...ชีวิตวัยเด็กกับนิทานของแม่...


เมื่อตอนที่เราเป็นเด็กยังเล็กนั่น จำได้ดีว่าสมัยโน้นอยู่บ้านนอก..ถิ่นธุรกันดาร...ดินลูกรังสีแดงๆ เวลารถวิ่งผ่านก้อจะเป็นฝุ่นคลุ้ง...ผมเผ้าก้อจะกลายเป็นสีแดงๆ อิอิ ดูเหมือนลูกฝรั่ง((กิโลละสองบาท...แหะๆๆ))

หมู่บ้านที่เราอยู่นั้นเป็นหมู่บ้านที่ห่างจากถนนหลักไปหลายสิบกิโล ถือเป็นหมู่บ้านห่างไกลความเจริญพอสมควร ลักษณะตัวบ้านของเราเป็นบ้านไม้สองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องโถงกว้าง ด้านหลังเป็นห้องครัว เดินยาวออกไปก็จะเป็นห้องน้ำที่มีที่ล้างจานติดกัน

ส่วนชั้นบนมีห้องนอนสองห้อง..และก้อมีห้องโถงที่เราสามคนพี่น้อง(โต้ง เต๋าและตู๋) จะนอนเรียงหน้ากระดานกันสามคน ห้องนอนใหญ่เป็นของพ่อกับแม่ และอีกห้องเป็นของพี่ติ้ง ((ครูที่มาสอนโรงเรียนเดียวกับพ่อและแม่เรา..เป็นครูสาวมาจากยุดยา))

ทุกวันหลัง 6 โมงเย็นทุกคนต้องเข้าบ้านอย่างพร้อมเพรียง ..แม่เราตั้งกฏเหล็กเช่นนี้ ซึ่งเราต้องปฏิบัติตาม..ใครที่วิ่งเล่นนอกบ้านหรือไปบ้านปู่บ้านย่า หลัง 6 โมงจะต้องเข้าบ้าน ไม่เช่นนั้นคุณจะขาดสิทธิเข้าบ้านทันที.. แต่บางทีก้อมีแอบแวบเกินเวลา ก้อมักจะทำทีไปนอนบ้านย่าสะเลยก้อไกลจากบ้านไม่กี่หลังเอง..แล้วก้ออ้อนย่านิดหน่อย เช้ามาย่าก็มาส่งบ้าน..อิอิ วันนั้นเป็นอันว่ารอดไป

และ ณ ชั้นสองที่ห้องโถงของบ้านเนี่ยละเป็นต้นกำเนิดของนิทานปรัมปราของแม่..ทุกเย็นหลังจากที่เรากินข้าวเย็นกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกทั้งสามและพี่ติ้งแล้วนั้น..เราก้อพากันแยกย้ายไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย..แหะๆเราจำไม่ได้ว่าของเราล้างจานรึเปล่า?? หลังจากนั้นก็แยกย้ายอาบน้ำอาบท่า และทำการบ้าน..เราก็มักลากไอ้ตุ่น(สีดำมอๆที่พ่อซื้อมาฝาก) กะจูงมือแม่ไปยังที่นอน..แล้วก้ออ้อนนิดหน่อยว่า


“แม่จ๋า เล่านิทานให้หนูฟังหน่อยสิจ้ะ”..



จากนั้นแม่ก้อจะเริ่มเรื่อง กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.........

นิทานของแม่ที่เล่าให้ฟังนั้น ..เราก้อมักจะนึกฉงนในใจว่า ทำไมจะต้องมีกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ไมไม่เป็นสองเป็นสามหรือมากกว่านั้น แต่ด้วยความที่อยากฟังนิทานก้อเลยไม่ได้ซักถามอะไรมาก และเนื้อเรื่องมักจะมีครอบครัวครอบครัวนึงที่มีลูกสามคน ชื่อก้อมักจะไล่เลียงกันไปหรือบางวันก้อจะเป็นชื่อเราสามคน และโดยส่วนมากแล้วเราสามคนจะผลัดเวรกันเป็นพระเอกนางเอกประจำเรื่อง มีการสร้างวีรกรรมต่างๆนานา..โดยเรามักจะประท้วงแม่เป็นประจำว่าทำไมเราไม่ค่อยได้เป็นนางเอกของเรื่องมั่ง ฟังไปหลับไป รู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่งแต่ประท้วงตลอด…..

ในวัยเด็ก ทุกวันแม่ทำหน้าที่นี้ แม่จะสอดแทรกคติธรรมคำสอนต่างๆให้กับเราเสมอๆ และที่สำคัญยิ่งคือ ความรักระหว่างพี่และน้อง..ท่านจะสอนให้เรารักกันให้มากๆ ในส่วนนิทานที่แม่เล่าจะมีพี่น้องทะเลาะกัน ตีกัน เถียงกัน ต่อยตีกัน แต่สุดท้ายตอนจบของเรื่องแม่มักจะจบนิทานทุกเรื่องลงด้วยดี เสมอๆ เหมือนที่เค้ามักจะเรียกว่า “HaPpY ENDiNG”

นิทานของแม่...ได้ปลูกฝังเราทั้งสามพี่น้องให้คิดดี ทำดี มีความรักเผื่อแผ่แก่คนรอบข้าง....รู้จักให้อภัย..ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร ...ช่วยเหลือเผื่อแผ่ผู้อื่นเท่าที่เราจะช่วยได้...ปัจจุบัน เราพูดได้ว่าเราไม่เคยคดโกงใคร..เราอยู่อย่างพอเพียงดังกระแสพระราชดำรัสของพ่อหลวง..ไม่ดิ้นรนไขว่คว้า ..ไม่อยากได้มาซึ่งลาภยศ สรรเสริญหรือแม้แต่อำนาจ...เราพูดได้เต็มปากว่าเรามีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันนี้มากๆ...((ถึงแม้ว่าบางทีเราจะเศร้าบ้าง ทุกข์บ้าง แต่ชีวิตมันก้อต้องมีทุกรสคละเคล้ากันไปเนอะ...))

สุดท้ายนี้ขอกราบเท้าแม่กับพ่อ ที่ได้ล่อเลี้ยงลูกมาอย่างดี ทำให้ลูกไม่ต้องเป็นที่ดูถูกดูแคลนหรือประณามด่าว่าจากบุคคลอื่น....ทำให้ลูกภูมิใจในชาติกำเนิด รักและหวงแหนแผ่นดินนี้..เป็นที่สุด....ด้วยรักอย่างสุดซึ้งค่ะ...



Create Date : 01 มีนาคม 2549
Last Update : 2 มีนาคม 2549 23:07:22 น.
Counter : 551 Pageviews.

12 comments
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
  


แม่นั้นแม้เพียงให้กำเนิดไม่ได้เลี้ยงดูเราพระคุณนั้นก็ทดแทนไม่หมดค่ะ การให้กำเนิดของแม่นั้นเสี่ยงชีวิตด้วยค่ะ สาธุคขอให้เจริญยิ่งๆค่ะ
โดย: ป่ามืด วันที่: 1 มีนาคม 2549 เวลา:23:28:45 น.
  


สวัสดีดึก ๆ ค่าพี่ตู๋

ชอบจังค่ะ นิทานของแม่

ตอนเด็ก ๆ หนูหนึ่งชอบให้แม่เล่านิทานให้ฟัง จนแม่เบื่อที่จะเล่า อิอิ

ป๊าเลยเสนอไอเดียกิ๊บเก๋
อัดเทปซะเลย เวลาแม่เล่าก็เลยอัดเทปไปด้วย แถมจะมีเสียงเด็กง๊องแง๊งถามนู่นถามนี่

หลายปีผ่านไป เอามาเปิดฟัง

มีความสุขจังค่ะ
โดย: NuenG (blue_diamond ) วันที่: 1 มีนาคม 2549 เวลา:23:54:42 น.
  
ตอนเด็กๆ ไม่ได้ฟังนิทานจากแม่เลยค่ะ แต่แม่ก้อมักมีเรื่องจริงจากชีวิตของแม่มาเล่าสอนใจเสมอๆเหมือนกันค่ะ
รักแม่...
โดย: asariss วันที่: 2 มีนาคม 2549 เวลา:11:41:38 น.
  
แวะมาฝากความคิดถึง อย่างแรงคร๊า

โดย: อพันตรี วันที่: 2 มีนาคม 2549 เวลา:18:52:17 น.
  



ไอน์สไตน์บอกว่า
จินตนาการสำคัญกว่าตำราครับ

นิทานคงคล้ายๆ เพลง
นิทานดีๆ ทำให้จิตใจละเอียดอ่อนขึ้น



บีจีน่ารักดีครับ


โดย: IP: 203.188.21.59 วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:9:00:29 น.
  



ความรักของพ่อแม่ เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไขเนาะ...อบอุ่นดีค่ะ


โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:10:01:24 น.
  
bgน่ารักดีค่ะ
โดย: ดา ดา วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:14:47:57 น.
  
เห็นคุณแวะไปที่บล็อกของเรา ขอบคุณมากนะคะ เราเลยแวะมาหาคุณบ้าง บล็อกของคุณน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ อยากทำได้แบบคุณบ้างจัง

สวัสดีค่ะ
โดย: เมนี่==ใจดีจ้า วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:16:42:21 น.
  
มาแล้วค่า อิอิ

แว้บมาบอกว่า ตอนที่อัดเสียงเล่านิทานมีเสียงอื่นแทรกจริง ๆ ด้วยละค่ะ

แต่เป็นเสียงปิดประตูเหล็ก เอี๊ยด ทุกที หุหุ

หนูหนึ่งสบายดีค่าพี่ตู๋
อิอิ ไปเรียนอังกฤษ หนุก ๆ ปนง่วงนิดหน่อย พรุ่งนี้ไปเรียนเลขแล้วค่ะ

สุขสันต์วันสุขค่า

โดย: NuenG (blue_diamond ) วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:22:18:55 น.
  
โดย: แม่เองจ้า IP: 202.143.147.178 วันที่: 9 มีนาคม 2549 เวลา:9:40:01 น.
  

โดย: ลูกของแม่เป็นเด็กดี กตัญญูรู้คุณตลอดมา ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองลูกของแม่ให้เป็นที่รักของทุกคน แม่รักลูกมากจ้า IP: 202.143.147.178 วันที่: 9 มีนาคม 2549 เวลา:9:44:17 น.
  
ลูกทุกคนรักแม่ แต่ก็น่าสงสารมากที่พ่อและเสียชีวิต ไปตั้งแต่ยังเด็ก
โดย: สาว IP: 203.172.162.145 วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:12:38:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Meduza.BlogGang.com

FaRaWaYGiRL
Location :
นครราชสีมา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด