ภาพสเก็ตช์ยูเอฟโอ ที่เผยแพร่โดยหอจดหมายเหตุแห่งชาติของอังกฤษ
เอเจนซี - อังกฤษเผยเอกสารลับ “ยูเอฟโอ” หลายร้อยฉบับวันนี้ (5) โดย 1 ในนั้นเป็นจดหมายที่อดีตนายกรัฐมนตรีวินสตัน เชอร์ชิลล์ สั่งให้ปกปิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างยูเอฟโอลำหนึ่งกับนักบินของกองทัพ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มานานร่วม 50 ปี
แฟ้มเอกสารซึ่งเผยแพร่โดยหอจดหมายเหตุแห่งชาติเหล่านั้น ประกอบด้วยหลักฐานทั้งรายชื่อผู้เห็นเหตุการณ์ ภาพร่าง และจดหมายเกี่ยวกับการพบเห็นสิ่งลี้ลับจากทั่วประเทศ
จดหมายของกระทรวงกลาโหมฉบับหนึ่งอ้างถึงข้อความในปี 1999 ที่ระบุว่า เครื่องบินกองทัพอากาศอังกฤษซึ่งกำลังเดินทางกลับจากภารกิจในยุโรป ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกจานบินโลหะลำหนึ่งบินเข้าประชิด
ผู้เขียนจดหมายฉบับดังกล่าวซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร เล่าว่า ปู่ของเขาได้เข้าประชุมร่วมกับเชอร์ชิลล์ และประธานาธิบดีดไวท์ ไอเซนฮาวร์ ของสหรัฐฯ ในช่วงสงคราม ซึ่งผู้นำทั้งสองแสดงความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว และตัดสินใจเก็บไว้เป็นความลับ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนั้น ทว่าไม่พบบันทึกลายลักษณ์อักษรที่จะเป็นหลักฐานเลย แฟ้มเอกสารเผย
อังกฤษค่อยๆ เผยเอกสารลับเกี่ยวกับการพบเห็นจานบินลึกลับบนท้องฟ้าเหนือเมืองต่างๆ ซึ่งเก็บรวบรวม และสืบสวนโดยกระทรวงกลาโหมมานานหลายสิบปี บางเหตุการณ์ก็ได้รับคำอธิบายอย่างมีเหตุผล เช่น เป็นฝนดาวตก แต่หลายเหตุการณ์ก็ยังไขไม่ออก
นอกจากนี้ บันทึกเล่มหนึ่งซึ่งย้อนไปในปี 1997 ประกอบด้วยรายงานเกี่ยวกับการเกิดเสียงดังสนั่น หรือโซนิกบูม และเหตุเครื่องบินปริศนาตกทางเหนือของอังกฤษ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกลับไม่พบร่องรอย และซากเครื่องบินเลย
อีกเหตุการณ์หนึ่งเป็นการพบยูเอฟโอทรงสามเหลี่ยมสีดำ เหนือบ้านของรัฐมนตรีเงากระทรวงมหาดไทยในเมืองเคนท์ ช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ซึ่งทีมสอบสวนไม่พบการคุกคามความมั่นคงใดๆ
ส่วนคดีหนึ่งซึ่งถูกเก็บใส่แฟ้มไว้ในปี 1995 กัปตันของเครื่องบินลำหนึ่งซึ่งกำลังลงจอดในสนามบินเมืองแมนเชสเตอร์ รายงานว่า เขาเกือบชนกับวัตถุที่ไม่สามารถระบุได้ และมีพยานบนพื้นดินสเกตช์ภาพ ยูเอฟโอขนาดใหญ่กว่าสนามฟุตบอล 20 เท่าไว้ด้วย แต่จากการพิสูจน์ก็ไม่สามารถระบุวัตถุลี้ลับนั้นได้
ยิ่งไปกว่านั้น เอกสารของกระทรวงกลาโหมดังกล่าวยังอ้างถึงความผิดปกติในประวัติศาสตร์ช่วง สงครามเย็นของอังกฤษที่มีการส่งเครื่องบินต่อสู้สกัดอากาศยานของโซเวียตมาก ถึง 200 ครั้งต่อปี เนื่องจากเรดาร์ตรวจพบวัตถุต้องสงสัย ซึ่งส่วนใหญ่พิสูจน์ได้ว่าเป็นเพียงจรวดปราบเรือดำน้ำ หรือเครื่องบินสอดแนมของโซเวียตเท่านั้น
ที่มา//www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000108225