร้านอาหาร ลานโพธิ์ ทิศเหนือของถนน ![]() ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมุมเมือง (โบราณ) ทุ่งยั้ง จากการขุดค้นพบโบราณวัตถุต่างๆ เช่น มโหระทึกละว้า พร้าสำริดแสดงว่าเป็นเมืองที่มีมาก่อนยุคประวัติศาสตร์ ทั้งสองเมืองมีกำแพงเมือง 3 ชั้น เป็นทั้งเนินดิน และเป็นศิลาแลงมีคูเมือง แสดงว่าน่าจะมีความสำคัญหรือเป็นจุดยุทธศาสตร์ อาจเป็นเมืองที่คุมเส้นทางการเดินทางในแม่น้ำน่านสู่เมืองทางเหนือก็เป็นได้ ปัจจุบันบางแห่งก็ตื้นเขิน บางแห่งมีสิ่งก่อสร้างเช่นถนนทับอยู่ ![]() เวียงเจ้าเงาะมีหลุมบ่อคล้ายถ้ำ และอุโมงค์อยู่มาก จากตำนานและชาวบ้านเล่าสืบต่อกันมา เรื่องสังข์ทองว่า เวียงเจ้าเงาะเป็นเมืองของสังข์ทองกับรจนาอยู่ หลังจากถูกท้าวสามลเนรเทศมาจากเมืองทุ่งยั้ง กำแพงของเวียงเจ้าเงาะ ... ช่องสี่เหลี่ยมคือบ่อน้ำทิพย์ ![]() กำแพงขุดในพื้นศิลาแลง บริเวณข้างในกำแพงเป็นที่ราบ ดินปนศิลาแลง บางตอนเป็นศิลาแลงล้วน ![]() ![]() บ่อน้ำทิพย์ อยู่ใต้กำแพงศิลาแลงของเวียงเจ้าเงาะ เป็นบ่อน้ำตื้น น้ำในบ่อใสสะอาด ใช้ดื่มกินได้ ไม่เคยแห้ง ![]() ทุ่งยั้ง ปัจจุบันเป็นตำบลหนึ่ง ของอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ในพงศาวดารเหนือ ... พงศาวดารของกรุงศรีอยุธยาที่กล่างถึงหัวเมืองทางเหนือกรุงศรีอยุธยา เรื่องการสร้างเมืองสวรรคโลก กล่าวถึงเมืองทุ่งยั้งว่า ชื่อ "กำโพชนคร" เป็นเมืองที่มีกษัตริย์ปกครอง มีพระบรมธาตุทุ่งยั้งเป็นศูนย์กลางของเมือง ตำนานว่า สมัยก่อนพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เคยมาถึงทุ่งนาที่กว้างใหญ่ ทรงหยุดยืนบนแท่นศิลา จึงเรียกว่า "ทุ่งยั้ง" ![]() ตั้งอยู่บน ทล.201 อุตรดิต์ถ์ - ศรีสัชนาลัย ![]() ![]() ตำนานว่าพระกุกกุสันโธ เสด็จอยู่ในภูเขาซอกนอกเมืองทุ่งยั้ง พระพุทธเจ้าก็ทรงยกพระหัตถ์ลูบพระเศียรเกล้า พระเกศหล่นลงเส้นหนึ่ง และพระองค์ก็ทรงยื่นให้พระอรหันต์ พระอรหันต์ก็ยื่นให้พระยาอโสกราช พระยาอโสกราขก็บรรจุไว้ในถ้ำทุ่งยั้งนี้แล แล้วพระพุทธเจ้าก็พระพุทธฎีกาตรัสเทศนาพยากรณ์ทำนายไว้ในเบื้องหน้าว่า เมื่อตถาคตนิพพานล่วงลับไปแล้ว ถึงศาสนาโคดม ศาสนาพระพุทธกัสสปะ ศาสนาพระศรีอริยเมตไตย ก็จะมีกษัตริย์องค์หนึ่งนำเอาพระบรมธาตุมาบรรจุไว้ในสถานที่นี้ทุกๆพระองค์ ![]() ฐานขององค์เจดีย์พระบรมธาตุ เป็นฐานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ทำให้สันิษฐานว่าเดิมเป็นเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์ อันเป็นอิทธิพลของศิลปะสุโขทัย พญาตะก่าเป็นพ่อค้าไม้ชาวพม่าขออนุญาตทำการบูรณะพระมหาธาตุเจดีย์ ได้นำฉัตรมาติดยอดพระบรมธาตุเจดีย์ทุ่งยั้ง และสร้างเจดีย์องค์เล็กที่ฐานชั้นล่างทั้ง 4 มุม ต่อมาองค์เจดีย์พังลงจากแผ่นดินไหว หลวงพ่อแก้วได้ร่วมกับชาวบ้านบูรณธเจดีย์ขึ้นใหม่ เป็นเจดีย์ทรงระฆังบนฐานเขียงเดิม ตรงกลางเรือนธาตุของเจดีย์ทั้งสี่ด้านมีพระพุทธรูปประทับยืน ![]() วิหารมีหลังคาลาดต่ำ ... แบบสุโขทัย ? ![]() สร้างขึ้นในแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยโปรดให้มีตราพระราชสีห์ให้เมืองลับแล เมืองทุ่งยั้งรื้อวิหารและกำแพงแล้วสร้างใหม่ ![]() แสดงว่าคนในเมืองทุ่งยั้งตอนนั้นเป็นคนทางล้านนา หรือได้รับอิทธิพลจากสมัยพระเจ้าติโลกราชกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ที่ทรงยกกองทัพตั้งมั่นที่เมืองทุ่งยั้ง คราวที่ทรงทำศึกกับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถกษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา ![]() โครงหลังคาแบบม้าต่างไหม ... ศิลปะล้านนา พระประธาน หลวงพ่อหลักเมือง หรือหลวงพ่อแก่ สร้างสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเมื่อคราวสร้างวิหารขึ้นใหม่ ![]() จิตรกรรมฝาผนัง มารผจญและพระแม่ธรณีบีบมวยผม ![]() และที่เลือนไปมากแล้วคือเรื่องสังข์ทอง จากสุวรรณสังขชาดก อันเป็นตำนานของเมืองทุ่งยั้งและเวียงเจ้าเงาะ ![]() สั้น ๆ ว่า เมื่อพระสังข์ทองสวมรูปเจ้าเงาะหนีนางพันธุรัตน์ ก็ได้เหาะมาลงอยู่ ณ ทุ่งนาแห่งหนึ่งก็อาศัยอยู่กับเด็กเลี้ยงควาย ในเมืองของท้าว มีพระมเหสีพระนามว่า มณฑา มีพระธิดา 7 พระองค์ ท้าวสามลโปรดให้พระธิดาเลือกคู่โดยรับสั่งให้ทหารออกไปร้องประกาศให้เจ้าชายเมืองต่างๆ มาเลือกคู่ พระธิดาทั้ง 6 พระองค์ก็ทรงได้เจ้าชายจากเมืองต่างๆมาเป็นคู่ครอง เหลือรจนาพระธิดาพระองค์สุดท้องไม่เลือกผู้ใด สุดท้ายก็เสี่ยงพวงมาลัยให้ เงาะป่า ท้าวสามลกริ้ว จึงจัดให้หาปลา ครั้งนี้ 6 เขยโดนพระสังข์ตัดปลายจมูก จัดให้หาเนื้อ ครั้งนี้ 6 เขยโดนพระสังข์ตัดปลายหู ท้าวสามลทำอะไรไม่ได้ จึงสั่งให้เจ้าเงาะและนางรจนาออกไปจากวังไปปลูกกระท่อมอยู่ที่ปลายนาของเศรษฐี คือ บริเวณเวียงเจ้าเงาะในปัจจุบัน ต่อมาองค์พระอินทร์ก็ทรงสงสารอยากให้พระสังข์ทองถอดรูปสักทีจึงได้เข้ามาท้าตีคลี ในที่สุดเจ้าเงาะก็ยอมถอดรูปออกมาเป็นพระสังข์ทองรับคำท้าจะตีคลี พระอินทร์ก็ได้แพ้ไป การตีคลีในครั้งนั้นจึงเกิดเป็นหลุมจำนวนมาก ชาวบ้านเรียกว่า สนามตีคลี อยู่หน้า รร.วัดพระบรมธาตุท่งยั้ง ไม่ได้เข้าไปดู แต่เห็นหลุมศิลาแลงแบบนี้ที่บริเวณพระธาตุ ไม่ทราบว่าคืออะไร ใช้ทำอะไร ? ![]() หรือเป็นส่วนของเจดีย์ที่พังลงมาตอนแผ่นดินไหว ? ![]() พระอุโบสถ ![]() ![]() ในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ทางวัดจะจัดให้มีงานประเพณีสลากภัต หรือตานก๋วยสลากของชาว ล้านนา เป็นการถวายของให้พระภิกษูโดยการจับสลาก ในวันนี้มีการจัดแสดงพุทธประวัติตอนถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่เรียกว่า อัฐมีบูชา เป็นการจำลองเหตุการณ์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันปรินิพพาน มีการสร้างพระบรมศพจำลอง ประทับนอนในปางปรินิพพานอยู่ในโลกแก้ว จัดพิธีจำลองเหตุการณ์ การถวายพระเพลิง พระพุทธสรีระจำลอง ![]() ทางด้านทิศตะวันตกนอกเมืองทุ่งยั้ง มีวัดสามวัดบนเนินเขาสามลูกใกล้ ๆ กันคือ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระยืนพุทธบาทยุคล และ พระนอนพุทธไสยาสน์ หรือ มีพระแท่น นั่ง ยืน นอน วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ![]() บานประตูวิหารเป็นบานประตูที่ขึ้นชื่อว่าแกะสลักลวดลายสวย 1 ใน 3 ของเมืองอุตรดิตถ์ เชื่อว่าเดิมเป็นบานประตูวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่สมเด็จพระเจ้าบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยาทรงโปรดให้ทำบานประตูมุขแทน บานประตูไม้แกะสลักนี้ จึงถูกนำมาติดไว้ที่วัดพระแท่นศิลาอาสน์แห่งนี้ แต่ถูกไฟไหม้ไปเมื่อปี พ.ศ. 2451 ![]() ![]() ![]() ![]() จิตรกรรมฝาผนังเรื่องการค้นพบพระแท่นศิลาอาสน์ ![]() ตำนานว่า พระแท่นศิลาอาสน์ เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทั้งห้าองค์ เมื่อครั้งเสวยชาติเป็น พญาไก่ พระยานาคราช พระยาเต่า พระยาโค และ ราชสีห์ ได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนา และจะมาประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้ว เพื่อโปรดสัตว์ ![]() มองจากกระจกบนเพดาน ![]() วัดพระยืนพุทธบาทยุคล มุมหลังวิหาร หลังอุโบสถ และ เจดีย์หลังวิหาร ![]() เจดีย์เหลือฐานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เข้าใจว่าเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัย ![]() ครั้งแรกไปเช้าไปวิหารปิด ไปแวะครั้งที่สองจึงได้เข้าไปสมใจ ![]() ตำนานว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับยืนบนยอดเขาแห่งนี้ เป็นรอยพระพุทธบาทคู่กันบนแผ่นศิลาแลงฐานดอกบัว ซึ่งได้สร้างมณฑปครอบไว้ ![]() ภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปยืน ![]() จิตรกรรมฝาผนังเป็นพระพุทธประวัติ ![]() ด้านในเป็นฐานชุกชี ![]() อุโบสถ ![]() ประดิษฐาน พระพุทธรังสี เดิมเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ประดิษฐานในมณฑปพระพุทธบาทพระยืน มีแม่ชี 4 คนจากนครศรีธรรมราช ได้เข้านมัสการและสำรวมจิตเจริญภาวนา ได้เห็นแสงรัศมีออกจากองค์พระพุทธรูปจึงแจ้งให้กับเจ้าอาวาสในขณะนั้นทราบ เมื่อกระเทาะปูนออกจึงพบพระพุทธรูปสำริดอยู่ข้างใน ![]() ![]() วัดพระนอนพุทธไสยาสน์ ![]() จากวัดพระยืนพุทธบาทยุคล มีสะพาน สะพานสามัคคีทวีสุข ![]() ให้เดินข้ามถนน ทล.102 ![]() เชื่อมต่อไปยังวัดพระนอนพุทธไสยาสน์ ที่อยู่อีกเนินเขาหนึ่ง ตำนานเล่าว่า ชาวบ้านไปเลี้ยงวัวบนเนินเขานี้ พบแท่นศิลาใหญ่มีพระพุทธรูปทองคำนอนท่าพระพุทธไสยาสน์อยู่ จึงไปเรียกให้ชาวบ้านมาดู แต่ไม่พบพระพุทธรูปไสยาสน์ ชาวบ้านเห็นเป็นอัศจรรย์จึงสร้างมณฑปครอบ ![]() ตำนานมีว่า พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เมื่อครั้งเสวยชาติเป็นสัตว์ 5 ชนิด คือ ไก่ นาค เต่า วัว และราชสีห์ เคยมาประชุมจัดเรียงลำดับการเป็นพระพุทธเจ้าบนแท่นศิลาแห่งนี้ ![]() ภายหลังชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างพระพุทธไสยาสน์ขึ้น แต่องค์พระที่สร้างมีขนาดใหญ่กว่าช่องประตู เข้ามณฑปไม่ได้ จึงสร้างศาลาไว้เพื่อประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์อีกหลังหนึ่ง ![]() เรื่องทุ่งยั้งที่เขียนมา อ่านไป เป็นเวลาสองอาทิตย์ก็จบได้เช่นนี้แล ![]()
ตามมาไหว้พระด้วย ได้ความรู้ด้วยค่ะ
โดย: เนินน้ำ
![]() ![]() ตามมาเที่ยวอุตรดิตถ์ด้วยคนค่า
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
![]() ![]() บ่อน้ำทิพย์ ในภาพมีรากของต้นไม้ด้วย ดูแล้วขลังชะมัด
เงาะป่า เรื่องนี้เคยได้ยินเหมือนกันครับ ตามมาไหว้พระด้วยคนครับ โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() พระอุโบสถมีรูปร่างคล้ายวิหารที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุพิษณุโลกเลยครับ
ถ้าฐานเจดีย์เดิมเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แสดงว่าจะต้องเป็นเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์ที่สูงใหญ่มากเลยนะครับ โดย: ทนายอ้วน
![]() tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
พระเจดีย์ดูโดดเด่นและงดงามมากค่ะ ขอบคุณที่นำมาฝากกันนะคะ ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: หอมกร
![]() ![]() โบราณสถานของไทยเรา
ยังมีอีกมากมายหลายแห่งเลยนะครับพี่ตุ๊ก ที่ยังขาดการบำรุงรักษา น่าเสียดายครับ โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ดีงามมากค่ะ ตั้งแต่ภาพแรก บรรทัดแรก จนจบ น่าสนใจไปหมด ไม่คิดว่าอุตรดิตถ์มีอะไรน่าสนใจได้มากขนาดนี้
เอนทรี่นี้คุ้มค่ามากเลยค่ะพี่ตุ๊ก ![]() ![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() tuk-tuk@korat Travel Blog
ได้ชมสถานที่ที่ไม่เคยไปและได้ทราบประวัติอีกด้วย ขอบคุณพี่ตุ๊กที่พาเที่ยวนะคะ โดย: Sweet_pills
![]() ![]() สวัสดียามเช้าครับพี่ตุ๊ก โหวต travel blog ครับพี่ โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() เคยบอกไหมว่า เวลามาอ่านท่องเที่ยวที่บ้านนี้
นอกจากเรื่องราวที่ตั้งและการบุกบั่นเข้าไป ชมแล้ว ที่เราตั้งใจอ่านมากคือพวกประวัติศาสตร์ และตำนานต่างๆ แต่สำหรับวัยเราก็มีความสุข ตอนที่อ่านอ่ะนะ ผ่านไปแล้วก็จำไม่ได้นาน ขอบคุณสำหรับโหวตค่ะ ![]() โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า
![]() ![]() |
บทความทั้งหมด
|