Museum of Siam (Discovery Museum) 2 บล้อกที่แล้ว ผมเอาภาพด้านนอก และบริเวณโถงบันไดกลางของอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรมาให้ชมกันแล้ว บล้อกนี้ก็จะพาไปดูห้องจัดแสดงต่างๆ นะครับ อ้อ.. จะบอกว่า การเข้าชมนิทรรศการที่นี่ เราจะต้องเดินตามทิศทางที่ผู้จัดกำหนดให้ ทิศทางจากห้องหนึ่งไปห้องหนึ่งมีทางเข้าทางเดียว ทางออกก็ออกอีกทางหนึ่ง เรียงลำดับเนื้อหาไปเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำเส้นทางและการใช้สื่อจัดแสดงในแต่ละจุด เข้ามาชมกันเลยดีกว่า (Information Counter) ![]() ตรงนี้ผู้เข้าชมสามารถขอรับเอกสารแผ่นพับที่เป็นแผนที่ของห้องจัดแสดงต่างๆ ภายในตัวอาคาร และพื้นที่บริเวณโดยรอบตัวอาคาร .. น้องๆ ที่ทำหน้าที่ต้อนรับอยู่ตรงนี้น่ารักครับ รู้สึกว่ากระตือรือร้นที่จะให้บริการผู้เข้าชมได้ดี เมื่อเรารับแผ่นพับเรียบร้อยแล้วทางซ้ายมือจะเป็นห้องเบิกโรง ภายในห้องนั้นจะแสดงภาพยนตร์ที่เกริ่นนำเรื่องราวต่างๆ ก่อนที่จะเข้าไปชมนิทรรศการในห้องต่อไป โดยภาพยนตร์ที่ฉายจะมีเวลาประมาณ 5 นาที โดยด้านหน้ามีนาฬิกาดิจิตอลนับถอยหลังเพื่อให้ผู้เข้าชมที่มาไม่ทันรอบที่ฉายยืนรอได้ดูว่าเหลือเวลาที่จะยืนรอรอบต่ออีกเท่าไร แต่ระหว่างยืนรอก็สามารถเข้าไปชมห้องตึกเก่าเล่าเรื่องที่อยู่ด้านหลังเคานเตอร์ประชาสัมพันธ์ได้ (Building Exhibition) ![]() พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์องค์แรก และเป็นต้นสกุลกิติยากร ตึกเก่าเล่าเรื่อง เป็นการจัดแสดงประวัติของการใช้พื้นที่บริเวณที่จัดตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งวังของพระบรมวงศานุวงศ์ เรื่อยมาจนกระทั่งมีการจัดตั้งกระทรวงพาณิชย์ขึ้น จึงได้มีการสร้างอาคารดังที่เห็นในปัจจุบัน ![]() แต่อย่างไรก็ตาม การจัดแสดงในห้องนี้ยังให้ความรู้สึกเหมือนจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ซะทีเดียว (Immersive Theatre) ![]() แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะครับว่าเป็นโรงฉายภาพยนตร์ ก็จะมีแต่จอสีขาวๆ กับเก้าอี้รูปทรงธรรมดาที่แทบจะนอนเล่นได้เลย ...แต่คงยังไม่ทันได้หลับอย่างสบายหรอกครับ เพราะภาพยนตร์ที่นำมาเกริ่นนำนั้นสั้นนิดเดียว... และเมื่อดูจบแล้วน้องๆ ที่คอยดูแลอยู่ก็จะเปิดม่านให้ผู้ชมเดินเข้าไปชมนิทรรศการในห้องต่อไป นั่นคือ ...ห้องไทยแท้ (Typically Thai) (Typically Thai) ![]() ไทยแท้ เป็นส่วนจัดแสดงแคบๆ แต่มีองค์ประกอบที่ค่อนข้างเยอะ จนอาจจะดูอึดอัด เหมือนเวลาเราเดินเข้าไปในตลาด อยากจะบอกว่าทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างที่จัดแสดงอยู่ในนั้นต้องสังเกตและนึกคิดซักนิด ซึ่งคำบรรยายที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ จะบอกใบ้ให้รู้ว่าผู้จัดต้องการจะสื่อว่าอะไร ในห้องนี้เองที่จะเริ่มทำให้คนดูฉุกคิดว่า ไทยแท้ ที่เราๆ พยายามจะยกยอปอปั้นว่าสิ่งต่างๆ เราเป็นคนเริ่ม เป็นคนผลิต ที่แท้แล้วบ้านอื่นเมืองอื่นเขาก็มีกันเพราะมันเป็นวัฒนธรรมร่วม หรือ..สิ่งนั้นที่เรามักจะเข้าใจว่าเป็นของเมืองไทย แต่จริงๆ แล้วประเทศอื่นเมืองอื่นเป็นคนผลิตต้นแบบ อย่างเช่น รถตุ๊กๆ เป็นต้น ![]() ![]() ดูแล้วน่าคิดกว่าพิพิธภัณฑ์แนวคิดชาตินิยมเป็นไหนๆ (Introduction to Suvarnabhumi) ![]() เมื่อออกจากห้องไทยแท้แล้ว ผู้ชมจะต้องเดินขึ้นบันไดที่อยู่ตรงหน้าทางออกของไทยแท้นี่แหล่ะ เพื่อที่จะขึ้นไปชมนิทรรศการในหัวข้อต่อไปบนชั้นที่ 3 ซึ่งก็คือห้องเปิดตำนานสุวรรณภูมิ ทำไมต้อง "สุวรรณภูมิ" ด้วยล่ะ ผมเข้าใจว่า ผู้จัดเอาคำว่า สุวรรณภูมิ มาใช้เป็นคำที่อธิบายถึงความมั่งคั่งของดินแดนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นแผ่นดินได้ดีที่สุด มากกว่าการศึกษาแบบเดิมๆ ที่จะกำหนดอายุสมัยวัฒนธรรมเป็นสมัยหินเก่า สมัยหินใหม่ สมัยโลหะ สมัยทวารวดี สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา เหมือนแบบขนมชั้นแบบที่เราๆ สมัยเด็กๆ เข้าใจกัน ... ![]() ในการศึกษาเรื่องราวของคนในสมัยโบราณ ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไม่เคยมีตัวหนังสือบันทึกเรื่องราวต่างๆ จำเป็นต้องใช้วิชาความรู้ทางโบราณคดีที่ได้จากการขุดค้น วิเคราะห์ชั้นดิน ชั้นวัฒนธรรม มาอธิบายเรื่องราวหรือกิจกรรมของมนุษย์โบราณ ด้วยเหตุนี้ส่วนหนึ่งของห้องเปิดตำนานสุวรรณภูมิก็จะให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานทางโบราณคดี โดยมีนักโบราณคดี ร.ศ.ดร.รัศมี ชูทรงเดช แห่งภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ตัวจริง เสียงจริง มายืนตอบคำถามให้ทั้งวัน ![]() ![]() นอกจากนี้ผู้ชมนิทรรศการยังสามารถแฝงตัวเป็นนักโบราณคดี ใช้แปรงปัดดินปัดทรายเพื่อเปิดเผยให้เห็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญๆ พร้อมทั้งรับทราบเกร็ดความรู้เกี่ยวกับวัตถุชิ้นนั้นๆ ![]() (Suvarnabhumi) ![]() ห้องนี้น่าจะเป็นห้องจัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดก็ว่าได้มั้งครับ .. เนื้อหาก็มีความหลากหลายครอบคลุมสังคม วัฒนธรรมของชุมชนชาวสุวรรณภูมิ ซึ่งผู้จัดคงอยากจะบอกว่าชาวสุวรรณภูมิก็คือคนรุ่นก่อนๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยนี่แหละ ไม่ได้อพยพมาจากที่ไหน แล้วก็ไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่มีเอกลักษณ์หนึ่งเดียวเท่านั้น แต่จะหมายรวมไปถึงกลุ่มคนหลายๆ กลุ่มตามป่าเขา ตามที่ราบลุ่มน้ำ หรือชายฝั่งทะเล และคนพวกนี้เองก็รับเอาวัฒนธรรมจากข้างนอกเข้ามาปรับใช้เกิดเป็นลักษณะของตัวเอง นอกจากนี้ทรัพยากรธรรมชาติในดินแดนสุวรรณภูมิก็มีอย่างอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นของป่า แร่ธาตุ ที่ล่อให้คนที่อยู่ไกลโพ้นทะเลต่างแสวงหาโอกาสเข้ามาหาผลประโยชน์ในสุวรรณภูมิ ![]() บอร์ดนี้แสดงให้เห็นลักษณะทางกายภาพของเด็กๆ ที่หลากหลาย อันแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางชาติพันธุ์ของกลุ่มคน ในดินแดนสุวรรณภูมิ ![]() ![]() เด็กกำลังเล่นเกมส์จาก touch screen computer โดยสวมบทเป็นพ่อค้าเอาของจากดินแดนของตัวเอง ไปแลกเปลี่ยนซื้อขายกับพ่อค้าต่างแดน ![]() นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงด้วย VDO ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการผลิตโลหะให้ดูเพลินๆ สนุกสนาน ดีกว่ายืนอ่านตัวหนังสือหรือภาพลายเส้นนิ่งๆ แบบเก่าๆ เดิม (Buddism) ![]() ห้องนี้ไม่เล่าอะไรดีกว่า อยากให้ไปดูเอง เพราะดูอะไรได้ไม่ละเอียดนัก ...มันร้อน แต่ใครเหนื่อยก็จะเข้าไปนอนฟังธรรม แล้วหลับไปเลยก็ได้ ไม่มีใครสังเกตหรอก มันมืดมาก... ล้อเล่น!!! ![]() เดี๋ยวค่อยมาต่อห้องต่อไปที่บล้อกหน้านะครับ พิพิธภัณฑ์นี้อยู่ที่ไหนอะครับ น่าไปมั่งจัง มีโปสการ์ดสวยๆ จากเกาะไข่ พังงา (ที่ถ่ายเองกับมือ) มาฝากครับ ![]() คลิกที่ภาพเพื่อตามมาเที่ยวเกาะไข่ในด้วยกันได้เลยนะครับ โดย: มิสเตอร์ฮอง
![]() ใช่ที่อยู่ตรงโรงเรียนวัดราชบพิธหรือเปล่าคะ
ถ้าใช่...เที่ยวพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว ขอแอบแนะนำก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยที่อยู่ใกล้กับวังจักรพงษ์ ฝั่งตรงข้ามพาณิชย์ตั้งตรงจิต (ร้าน co co อะไรซักอย่าง) อร่อยดีค่ะ ![]() โดย: รัตตะ (ratta
![]() |
บทความทั้งหมด
|
ที่มีอะไรให้เราได้ไปดู และได้เห็น และก็พร้อมกัน
ก็ได้ศึกษาว่า บ้านเรา เมืองเรา มีอะไรน่าสนใจบ้าง
....
ซึ่งที่เห็นจากภาพและบล็อกเก่าด้วย .. โห
ไม่อยากพูดเลยค่ะว่า น่าสนใจมากๆ เลย น่าไป
มีโอกาสแล้วอยากไปเดินจังเลย คาดว่า
น่าจะเร็วๆ นี้ค่ะ