เมื่อมีคนกระโดดตัดหน้ารถไฟ... 人身事故 เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาตอนกำลังเดินมาขึ้นรถไฟกลับบ้าน พอมาถึงสถานีก็มีเจ้าหน้าที่ประกาศว่า ตอนนี้เกิด 人身事故 (แปลตรงตัวว่า อุบัติเหตุที่เกิดจากร่างมนุษย์) พูดง่าย ๆ คือ มีคนโดดตัดหน้ารถไฟ อีกแล้วหรอ.....
ฉันเพิ่งซื้อของจากซุปเปอร์เตรียมกลับไปทำกับข้าวเต็มพิกัด ก็เกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาทันที ทำไมต้องโดดรถไฟฆ่าตัวตายด้วยนะ รอบ ๆ ตัว ฉันก็มีคนญี่ปุ่น ทำหน้าเซ็ง ๆ แล้วคิดหาวิธีอื่นในการกลับบ้าน ท้ายที่สุดฉันกลับถึงบ้านประมาณ 3 ทุ่ม ช้ากว่าเดิมประมาณหนึ่งชั่วโมง
พอกลับถึงบ้าน ทำกับข้าวเรียบร้อย ฉันก็มาคิดได้ว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ที่ฉันเริ่มทำหน้าเซ็ง ๆ เหมือนกันกับคนญี่ปุ่น เวลาได้ยินคำว่า อุบัติเหตุจากร่างมนุษย์ (人身事故)
ฉันนึกทบทวนไปถึงครั้งแรกที่ฉันมาญี่ปุ่น แล้วต้องไ้ด้ยินประกาศนี้จากเจ้าหน้าที่ประจำสถานี ตอนนั้นฉันค่อนข้างประหลาดใจ ในประเทศที่สะดวกสบาย สะอาดสะอ้าน และพร้อมทุกอย่างเท่าที่เมืองเมืองนึงจะมีได้ ทำไมถึงมีคนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ทำไมถึงมีคนต้องการฆ่าตัวตาย แล้วทำไมคนเหล่านั้นเลือกที่กระโดดรถไฟ ที่แย่กว่านั้น มากกว่าที่จะได้รับความเห็นใจ เศร้าใจ กับผู้ตายและครอบครัวผู้ตายที่ต้องสูญเสียบุึึคคลที่รัก ทำไมคนญี่ปุ่นถึงทำหน้าเฉยชา และออกจะเซ็ง ๆ อย่างนั้น
ผ่านมา 7 ปี ฉันก็ทำหน้าเซ็ง ๆ เหมือนกับคนญี่ปุ่น ที่ฉันเคยว่าไว้ในใจไม่มีผิด !!!
อะไรทำให้ฉันเปลี่ยนไปขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นในระยะเวลา 7 ปี ที่ญี่ปุ่นนี่... แล้วฉันก็ค้นพบความจริงที่ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันเจอประกาศข้อความนี้แทบทุกวัน แตกต่างกันเพียงว่าจะเป็นรถไฟสายไหนเท่านั้นเองนอกจากนี้ ทุก ๆ 3-4 เดือน ฉันจะเจอประกาศข้อความนี้ในรถไฟสายที่ฉันใช้อยู่้ และครั้งที่แย่ที่สุด คือตอนเช้าฉันไปทำงานช้าเพราะเจอคนโดดรถไฟตอนเช้า ในวันเดียวกันนั้นฉันต้องกลับบ้านดึกเพราะมีอีกคนกระโดดรถไฟตอนเย็น ในระดับความถี่แบบนี้ ทำให้ความเห็นใจกลับเป็นความเคยชิน และการเสียเวลา 1-2 ชั่วโมงทุกครั้งที่ต้องเจอ กลายเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด
มาพูดสถิติการฆ่าตัวตายที่ญี่ปุ่น เมื่อปี 2010 มีจำนวนคนฆ่าตัวตายที่ญี่ปุ่นทั้งสิ้น 31,690 คน หรือประมาณ 87 คนต่อวัน เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่มีจำนวนคนฆ่าตัวตายรวมทั้งสิ้น 3,761 ราย หรือประมาณ 10 คนต่อวัน ถ้าคิดคร่าว ๆ ว่าญี่ปุ่นมีคนมากกว่าไทยประมาณเท่านึง ถ้าประชากรไทยมีพอ ๆ กับคนญี่ปุ่น คนไทยจะมีสถิติการฆ่าตัวตายอยู่ประมาณ 7500 คนต่อปี ดังนั้นอัตราการฆ่าตัวตายของเราน้อยกว่าญี่ปุ่นถึง 4 เท่า
ดังนั้น ถ้าถามว่าความเจริญทางเศรษฐกิจ จะทำให้คนในประเทศมีความสุขได้ไหม และทำให้คนในประเทศเอื้ออาทรต่อกันมากขึ้นไหม ทุกคนคงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว
Free TextEditor อ่านแล้วก็สลดใจเหมือนกันน่ะ เขาไม่รู้เลยเหรอว่าร่างกายมีเพื่ออะไร (ก็ไว้สร้างความดีสร้างบารมี) เรามาอยู่ญี่ปุ่นได้แค่สองปีครึ่งรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยและหน้าเซ็งๆของคนที่นี้ มองอีกมุมเขาก็ดูน่าสงสารเพราะทางออกของชีวิตเขาเมื่อพบทางตันมันมีน้อยมาก ต่างกับที่ไทยบ้านเรา ยังมีวัดมีธรรมะเป็นที่พึ่งทางใจ
โดย: Ramachan
![]() อย่างน้อยถ้าแก้ปัญหาทางจิตใจของคนในญี่ปุ่นยังไม่ได้ เราอยากให้ช่วยทำประตูกั้นบนชานชลา เหมือนกับรถไฟใต้ตินบ้านเรา ตอนนี้ในบางที่ก็มีที่กั้นแบบนี้ แต่เราอยากให้ทุกที่มีที่กั้น คนจะได้กระโดดจากชานชลาลงมาไม่ได้
สำหรับเรื่องฆ่าตัวตาย เราก็สลดใจแต่ยังไม่เห็นทางออก ว่ามันจะแก้ปัญหานี้ยังไง เพราะจริง ๆ เราก็ยังไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมคนเราถึงอยากจะตาย โดย: ปลาทองในกองหนังสือ
![]() เคยอ่านเจอในหนังสือจิตวิทยามาว่า ความจริงแล้วคนที่อยากตายคือคนที่อยากมีชีวิตอยู่มากที่สุด แต่เขาไม่รู้ทางออกว่าจะทำยังไงเลยคิดเรื่องตายเพื่อที่จะรีเซ็ท (แบบคิดเอาเอง)
รถไฟสายที่เราใช้เป็นประจำก็มีคนจิซัทสีบ่อยมากๆค่ะ บ่อยจนเราเองก็เริ่มชินชา (ทั้งๆที่เราเพิ่งอยู่แค่สามปีเอง น้อยกว่าคุณปลาทองในกองหนังสือ เยอะเลยเนอะคะ) แต่ที่เรายังรู้สีกเห็นใจอยู่มักเป็นเวลาเห็นพนง.บริษัทวัยราวๆห้าหกสิบที่ท่าทางเหนื่อยอ่อนมากๆในรถไฟขากลับบ้าน (เหมือนแบกทั้งโลกไว้) กับเวลาเจอพนง.บริษัทที่ล้มเป็นลมเวลาที่รถแน่นๆทุกเช้า ตอนนั้นจะรู้สึกหดหู่มากค่ะ (แล้วจะเผลอคิดถึงคุณพ่อกับสามีตัวเองเสมอๆ) เราคิดว่าเพราะคนญี่ปุ่นเอาจริงเอาจังมากเกินไปจนทำให้เครียดสูงมาก แล้วก็เก็บกดมากเกินไปไม่ค่อยยอมพูดออกมาเอาแต่ ทนๆๆ เลยทำให้วินาทีที่ถึงขีดจำกัดแล้วก็ทนไม่ไหวระเบิดออกมาเป็นการรีเซ็ทแบบที่ว่า บางจุดอย่างที่เมกุโระ(ยามาโนเตะ) เราเห็นเขากั้นชานชลานะคะ ที่จริงน่าจะกั้นให้หมดทุกที่ด้วยซ้ำไป เพราะนอกจากคนโดดด้วยใจแล้วยังมีพวกเบียดจนตกลงไปด้วย เคยเจอผู้หญิงกลางคนตกลงไปต่อหน้าเลยค่ะ ดีที่ไม่มีรถไฟ ตกใจมากๆ พนง.ก็พากันเอาตัวขึ้นมา เขาว่าเพราะเช้าๆคนเยอะเลยเบียดไป คุณปลาทองในกองหนังสือก็ระวังอย่ายืนแถวหน้านะคะอันตราย (เราคนนึงกล้วไปเลย) โดย: แม่บ้านมือใหม่ IP: 111.171.250.114 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:48:18 น.
อึม...ตอนเช้าคนแน่นมากจริง ๆ แน่นจนแบบว่าก้าวขึ้นรถไฟไม่ได้ ต้องหันหลังแล้วเอาหลังดันคนเข้าไป เราว่าส่วนหนึ่งของคนที่ตกลงไปในราง บางทีอาจไม่ได้ฆ่าตัวตายก็ได้ คิดแล้วก็อยากให้ทุกสายมีที่กั้นให้หมด
เราเคยเกือบเป็นลมในรถไฟแล้ว วันนั้นคือวันจันทร์หลังเกิดแผ่นดินไหว ที่ทางการบอกให้ประหยัดไฟ และรถไฟลดจำนวนรถไฟที่วิ่ง 30% คือว่า ไม่ลดจำนวน รถก็แน่นเกือบตายอยู่แล้ว ตอนนั้นรถไฟแน่นมากหายใจไม่ออก ตัวก็เล็กนิดเดียว ไปซุกอยู่แถว ๆ รักแร้ผู้ชายคนนึง แค่คิดก็ไม่ไหวแล้ว ติดอยู่ประมาณ 45 นาที ขยับก็ไม่ได้ โอ๊ย...นรกมาก ๆ ไม่รู้ว่ารอดมาได้ยังไง โดย: ปลาทองในกองหนังสือ
![]() ตามมาจากบล๊อกของพี่ตะเกียงส่องทาง อ่านเรื่องเล่าสนุกดีค่ะ เขียนอีกนะคะ จะตามอ่านเรื่อยๆ ยิ่งเรืองเมื่อเจอ..ลุ้นค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น
โดย: แมลงจ่่่อย (Bug in the garden
![]() แวะมาอ่านเรื่องดีดี มีสาระค่ะ
ขอให้มีความสุข และพักผ่อนมากๆนะคะ เป็นกำลังใจให้มีเรื่องเล่าดีดีตลอดไปค่ะ สวัสดี่ค่ะ ^_~ โดย: andrex09
![]() ขอฝากดอกไม้แทนใจ แทนคำขอบคุณจ๊ะ เดือนแห่งความรัก ความรักก็ล้อมรอบตัวคุณ ![]() *~..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..~* เดือนแห่งความรัก คนโสดก็ยังโสดต่อไป เพราะครูภาษาไทย สอนแต่ สระอิ,สระอา, สระอุ, สระอู แต่ไม่ยอมสอนให้เรา .. "สละโสด" ![]() ![]() โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~*
![]() แวะมาทักทายยามเย็นค่ะ
มีความสุขมากๆนะคะ สวัสดีค่ะ ^_^ โดย: andrex09
![]() เคยเจอผู้หญิงกลางคนชาวญี่ปุ่น เธอเข้ามาขอเบอร์เพราะคิดว่าเป็นชาติเดียวกันค่ะ เมื่อได้คุยกันเธอเล่าให้ฟังว่าเธอมีชีวิตที่สุขสบาย ปลอดโปร่ง ได้ยิ้มได้หัวเราะในเมกา
ซึ่งจะทำเช่นนี้ไม่ได้ในสภาพเเวดล้อมที่เคลียดในญี่ปุ่น เธอเลือกใช้ชีวิตในสหรัฐเเละตั้งหลักฐานที่นั่น คนที่ชอบญี่ปุ่นก็มีมากมาย เเต่ถ้าถามว่าถ้ามีโอกาสได้ไปอยู่ตปท ชาวญี่ปุ่นที่ผิดหวังในชีวิตจะขอมาอยู่ตปท จากประสบการณ์ที่ได้เจอคนญี่ปุ่นในเมกาค่ะ.. โดย: YUCCA
![]() สวัสดีค่ะ คุณ YUCCA
เราว่าชีวิตที่ญี่ปุ่นต้องแข่งขันกันสูง ที่นี่ไม่มีที่ให้กับผู้แพ้ค่ะ นักเรียนต้องหางานให้ได้ก่อนจบ 1 ปี ถ้าจบแล้วไม่มีงานทำ แทบไม่มีโอกาสเป็นพนักงานประจำที่ไหนอีกแล้ว ต้องไปเป็นฟรีเตอร์ หรือคนงานรับจ้าง ได้เงินตามชั่วโมงที่ทำงาน ไม่ได้เข้าประกันสังคมของบริษัท และแทบไม่มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตพนักงานบริษัทธรรมดาอีกชั่วชีวิต (ยกเว้นกลับไปเรียนใหม่ แล้วหางานใหม่อีกรอบ) โดย: ปลาทองในกองหนังสือ
![]() สวัสดีค่ะคุณปลาทองในกองหนังสือ
น้ำตาลตามลิ๊งค์กลับมาขอบคุณที่แวะไปทักทายน้ำตาลค่ะ น้ำตาลเพิ่งเริ่มเขียนบลอกค่ะ ยังทำไม่ค่อยเป็นเลย เข้ามาอ่านเรื่องราวในญี่ปุ่น เศร้าใจจังเลยนะคะ ที่มีคนฆ่าตัวตายกันไม่เว้นแต่ละวัน โดย: MustardSeeds
![]() อ่านแล้วฟังดูเศร้า อาจจะเป็นความรู้สึกแรกๆ ที่ จขบ รู้สึกก็ได้คะ
ตอบยากเรื่องความเจริญ บางครั้งวัตถุกับจิตใจมันต้องไปพร้อมๆ กัน ถ้าอันไหนมากเกินไปมันก็เป็นปัญหา โดย: wendyandbas
![]() |
บทความทั้งหมด
|