"ItaLy Tia Mo”: Siena: เมืองโกธิคในฝัน

ฉันคิดว่าฉันชอบการขับรถท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ หรือเพราะแก่แล้ว ให้หิ้วเป้เป็น Backpack ตะลอนต่อรถ ต่อเรือหลายทอด ก็คงไม่ไหว เรามีความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลามาก อยากแวะไหนก็แวะ มิน่าเพื่อนร่วมทางเรียกฉันเสมอว่า “คุณนาย”อีกอย่างฉันไม่ชอบเที่ยวกับทัวร์ เพราะไม่ได้สัมผัสชีวิตชาวบ้านนัก ทัวร์มักไปแต่จุดใหญ่ๆ ถ่ายรูป แล้วก็เหมือนเห็นแล้ว
การเที่ยวแบบเนิบช้านั้น ในเรื่องการเลือกเส้นทางของการขับรถก็ถือว่าสำคัญเช่นกัน เราเลือกเดินทางด้วยถนนเล็กๆ หลีกเลี่ยงถนนไฮเวย์ เพื่อระหว่างทางเราที่เราได้ขับผ่าน จะได้เห็นหมู่บ้านเล็กๆ น้อยๆ เนินเขาเตี้ยๆ ไล่ระดับกันไป มีไร่ Wine สลับกับดงมะกอก โดยมีต้นไซเปรสต้นชะลูดปลูกไว้เป็นแนวกันลม

บรรยากาศยามเช้า บนถนนสายเล็ก ขับรถสบายๆ จากเมืองหนึ่งไปยังเมืองหนึ่ง



ความงดงามของทุ่งดอกมัสตาร์ด สีเหลืองอร่ามข้างทาง เมล็ดมัสตาร์ดที่แก่จัด ก็คือ มัสตาร์ดที่เราจิ้มกินกับไส้กรอกนั่นเอง



เราแวะซื้อวัตถุดิบต่างๆ ในตลาดสด ตระเตรียมปิกนิกข้างทางใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ว่าไปแล้วการเดินตลาดสด เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสชีวิตแบบอิตาเลียนแท้ๆ



Siena ฉันเคยมาเยือนเมืองนี้เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ในวันที่ได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกเหมือนตัวเองย้อนเวลากลับไปหาอดีต ฉันยังจำร้านกาแฟที่เคยนั่ง ถนนเส้นนั้นที่เคยเดินเหยียบย่ำ ผนังกำแพงเมืองเก่ายังคงบอกเล่าเรื่องราวเมื่อสองพันปีก่อน



Siena ในอดีตเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากอีกเมืองหนึ่ง เพราะตั้งอยู่บนถนนสายสำคัญที่เชื่อมระหว่างกรุงโรมกับนครปารีส Siena ถูกจัดให้เป็นจุดพักแรมถัดจาก San Gimingano เพราะอยู่ห่างกันแค่ 40 กิโลเมตรเหมาะสำหรับระยะการเดินทางในหนึ่งวันของกองคาราวานขนสินค้า Siena เองก็ประสบชะตากรรมเมื่อเกิดโรคระบาดใหญ่ในยุโรป ทำให้จำนวนประชากรลดฮวบฮาบ พร้อมทั้งมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งสาเหตุเกิดจากความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรและศาสนจักร



Siena เป็นเมืองขนาดเล็ก แต่ยังคงรักษาบรรยากาศเมืองบนเนินเขาไว้ โดยเฉพาะอาคารบ้านเรือนของคนที่นี่ สร้างด้วยอิฐจะมีความสูงต่ำลดหลั่นกันไปและเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินแคบๆ และตรงกลางช่วงรอยต่อระหว่างตึกบางแห่งจะทำเป็นโค้งตรงกลางคล้ายซุ้มประตู เป็นเสน่ห์แบบตึกยุกกลางจริงๆ UNESCO ได้ประกาศให้ Siena เป็นเมืองมรดกโลกเมื่อปี 1995



สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของที่นี่คือ
วิหาร Duomo in Sienna สร้างขึ้นตามแบบ Gothic ในสมัยต้นศตวรรษที่ 12 และยืดเยื้อจนไปเสร็จในอีก 200 ปีต่อมา จุดเด่นของตัวมหาวิหารนี้อยู่ตรงหินอ่อนสีขาวตัดกับแถบสีดำ ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของเมือง วิหารแห่งนี้เต็มไปด้วยงานแกะสลัก ภาพเขียนผนังเฟรสโก ประติมากรรมของ Michael Angelo และ Bernini






Campo Square รูปทรงเหมือนเปลือกหอยที่ลาดเอียงไปตรงกลางจัตุรัส พื้นปูด้วยหินสีแดงแบ่งออกเป็น 9 ส่วนด้วยกัน เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของคณะผู้ปกครองทั้ง 9 คนที่ปกครองเมือง Siena ในยุคศตวรรษที่ 13-14 ซึ่งนับเป็นยุคทองของเมือง



San Domenico



Palazzo Pubblico วังพับบลิโก



เสน่ห์ของ Siena คืองานเฉลิมฉลองของเมืองที่เรียกว่า Palio หรือเทศกาลแข่งม้า โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 2 เดือนกรกฎาคมและวันที่ 16 สิงหาคม สถานที่จัดแข่งม้าคือพื้นที่กว้างหน้าศาลาว่าการเมือง Siena ว่าไปแล้วงาน Palio ก็คือการแข่งม้าธรรมดาๆ เป็นการแข่งม้าเพียงรอบเดียวโดยที่ม้าแข่งจะวิ่งรอบสนาม 3 รอบ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ฟังดูเหมือนจะไม่สนุก แต่สิ่งที่ทำให้งาน Palio มีสีสัน คือขบวนพาเหรดที่สนุกสนานและสวยงาม จนมีผู้คนหลั่งไหลมาเมืองนี้กันนับหมื่นนับแสนคนเลยทีเดียว



ชื่อนี้น่าจะคุ้นๆ กันเนอะ เพราะเหมือนที่เขาใหญ่เลย



วันนี้ฉันกลับไปนั่งร้านกาแฟร้านเดิม สั่งเครื่องดื่มแบบเดิม สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคงเป็นสกุลเงินที่ใช้ จากเงินลีร์ มาเป็นยูโร ทำให้อดคิดถึงกฎธรรมชาติไม่ได้ว่า ทุกสิ่ง เกิดขึ้น คงอยู่ แล้วก็ดับไป คนเราจะถูกกดดันด้วยสภาพแวดล้อมที่หนักหนาเพียงใด โจทย์ในชีวิตจะยากแค่ไหน แล้วมันจะผ่านพ้นไป หรือมีหนทางคลี่คลายไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่ดี

Create Date : 09 พฤษภาคม 2554 Last Update : 9 พฤษภาคม 2554 21:26:05 น. Counter : 1817 Pageviews.		2 comments
Share Tweet

	พาเที่ยววัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ขอพรวัดเก่าใจกลางเมืองรับปีใหม่ไทย นายแว่นขยันเที่ยว (15 เม.ย. 2567 13:57:04 น.)		Slow Life ในเมืองเลย Alex on the rock (15 เม.ย. 2567 07:44:23 น.)
	++ พระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม ++ wicsir (13 เม.ย. 2567 10:29:52 น.)		ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มฟื้นคืนชีพ สวยสุดซอย (12 เม.ย. 2567 14:13:40 น.)