ก็ว่าจะไม่รัก Just You บทที่ ๔ (Yuri) ๔
เช้าวันรุ่งขึ้นกรองแก้วในชุดนักศึกษาเดินสะลึมสะลือลงมาจากชั้นสองสายกว่าปกติ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับนักมัวแต่ฟุ้งซ่านคิดวกวนกับคำพูดของสุธาสินี ที่ผ่านมา เธอรู้ประวัติเรื่องผู้หญิงที่หล่อนเคยควงมักจะสวยเริ่ดเสมอ หากเปรียบเทียบกันตามจริง หน้าตาของตนสู้อดีตคนรักของร่างสูงไม่ได้เลยสักคนยิ่งรายล่าสุดรัศมีแขเคยเป็นถึงอดีตดาวคณะ แม้ปัจจุบันจะเรียนอยู่ปีสี่ แต่ยังจัดเป็นคนงามอันดับต้นๆของมหาวิทยาลัย ซึ่งเธอรู้แก่ใจว่า ตนสวยไม่ได้ ๑ ใน ๑๐ของรัศมีแขเลยด้วยซ้ำ คนสมบูรณ์แบบอย่างนั้นจะมาสนใจผู้หญิงธรรมดาๆ แบบเราได้อย่างไร เธอใช้ชีวิตผ่านมายี่สิบเอ็ดฝนยังไม่เคยมีหญิงชายผู้ใดมาเกี้ยวพาราสีเลยสักครั้งพอคิดแบบนี้ยิ่งทำให้เคลือบแคลงสงสัยมากขึ้นไปอีก จู่ๆ สุธาสินีต้องการคบหากับตน ต้องมีเจตนาบางอย่างแอบแฝงแน่นอน หรือศักดิ์จะเดาผิด...คนอย่างเราใครเขาจะมาสนใจ บุ้ยใบ้โยนความผิดไปให้เพื่อนสนิท กว่าจะหยุดคิดแล้วเข้านอนจริงๆ ก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า จึงไม่แปลกที่จะตื่นสายกว่าปกติ ง่วงชะมัดเลย สาวแว่นหาวหวอดๆ โดยไม่ลืมที่จะป้องปาก เมื่อคืนนอนดึกเหรอลูกขอบตาคล้ำอย่างกับหมีแพนด้า บิดาของเธอทักขึ้น เกริกพ่อหม้ายลูกสองเจ้าของอู่ซ่อมมอเตอร์ไซค์อยู่แถวตลาด แม้จะเป็นธุรกิจไม่ใหญ่โตแต่เขาก็ภูมิใจที่ไม่มีหนี้สิน และเลี้ยงลูกได้โดยไม่ต้องแบมือขอใคร กวินที่เรียนปีหนึ่ง ก้มหน้าก้มตาตักข้าวต้มทานอย่างเร็วมีนัดเตะบอลกับเพื่อนๆ ที่มหาลัย ปรายตามองพี่สาว แต่ไม่พูดอะไร นิดหน่อยค่ะ หญิงสาวไม่กล้าตอบถึงสาเหตุแท้จริงที่ทำให้นอนดึกก่อนทรุดตัวนั่งที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีข้าวต้มหมูร้อนๆ ฝีมือบิดาตั้งอยู่ โดยไม่ลืมพูดขอบคุณค่ะ ก่อนเริ่มรับประทาน เปิดเรียนวันแรกเป็นไงบ้างล่ะ?เกริกถามไถ่เรื่องเรียนอย่างสนอกสนใจ การที่มีลูกสาวเรียนเก่งเกรดเฉลี่ยสูงจนมีโอกาสได้เกียรตินิยม ทำให้เขาภาคภูมิใจเหลือเกินและอดไม่ได้ที่จะพูดอวดกับลูกค้าอยู่บ่อยๆ ...สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ชีวิตนี้ไม่มีเรื่องอะไรน่าภูมิใจมากไปกว่าเรื่องลูกอีกแล้ว ก็ดีค่ะ กรองแก้วตอบเสียงเนือยๆ ปกติเธออ่านหนังสือจบก่อนเปิดเรียนเสมอเวลาเรียนจึงเหมือนไปนั่งฟังอาจารย์พูดทบทวน อะไรที่ไม่เข้าใจก็สอบถามให้กระจ่างพอเรียนจบก็กลับมาอ่านทบทวน หลักการนี้ได้มาจากรุ่นพี่ที่เรียนเก่ง และทำมาตลอดตั้งแต่เรียนมัธยมฯจึงไม่แปลกที่จะสอบได้คะแนนสูงเป็นเด็กทุนมาตลอดสี่ปี แล้วกวินล่ะเป็นไงบ้าง? พ่อหันมาถามลูกชายบ้าง ก็ดีครับ อีกฝ่ายตอบหลังกลืนข้าวลงคอ อย่ามัวแต่เล่นล่ะเราตั้งใจเรียนหน่อย เข้าใจไหม? เกริกเตือน ครับ ลูกชายขานรับคำเสียงยาวหลังตักข้าวคำสุดท้ายหมดก็ลุกยืน นำชามไปล้างที่อ่าง ผมไปก่อนนะครับมีนัดเตะบอล อย่ากลับบ้านเย็นนักล่ะ พ่อส่ายหน้า กับนิสัยเอาแต่เล่นของอีกฝ่ายที่ไม่ค่อยเอาจริงเอาจังเท่ากับพี่สาว ครับ เขารับคำหลังล้างจานเสร็จ คว้ากระเป๋า พรวดพราดออกจากบ้านไป สาวแว่นทานข้าวอย่างเงียบๆ เหมือนครุ่นคิดหนักอะไรอยู่ ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย? เกริกนึกบ่นลูกสาวในใจ ลูกพึ่งอายุยี่สิบเอ็ดเองนะถ้าทำหน้าแบบนี้นานๆ อีกสักปีสองปี หน้าลูกจะดูแก่เป็นสาวสามสิบได้เลยล่ะ แกล้งพูดยั่วโมโหออกมา ไม่ขนาดนั้นซะหน่อย เธอส่งค้อนวงโตให้เขา บิดาหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี ก่อนเอ่ยดักคอออกมา พ่อไม่ว่าหรอกนะถ้าลูกจะมีแฟน ฉึก! คำพูดของคนตรงหน้าทิ่มแทงใจคนฟังไม่น้อยตกใจจนเกือบทำช้อนหลุดจากมือ จะเก่งไปนะคะพ่อขา พ่อพูดเรื่องอะไร? หญิงสาวพูดไม่เต็มเสียง พ่อก็แค่เดาๆ ตามประสาคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน เกริกกล่าวยิ้มๆอย่างอารมณ์ดี ภายนอกกรองแก้วเหมือนจะดูเชยเฉิ่ม แต่หากถอดแว่นสายตาออกจะดูสวยคมไม่ต่างจากภรรยาที่เสียไปนักแม้กระทั่งนิสัยใจคอก็แทบจะลอกแบบกันออกมา ทำให้เขาทั้งรักทั้งหวงดั่งแก้วตาไม่อยากให้หนุ่มคนไหนเข้ามาวอแวจีบเกี้ยว ที่พอจะไว้ใจได้ก็มีแต่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อนสนิทวัยเยาว์ของลูกสาวเท่านั้น แม้จะสงสัยแต่คนเป็นพ่อเลือกที่จะไม่คาดคั้นอะไรการบีบบังคับหรือกดดันใช้กับคนดื้อเงียบแบบลูกสาวไม่ได้ เกริกมักจะตีกรอบหลวมๆให้อิสระแก่หญิงสาวตามสมควรแก่วัย เช่น ให้ทำงานพิเศษหาเงินใช้เอง โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องไม่กระทบกับผลการเรียน รวมถึงการเข้าชมรมอาสาพัฒนา ออกไปบำเพ็ญประโยชน์ต่างจังหวัดเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากจนในชนบท เมื่อเห็นคนที่ยากแค้นกว่าจะรู้ว่า แท้จริงแล้ว เราโชคดีแค่ไหน เกริกสอนลูกทั้งสองคนแบบนั้น ไม่อยากให้รู้สึกต้อยต่ำหรือมีปมด้อยที่เกิดในครอบครัวปานกลาง พร้อมย้ำเสมอว่า คุณค่าของคนไม่ได้อยู่ที่มีทรัพย์สมบัติมากแค่ไหน หากแต่อยู่ที่คุณธรรมความดีงามต่างหาก อย่างแก้วใครเขาจะมาจีบพ่อก็พูดไปเรื่อย เธอพูดเสียงเรียบ พวกนั้นตาไม่ถึงล่ะสิ เกริกเอ่ยจริงจัง ยอเข้าไป สาวหน้าคมไม่คิดต่อล้อต่อเถียงด้วยตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ เมื่อทานข้าวหมดก็ดื่มน้ำตาม ลุกเอาชามไปล้างที่อ่างล้างจานสมาชิกในบ้านนี้เน้นการช่วยเหลือตัวเอง ไม่ให้เป็นภาระกับคนอื่น วันนี้ต้องทำงานพิเศษหรือเปล่าลูก? ทำค่ะ ลูกสาวตอบพลางขยับมือใช้ฟองน้ำถูชามไปด้วย พ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ? บิดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ วันนี้ไอ้เอกมันลาหยุดไม่รู้ว่าจะยุ่งขนาดไหน อู่ซ่อมมอเตอร์ไซค์ของเกริกมีลูกน้องสองคนคือเอกกับไม้ แม้จะเป็นแค่ร้านเล็กๆ แต่มีลูกค้าประจำค่อนข้างเยอะบางวันต้องทำงานกันจนถึงสามสี่ทุ่มกว่าจะเลิก การขาดลูกน้องหนึ่งคน หมายถึงอีกสองคนที่เหลือต้องหัวปั่นหนักกว่าเก่าจึงอยากขอให้ลูกสาวไปช่วยงาน แม้กรองแก้วจะไม่ใช่ช่างเต็มตัวแต่มีทักษะการซ่อมมอเตอร์ไซด์อยู่พอสมควร...มีคนช่วยย่อมดีกว่าไม่มี เอาไงดี? ร่างเล็กคิดในใจ ด้วยพนักงานคนหนึ่งของร้านอาหารขอลาคลอดสองอาทิตย์หากเธอหยุดอีกคน ร้านสเต็กคงวุ่นวายมาก แค่นี้ก็ทำแทบไม่ทันอยู่แล้ว ทว่าหญิงสาวไม่ทันตอบ เกริกก็พูดขึ้นเสียก่อน ถ้าติดงานก็ไม่เป็นไรพ่ออาจจะกลับบ้านดึกหน่อย ล็อกบ้านดีๆ ล่ะ บิดาพูดเตือน สงสัยต้องจ้างเด็กเพิ่มแล้วกระมัง ถ้างานเยอะเกินก็ควรจ้างค่ะพ่อจะได้ไม่เหนื่อยเกิน กรองแก้วเห็นด้วย บางครั้งการทำงานหนักก็ไม่คุ้มค่านักโดยเฉพาะค่าเสียเวลากับค่าสุขภาพ ไว้พ่อจะลองคิดดูแล้วกัน พ่อมองเวลา แล้วเอ่ยไล่ลูกสาว ไปได้แล้ว เดี๋ยวจะสาย ไปนะคะ สาวหน้าคมพูด ยกมือไหว้บิดาเหมือนทุกวันแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าและของที่จะเอาไปด้วย หยิบกุญแจรถสกู๊ตเตอร์สีขาวคันเก่าที่มีอายุอานามมากกว่าเธอเสียอีก ขับดีๆ ล่ะ วันไหนว่างเอารถไปเช็คที่ร้านด้วยนะเขากำชับ ค่า ขานรับเสียงยาวเหยียด ก้าวออกจากบ้านขยับขาคร่อมบนอานของเจ้าแก่ บิดกุญแจสตาร์ท แล้วขับออกไปจากรั้วบ้าน
เยี่ยมเลยได้ที่โปรด กรองแก้วยิ้มรับความโชคดีของเช้านี้ที่ได้ช่องจอดมอเตอร์ไซค์ตำแหน่งประจำ บิดดับเครื่องยนต์ขยับมองเวลาเหลืออีกครึ่งชั่วโมงก่อนเริ่มคาบวิชาแรก คว้ากระเป๋า ก้าวยาวๆไปตามทางเดินสู่อาคารเรียน แก้ว! เสียงทุ้มต่ำตะโกนเรียกชื่อเล่นดังลั่น หญิงสาวหันไปมองตามเสียงเห็นศักดิ์สิทธิ์โบกมือเรียก ยืนคู่กับใครคนหนึ่งที่มีความสูงพอๆกัน...ผู้หญิงที่ตามติดเธอมาตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อเช้าก้าวเท้าออกจากบ้านผิดข้างใช่ไหมให้ตายสิ! สาวแว่นนึกสบถในใจ ไม่รู้จะโทษอะไรจึงโทษโชคลางแทนจำใจก้าวเท้าไปหาคนเรียก สวัสดีค่ะน้องแก้ว ประธานนักเรียนสาวเอ่ยทักทายขึ้นก่อน หากแต่เธอทำเป็นไม่เห็นร่างสูง มองผ่านราวกับเป็นอากาศธาตุ ใจคอจะไม่สนใจกันเลยใช่ไหม? หล่อนนึกบ่นในใจที่โดนละเลยแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน แต่เก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ได้เป็นอย่างดี หลังโดนเสาวรสเตือนเมื่อเช้าว่า...การจีบกรองแก้วไม่ใช่เรื่องหมูๆ เหมือนหญิงสาวทั่วไป วันนี้มาเช้าได้นะ สาวร่างเล็กหันไปทักทายเพื่อนสมัยเด็ก นิดหน่อย ศักดิ์สิทธิ์หัวเราะเขินๆปรายตามองสาวรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างประหม่า คือฉันบังเอิญเจอกับพี่สุก็เลยยืนคุยรอแก รอฉัน? กรองแก้วทวนคำอย่างงวยงงไม่เข้าใจว่าสุธาสินีมีธุระอะไรกับตนเอง จึงหันมาจ้องหน้าหล่อน คุณมีอะไรกับฉันอีกหรือคะ? มีเยอะเลยค่ะ ประธานนักเรียนสาวปอโทตอบเสียงหวาน มีเยอะ? เธอย้อนทวนคำ เมื่อกี้ตอนที่คุยกันพอพี่สุรู้ว่าพวกเราอ่อนภาษาอังกฤษ พี่สุเลยบอกว่า จะช่วยติวให้แกกับฉัน ชายหนุ่มร่างใหญ่รีบอธิบาย ติวให้? คนฟังทำหน้างงกว่าเดิมปกติไม่เคยเลยที่จะต้องเรียนพิเศษ ไม่ต้องพูดถึงค่าสอนพิเศษชั่วโมงละหลายร้อยบาทซึ่งเธอไม่คิดจะควักกระเป๋าจ่ายแน่ หนำซ้ำสาวสวยตรงหน้าเป็นลูกคนมีเงิน ขับรถเบนซ์...ยิ่งไม่มีปัญญาจ้าง ล้อเล่นอะไรอีก? พี่เต็มใจติวให้น้องแก้วกับน้องศักดิ์ฟรีค่ะ หล่อนรีบพูด เจตนาหาวิธีใกล้ชิดอีกฝ่ายโดยถามข้อมูลจากน้องสาวเมื่อคืน ไม่ต้องหรอกค่ะ เสียเวลาคุณเปล่าๆร่างเล็กปฏิเสธทันควัน ทำไมล่ะแก้ว? เพื่อนสมัยเด็กทำหน้างงงัน คาดผิดเพราะคิดว่าเธอจะตอบตกลง เขารู้ดีว่า สาวแว่นเรียนภาษาอังกฤษใช้ได้แต่มีปัญหาเรื่องการพูด ซึ่งนับเป็นจุดอ่อนสำคัญในการทำงาน สมัยนี้ทักษะในการสื่อสารถือว่าจำเป็นมากต้องใช้ภาษาที่สองคล่องแคล่วประหนึ่งภาษาพ่อภาษาแม่ พ่นกันชนิดน้ำไหลไฟดับ หรือไม่ก็น้ำลายฟูมปากนั่นแหละคนเขาถึงจะมองว่าเราเก่ง เข้าทำนอง ปากเป็นเอก เลขเป็นโท ส่วนความสามารถในการทำงานจริงๆเป็นอย่างไรนั้น ค่อยว่ากันอีกที เป็นอันว่า คำตอบคือไม่ กรองแก้วตอบเสียงแข็ง แล้วเดินผละจากไป โดยไม่คิดจะฟังอะไรอีก ดื้อชะมัด ศักดิ์สิทธิ์ส่ายหัวก่อนหันไปขอโทษกับสาวรุ่นพี่เสียงอ่อยๆ ผมขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะครับ ไม่เป็นไรหรอก ผมถามจริงนะครับพี่ต้องการอะไรจากเพื่อนผม? ชายร่างใหญ่ถามอย่างตรงไปตรงมา ตอบยังไงดี? สุธาสินีหยุดคิดในเสี้ยววินาที พี่อยากรู้จักน้องแก้ว ศักดิ์สิทธิ์หรี่ตาจ้องคนตรงหน้า อย่างไม่อยากจะเชื่อนักแม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ในการจีบสาว แต่พอรู้เรื่องแบบนี้มาบ้าง แค่นั้นเหรอครับ? ประธานนักเรียนสาวยิ้มบางๆ ที่เรียวปาก จริงๆ อยากมากกว่านั้นแต่ไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จหรือเปล่า ชายรุ่นน้องหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ แปลว่าพี่สุตั้งใจจะจีบกรองแก้ว? ตามนั้นแหละ ตรงไปตรงมาดี คนจริงแบบนี้แหละที่เหมาะกับแก้ว เขาคิดชมในใจ พี่อาจต้องทำใจหน่อยนะครับจีบแก้วมันไม่ง่ายหรอก สุธาสินีหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี เท่าที่คุยสองสามครั้งก็ไม่คิดว่าง่ายเลยนะ หากนับอดีตคนเคยคบทั้งหมด กรองแก้วนับเป็นกระดูกชิ้นโตที่เข้าถึงตัวยากกว่าทุกคน ชนิดไม่เปิดโอกาสให้เลยสักนิด แต่น่าแปลกตรงที่สาวร่างสูงหงุดหงิดบ้างในช่วงแรก ทว่าไม่รู้สึกโกรธเคืองจริงจังทั้งที่อีกฝ่ายทำให้ตนหน้าแตกยับ อย่างน้อยสองครั้งในรอบยี่สิบสี่ชั่วโมง แก้วเหมือนเจ้าหญิงน้ำแข็ง ทางเดียวที่จะชนะก็คือเอาไฟลนไปเรื่อยๆ ใครอึดกว่าก็เป็นผู้ชนะ ศักดาพูดแนะนำติดตลก สาวสวยเลิกคิ้วเรียวขึ้นเล็กน้อย แปลว่าศักดิ์จะยอมช่วยพี่ใช่ไหม? หากได้ศักดิ์สิทธิ์เป็นพวกอีกคนการเข้าถึงกรองแก้วจะเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป ผมจะช่วยก็ต่อเมื่อ พี่สุแสดงให้ผมเห็นว่าพี่จริงใจกับแก้วผมรับปากพ่อมันเอาไว้ ผมไม่อยากถูกหักคอ พูดเสียงจริงจังทำตัวราวกับเป็นองครักษ์ประจำตัวของสาวแว่น ชายหนุ่มถูกเกริกกำชับมาหลายร้อยรอบว่าอย่าให้คนไม่ดีมาจีบกรองแก้ว หวังว่าพี่สุจะเป็นคนดี ไม่ช่วย แต่ไม่ขัดขวางใช่ไหมคะ? ศักดิ์สิทธิ์ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงเป็นตับ ประมาณนั้นครับ ถ้าถามข้อมูลทั่วไปผมตอบได้ก็จะตอบแต่ผมจะไม่ก้าวก่ายการตัดสินใจของแก้ว เข้าใจแล้ว ขอบคุณนะ เขาส่งยิ้มให้สาวรุ่นพี่แต่เมื่อเห็นสายตาหลายคู่จับจ้องมา พลันรู้สึกเสียวสันหลัง จึงรีบขอตัวก่อนจะถูกเข้าใจผิด ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะครับ ค่ะ ร่างสูงยิ้มบางๆ สัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรของหนุ่มรุ่นน้องก่อนหมุนตัวเดินไปยังตึกเรียนของตน
ทันทีที่สุธาสินีทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ว่างข้างโชติโรจน์พรรณรายซึ่งนั่งอยู่ชะโงกหน้ามาถาม เป็นอย่างไรบ้างท่านประธาน? หล่อนทำหน้าสับสนกับคำถามที่ไร้หัวไร้หาง เรื่องอะไร? ก็เรื่องที่เราตกลงกันเมื่อวาน อยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ? อีกคนย้อนถาม เอาแบบจริงจัง เนื้อล้วนๆ น้ำไม่ต้อง ประธานนักเรียนสาวทำหน้าปั้นยาก เมื่อวานพอฉันเข้าไปช่วยน้องเขาเก็บของขอบคุณสักคำก็ไม่มี เดินหนีไปเฉยๆ ฉันงี้หน้าแหกไม่มีชิ้นดี ขนาดนั้น? หนุ่มหล่อทำหน้าประหลาดใจเท่าที่เขารู้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเสียมารยาทกับสุธาสินีขนาดบ่นอู้มาก่อน เออสิ ร่างสูงขานรับเสียงต่ำในลำคอ แล้วไงต่อ? พรรณรายรีบถามต่อรู้สึกเซอร์ไพรส์มากมาย ใครจะไปคิดว่าสาวแว่นเชยเฉิ่มจะมีพิษสงมากขนาดนี้ ฉันรู้เรื่องน้องเขาจากเสาว่าชื่อกรองแก้ว ชื่อเล่นแก้ว ตอนเย็นเลยแวะไปร้านสเต็ก ที่น้องเขาทำงานพิเศษท่าทางน้องแก้วจะไม่ชอบหน้าฉันมากๆ น่าปวดหัวชะมัด หล่อนพูดกึ่งบ่นตามที่รู้สึก สุดยอด! โชติโรจน์อุทานออกมา นั่นสิ สาวเท่พยักหน้าเห็นพ้อง แปลว่าฉันเลือกถูกคนล่ะสิ เออ เลือกเก่งมาก หนุ่มหล่อยกยอ พร้อมยกนิ้วโป้งให้ เยส! สองเกลอหันไปแปะมือกันอย่างร่าเริง ตกลงพวกแกเข้าข้างใคร? สุธาสินีบ่นพึมพำ ทำหน้าบอกบุญไม่รับ แก้ว / กรองแก้ว สองคนตอบพร้อมเพรียง หล่อนนั่งกอดอก ทำหน้าง้ำกว่าเดิม ไอ้เพื่อนทรยศ OoXoO ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ เรื่องนี้จะเปิดจองหนังสือปลายอาทิตย์นี้นะคะ มีทั้งปกแข็งและปกอ่อน โดยปกแข็งจะเปิดจองแค่รอบเดียว และมีตุ๊กตาน่ารักๆ ให้เป็นที่ระลึกด้วย จำนวนจำกัดค่ะ สนใจรอตามข่าวได้ที่ เพจนิ้วนาง นะคะ ส่วน E-book น่าจะโหลดให้อ่านได้ปลายสัปดาห์หน้าค่ะ นาง ^^ OoXoO |
บทความทั้งหมด
|