Review : Kiehl's Nightly Refining Micro-Peel Concentrate ไนท์ทรีทเมนต์ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ![]() ปกติผิวของเราจะผลัดเซลล์ผิวเก่าได้เองทุกๆ 3 สัปดาห์ แต่เมื่ออายุมากขึ้นแค่ผ่าน 20 ปีไปเท่านั้นเราจะผลัดเซลล์ได้น้อยลง ทำให้มีเซลล์ผิวเก่ากองอยู่สะสมอยู่บนผิวทำให้เท็กซ์เจอร์ผิวไม่สม่ำเสมอ สัมผัสแล้วขรุขระไม่เรียบเนียน การสะท้อนแสงของผิวก็แย่ลงทำให้ผิวดูไม่สดใส แถมยังทำให้เกิดการอุดตันผิวสาเหตุของสิวอีกด้วย การผลัดเซลล์ผิว....จึงเป็นหนึ่งในวิธีการบำรุงผิวที่จะช่วยให้ผิวเนียนเรียบ ลดปัญหาพวกริ้วรอยตื้นๆ ลดความหมองคล้ำให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น ซึ่งถ้าต้องการทำให้เห็นผลและปลอดภัยก็ต้องทำโดยคุณหมอในคลินิก ไม่ว่าจะเป็นการทำด้วยเครื่องมือ หรือใช้สารเคมีอย่าง AHA หรือ BHA การทำในคลินิกเรื่องเห็นผลไวแน่นอน แต่ปัญหาที่เรารู้ๆกันคือผลข้างเคียง อย่างปัญหาผิวลอก ผิวไวแดด ผิวระคายเคืองง่าย ฯลฯ แถมยัง "แพง" อีกด้วย ทำทีหมดเงินเป็นพัน แล้วยังเรื่องความสะดวกอีกใครจะไปทำได้บ่อยๆเนอะ บล็อคนี้เลยมีสกินแคร์ออกใหม่จาก Kiehl's มาให้ชมกัน ที่เค้าทำออกมาเพื่อตอบโจทย์ข้อจำกัดหลายๆอย่างของการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งเค้าได้ลองใช้ต่อเนื่องจนหมดขวดแล้วจึงนำมารีวิวให้ชมกัน ได้ผลอย่างไรบ้างไปชมรายละเอียดกันเลยค่า ![]() ![]() Kiehl's Dermatologist Solutions™ Nightly Refining Micro-Peel Concentrate -------------------------------------------------------------------- ขนาด 30 มล. ราคา 2,650 บาท เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ที่ร้านคีลส์ทุกสาขาค่า คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ตามคำเคลม โอเวอร์ไนท์ทรีตเม้นต์ที่ทำหน้าที่เร่งการผลัดเซลล์ผิว จึงช่วยผลัดผิวเก่าเผยผิวใหม่ที่ดูเด็กลง ด้วยสารสกัดจากเปลือกเมล็ดควินัว (Quinoa Husk Extract) , กรดผลไม้หลายชนิด (Fruit Acids) , สารสกัดจากตะบองเพชร (Cactus Extract) และกรดไฟติก (Phytic Acid) เพื่อชะลอความร่วงโรยของผิว โดยให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการผลัดเซลล์ผิวในคลินิก แต่อ่อนโยนต่อผิวสามารถใช้เป็นประจำได้ทุกคืน ส่วนผสมหลักที่เป็นตัวชูโรงของทรีทเมนต์ตัวนี้ คือ สารสกัดจากเปลือกเมล็ดควินัว (Quinoa Husk Extract) สำหรับคนที่ทานคลีนอยู่แล้วคงคุ้นกันดีกับ"ควินัว" ซูเปอร์ฟู้ดที่เป็นอาหารหลักของชาวโบลิเวีย อุดมไปด้วยโปรตีน กรดอะมิโนจำเป็น และวิตามินในปริมาณสูง โดยการนำควินัวมาบริโภคจะต้องจำกัดส่วนของเปลือกทิ้งก่อน แต่ทางคีลส์ได้ค้นพบว่าส่วนของเปลือกที่เป็นเศษเหลือทิ้งนี้ มีคุณสมบัติในการจำกัดการเชื่อมแน่นของหนังกำพร้าชั้นบนสุด และรักษาโครงสร้างสารอินทรีย์จำพวกไขมันในชั้นบนสุดของหนังกำพร้า จึงช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวได้โดยไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง นับว่าเป็นการค้นพบที่ดีงามมากนอกจากจะใช้ส่วนที่ไม่ได้ใช้แล้ว ทางคีลส์ยังมีการร่วมมือกับบริษัทจัดซื้อของโบลิเวีย ซึ่งจะรับซื้อควินัวจากเกษตรกรในท้องถิ่น จึงเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้ชุมชนอีกด้วย ![]() ![]() รายละเอียดส่วนผสม ส่วนผสมชูโรงหลักๆที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ตามที่กล่าวไปอย่างแรก คือ สารสกัดจากเปลือกเมล็ดควินัว ในส่วนผสมคือ Chenopodium Qiunoa Seed Extract นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับกรดผลไม้หลายชนิด (Fruit Acids) ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากส้ม, มะนาว, บิวเบอร์รี่(Vaccinium Myrtillus), สารสกัดจากอ้อย(Sugar Cane) , น้ำตาลเมเปิ้ล (Sugar Maple) สารสกัดจากตะบองเพชร (Cactus Extract) คือ Hydrolyzed Opuntia Ficus Indica Flower Extract เป็นสารสกัดจากดอกต้นตะบองเพชรสายพันธุ์หนึ่ง มีโครงสร้างเป็นโมเลกุลน้ำตาลขนาดใหญ่ ที่ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ผิว กรดไฟติก (Phytic Acid) กรดธรรมชาติอีกตัวหนึ่งที่ได้จากข้าวและพืชตระกูลถั่ว ที่นอกจากช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังช่วยยับยังเอนซ์ไซม์ที่สร้างเม็ดสีเมลานินอีกด้วย นอกจากส่วนผสมหลักๆที่กล่าวมายังมี Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid หรือ HEPES เป็นสารที่จดสิทธิบัตรของ LOréal ที่ไปเสริมเอนไซม์ที่ทำหน้าที่สลายการยึดเกาะของเซลล์ผิว จึงช่วยเสริมการผลัดผิวตามธรรมชาติ จากส่วนผสมจะเห็นว่ามี Alcohol Denat ใส่มาเป็นอันดับสอง ตอนแรกเค้าก็กังวลในจุดนี้เหมือนกันว่าผิวแห้งแบบเค้าจะใช้ได้ไหม แต่ตอนที่ได้ไปงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ญี่ปุ่นได้ถามแพทย์ผิวหนังจากทางคีลส์ คุณหมอแจ้งว่าใส่มาเพื่อทำละลายไม่มีผลที่ทำให้ผิวแห้งลง เพราะมีสารที่ให้ความชุ่มชื่นเข้มข้นใส่มาด้วย อย่าง Hydroxyethyl Urea , Glycerin , Aloe Babadensis Leave Juice Powder (สารสกัดจากว่านหางจระเข้) ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าจากการวิจัยพบกว่าเมื่อใช้ต่อเนื่อง กลับช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวที่ระคายเคืองแพ้ง่าย เพราะเค้าปรับค่า pH ให้อยู่ที่ 4.5 ไม่ได้มีฤทธิ์เป็นกรดให้รู้สึกแสบยิบผิว ***ไม่มีส่วนผสมของสี , น้ำหอม และ พาราเบน ![]() คำเตือนด้านหลังขวด! ทรีทเมนต์นี้มีส่วนผสมของกรดธรรมชาติ AHA จึงแนะนำให้ใช้ตอนก่อนนอนเท่านั้น เพราะอาจจะทำให้ผิวไวแดดมากขึ้น ดังนั้นในขณะใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิว จึงควรใช้ครีมกันแดดทุกวัน ร่วมกับการเลี่ยงแดด หรือใส่หมวกเพื่อไม่ให้ผิวโดนแดดโดยตรง จะได้ไม่เสี่ยงที่ผิวจะเกิดการไหม้แดด ![]() ลักษณะเนื้อและกลิ่น เนื้อทรีทเมนต์เป็นสีเซรั่มเหลวใสสีเหลืองอ่อน เนื้อลื่นเกลี่ยได้ง่ายซึมผิวค่อนข้างไว ไม่มัน ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม กลิ่นจึงเป็นกลิ่นของส่วนผสมธรรมชาติ เค้าว่ากลิ่นแอบคล้ายโชยุจางๆถ้าดมจากขวดโดยตรงกลิ่นจะชัดหน่อย แต่พอทาบนผิวจะไม่ชัดเท่าตอนแรก เหลือกลิ่นติดผิวพอประมาณ ![]() เวลาทาลงไปบนผิวหลังจากซึมหมด ลองสัมผัสดูจะเหลือความหนึบผิวเล็กน้อย สำหรับเค้าที่ผิวแห้งไม่เป็นปัญหา ถ้าคนผิวค่อนข้างมันอาจจะลดปริมาณการใช้ลง แต่จริงๆแล้วตัวนี้ใช้สำหรับทาตอนกลางคืนเท่านั้น ซึ่งเรานอนแอร์กันเป็นปกติผิวจึงขาดความชุ่มชื่นได้ง่าย การทาให้ชุ่มชื่นไว้ก่อนนอนก็ถือว่าให้ผิวได้บำรุงเต็มที่มากขึ้น ![]() วิธีและขั้นตอนการใช้ ทางแบรนด์แนะนำให้ใช้ครั้งละ 2-3 หยด ทาทั่วใบหน้าหลังทำความสะอาดผิว โดยใช้เป็นขั้นตอนแรก ก่อนการใช้เซรั่มและมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ซึ่งสามารถใช้ควบคู่กับสกินแคร์อื่นๆที่เราใช้อยู่ได้เลย แต่กรณีสำหรับคนที่ใช้ยารักษาสิวที่มีอาการผิวแห้งลอกไม่ควรใช้พร้อมกันฮะ วิธีการทาของเค้าจะหยดใส่ฝ่ามือแล้วประกบสองมือเข้าด้วยกัน กระจายเนื้อทรีมเมนต์ให้ทั่วแล้วกดลงเบาๆที่ผิวไม่ใช้การลูบหรือปาด โดยจะลงที่แก้มที่มีพื้นที่กว้างกว่าก่อนแล้วที่เหลือค่อยลงทีโซน การกดเบาๆจะช่วยให้ซึมผิวได้ง่ายขึ้น จากนั้นก็ทาสกินแคร์อื่นๆตามเหมือนขั้นตอนที่ทาปกติ ![]() ช่วงที่เทสทรีทเมนต์ตัวนี้เค้าเดินทางค่อนข้างบ่อย ผิวจะแห้งง่ายเลยใช้คู่กับ Kiehl's Facial Deep Moisture Balm ทาแค่สองตัวนี้จบเลย....คือขี้เกียจทาหลายสิ่ง แหะๆ แต่ใช้แค่สองสิ่งมันเวิร์คมากนะ ตัวบาล์มข้นได้ใจให้ผิวชุ่มชื่นเต็มที่ ตื่นมาแล้วหน้ายังชุ่มอยู่แต่เสียดายตัวนี้ไม่มีขายในไทย เค้าเน้นวางขายแค่ประเทศเมืองหนาวเท่านั้น ![]() สภาพผิวตอนเช้าหลังจากทาสองไอเท็มด้านบนคู่กัน จะเห็นว่าไม่มีความมันเหลืออยู่บนผิวแต่อย่างใด สิ่งที่รู้สึกตอนเช้าเลยคือผิวนุ่มมม...จับผิวตัวเองแล้วแฮปปิ้ ![]() เค้าลองใช้เองต่อเนื่องหมดไปแล้ว 1 ขวด ด้วยความที่ปริมาณการใช้ต่อวันน้อยมากแค่ไม่กี่หยด ดังนั้นขวดนึงอยู่ได้นานเลย เค้าไม่ชัวร์ว่าใช้ไป 5 หรือ 6 เดือนนี่หล่ะ พกไปใช้เวลาไปเที่ยวด้วยสภาพขวดเลยเยินหน่อย ตัวเคลือบขวดสีเขียวลอกร่อนเชียว ขวดรุ่นนี้เค้าเคลือบกรองแสงมาแล้วระดับนึง แต่อย่างไรก็ตามแนะนำว่าควรเก็บไว้ในในที่ไม่โดนแสงแดดนะฮะ ![]() สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้ต่อเนื่อง เกริ่นก่อนว่าเค้าเป็นผิวแห้งที่บำรุงผิวต่อเนื่องมาโดยตลอด จึงยังไม่ค่อยมีปัญหาผิวอะไร แต่อายุที่เพิ่มขึ้น(ปีนี้ย่างเข้าเลข 3 หุหุ) ก็รู้หล่ะว่าการผลัดเซลล์ผิวจะทำงานน้อยลงมาก แต่ก็ไม่เคยคิดจะไปผลัดเซลล์ผิวตามคลินิกหรือใช้ผลิตภัณฑ์ด้านนี้โดยตรงเลย เพราะกังวลว่าจะทำให้ผิวแห้งลอกแล้วจะกลายเป็นผิวที่ระคายเคืองง่าย จนได้ไปงาน Pre-Launch ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้กับคีลส์ที่ประเทศญีปุ่นเมื่อครึ่งปีก่อน แล้วได้คุยกับแพทย์ผิวหนังจากคีลส์ว่าตัวนี้เค้าเทสมาแล้วว่าอ่อนโยนมาก สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวจริงๆ ก็เลยตัดสินใจลองใช้ต่อเนื่องดู หลังจากหมดไปหนึ่งขวดสรุปให้เลยว่าผิวแห้งใช้ได้จริงๆ เค้าไม่มีอาการผิวลอกหรือระคายเคืองแต่อย่างใด ตอนที่ทาก็ไม่รู้สึกแสบยิบอะไรปกติมากเหมือนทาเซรั่มทั่วไป แต่เนื้อจะมีความหนึบพอควรจึงควรใช้ในปริมาณน้อยๆ และไม่ควรทาตัวนี้เดี่ยวๆอย่างน้อยควรทามอยส์เจอร์ตามด้วย ผลลัพธ์อย่างที่เกริ่นแล้วว่ายังไม่ค่อยมีปัญหาผิว จึงไม่ได้เห็นความต่างชัดเจนมากนัก แต่ที่รู้สึกคือเรื่องของความนุ่มผิว ตอนเช้าตื่นมานี่สัมผัสได้เลย เรื่องเท็กซ์เจอร์ผิวรู้สึกเนียนเรียบเล็กน้อยแต่งหน้าติดผิวง่ายขึ้น ส่วนอาการเบิร์นแดดเค้าทากันแดดทุกวันอยู่แล้วไม่มีปัญหาใดๆจ้า ติดนิดเดียวเรื่องกลิ่น...ธรรมชาติมากกกก เค้าอ้ะรับกะกลิ่นได้นะ แต่คนนอนด้วยข้างๆนี่หล่ะวันไหนทานางจะถามเลยว่าทาตัวนี้อีกแล้ว กลิ่นมันเตะจมูกคุณผู้ชายไปนิดนึง แหะๆ อาจจะเพราะเค้าใช้แต่สกินแคร์แบบไม่มีกลิ่นด้วยแหละกลิ่นเลยเด่นขึ้นมา สรุปในมุมมองของเค้าจัดเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยนจริง ใช้ได้กับทุกสภาพผิวและได้ทุกคืนโดยไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง ส่วนตัวไม่มีผลข้างเคียงใดๆและไม่ทำให้ผิวแห้งลงด้วย ถือว่าเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ใช้ได้ทุกวันอย่างสบายใจ ไม่เห็นผลไวเท่าทำที่คลินิกแต่เทียบกับการที่ไม่มีผลข้างเคียง ก็ทำให้เราดูแลผิวได้ง่ายขึ้นจ้า สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆ เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวให้ทำงานได้ตามวงจรผิว จะได้ไม่มีปัญหาผิวหลายๆอย่างตามมาเมื่ออายุมากขึ้นเนอะ สำหรับใครที่สนใจอยากลอง Kiehl's Dermatologist Solutions™ Nightly Refining Micro-Peel Concentrate ไม่ต้องลุ้นว่าซื้อมาแล้วจะใช้กับผิวตัวเองได้ไหม สามารถเข้าไปรับผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองได้ฟรีๆ เพราะเค้ามีสนโยบาย Try Before You Buy เพื่อให้เราได้ทดลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อได้ แวะเข้าไปที่ร้านคีลส์ทุกสาขาได้เลยค่า ![]() ----------------------------------------------------------------------------- Disclaimer : Sponsored Content by Kiehl's Thailand ***All opinions are my own Information : www.kiehls.co.th https://www.facebook.com/KiehlsThailand |
บทความทั้งหมด
|