คุยกับประภาส_ศาสนาเดียวกัน  พี่ประภาส ครับ อ่านใน ตัวหนังสือคุยกันของพี่ พี่บอกว่าศาสนาทุกศาสนาคือศาสนาเดียวกัน พี่เชื่ออย่างนั้นจริงๆหรือครับ ผมเห็นเวลาคนต่างศาสนามาคุยกัน ก็มักจะทะเลาะกันประจำเลยคล้ายๆกับว่าจะบอกว่าศาสนาของชั้นดีกว่าใคร เวตาล +++++++++++  ที่ผมเชื่อเช่นนั้น เพราะผมอยากให้มันเป็นเช่นนั้นครับ ความจริงในเรื่องจิตใจมนุษย์หรือความจริงในเรื่องแก่นแท้ของมนุษย์นั้นล้วนเป็นเรื่องเฉพาะตัว แต่ละคนคิดต่างๆกันไป จะบอกว่าความคิดของใครผิด ความคิดของใครถูกย่อมเป็นไปไม่ได้ ดูเอาแต่คำสอนของพระพุทธเจ้าเมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีก่อนเถิด พระองค์ตรัสสอนผู้คน เพื่อให้ทุกคนเห็นทางพ้นทุกข์ จนถึงวันนี้การตีความในคำสอนของพระองค์ของแต่ละกลุ่ม แต่ละความคิดก็แตกกิ่งก้านสาขาออกไปเป็นนิกายต่างๆทั้งเถรวาท มหายาน แตกไปเป็นนิกายเซน เป็นลังกาวงศ์ ทางคริสต์ก็เหมือนกัน จากพระเยซูองค์เดียวกันก็แยกเป็นโปรเตสแตนต์เป็นคาทอลิก และที่ผมเชื่อว่าทุกศาสนาคือศาสนาเดียวกันเพราะผมเชื่อว่ามนุษย์ถูกสร้างจากอะไรบางอย่างอะไรบางอย่างที่อยู่ที่ไหน เป็นอย่างไรไม่รู้และอะไรบางอย่างนั้นได้แนบศาสนาส่งมาใน DNA มีเรื่องเล่าตอนที่ท่านพุทธทาส สนทนาธรรมกับศาสนิกชนจากศาสนาอื่นมาเล่าให้ฟัง ผมชอบมากครับ ลองฟังกันดูต้องเรียกได้ว่าเป็นการตีความแก่นทางศาสนาที่อัจฉริยะมาก แม่ชีฝรั่งท่านหนึ่งถามท่านพุทธทาสว่า ศาสนาพุทธสอนอะไร ท่านพุทธทาส ตอบไปว่าก็สอนอย่างเดียวกับที่ศาสนาคริสต์สอน แม่ชีจึงว่าคืออะไร ท่านพุทธทาสตอบว่า พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ กฎ ซึ่งหมายถึงกฎธรรมชาติ หรือ ธรรม นั่นเองส่วนทางคริสต์ก็มีสิ่งสูงสุดที่เรียกว่า GOD ซึ่งบางทีสิ่งนี้อาจคือสิ่งเดียวกันเพราะแม้แต่การเปล่าเสียงออกมาก็ยังคล้ายกัน ถึงตรงนี้ผมขออนุญาตนอกเรื่องคัดค้านสิ่งที่ผมเคยเรียนมาในวิชาศีลธรรมสมัยเด็กๆหน่อยนะครับ คือในหนังสือเรียนของกระทรวงศึกษานั้น เวลาอธิบายถึงพระธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในรัตนตรัย ของชาวพุทธคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าพระธรรมคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และก็มักจะมีรูปพระไตรปิฏกเล่มหนึ่งวางอยู่บนพานเป็นภาพประกอบ ภาพนี้แหล่ะครับที่ผมอยากคัดค้าน ผมชอบพระธรรมในความหมายที่ท่านพุทธทาสพูดถึงมากกว่า พระธรรมคือความจริงแห่งโลก คือความจริงแห่งจักรวาล และพระพุทธองค์เป็นผู้ค้นพบผู้รู้แจ้งความเป็นจริงนั้น แล้วจึงนำมาสั่งสอนผู้คน รูปสมุดใบลานวางบนพาน ทำให้ผมหลงคิดไปว่าพระธรรมคงหมายถึงบทสวดในหนังสือนั้นมาตั้งแต่เด็กเลยครับกว่าจะมารู้ว่าเราสามารถศึกษาธรรมโดยไม่ต้องรู้บาลี ก็ได้เอาเมื่อตอนโตแล้วนี่แล้วครับ กลับมาที่การสนทนาธรรมของท่านพุทธทาสต่อครับ แล้วท่านก็พูดต่อว่า สิ่งที่แม่ชีคล้องคออยู่คือสิ่งเดียวกับที่พระพุทธศาสนาสอนท่านพุทธทาสหมายถึง ไม้กางเขน ครับ ไม้กางเขนอันเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ ลองฟังคำอธิบายของท่านดูซิครับ ฟังแล้วมันก็ทำให้ผมอยากศึกษาคำสอนของทุกๆศาสนาเลยครับ ท่านพุทธทาสบอกว่า ประภาส ชลศรานนท์ ที่มา : ประภาส ชลศรานนท์ กบเหลาดินสอพิมพ์ครั้งที่ 11 กรุงเทพฯ : เวิร์คพอยท์,2550
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมครับผม
และขอให้ จขบ มีชีวิตที่มีสุขกับงานที่รัก นะครับ หากว่าง อย่าลืมแวะทักทายกันนะครับ โดย: my_oom
 วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:20:20:54 น.ขอบคุณที่ไปเยี่ยมชมBlogค่ะ...บรรยากาศอยุธยา คุณ Manow_noi คงคุ้นเคยดี...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ..
 โดย: กะทิหวาน (Katiwan
) วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:14:54:35 น.สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะชม blog ค่ะ ลองเข้าไปที่ blog ของป้ามด สิค่ะ มี code ในการเขียน blog มากเลยค่ะ *-*
 โดย: ...ปราย... (mayavade
) วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:21:02:55 น.ชอบเพลงค่ะ อยากทำได้บ้างจังค่ะ รับปิ้งเป็นศิษย์สักคนได้ไหมค่ะ อิอิ
โดย: หมูปิ้งค่ะ IP: 61.19.66.228 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:14:36:22 น.
สวยมากๆค่ะ ช้อบ ชอบ
โดย: ปิ้งนะค่ะ IP: 61.19.66.228 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:14:43:34 น.
หมูปิ้ง เอ๋ย
พี่ก็เพิ่งหัดทำเหมือนกันน้องจ๋า แห่ะๆ มันก็ยัง งง..งง เหมียนกัน ไม่เป็นไร พี่จะลองฝึกไปเรื่อยๆ ก่อนหนอ ถ้าเก่งแล้วจะสอนให้หมูปิ้งคนแรกเลย ...เฮ้อ โดย: manow_noi (manow_noi
) วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:20:14:22 น.เพิ่งทำบล็อค ครั้งแรกในชีวิตนะครับ ยังงงอยู่เลย ขอบคุณ ที่ไปเม้นนะครับ คนแรกด้วย..คุณ มะนาวน้อย
ยินดีที่ได้รู้จักครับ โดย: กิ่งโศก (Taboonkam
) วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:9:54:53 น.ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดค่ะ
โดย: sweety_babygirl IP: 71.237.163.16 วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:16:44:46 น.
|
บทความทั้งหมด
|
|||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
ขั้นตอนที่ 1.คุณต้องมีไฟล์ในคอมฯสำหรับเก็บภาพต่างๆเรียกว่าเป็นคลังภาพก็ได้ ว่างั่นเถอะ
2.ไฟล์ภาพที่ว่านี้ควรจะเก็บไว้ในไดรฟ์ C หรือ F ก็ตามสะดวก แบ่งไฟล์ภาพเป็นโฟลเดอร์ต่างๆ เหมือนเราเก็บแฟ้มในตู้เอกสาร แล้วอย่าลืมตั้งชื่อโฟลเดอร์ด้วย เวลาเราจะดาวน์โหลดรูปลงบล็อกจะได้หาง่ายๆ
3.รูปต่างๆที่เราจะเก็บสะสมในคลังภาพ จะมีที่มาดังนี้
3.1 เซฟมาจากเว็บฯต่างๆที่เราเห็นว่าสวย และอาจจะเป็นประโยชน์ เช่น ภาพอาหาร ภาพดอกไม้ ภาพทิวทัศน์ ฯลฯ
3.2 แสกนภาพมาจากเครื่องแสกน (ซึ่งเราต้องมี) เช่นภาพหน้าปกหนังสือต่างๆ วิธีใช้เครื่องแสกนภาพก็แล้วแต่ละยี่ห้อ
3.3 ถ่ายข้อมูลภาพจากกล้องดิจิตัล หรือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอย่างหลังนี้ผมใช้ประจำเพราะสะดวกดี ลงเก็บไว้ในคอมฯ
3.4 ก่อนจะเก็บรูปหรือภาพต่างๆลงในไฟล์ภาพ ควรจะมีขนาดของภาพไม่เกิน 130 GB ถ้าเกินก็จัดการย่อภาพก่อน ตรงนี้ถ้าไม่มีเว็บฯสำหรับฝากภาพ คุณต้องติดตั้งโปรแกรม ACDsee ตอนนี้เวอร์ชั่น 6 หรือ 7 แล้ว
3.5 เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เวลาจะโหลดภาพลงประกอบบล็อก คุณก็ทำตามขั้นตอนในหน้าการจัดการของบล็อก
อธิบายมายืดยาวไม่ทราบว่าพอจะเข้าใจหรือเปล่า สอบถามได้นะ ก่อนจะจบขอชมว่าเขียนบรรยายชีวิตของตนเองได้ดี น่าจะเป็นนักเขียนด้วย