ชุมชนบางไส้ไก่ กับการต่อลมหายใจของ "ขลุ่ยบ้านลาว" ในช่วงตอนที่ผมยังเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาอยู่ในโรงเรียนวัดประยุรวงศาวาสแถวฝั่งธนฯ ยังมีช่วงเวลาสั้นๆ ช่วงหนึ่งที่ผมยังจำได้อยู่พอลางๆ ว่าครั้งหนึ่งคุณครูเคยพาผมกับเพื่อนๆ ไปดูนิทรรศการวิชาการที่โรงเรียนศึกษานารีที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ...แค่เดินออกจากหลังโรงเรียนทะลุวัดประยูรฯ ไปก็ถึงแล้ว ที่นั่น...หอประชุมชั้นล่าง มีลุงกับป้าสองคนจากชุมชมวัดบางไส้ไก่กำลังสาธิตการเทตะกั่วที่หลอมละลายเป็นของเหลวให้เกิดลวดลายบนลำขลุ่ยไม้รวก ผมจำได้ว่าผมยืนดูอยู่นานเหมือนกัน... แต่อย่างว่าน่ะครับ การรับรู้ของเด็กอย่างผมก็แค่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเห็น ยังไม่มีความสามารถในการตีค่าความสำคัญหรือความมีคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์และศิลปะซะเท่าไร เวลาผ่านไป คำว่าชุมชนวัดบางไส้ไก่ และวิธีการทำลวดลายดังกล่าวมันเลือนหายไปจากความทรงจำของผม จนเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยหน้าที่ในการหาข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนลาวที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในช่วงกรุงธนบุรี - ต้นรัตนโกสินทร์ ทำให้ผมได้มีโอกาสเดินทางเข้าไปที่ชุมชนวัดบางไส้ไก่เพื่อที่จะไปตามหาขลุ่ยบ้านลาว ที่น่าจะเป็นตัวแทนในเชิงงานฝีมือของชุมชนลาวได้อย่างหนึ่ง บล็อกนี้ผมจะพามาให้รู้จักกับบ้านเล็กๆ หลังหนึ่งในชุมชนวัดบางไส้ไก่ หลังมหาวิทยาลัยราชภัฏสมเด็จเจ้าพระยา ที่ยังคงสืบทอดการทำขลุ่ยที่มีคุณภาพที่สุดแห่งหนึ่ง ที่เรียกโดยทั่วๆ ไปของนักเป่าขลุ่ยว่า "ขลุ่ยบ้านลาว" บ้านของลุงจรินทร์ กลิ่นบุปผา ผู้ซึ่งเสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งที่ตับและลำไส้ เมื่อปลายปี 2549 ไม่นานมานี้เอง ![]() แต่ถึงแม้ว่าลมหายใจของคุณลุงจะหมดไปแล้ว แต่เกียรติคุณที่คุณลุงได้สร้างสมเอาไว้ยังคงต่อลมหายใจให้กับลูกๆ หลานๆ และขลุ่ยบ้านลาวจนถึงทุกวันนี้ ![]() ป้ายให้ความรู้แก่แขกผู้มาเยือน ![]() รูปคุณลุงจรินทร์กับบรรดาลูกศิษย์ ถึงแม้ว่าคุณลุงจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่บรรยากาศภายในบ้านเหมือนกับว่าคุณลุงยังเป็นเจ้าของอยู่เหมือนเดิม เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะมีแต่รูปของคุณลุงที่ถ่ายกับลูกศิษย์ที่คุณลุงไปสอน ถ่ายกับเพื่อนนักดนตรีด้วยกันให้แขกที่เข้าไปอย่างผมได้รับรู้ถึงความรักของลูกหลานและลูกศิษย์ที่มีต่อคุณลุงว่ามีมากน้อยแค่ไหน ![]() พี่สุนัย กลิ่นบุปผาและภรรยา ผู้สืบทอดวิชาการทำขลุ่ย จากคุณลุงจรินทร์ผู้เป็นพ่อ ถ้าพูดถึงขลุ่ยไทยเท่าที่ยังมีขายกันอยู่ในท้องตลาดทุกวันนี้มีที่มาจากแหล่งต่างๆ ที่รู้จักกันดีก็เห็นจะมีขลุ่ยจากบ้านสีแก้ว จังหวัดร้อยเอ็ด บ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี และบ้านลาวบางไส้ไก่ กรุงเทพฯ ซึ่งที่หลังนี้เองที่เป็นแหล่งผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานดีที่สุด ทั้งนี้ชุมชนดังกล่าวสืบทอดมาจากบรรพบุรุษเชื้อสายลาวเวียงจันทน์ที่ถูกกวาดต้อนเข้ามาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ซึ่งชาวลาวเหล่านี้เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นชนชาติที่รักในเสียงดนตรีเป็นอย่างมาก และครอบครัวกลิ่นบุปผานี่เองก็เป็นครอบครัวหนึ่งที่ยังคงสืบทอดวิชาการทำขลุ่ยจากรุ่นปู่รุ่นย่ามาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานจนถึงปัจจุบัน ![]() ไม้ที่เตรียมจะนำมาทำขลุ่ย ![]() เครื่องกลึงที่นำมาใช้ในการทำขลุ่ย ![]() เครื่องเจาะรูสำหรับการทำขลุ่ยจากไม้ท่อน การได้เข้าไปที่บ้านของคุณลุงจรินทร์ครั้งนี้ผมมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะไปขอซื้อขลุ่ยแบบที่มีการตกแต่งผิวขลุ่ยด้วยการเทตะกั่วร้อนให้เป็นลายสีน้ำตาลไหม้ที่ผมเคยเห็นเมื่อตอนเด็กๆ เพื่อที่จะนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง แน่นอนว่าในวันนั้นผมไม่ได้พบกับคุณลุงจรินทร์ แต่ผมได้พบกับพี่สุนัยซึ่งเป็นลูกชายของคุณลุงจรินทร์ที่ยังคงประกอบอาชีพทำขลุ่ยไทยขายอยู่จนถึงทุกวันนี้ ![]() ขลุ่ยแบบนี้ล่ะครับที่ผมต้องการ เลาบนและเลาล่างเป็นขลุ่ยลายดอกพิกุลซึ่งเป็นลายที่ทำยากที่สุด เลากลางเป็นลายกระจับ แต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะยินดีสักเท่าไร เพราะพี่สุนัยบอกว่าการเทตะกั่วร้อนให้เกิดลายบนผิวขลุ่ยนั้นปัจจุบันหาช่างทำไม่ได้แล้ว และเด็กรุ่นใหม่ๆ ก็ไม่มีใครสนใจที่จะทำกันเนื่องจากต้องใช้ความอดทนและความชำนาญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลายดอกพิกุลที่ถือว่าเป็นลายที่สวยที่สุด และพี่สุนัยเองก็เหลือขลุ่ยแบบดังกล่าวแค่ 3 เลาเท่านั้นเอง ซึ่งก่อนหน้าที่ผมมาก็เพิ่งจะมีคนติดต่อขอซื้อไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เหมือนกัน แต่ด้วยความใจดีของพี่สุนัยที่อยากให้เยาวชนรุ่นหลังได้เห็นความงดงามที่อยู่บนลำขลุ่ยไม่รวกนั้น พี่เขาได้สละขลุ่ยที่เหลืออยู่นั้นมาให้ผม 1 เลา และเป็นเลาที่สวยที่สุดเท่าที่เหลืออยู่ เพื่อนำไปจัดแสดง โดยที่ผมก็มีค่าตอบแทนให้เล็กๆ น้อยๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามผมว่ามันเทียบไม่ได้กับคุณค่าทางฝีมือและเรื่องราวของขลุ่ยตระกูลกลิ่นบุปผาแม้แต่น้อย ![]() ไม้แบบที่เป็นตัวเทียบตำแหน่งในการเจาะรูขลุ่ย ![]() พี่สุนัย กับผลงานของตัวเอง ที่เรียกว่า พญางิ้วดำ เป็นขลุ่ยที่ทำจากไม้เนื้อสีดำ ของจริงสวยมากๆ และราคาก็ไม่ใช่น้อย ![]() นอกจากจะทำขลุ่ยแบบโบราณแล้วก็ยังทำขลุ่ยจากท่อ PVC ที่รุ่นเด็กๆ สมัยนี้ใช้เรียนตามโรงเรียนทั่วๆ ไปด้วยนะครับ ในวันนั้น... ผมสามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปภาระกิจหนึ่ง แต่สิ่งที่ได้นอกเหนือจากนั้นคือ ความสุขใจที่ได้เป็นผู้ฟังและผู้รับการถ่ายทอดความภาคภูมิใจของคนในตระกูลกลิ่นบุปผาในการสืบทอดวิชาการทำขลุ่ย และความสุขใจนั้นเองได้แปรเปลี่ยนมาเป็นสัญญาใจในการที่จะกลับมาประชาสัมพันธ์ต่อๆ ไป เพื่อให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ว่า ขลุ่ยบ้านลาว เป็นขลุ่ยที่มีคุณภาพที่สุดแห่งหนึ่ง และยังไม่เลือนหายไปจากประเทศไทย ![]() ไม่มีความรู้ทางด้านนี้มาก่อนเลยค่ะ แต่เคยเรียนเป่าขลุ่ยตอนเด็กๆ ขอบคุณที่เล่าสู่กันฟังนะคะ
![]() โดย: Picike
![]() เพิ่งรู้ว่าในกรุงเทพก็มีการทำขลุ่ยด้วย
ชอบขลุ่ยพญางิ้วดำ สวยมากเลยค่ะ วันนี้เข้ามาโหวตให้คุณต๋องด้วยล่ะ ![]() โดย: Petit Patty
![]() ตอนเด็กเคยเรียนเป่าขลุ่ยล่ะ
ถึงจะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ก้อรู้สึกผูกพัน แต่ถ้ามันต้องหายไปจิงๆก้อน่าเสียดายนะคะ โดย: annie_martian
![]() แวะเข้ามาอ่านเรื่องราวดีๆ มีสาระความรู้ฮับ
![]() ไม่อยากจะคุยเลย ว่าหนอนก้อเคยเรียนเป่าขลุ่ยด้วยแระ...อิอิ ![]() เมื่อตอนสมัยที่นู๋ยังใส่คอซองอยู่เลยอ่ะฮับ ![]() (กำเวง...พูดยังกับมันนานมาแล้ว ![]() ![]() ![]() แต่ว่าตอนนั้นไอ้หนอนมันไม่ค่อยใฝ่ดีอ่ะ ก้อเลยเรียนแค่พอให้มันผ่านๆ ได้คะแนนพ้นๆไป ~T_T~ มาถึงตอนนี้แล้ว ก้อนึกเสียดายโอกาศจัง อยากเล่นได้อีกจังเลย ![]() จาได้เอามาเป่าโชว์เพื่อนๆที่นี่ให้มัน ได้ อึ่ง ทึ้ง เสียว ![]() ![]() ![]() ปล...หนอนไม่แน่ใจว่า ขลุ่ยบ้านลาว ที่พี่ต๋องพูดถึงอยู่เนี้ย มันใช่อันเดียวกับ ขลุ่ยเพียงอ่อ ที่หนอนเคยเรียนมาหรือป่าว แต่นู๋ดูๆแล้วมันก้อคล้ายๆกันน่ะฮับ แต่ไม่ค่อยแน่ใจ...แหะๆ ![]() ![]() โดย: หนอนน้อยฮับ ^^ (Little Worm
![]() ขลุ่ยลายสวยจัง ไม่เคยเห็นขลุ่ยลายสวยขนาดนี้จริงๆเลยนะนี่
โดย: zmen
![]() ไม่อยากให้สิ่งดีๆ เหล่านี้หายไปไหนเลยค่ะ
เพราะถือว่าเป็นงานฝีมือ ที่ไหนๆ ก็คงทำได้ไม่เหมือน อยากให้เค้ามีการอนุรักษ์และสอนให้เด็กๆ รุ่นใหม่ ได้รู้จักวิธีการทำเอาไว้ อย่างน้อย ๆ ถือว่าหายาก แต่ก็ยังอยากให้มีการอนุรักษ์เอาไว้อยู่ ไม่อยาก ให้สูญหายไปไหนเลย ... ................... ว่าแล้วเดี๋ยวอาจจะไปหยิบขลุ่ยแบบนี้มาเป่าเล่น ให้กระแทกหูบ้านข้างๆ หน่อย อย่างน้อยๆ เล่นเพลง ไม่เป็นเพลง อาจจะดีกว่าการได้ฟังหมาเห่ารายวัน นะคะ อ้ออย่างน้อยๆ คนเป่าก็เป่าด้วยความจริงใจล่ะ ![]() ![]() ![]() โดย: JewNid
![]() ![]() เคยเรียนขลุ่ยสมัยประถม ได้ออกงานระดับประเทศด้วยน๊า ...
![]() ............................ เดี๋ยวนี้ขลุ่ยแบบนี้ไม่ค่อยหาได้ง่ายๆแล้วอ่ะครับ มีแต่แบบพลาสติกแบบพีวีซีอ่ะ เป่าแล้ว "โลกร้อน" เหอเหอ ![]() ....................................... ![]() ![]() โดย: ผู้ชายชื่อต้น ผู้หญิงชื่อพิม
![]() สมัยประถมเคยเรียนเป่าขลุ่ย ขลุ่ยของเราลายแบบนี้เลย
เสียงเพราะมาก ต่อมามันหายไป เสียดายสุดสุด ไปซื้อมาใหม่ ได้ขลุ่ยท่อ pvc สีงามา เป่าแล้วเสียงไม่เพราะเหมือนขลุ่ยไม้ เลยหละ.. เห็นภาพแล้ว คิดถึงขลุ่ยไม้อันเก่าจัง โดย: แอนน์ (a_mulika
![]() บล๊อกเน้ แน่นดีนะ เคยมีขลุยไม้ลายหยั่งว่า 1 เลา นานมาแล้วมั๊ง .. ลืมแม้กระทั่งว่าจะเป่ามันยังไง อยากให้ดนตรีและเครื่องดนตรีพื้นบ้าน จากภูมิปัญญาบ้านๆที่สืบทอดกันมา อยู่ยั้ง .. ยืนยง ไม่ใช่แค่เครื่องประดับบ้าน ที่ได้แต่แขวนโชว์แต่ไม่รู้วิธีการเล่น คนที่ทำก็จะได้มีกินไปด้วย ไม่ทิ้งขว้างมาดกตกทอด มันจะเป็นนิทานร้อยบรรทัดอีกรึเปล่าก็ไม่รู้นะ ![]() ปล.ถ้ามีเสียงขลุ่ยบรรเลง คงขลังน่าดูเน๊อะ โดย: ดาวทะเล
![]() ![]() 3 เด้งเลยล่ะ....แหล่ม โดย: อุ้มสี
![]() โรงเรียนยานนาเวศ กทม
ยานนานวา ถนนสาธุ นักเรียนมีความประสงค์อยากไปศึกากับคุณลุงมาก แต่จะติดต่อได้ที่ไหน อย่างไรค่ะ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ โดย: ยานนานวา IP: 58.8.33.143 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:20:28:39 น.
ลุงจริน เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ตอนนี้ก็มีลูก ๆ หลาน ๆ ทำอยู่
ชุมชน บางไส้ไก่ มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่หายไป สมัยก่อน นอกจากขลุ่ย ก็จะมีแคน เดี๋ยวนี้แคนหายไปแล้ว แล้วก็มีบ้าน ศิลปะไทย ของ ป้าน้อย - ลุงสุข ซึ่งตอนนี้ก็ชรามาก ๆ ถ้าต้องการมา ก็มาที่ ถนนอิสรภาพ เขตธนบุรี อยู่ในซอย อิสรภาพ 15 ซอยเดียวกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เลยมหาวิทยาลัยมา จนถึงวัดบางไส้ไก่ แล้วถามชาวบ้านแถวนั้นได้เลย ก็จะมีคนบอกทางให้ โดย: เด็กวัดลาว IP: 202.29.54.58 วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:14:44:15 น.
ขลุ่ยไม้ไผ่ลุงจรินทร์ราคาเท่าไรครับ
โดย: ขลุ่ย IP: 125.27.115.246 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:10:40:43 น.
ขอทราบราคาขลุ่ยไม้ไผ่ กับขลุ่ยพลาสติกหน่อยค่ะ ทั้งราคาปลีก และราคาส่งเลยนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ โดย: ไลล่า IP: 112.142.241.177 วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:9:48:23 น.
ขลุ่ยบ้านลาวสุดยอดมากเลยครับ
ไม่เคยเห็นมาก่อนผมมีอยู่ 2-3 เลาครับ สุดยอดเสียงดีมากเลยครับ โดย: ขลุ่ยไม่รวก IP: 125.27.138.221 วันที่: 30 ตุลาคม 2552 เวลา:14:40:47 น.
ผมเป็นคนชอบเล่นขลุ่ย ผมอยากมีความรู้เกี่ยวกับการทำขลุ่ยครับเพราะผมอยากทำขึ้นมาเพื่อเล่นเอง
พี่สุนัยช่วยสอนผมนะครับ โดย: ฮัท IP: 125.24.61.145 วันที่: 25 ธันวาคม 2553 เวลา:20:25:17 น.
ถ้าพี่จะสอนติดต่อผมได้0848808583
โดย: ฮัท IP: 125.24.61.145 วันที่: 25 ธันวาคม 2553 เวลา:20:26:39 น.
เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ผมอยากได้ขลุ่ยมาก เดินเข้าไปครับ แต่ก็เดินกลับออกมาแบบ ไม่ได้อะไรเลย เหมือนจะหลงๆ และไม่กล้าถามคนแถวนั้น วันนีอยากไปอีกครั้ง จะต้องได้ขลุ่ยกลับมาให้ได้
โดย: หนึ่ง IP: 192.168.30.254, 124.120.171.124 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:20:04:15 น.
สั่งซื้อได้หรือเปล่าครับ เบอร์ผม 0838281848
โดย: วุธ IP: 125.27.165.21 วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:15:01:08 น.
ยายองุ่่น มาริศรี อายุ 80 ปี มีอาชีพทำขล่ยสืบต่อจากพ่อและแม่ของคุณยาย ตอนนี้เทขลุ่ย ทำลายไม่ไหว
แล้วตาไม่ดี อายุมากแล้วค่ะ ดีใจที่ลูกหลานคนไทยยังสนใจขลุ่ยไทยอยู่ โดย: ยายองุุ่น มาริศรี IP: 101.108.7.69 วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:14:57:41 น.
ลุงจรินทร์ กลิ่นบุปผา ราชาขลุ่ย
ผู้เริ่มลุย ฟันฝ่า หาขลุ่ยใหม่ นำไม้แก่น สวยหรู เจาะรูไป ประดิษฐ์แทน ไม้ไผ่ ใช้ได้ดี โดย: ครูปัญญา IP: 118.172.188.233 วันที่: 31 มกราคม 2556 เวลา:7:03:05 น.
หนูเป็นคนที่สนใจขลุ่ยมากเลยค๊ะเคยไปเเข่งถึงระดับภาคจะได้ไประดับประเทศเเล้วเชียวเสียดายหนูสนใจจังเลยสั่งซื้อได้หรือป่าว เบอร์หนูค่ะ081-2507725
โดย: อ๋อมเเอ๋ม IP: 101.51.144.78 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:31:05 น.
ผมซื้อมาแล้วครับ
โดย: จรัญ IP: 203.148.177.254 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:54:52 น.
ช่างทำขลุ่ยที่ผมไปพบมา เป็นกันเองมากๆ คุยสนุกครับ
โดย: จรัญ IP: 203.148.177.254 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:56:39 น.
prezzo cialis generico tadalafilise.cyou/#
โดย: Kevinjoync IP: 37.139.53.22 วันที่: 21 สิงหาคม 2566 เวลา:5:28:51 น.
|
บทความทั้งหมด
|
เรื่องขลุ่ยบางใส่ไก่เนี่ย
เรื่องนาบลายด้วยความร้อนนี่
เคยรู้มาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กแล้วน้า
อ่านแล้วคาดว่าน่าจะมีที่มามาจากบ้านบางใส่ก่ายนี่แหละ
ตอนเด็ก ๆ น้าเคยซื้อมาฝากอันนึง
แต่น่าจะเป็นของเลียนแบบมากฝ่า
ฟังเสียงจลุ่ยตอนกลางคืนระวังผีจะมาหาเด้อ