+++ประสบการณ์ระทึกขวัญในสนามบิน LHR Part1+++ เรื่องราวของผมในครั้งถ้าจะให้ย้อนความก็คงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เหตุ Car Bomb ที่สนามบิน Glasgow ในวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน ซึ่งในวันนี้ผมอยู่ใน London และกำลังจะขึ้นรถไฟที่สถานี London King's Cross กลับไปยัง Edinburgh พอดี ซึ่งถือเป็นโชคดีของผมที่วันนั้นผมกลับรถไฟ เพราะสนามบินทุกแห่งใน UK ได้เปลี่ยนมาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ให้รัดกุมมากขึ้น จนทำให้หลายๆ Flight ต้อง Delay ไปพอสมควร แต่าสำหรับรถไฟเที่ยวกลับของผม Delay แค่ 15 นาทีเท่านั้น และผมก็ได้กลับไปนอนที่ Edinburgh โดยสวัสดิภาพ หลังจากนั้นในวันจันทร์ที่ 2 กรกฏาคม ก็เป็นวันที่ผมต้องเดินทางกลับประเทศไทยตามกำหนดการเดิม ซึ่งแต่เดิมผมจะต้องนั่งเครื่องบินของสายการบิน British Airways เที่ยวบินที่ BA1463 จากสนามบิน Edinburgh มาลงที่สนามบิน London Heathrow ตอนเวลา 19.20 -20.45 และต่อเครื่องบินของสายการบิน Qantas เที่ยวบินที่ QF02 มาลงที่ประเทศไทย ตอนเวลา 22.15 -15.35 ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผมมีเวลาเปลี่ยนเครื่องเพียงแต่ 1 ชั่วโมงครึ่ง เท่านั้น และจากกระทู้ก่อนหน้าก็คงทราบว่า ผมตกเครื่องบินเพราะกระบวนการตรวจเช็คของซึ่งใช้เวลามากกว่า 3 ชม ซึ่งยังไม่รวมเวลาต่อรถบัสอีกประมาณ 20 นาทีเพื่อย้ายจาก Terminal 4 มา Terminal 1 ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ผมกังวลใจมาตลอดระยะเวลา 3 อาทิตย์ที่อยู่ที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของผม เมื่อผมมาถึงสนามบิน Edinburgh ผมก็ต้องแปลกใจที่รถบัสรับส่งของสนามบินเปลี่ยนที่จอดออกไปค่อนข้างไกล เพราะทางสนามบินเปลี่ยนนโยบายห้ามรถทุกชนิด เข้าใกล้สนามบินมากกว่าที่กำหนดเอาไว้ เพื่อป้องกันเหตุ Car bomb ที่เกิดใน Glasgow ในอาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งนั่นทำให้เครื่องที่บินลงที่สนามบืน Heathrow ทุกลำ ต้อง Delay ทั้งหมด รวมถึงเครื่องของผมต้อง Delay ไปอีก 1 ชม อ้าวแล้วตรูจะต่อเครื่องทันมั๊ยละนั่น O_o" จากการที่ผมผ่านประสบการณ์อย่างโชคโชนในคราวที่แล้วทำให้ผมตัดสินใจรีบไปติดต่อที่ Counter ของ British Airways เพื่อให้เค้าหาทางแก้ปัญหาให้ผม เพราะเท่าที่ผมทราบช่วงนี้เป็นช่วง High Season ของการเดินทางไปเที่ยงเที่ยวในแถบยุโรป ประกอบกับที่ London กำลังมีการแข่งวิมเบอร์ดัน ทำให้ที่พักค่อนข้างเต็ม ถ้าผมรู้ว่าผมต้องตกเครื่องๆ แน่ๆ ผมไม่ขอเป็นแบบทอม แฮงค์ ในเรื่อง The terminal หรอก (ฺฮา) จากการพูดคุยกับพนักงานของ British Airways ซึ่งตอนแรกเธอบอกผมว่าผมเหลือเวลาเปลี่ยนเครื่องอีกตั้ง 30 นาทีนะ ซึ่งมันน่าจะเพียงพอ แต่ผมยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ทันแน่นอน เพราะแค่เปลี่ยนรถก็ 20 นาทีแล้ว ถ้าจะทันก็มีอยู่กรณีเดียวคือเครื่องบิน Flight QF2 ที่จะไปไทย Delay ซึ่งนั่นต้องอาศัยโชคช่วยเป็นอย่างมาก และผมก็ลืมโชคไว้ที่เมืองไทย (ฮา) พนักงานของ British Airways ก็เข้าใจผม และให้ทางเลือกผม 2 ทาง 1. เธอสามารถจองเที่ยวบิน Flight QF2 ของวันที่ 3 ให้ผมได้ และจะจองโรงแรมให้ผมนอนในวันที่ 2 โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม 2. เปลี่ยนเที่ยวบินไปลง London เป็นวันที่ 4 แทน เพราะเที่ยวบินจาก Edinburgh ไป London ในวันที่ 3 เต็มหมด หลังจากที่ผมตัดสินใจคิดอยู่พักหนึ่งผมก็เลือกทางเลือกที่ 1 เพราะ 1. ผมหยุดงานมาแล้วหลายวันและผมมีประชุมสำคัญในวันที่ 3 กรกฏาคม ถ้าเสี่ยงได้ผมก็อยากเสี่ยง 2. ต่อให้ผมขึ้นเครื่องต่อไม่ทันผมก็มีที่พักฟรี เช่นเดียวกับอยู่ที่ Edinburgh 3. ถ้าผมอยู่ที่ Edinburgh จนถึงวันที่ 4 ก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าเครื่องจะไม่ Delay อีก 4. ผมอยากนอนโรงแรมคืนละ 100 ปอนด์ ซักครั้งในชีวิต (ฮา) ซึ่งตอนนั้นผมไม่เคยรู้เลยว่าการตัดสินใจครั้งนั้น จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของผม (ยังมีต่อ) |