วิจารณ์หนังแบบสบายๆ : Big Game เกมล่าประธานาธิบดี หนังเล็กๆที่ความสนุกใหญ่ๆ
Big Game เป็นหนังที่ผมไม่ได้คาดหวังอะไรเลยก่อนเข้าไปดูครับ ที่ทำให้อยากดูก็เพราะเฮียนิค ฟิวรี่5555 ไม่ใช่สิเฮียแซมมวล แอล. แจ็คสัน ล้วนๆเลย แต่สิ่งได้รับกลับมาหลังดูจบคือความสนุกที่เกินคาดมากๆ หนังเดินเรื่องได้เนิบๆในบางจังหวะ แต่พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่หนังพาเราไปสู่การผจญภัยที่ไม่ธรรมดาเลยครับ แถมยังเต็มไปด้วยบทสนทนาจิกกัดสหรัฐอเมริกาได้อย่างสะใจมากๆ ทั้งตลกและดุดัน
เนื้อเรื่องของ Big Game ไม่แปลกใหม่แต่ดูสร้างสรรค์ครับ โดยเรื่องราวเกี่ยวกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่หมดไฟในการทำหน้าที่ได้เดินทางด้วยเครื่องแอร์ ฟอร์ซ วัน แต่ว่าถูกผู้ก่อการร้ายลอบโจมตี เพราะเกลือเป็นหนอน ทำให้ประธานาธิบดีหลบหนีโดยแคปซูลนิรภัยมาจ๊ะเอ๋เข้ากับ หนุ่มน้อยวัย 13 ชาวฟินแลนด์ชื่อออสการิ ซึ่งได้เข้ามาในป่าในฐานะพรานเพื่อจะล่าสัตว์เป็นการพิสูจน์ตัวเองให้เผ่าที่ตัวเองอยู่ยอมรับ กลายเป็นว่างานนี้แทนที่จะได้ล่าสัตว์ แต่ต้องมาทำภารกิจที่สำคัญยิ่งกว่านั้นซะแล้ว
ระหว่างที่ดูเรื่อง Big Game ผมรู้สึกคุ้นมากๆเลยว่ากลิ่นอายของหนังทำไมคุ้นขนาดนี้ มารู้ทีหลังครับว่าเป็นผลงานกำกับของ จาลมารี เฮเลนเดอร์ ผู้กำกับที่เคยฝากผลที่งานที่ผมชอบมากๆอย่าง Rare Exports a Christmas Tale นั่นเอง หนังเต็มไปดูความรู้สึกแบบหนังยุคเก่าผสมผสานความทันสมัย จะเรียกว่า Big Game เป็นหนังเด็กที่โหดใช้ได้เลยละครับ ซึ่งก็ให้อารมณ์คล้ายๆกับเรื่องที่แล้วของแกจริงๆ (แนะนำว่าใครยังไม่เคยดูให้ไปลองหามาดูนะครับ)
มาที่การวิเคราะห์ของผมนะ
ข้อดี
มุมกล้อง เยี่ยมมาก
ถ่ายสถานที่สวยๆ ของ ฟินแลนด์ ได้ยอดเยี่ยมมาก
โอเวอร์ แอ็คชั่น มีน้อย
โอเวอร์ แอ็คชั่น คือ การแสดงที่เกินจริงไป ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูแบบ หนัง ซุปเปอร์ ฮีโร่ ประมาณว่า เก่งเวอร์
บท ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย
หนังเดาทางง่าย
ไม่ชวนติดตาม
ดำเนินเรื่องได้อืดมากๆ ไม่ไปไหนซะที
ตัวร้ายกระจอกมาก
ตัวดีก็กระจอกมากเช่นกัน
สรุป
มุมกล้องดี บทดี
หนังห่วยแตก อืดอาด ไม่ชวนติดตาม ไม่มีอะไรน่าคิดตามเลย
นี้หนังแอ็คชั่นนะ แต่ทำไม แอ็คชั่นห่วยแตกมาก
ไม่อยากให้เทียบกับ John Wick
ถ้าแอ็คชั่นห่่วยแตก แล้วจะหาแดรกอะไรล่ะครับ หนังแอ็คชั่นอะ
เพราะหนังเก่ากว่านี้ ก็สนุกกว่าเรื่องนี้มาก