เจดีย์ล้านนาตอน 1 ... เจดีย์ทรงมณฑปปราสาท เป็นเรื่องที่อยากรู้ เพราะได้เห็นวัดมากมายในภาคเหนือ พยายามอ่านลักษณะของเจดีย์ จนวันนี้จึงได้สรุปที่ค้นมาได้ คิดว่า น่าจะเป็นแนวทางที่ท่านที่สนใจได้มองออก และต่อยอดต่อไปได้ เจดีย์มาจากคำว่า เจติยะ หมายถึง สิ่งที่เป็นที่ระลึกถึง มีทั้งเป็น ปูชนียวัตถุ และ สถาปัตยกรรม เจดีย์ในพุทธศาสนา หรือ สิ่งที่เป็นที่ระลึกถึงพุทธสาสนามี 4 ประเภทคือ 1. ธาตุเจดีย์ => พระบรมสารีริกธาตุ 2. ธรรมเจดีย์ => พระธรรม เช่น * ธรรมจักร : จักรใช้เป็นอาวุธในการขยายดินแดน ธรรมจักรจึงเครืองใช้ในการเผยแพร่พระธรรม * ใบลานทอง หรือพระพิมพ์ หรือวัตถุใดที่สลักคาถา เย ธัมมา พระคาถาเยธัมมา เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เยสํ เหตุํ ตถาคโต อาห เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณติ ฯ คำแปล ธรรมทั้งหลายเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมทั้งหลายเหล่านั้น พระมหาสมณะเจ้า ทรงสังสอนอย่างนี้ เป็นคาถาในการปลุกเสกปูชนียวัตถุในพุทธศาสนา และ เชื่อว่าเป็นคาถาในการสืบอายุพระพุทธศาสนา เล่าว่าเป็นคำพูดของพระอัสสชิ (อดีตปัญจวัคคีย์) บอกพระสารีบุตรตอนที่ยังเป็นฆราวาสถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเสมอ ทำให้พระสารีบุตรบรรลุอรหันต์ทันที 3. บริโภคเจดีย์ => สิ่งที่พระพุทธเจ้าใช้สอย คือ สังเวชนียสถาน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในมหาปรินิพพานสูตร บอกพระอานนท์ว่าหากจะระลึกถึงพระพุทธองค์ ให้ไปที่สังเวชนียสถาน ให้ไปปลงสังเวช ว่าแม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังทรงอยู่ในไตรลักษณ์ 4. อุเทสิกเจดีย์ => พุทธศาสนิกชนเห็นว่าเหมาะสมที่จะใช้ระลึกถึงพระองค์ เช่น พระพุทธรูป สถูป พระพุทธบาท @ พระเจดีย์ล้านนา @ องค์เจดีย์ในล้านนา เป็นเจดีย์หรือเจติยะที่เป็นสถาปัตยกรรม มีสองรูปแบบใหญ่ ๆ จากการพัฒนาฐานของของเจดีย์ได้แก่ ทรงฆังกลม และ ทรงปราสาท - ทรงระฆังกลม - พัฒนามาจากสถูป ซึ่งแปลว่าการพอกพูน มาจากการฝังศพชนเผ่าอารยัน จะเอาศพฝังดิน แล้วพูนดินขึ้นเป็นสถูป ในพุทธศาสนา จะฝังพระบรมสารีริกธาตุลงใต้ดิน ดินที่พูนขึ้นมาเป็นรูปไข่ - อัณฑะ แปลว่าไข่ คนไทยเรียก ระฆัง มีร่มกางให้ด้านบน - ฉัตรวลี คนไทยเรียก ปล้องไฉน เพราะเป็นปล้องเหมือนปี่ไฉน บัลลังก์วางไว้เหนือดินที่พูนแสดงถึงเจ้าที่สูงส่ง - หรรมิกา คนไทยเรียก บัลลังก์ ฐาน - เพื่อยกให้เจดีย์สูงขั้น นั่นคือ เจดีย์ประกอบด้วย ฐาน 1 - ระฆัง 2 - บัลลังก์ 3 - ฉัตรวลี (ปล้องไฉน) 4 - เจดีย์ทรงปราสาท - พัฒนามาจากเทวาลัย เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพของอินเดีย โดยสร้างเป็นวิมานที่มีหลังคาซ้อนชั้นหลายชั้น ให้เทพอยู่ แต่ละชั้นมีการประดับอาคารจำลอง - เพื่อแสดงจำนวนชั้น เช่นหน้าต่างหลอกแทนชั้นหลอกของอาคาร - กุฑุ ห้องใช้งานมีชั้นล่างชั้นเดียว เรียก ครรภคฤหะ ทรงของวิมานที่เหมือนภูเขา เรียกว่า ศิขร (อ่าน สิ-ขะ-ระ) เมื่อปราสาทต่อมุกยื่นออกมาเรียก มณฑปปราสาท เช่นมี ซุ้มหน้าบันตรงกลางชั้น , กลีบขนุนที่มุมชั้น แสดงการซ้อนชั้นของปราสาท -@-เจดีย์ทรงมณฑปปราสาทล้านนา-@- ภาพด้านหน้าปรางค์ประธานปราสาทหินพิมาย ภายในครรภคฤหะประดิษฐานพระพุทธรูป เปรียบเทียบกับพระพิมพ์ - พระแปด หรือ พระสิบสองวัดประตูลี้ มีพระประทับสมาธิเพชรอยู่ 3 องค์บนแท่นแก้ว ขนาบด้วยพระสาวกสององค์ องค์กลางอยู่ในซุ้มแก้ว ซุ้มแก้วแสดงว่าอยู่ภายในมณฑปปราสาท รูปพระด้านบนที่เหลือเป็นพระประดับอาคาร ที่บนหัวเสาภายนอกของอาคารมณฑป มีกลีบขนุนรูปนาค ทำให้เชื่อได้ว่าปรางค์ในศิลปะเขมร ที่ดัดแปลงมาจากเทวาลัยของอินเดีย เป็นต้นแบบของเจดีย์ทรงมณฑปปราสาทล้านนา ซึ่งมีองค์ระฆังอยู่บนยอดปราสาท วัดอุโมงค์มหาเถรจันทร์ อำเภอเมือง เชียงใหม่ ห้องครรภคฤหะ เหนือเรือนธาตุของปราสาทขึ้นไปจะมีเจดีย์องค์ระฆังอยู่ด้านบน วิหารลายคำวัดพระสิงห์ อำเภอเมือง เชียงใหม่ ด้านหลังต่อกับปราสาท มีหลังคาซ้อนชั้นยอดระฆังรูปดอกบัวตูม วัดปราสาท อำเภอเมือง เชียงใหม่ เหนือปราสาทหลังวิหาร มีเจดีย์ห้ายอด วัดป่าแดงมหาวิหาร อำเภอเมือง เชียงใหม่ ปราสาทที่ติดหลังวิหารมียอดเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยม บัลลังก์ ปลียอด เมื่อปราสาทเข้าไปอยู่ในอาคาร จึงเกิดเป็นโขงพระเจ้า เช่นที่ มณฑปพระเจ้าล้านทอง วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา ลำปาง มียอดเจดีย์เล็ก ๆ ด้านบนสุด มณฑปพระธาตุ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อำเภอจอมทอง เชียงใหม่ ได้ความรู้เพียบเลยค่ะ คิกๆๆๆๆ
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 21 พฤษภาคม 2563 เวลา:17:42:16 น.
สวัสดีครับท่านประธาน...
บล็อกนี้ถือว่าให้ความรู้มากจริงๆ ท่านประธานมีความรู้แบบลึกซึ้งเกี่ยวกับวัดวา อาราม เป็นอย่างยิ่ง หาใครในบล็อกแก๊งส์ นี้เทียบเทียมได้ โดย: พายุสุริยะ วันที่: 21 พฤษภาคม 2563 เวลา:21:01:24 น.
ได้ความรู้เพิ่มขึ้นค่ะพี่ตุ๊กเกี่ยวกับรูปแบบเจดีย์ล้านนา
ขอบคุณพี่ตุ๊กมากนะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 21 พฤษภาคม 2563 เวลา:23:27:21 น.
มาไหว้พระด้วยครับ พี่ตุ๊ก
เจดีย์มีหลายแบบ แต่ละแบบประยุกต์ได้งามแบบไทยที่สวยงามลงตัว โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 21 พฤษภาคม 2563 เวลา:23:35:54 น.
สมัยก่อนคนเราสร้างได้ขนาดนี้ทั้งที่ไม่มีเทคโนโลยีอะไรเลย ไม่มีพวกเครื่องมือต่างๆ ในการทุ่นแรงด้วย แต่ทำได้ขนาดนี้นับว่ายอดเยี่ยมมาก
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2563 เวลา:0:45:19 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่ตุ๊ก
สมัยเรียนถาปัตย์ เคยเรียนครับ แต่ลืมหมดแล้ว 555 เหมือนได้กลับมาทบทวนความรู้ใหม่ในบล็อกพี่ตุ๊กเลย โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2563 เวลา:6:41:24 น.
เพิ่งฮู้ว่า เจดีย์มาจากคำว่า เจติยะ...
ปี 2554 ผมไปเดินธุดงค์ที่ วัดเจติยาจารย์ ตีนดอยอินทนนท์ เดินธุดงค์ขึ้นดอยเพื่อสอบ ภาคสนาม เจอฝน ร้อน หนาวเย็นพร้อมกัน คราวเดียวกันเลย วันนี้คุณตุ๊กเขียนเล่าละเอียดเลยได้ฮู้จ๊าดนัก ครับ โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 22 พฤษภาคม 2563 เวลา:6:43:49 น.
เมื่อเช้าเพิ่งดูการบรรยาย "กว่าจะมาเป็นพระปรางค์ในประเทศไทย" ของมติชน ในยูทู้ปครับ มีที่มาเหมือนเจดีย์ทรงปราสาทเลยครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 22 พฤษภาคม 2563 เวลา:15:10:35 น.
เจดีย์มีหลายรูปทรง แต่ละยุค ก็มีรายละเอียด และองค์ประกอบแตกต่างกันไป ต้องช่างสังเกต และจดจำรายละเอียดได้ ถึงจะแยกออกว่าเป็นเจดีย์ในยุคไหนนะครับ
อ.เต๊ะ ขอร้องคุณตุ๊ก อย่างเดียวคือ ห้ามเอามาออกข้อสอบนะครับ เพาะ อ.เต๊ะ ก็ส่งมอบความรู้ คืนอาจารย์ ไปเกือบหมด น่าจะคนเดียวกับคุณก๋านะครับ เพราะศิษย์สำนักเดียวกัน แฮ่ๆ555 โดย: multiple วันที่: 22 พฤษภาคม 2563 เวลา:15:30:01 น.
ช่วงโควิดผมจับกีตาร์บ่อยเลยครับ
บ่าฮู้จะทำอะหยังดี ฮ้องเพลงแก้กลุ้มดีกว่า 555 โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2563 เวลา:16:44:52 น.
อันนี้ลงรายละเอียดสถาปัตยกรรมเลย ผมเที่ยวไม่ค่อยได้สังเกตแบบนี้เท่าไหร่
เที่ยวเชียงใหม่เก็บเกี่ยวโบราณสถานเพลิดเพลินมากครับ วัดปราสาทเพิ่งได้ไปรอบที่ไปเชียงใหม่หลังสุดเลย โดย: ชีริว วันที่: 23 พฤษภาคม 2563 เวลา:10:41:48 น.
สวัสดี จ้ะ น้องตุ๊ก
บล็อกวันนี้ ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเจดีย์ หรือ เจติยะ รวมไปถึงสถูปด้วย ได้ความรู้ มากและละเอียดมากจริง ๆ ค้นคว้ามาให้ เห็นถึงชนิดของเจดีย์ แต่ละชนิด ใช้เวลาไม่ น้อยเลยจริง ๆ ขอชื่นชม จ้ะ โหวดหมวด ท่องเที่ยว โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 23 พฤษภาคม 2563 เวลา:13:28:57 น.
สวัสดียามเย็นครับคุณตุ๊ก
เพิ่งเข้าใจเรื่องการสร้างเจดีย์เลยครับ โหวตครับ โดย: Nior Heavens Five วันที่: 23 พฤษภาคม 2563 เวลา:17:14:07 น.
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
อากาศร้อนบ้านเรา ทำให้เวลาไปเที่ยว ไม่มีอารมณ์จะสนใจรายละเอียดเท่าไหร่ค่ะพี่ตุ๊ก โดย: หอมกร วันที่: 23 พฤษภาคม 2563 เวลา:23:28:47 น.
|
บทความทั้งหมด |