Review : THE BODY SHOP Skin Defence Multi-Protection Essence SPF50 PA++++ บางเบาขั้นเทพไม่มันไม่ว่อก แสงแดดกับประเทศไทยเป็นอะไรที่เกิดมาคู่กันเนอะ หลายปีมานี้เค้าว่าคนไทยตระหนักถึงความจำเป็นในการทากันแดดขึ้นมาก รู้แหล่ะว่าต้องทาแต่สิ่งที่ทำให้ท้อใจในการทา คือปัญหาเนื้อกันแดดที่เหนียวข้น ทาละมันเยิ้มหนักหน้า ดีไม่ดีว่อกไปอี๊กกก เลยตัดปัญหากันด้วยการไม่ทา....ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือสีผิวหมองคล้ำมีฝ้ากระไปตามระเบียบ บล็อคนี้เลยมีรีวิวกันแดดที่รับประกันว่าเนื้อบางเบาโดนใจคนไทยมาฝากกัน เป็นกันแดดเนื้อเอสเซ้นส์ที่เมื่อสัมผัสผิวจะกลายเป็นน้ำทันที....บางเบาพอมะ อิอิ นอกจากจะกันแดดได้จัดเต็มแล้วยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะได้ด้วย แถมราคายังสบายกระเป๋าสำหรับกันแดดเคาท์เตอร์แบรนด์ ไปชมรายละเอียดกันเลยค่า THE BODY SHOP Skin Defence Multi-Protection Essence SPF50 PA++++ ----------------------------------------------------------------------- ขนาด 40 ml ราคา 990 บาท หาซื้อได้ที่ร้านเดอะบอดี้ช็อปทุกสาขาค่า เช็คสาขาใกล้บ้านได้ที่ >>>CLICK<<< รายละเอียดผลิตภัณฑ์ตามคำเคลม กันแดดเนื้อเอสเซ้นส์บางเบาเป็นพิเศษ โดยเนื้อน้ำนมจะเปลี่ยนเป็นน้ำทันทีที่ทา ไม่อุดตันรูขุมขน ให้สัมผัสบางเบาสบายผิว ไม่เหนอะหนะ เป็นสูตรอ่อนโยนด้วยสูตรธรรมชาติ(Vegetarian) 100% ซึ่งส่วนผสมก็ได้มาจากโครงการร้านค้าชุมชนเป็นการสนับสนุนเกษตรกรด้วย ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน/น้ำมันแร่/พาราฟิน กันแดดได้ครบถ้วนทั้งรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF 50 PA++++ พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระให้ผิวแข็งแรงขึ้น และช่วยยับยั้งความหมองคล้ำด้วยสารสกัดจากสาหร่ายสีแดงและวิตามินซี ซึ่งทางแบรนด์เรียกตัวนี้ว่าเป็น "Skin Guardian" หรือ ผู้พิทักษ์ผิว....เท่เชียว! รายละเอียดส่วนผสม กันแดดตัวนี้จัดเป็นกันแดดในกลุ่ม Chemical Sunscreen หรือ Organic Sunscreen ทำหน้าที่เป็นเหมือนฟิลเตอร์ช่วยดูดซับรังสีไว้ไม่ให้ทะลุผ่านผิวหนังของเราได้ ข้อดีข้อเด่นของสารกันแดดในกลุ่มนี้เลยคือ "ไม่ขาวลอย ไม่ว่อก" เพราะฉะนั้นใช้ได้กับทุกสีผิว และทุกเพศนะฮะ คุณผู้ชายก็ทาได้รับประกันว่ารอด ------------------------------------------------------------------- สารกันแดดในส่วนผสมมีดังนี้ Ethylhexyl Methoxycinnamate ปกป้องผิวจากรังสี UVB Butyl Methoxydibenzoylmethane หรือ Avobenzone ปกป้องผิวจากรังสี UVA-I และ UVA-II Octocrylene ปกป้องผิวจากรังสี UVฺB และ UVA-II และเป็น Stabilizer ช่วยให้ Abvobenzone เสถียรขึ้น ------------------------------------------------------------------- มีสารให้ความชุ่มชื่นในกลุ่มฺ Glycol , Glycerin มีสารบำรุงจากพืชธรรมชาติอย่าง Sclerocarya Birrea Seed Oil หรือ Marula Oil เป็นน้ำมันที่ได้จากเมล็ดของต้นมารูล่าต้นไม้ป่าของแอฟริกาใต้ มีวิตามิน E & C สูง ให้ความชุ่มชื่นดี มีโปรตีนและโอเมก้า และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ซึ่งเค้าบอกมาว่าน้ำมันมารูล่านี้เค้ารับมาจากโครงการร้านค้าชุมชน จึงเป็นการช่วยสนับสนุนอาชีพเกษตรกรของคนในท้องที่อีกทางหนึ่ง อีกหนึ่งจุดขายของส่วนผสมธรรมชาติก็คือสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง หรือ Palmaria Palmata Extract เป็นสารในกลุ่มไวท์เทนนิ่ง ที่ช่วยจำกัดการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานินและลดการส่งผ่านเม็ดสีสู่เซลล์ผิว รวมถึงยังเป็นสารในกลุ่มต้านอนุมูลอิสระด้วยเช่นกัน มีส่วนผสมของ Vitamin C ในรูปของ 3-0 Ethyl Ascorbic Acid ซึ่งมีความเสถียรสูง ทนแสงแดด ทนความร้อนได้ดี ไม่เป็นกรด ไม่ทำให้ระคายเคือง ดูดซึมสู่ผิวได้โดยง่าย ช่วยลดการสร้างเม็ดสี และช่วยต้านอนุมูลอิสระ สารกันเสีย คือ Phenoxyethanol , Chlorphenesin เป็นสารกันเสียที่มีความปลอดภัยต่อผิวและไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ***ไม่มีส่วนผสมของ Paraben , Mineral Oil , Paraffin เค้าเคลมมาว่าผ่านการเทสว่าสามารถใช้ได้ในผิวระคายเคืองง่ายและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน แต่มีส่วนผสมของ Alcohol และ น้ำหอม (Fragrance) เพื่อความสบายใจถ้าใครผิวระคายเคืองง่ายมากๆป้ายเทสก่อนทาที่หน้าก็ได้ฮะ จุดที่แนะนำให้ป้ายเทสคือหลังใบหูเพราะผิวบอบบางพอๆกะผิวหน้า ป้ายไว้ซัก 24 ชั่วโมงแล้วสังเกตอาการดูเนอะ ลักษณะบรรจุภัณฑ์ มาในหลอดสีขาวทึบแสงเรียกได้ว่าเรียบง่ายแต่ดีงาม ป้องกันครีมจากการเสื่อมเพราะแสงแดดและอากาศได้ดี น้ำหนักเบา บีบกะปริมาณง่าย และพกพาสะดวก แต่ต้องสังเกตกันนิดนึงนะคือเค้าเป็นกันแดดแบบที่ต้องตั้งใจดูชื่อนิดนึง เพราะเค้าไม่ได้เขียนว่าเป็น Sunscreen บนหลอดเลย จะรู้ว่าเป็นกันแดดก็ตรงค่า SPF 50 และ PA++++ นี่หล่ะ ด้านหลังหลอดจะแจ้งไว้ว่าหลังการเปิดใช้ กันแดดจะมีอายุการใช้งาน 12 เดือน ลักษณะเนื้อและกลิ่น ขอยกให้เรื่องของเนื้อกันแดดเป็นจุดขายที่เด่นที่สุดไปเลย เค้าเคลมมาว่าเป็นเนื้อเอสเซ้นส์ที่บางเบาพิเศษ คอนเฟิร์มให้เลยเพราะเปิดหลอดมาแค่บีบเบาๆย้ำว่าเบามาก เนื้อกันแดดก็ไหลปื้ดออกมาแล้ว ใครเปิดใช้ทีแรกระวังหกกันนิดนึงเน่อ เนื้อเอสเซ้นส์สีขาวมีความเหลวมากกก ตอนทาจะรู้สึกเย็นผิวนิดๆ เกลี่ยง่ายที่สุดของที่สุด ความพิเศษคือเมื่อเกลี่ยจากเนื้อที่เหมือนน้ำนมจะเปลี่ยนเป็นน้ำ ที่เห็นเป็นสีขาวตอนแรกหายไปกลายเป็นเนื้อใสซึมผิวเกลี้ยงเลย ซึมไวเว่อร์ๆ ใครเบื่อกับการทากันแดดแล้วต้องรอเซ็ตตัว ตัวนี้ตอบโจทย์นะทาเสร็จแล้วแต่งหน้าต่อได้เลย กลิ่นบีบออกมาตอนแรกได้กลิ่นแอลกอฮอล์นิดนึง แต่พอทาลงผิวแล้วไม่ค่อยได้กลิ่น หลังทาจะเหลือกลิ่นหอมติดผิวแค่จางๆ ทาบนหน้าเทียบให้ดูจะเห็นว่าไม่ทำให้ผิวมัน ไม่เหนอะหนะ แต่ไม่ได้เซ็ตตัวแบบแห้งแมทท์นะ ผิวจะดูเงาๆนิดๆแบบมีฟิลม์บางๆเคลือบผิวอยู่ ไม่ทำให้ผิวดูแห้ง วิธีการทากันแดดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด วิธีการทากันแดดนี่แหละปัญหาใหญ่สุดของคนไทยเลย ว่าทำไมใช้กันแดดแล้วแต่ผิวยังหมองคล้ำอยู่ ปัญหาคือใช้ปริมาณน้อยไปมากกกก ตามหลักแล้วถ้าต้องการทากันแดดให้ได้ค่า SPF และ PA ตามที่แสดงหน้าหลอด คุณหมอผิวหนังแนะนำให้ใช้ในปริมาณ 2 มิลลิกรัมต่อพื้นที่ผิวหนึ่งตารางเซนติเมตร หน่วยวัดตวงแบบนี้งงแน่นอน เอาว่าถ้ากันแดดเนื้อครีม สำหรับทาใบหน้าไม่รวมคอให้บีบออกมายาวประมาณสองข้อนิ้วกลาง ส่วนกันแดดเนื้อเหลวๆแบบนี้บีบออกมาประมาณเหรียญสิบบาทนะจ๊ะสำหรับการทาทั่วหน้า และสำหรับลำคอก็ใช้ในปริมาณเดียวกัน อาจจะดูเยอะแต่ขอบอกเค้าทาแบบนี้ทุกวันนะ ทาตอนแรกยังไม่ชินกับปริมาณลองแบ่งทาสองรอบเอาก็ได้ แต่ถ้าเราเลือกกันแดดที่เนื้อบางเบาก็สามารถโบกทีเดียวจบได้เลยรวดเร็วกว่านะ ซึ่งเค้าจะบีบใส่มือแล้วประกบมือหากันแบ่งเนื้อครีมให้กระจายทั่วๆฝ่ามือ แล้วทาลงไปที่แก้มที่พื้นที่กว้างสุดก่อน ที่เหลือค่อยไปทาทีโซน วิธีการทาแบบนี้เวิร์คกว่าแต้มห้าจุดมากนะเออใช้ได้ทั้งการทาสกินแคร์และกันแดดเลย ช่วยให้ทาได้เร็วกว่าซึมง่ายกว่า ที่สำคัญคือไม่ไปเพิ่มภาระความมันให้ทีโซน ลองนึกดูดีเวลาแต้มห้าจุด 3 จุดไปโปะอยู่ตรงทีโซนแล้วนะ ไม่แปลกใจเล้ยยยที่หน้าจะเยิ้มง่ายระหว่างวัน โบกจุดที่มันซะเยอะเชียว และสำหรับคนมีปัญหาฝ้ากระเค้าแนะนำว่าหลังทาทั่วหน้าแล้ว ให้บีบกันแดดออกมาอีกหน่อยแล้วแต้มตรงจุดที่มีปัญหาอย่างของเค้าคือโหนกแก้ม ทาย้ำตรงจุดเหล่านั้นไปอีกรอบจะได้ช่วยป้องกันไม่ให้ฝ้ากระเข้มขึ้นเนอะ ในเรื่องความมันเค้าผิวแห้งตอบให้มิได้จริงๆ เลยขอเทสกับกระดาษซับมันให้ละกันนะ ลองบีบทิ้งไว้ห้าชั่วโมงผลลัพธ์ตามภาพเลย แทบไม่มีน้ำมันออกมาเลยนะฮะ ด้วยเท็กซ์เจอร์ที่บางเบามากและน้ำมันน้อย เค้าว่าคนผิวมันผิวผสมลองตัวนี้แล้วนะจะปลื้มเลยหล่ะ สรุปความรู้สึกหลังการทดลองใช้ จุดเด่นที่สุดของกันแดดตัวนี้เลยคือเนื้อกันแดดเค้าบางเบามากๆๆๆ เกลี่ยง่ายสุดพลัง ใครเคยมีข้ออ้างว่าไม่ทากันแดดเพราะมันเหนอะหนะอยากให้ได้ลอง ซึมผิวง่าย เซ็ตตัวไว ไม่ต้องเสียเวลารอแต่งหน้าต่อได้เลย เค้าลองเทสกับสกินแคร์และเมคอัพหลายตัวทั้งเนื้อเบาเนื้อหนัก ส่วนตัวสำหรับเค้าไม่ขึ้นขุยหรือเป็นคราบเลยนะโอเคมาก ตัวกันแดดเองไม่มีสีทาแล้วไม่ทำให้สีผิวเปลี่ยนจึงใช้ได้กับทุกสีผิว ไม่ทำให้เมคอัพสีเพี้ยนด้วย เดี๋ยวจะลองเอาให้คุณผู้ชายที่บ้านใช้ดูนางชอบบ่นว่ากันแดดเหนอะและว่อก ถ้าตัวนี้ทาแล้วยังจะเหนอะอีกคงต้องให้กางร่มกันแดดเอาละ555 ในเรื่องของส่วนผสมก็โอเคดีกันรังสี UV ได้ครบถ้วน เค้ารักตรงค่า PA++++ นี่หล่ะ ขอบอกว่าเวลาเลือกกันแดด ให้ดูค่านี้เยอะๆ ซึ่งตอนนี้ถือว่าสี่บวกเยอะสุดละ เพราะค่า PA คือจะช่วยกันรังสี UVA ที่เป็นรังสีคลื่นยาวทำลายผิวชั้นลึก ทำให้คอลลาเจนอีลาสตินลดลงซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยนะเออ! ส่วนค่า SPF ช่วยกันรังสี UVB ที่ทำให้ผิวไหม้เบิร์น ค่านี้ 30-50 ก็พอแล้วฮะ และส่วนผสมที่เสริมมาในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระและช่วยเรื่องการเป็นไวท์เทนนิ่ง ก็ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่ต้องเจอมลภาวะที่ทำร้ายผิวเราทุกวันได้ดี ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ที่สกินแคร์หลายๆแบรนด์หันมาให้ความสนใจเนอะ แต่อย่างไรก็ตามหลักๆเค้าคือกันแดดอยากผิวสวยอย่าลืมขยันทาบำรุงควบคู่ด้วยนะจ๊ะ กันแดดตัวนี้มีแอลกอฮอล์จึงจำเป็นอย่างมากที่เราควรทาสกินแคร์ให้ความชุ่มชื่นก่อน โดยเฉพาะอย่างเค้าที่เป็นผิวแห้ง เพราะแอลกอฮอล์เองระเหยได้ไว นอกจากจะทำให้กันแดดไม่เหนอะผิวแล้วอาจจะดึงความชุ่มชื่นผิวออกไปตอนที่ตัวมันเองระเหยด้วย การป้องกันง่ายๆก็คือการใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื่นทาลงไปก่อนทากันแดดจ้า เค้าผิวแห้งแต่ขยันโบกครีมบำรุงลองใช้กันแดดตัวนี้แล้วไม่มีปัญหานะผิวไม่ได้แห้งลงจ้า สรุปเป็นกันแดดที่ใช้ได้ทุกวัน ป้องกันแสงแดดได้ครบถ้วน ดีงามตรงเนื้อบางเบา ในราคาที่ไม่ได้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับปริมาณ ใครตามหากันแดดที่ให้สัมผัสสบายผิวอยู่ควรค่าแก่การไปลองมากๆฮะ ----------------------------------------------------------------------------- Disclaimer : Sponsored Content by THE BODY SHOP ***All opinions are my own Information : https://www.facebook.com/TheBodyShopTH //www.thebodyshop.co.th |
บทความทั้งหมด
|