ช่วง 13-14 ปี : มัธยมสองแบบเรื่อยๆ เอื่อยๆ ในโลกส่วนตัวที่เงียบลง หลังจากจบมัธยมสองแล้วแม่ยังไม่มีเวลามาอัพเดตชีวิตน้องทัณฑ์เลย เพราะมัวแต่ยุ่งกับธุรกิจที่จำเป็นต้องปิดลงเพราะภาวะโควิด-19 ระบาด ตอนนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะเริ่มลงตัวและเราทุกคนได้กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมอย่างเมื่อสองปีก่อนแล้ว ก็เลยพอจะมีเวลามาเล่าสู่กันฟังและบันทึกความทรงจำในช่วงเวลานั้นเก็บไว้ค่ะ ช่วงปีม.2 ของเกาทัณฑ์เป็นปีที่ค่อนข้างเงียบ ตารางกิจกรรมของโรงเรียนก็เป็นเหมือนม.1 จึงไม่มีอะไรให้ลูกชายตื่นเต้นมากนัก ประกอบกับอยู่ห้องเดิม เพื่อนกลุ่มเดิม และครูประจำชั้นคนเดิม ทุกอย่างก็เลยผ่านไปแบบเดิมๆ จนทำให้เกาทัณฑ์เป็นเด็กที่เงียบมากกว่าเดิม กลับมาจากโรงเรียนก็กินของว่าง เล่นเกมส์ แล้วก็เดินเข้าห้องนอนมีเท่านี้จริงๆ แม่ก็พยายามเข้าใจว่าเริ่มเป็นหนุ่มแล้ว ต้องการโลกส่วนตัวแล้ว แต่ที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคือ ความสูงและเสียงที่แหบจนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ![]() จริงๆ ก็น่าเห็นใจว่าการที่เราทำนู่นทำนี่ก็เป็นการบังคับให้ลูกต้องเปลี่ยนตัวเองตามไปด้วย ตอนม.1 ที่ต้องย้ายไปนอนโฮสเทลเขาก็ต้องตามเราไป ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นด้วย แต่หลังจากสองปีผ่านไปเหมือนทุกอย่างเริ่มลงตัวก็มีอันจะต้องย้ายกลับมาอยู่บ้านอีกแล้ว แต่ก็นับว่าเกาทัณฑ์เป็นเด็กที่เก่งมาก เขาไม่บ่นอะไรเลย พ่อแม่ว่ายังไงก็ทำตามทุกอย่าง ขอให้บอกเหตุผลกับเขาอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้นเอง แต่บางครั้งก็บ่นๆ ว่าคิดถึงโฮสเทลอยู่เหมือนกัน แล้วยังพูดให้เราชื่นใจว่าน้องทัณฑ์ยังไงก็ได้ ขอแค่ให้ได้อยู่กับป่าป๊าหม่าม๊าก็พอ ^^ ![]() ตอนม.2 เราไม่ได้ให้เขาทำกิจกรรมอะไรเพิ่ม นอกจากเรียนเปียโนอย่างเดียว เรียนพิเศษวิชาการก็ไม่ได้ให้เรียนอะไรเลย แต่ปรากฏว่าเธอยังรักษามาตรฐานการเรียนและ GPA ของตัวเองไว้ได้ที่ 3 นิดๆ แม่ก็เลยยังโอเค แล้วจะเล่าต่อใน blog ต่อไปสำหรับการขึ้นม.3 ในช่วงโควิดระบาดจนต้องเรียนออนไลน์กับการจัดฟันค่ะ ^^ |
บทความทั้งหมด
|