เริ่มจากที่ใกล้ๆ ไปง่ายๆ ก่อนก็แล้วกัน จัดทริปง่ายๆ 4 วัน 3 คืน ที่เวียงจันทน์-วังเวียง

ออกจาก กทม. ห้าทุ่มขับรถไปยังจังหวัดอุดรธานี ถึงประมาณเกือบเจ็ดโมงเช้า เอารถไปฝากกับบ้านเพื่อนแล้วแวะกินอาหารเช้ากันก่อน (ถ้านั่งรถทัวร์มาลงก็สะดวกและสบายกว่าด้วย... แต่พ่อดื้ออยากขับ ก็ปล่อยเค้า)

ที่สถานีขนส่งสามารถนั่งรถไปถึงทั้งเวียงจันทน์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) และวังเวียง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7ชม.) ได้ แต่ด้วยมากับพ่อแม่ กลัวเค้าจะนั่งนานไม่ไหว เลยจะพักที่เวียงจันทน์ก่อน 1 คืน ราคา 80 บาทต่อคน ตอนซื้อตั๋ว 1 คน 1 ใบพร้อม passport ให้เห็นหน้าค่าตากันด้วย ถึงจะออกตั๋วให้ ได้มา 3 ใบ ก็รอเวลาขึ้นรถ

หลับไปวูบก็ตื่นมาตรงเกือบถึงด่านออกจากประเทศไทย กรอกข้อมูลต่างๆ ในเอกสารให้เรียบร้อยตั้งแต่บนรถ ลดระยะเวลาได้อีก ต่อคิว ยื่นกับเจ้าหน้าที่ ตม. ตรงนี้จะเห็นว่ามีรถข้ามสะพานไทย-ลาว มาโบกมือเรียกก็ไม่ต้องสนใจ เราก็ขึ้นรถคันเดิมของเรานี่แหละ

ไปถึงที่ด่านขาเข้าประเทศลาวแล้ว เราจะต้องเสียค่าเหยียบแผ่นดิน โดยซื้อบัตร one way ticket แต่เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราเดินไปต่อคิวยื่นเอกสารเข้าประเทศกับเจ้าหน้าที่ ตม. ก่อน แล้วค่อยซื้อบัตรนี้ก็ได้ (เพราะบัตรนี้ซื้อได้หลายจุด แต่คิวตม. จะยาว) บริเวณนี้จะมีที่แลกเงินกีบ แต่เราไม่ได้แลก ไปแลกอีกทีที่เวียงจันทน์เลย จากนั้นเราก็จะเอาบัตรนี้เสียบประตูกั้นอัตโนมัติ เหมือนเวลาขึ้นรถไฟฟ้า ก็ผ่านเข้าประเทศลาวอย่างเต็มตัวแล้ว กลับมาขึ้นรถเดิมค่ะ หลับอีกตื่นก็ถึงท่ารถที่เวียงจันทน์ละค่ะ

ติดต่อกับทางที่พักไว้ว่าพรุ่งนี้เช้าจะเดินทางไปวังเวียง เราเลือกเอาความสะดวกค่ะ แปดโมงเช้าจะมีรถมารับที่โรงแรม

รถมาตรงเวลานัดหมาย แต่ไปถึงท่ารถ ยังไม่ออกทันทีค่ะ นั่งรอเงิบ ฝรั่งเกาหลีหลายคนไปรถตู้ แต่เราเลือกรถบัส รอกันสักพักใหญ่ ก็เริ่มมีฝรั่งมากัน ขึ้นรถไปจองที่นั่งกันได้เลย ขับหวานเย็นมากค่ะ ถนนหนทางไม่ค่อยดี แล้วแวะจอดซื้อต้นไม้ แวะซื้อส้ม โอ้ววว.. ใช้เวลา เกือบ 5 ชม. (ขากลับวังเวียง-อุดร แค่ 6 ชม.กว่า คิดเอาละกัน 555) รถจะแวะจอด 1 ครั้ง สำหรับกินอาหาร (อย่างเร็ว) และเข้าห้องน้ำ

มาถึงท่ารถที่วังเวียง จะมีรถสองแถวฟรีเข้าเมือง แป้บเดียวรถสองแถวคันใหญ่ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว พอเข้าเมือง ก็แวะกินก่อนเข้าที่พัก 

เราเลือกที่พักริเวอร์วิวบังกะโล เพราะสะดวกกับพ่อแม่ แต่ถ้ามากับเพื่อนๆ จะเลือกอีกที่ล่ะ

พอเก็บของเสร็จก็ออกมาเช่าจักรยาน ปั่นกันไปถ้ำจัง ระหว่างทางก็มีบอลลูนชมวิวหลายลูก พอไปถึงก็ได้แค่ถ่ายรูปกับสะพานสีส้ม เพราะเราไปถึงห้าโมงเย็น เค้าปิดไม่ให้ขึ้นละ

กลับมาคืนจักรยานแล้วเดินเล่นแถวๆ ที่พัก เดินหาร้านขายแพกเกจกิจกรรม แค่ไปพายเรือคายัคที่แม่น้ำซอง กิจกรรมอื่นแม่ไม่ไหว ให้ไปนั่งเฉยๆ ก็ไม่เอา แค่นี้ก็ได้ และซื้อตั๋วกลับอุดรไว้เลย

ตื่นเช้ามาเดินเล่นถ่ายรูปไม่ไกลจากที่พัก บรรยากาศดีสุดๆ สูดออกซิเจนให้เต็มปอด

กลับมากินอาหารเช้าในที่พัก แล้วเตรียมไปพายคายัคกัน

รถมารับแถวๆ ที่พัก แล้วขับออกไปเพื่อพาไปปล่อย ปล่อยไปพายเรือคายัคกัน น้ำใสเย็น บางจุดก็เชี่ยวนิดๆ บางจุดมีหินสูง ก็ต้องพายตามไลน์ของไกด์ พายไปสักพัก ก็แวะจุดพักเรือ จริงๆ คือมันมีอีกกิจกรรมตรงนี้คือ ปีนผา แล้วเราก็ไปกันต่อ พายเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าที่พัก แล้วก็ขึ้นฝั่งเลย จบแบบงงๆ ร่ำลากันไป 555

พักหายใจที่ห้องพักแว้บนึง ก็ไปหามื้อกลางวันกิน ที่ร้านเค้าก็แนะนำที่เที่ยวใกล้ๆ เป็นน้ำตก เหมารถกันไปได้ แต่ต้องตกลงราคากันดีๆ นะ

เที่ยวน้ำตก... แล้วก็กลับมาถ้ำจังอีกรอบ

กลับมาโดนชายสี่หมี่เกี๊ยวแต่เป็นบะหมี่เป็ดย่าง รสชาติและกลิ่นเป็ดหอมดี 

หมดไปอีกวัน เตรียมเก็บของกลับบ้านได้ 

รถจะมารับไปที่ท่ารถ เอาบัตรที่ซื้อกับร้านขายแพกเกจทัวร์ มาแลกเป็นตั๋วโดยสารก่อน แล้วก็นั่งรออีกพัก 

ขึ้นรถกลับอุดรธานี (ขากลับไวมาก) ไม่นานก็มาถึงประเทศไทย สยามประเทศที่อบอุ่น